ต้วนหวูเหยียนยิ้มเยาะ “เสด็จพ่อต้องการให้หยางเฉินตาย เขากล้าไม่ตายหรือ?”
พูดจบเขาก็มองไปยังตู๋โยวที่แบกหยางเฉินเขาไว้บนหลัง และพูดด้วยสีหน้าอาฆาต “ถ้าเจ้าไม่อยากตาย ก็มอบหยางเฉินให้ข้า ถ้าไม่อย่างนั้น ก็ตายซะ!”
เขาได้จับตามองตู๋โยวอยู่นานแล้ว ตู๋โยวเป็นลูกน้องที่ภักดีที่สุดของต้วนหวูหยา มีความสามารถถึงระดับแดนเทพชั้นปลายแล้ว
วันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเขาในการกำจัดตู๋โยว
แน่นอนว่าตู๋โยวก็มองมาที่เขาอย่างเย็นชาเช่นกันและไม่มีทีท่าว่าจะมอบคนให้เขา
“ไป!”
ต้วนหวูหยาตะโกนอย่างโกรธจัด
ตู๋โยวไม่รอช้าอีก แบกหยางเฉินเอาไว้ข้างหลัง สาวเท้าพุ่งไปข้างหน้าราวกับไม่ได้รับน้ำหนักอะไรเลย
“ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตาย ข้าก็จะทำให้สมใจเอง! ฆ่ามัน!”
ทันทีที่ต้วนหวูเหยียนออกคำสั่ง ยอดฝีมือแดนทั้งสี่ได้ก้าวออกมาพร้อมกันและโจมตีตู๋โยวอย่างดุเดือด
“ไปซะ!”
ต้วนหวูหยาคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว เอาฝ่ามือตบยอดฝีมือแดนเทพคนหนึ่งกระเด็นออกไป และตรงเข้าโจมตียอดฝีมือแดนเทพอีกคนหนึ่งแทบจะในทันที
ตู๋โยวระเบิดพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาทันที เตะกระเด็นออกไป ยอดฝีมือแดนเทพชั้นกลางถูกเตะกระเด็นออกไปราวกับลูกบอล
ในช่วงเวลาสั้นๆ ยอดฝีมือแดนเทพที่ต้วนหวูเหยียนพามาสี่คน ถูกโจมตีกระเด็นออกไปแล้วสองคน
เหลือเพียงยอดฝีมือแดนเทชั้นปลายสองคน ในเวลานี้ได้มองไปที่ต้วนหวูหยาด้วยสีหน้าจริงจัง พลางพูดว่า “องค์ชายรอง กษัตริย์มีคำสั่งให้เราฆ่าหยางเฉิน หากท่านยังมาขวางอีก อย่าหาว่าพวกเราหยาบคายกับท่าน! “
แววอาฆาตฉายขึ้นในแววตาของต้วนหวูหยา เมื่อครู่ความสามารถที่ต้วนหวูหยาระเบิดออกมา ทำให้เขารู้สึกถึงภยันตราย
เพราะถึงอย่างไรเขาก็เพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับแดนเทพชั้นปลาย แต่กลับสัมผัสได้ถึงลมปราณวิถีบู๊ในระดับแดนเทพชั้นปลายที่อยู่เหนือปกติจากต้วนหวูหยา
เห็นได้ชัดว่ายังมีความแตกต่างอยู่มากระหว่างเขากับต้วนหวูหยา
หากต้วนหวูหยาก้าวเข้าสู่ระดับแดนเทพชั้นยอด กลายเป็นสุดยอดวรยุทธอันดับหนึ่งของราชวงศ์ต้วนอีกครั้ง ก็ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่ากษัตริย์ต้วนจะมอบตำแหน่งรัชทายาทให้ต้วนหวูหยาอีกหรือไม่
เขายังรู้ดีว่า มันยากสำหรับเขาในตอนนี้เพียงใดที่จะฟันฝ่าไปสู่ระดับแดนเทพชั้นยอดจากระดับแดนเทพชั้นปลาย บางทีใช้เวลาหลายสิบปีก็อาจจะไปไม่ถึงด้วยซ้ำ
“พี่รอง ท่านคิดจะฝ่าฝืนคำสั่งของเสด็จพ่องั้นหรือ?”
ต้วนหวูเหยียนหรี่ตามองต้วนหวูหยาพลางถามว่า “หรือว่า ท่านคิดจะก่อกบฏ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมาก ต้วนหวูหยาก็ตกใจเช่นกัน จากนั้นเขาก็พูดอย่างโกรธเคือง “ต้วนหวูเหยียน นี่เจ้าสาดโคลนใส่ข้า!”
“ในเมื่อไม่ใช่ แล้วเหตุใดจึงขัดขวางไม่ให้ข้าฆ่าหยางเฉิน?”
ต้วนหวูเหยียนตวาดถาม
“คุณหยางไม่ใช่คนที่พวกเจ้านึกจะฆ่าก็ฆ่าได้ ข้าทำอย่างนี้เพื่อช่วยปกป้องราชวงศ์ต้วน!”
ต้วนหวูหยากัดฟันพูด
“เหลวไหล!”
ต้วนหวูเหยียนกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “ท่านต้องการอาศัยความสามารถของหยางเฉินเพื่อมาชิงตำแหน่งรัชทายาทของข้าไปใช่ไหม?”
“ข้าจะบอกท่านว่า ในเมื่อเสด็จพ่อได้ตัดสิทธิ์ตำแหน่งรัชทายาทของท่านแล้ว ชั่วชีวิตนี้ท่านอย่าได้คิดจะหมายปองตำแหน่งรัชทายาทอีก!”
จากนั้นเขาก็ออกคำสั่งว่า “ถ้าพี่รองยังคิดจะขัดขวาง ต่อให้พวกเราทำร้ายเขา เสด็จพ่อก็จะไม่ถือโทษเด็ดขาด!”
“ฆ่าหยางเฉิน!”
เพียงชั่วครู่ ยอดฝีมือแดนเทพหลายคนก็พุ่งเข้าหาตู๋โยวอีกครั้ง
แววตาอาฆาตปรากฏขึ้นในดวงตาของตู๋โยว เขาย่อมรู้ดีว่า ต้วนหวูหยาในเวลานี้ได้หมดอำนาจลงแล้ว หากยังอยู่ในราชวงศ์ต้วนต่อไป ก็มีแต่ตายกับตาย
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วเขายังจำเป็นต้องออมมือทำไม?
“ในเมื่อพวกเจ้ารนหาที่ตาย ข้าก็จะทำให้สมหวังเอง!”
สายตาอาฆาตฉายแววในดวงตาของตู๋โยว วางหยางเฉินลงกับพื้นและปลดปล่อยจิตวิญญาณการต่อสู้ออกมา
ชั่วขณะหนึ่ง ลมปราณอันน่าสะพรึงกลัวของระดับใกล้เคียงแดนเทพชั้นยอด ได้แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา
ต้วนหวูเหยียนตกตะลึงตาค้าง ในฐานะยอดฝีมือแดนเทพชั้นปลาย เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าตู๋โยวแข็งแกร่งมากในเวลานี้ และความสามารถก็ใกล้เคียงกับระดับแดนเทพชั้นยอด
ต้วนหวูหยาก็เช่นกัน ตอนนี้มีตู๋โยวเพิ่มขึ้นมาอีกคน รวมทั้งหยางเฉินที่ยังไม่รู้ว่าจะรอดหรือไม่
ถ้าหยางเฉินฟื้นคืนสติได้ ด้วยความสามารถของพวกเขาสามคน อาจจะมีภัยคุกคามต่อกษัตริย์ต้วนได้
เช่นนั้นทั้งตู๋โยวและหยางเฉินก็เอาไว้ไม่ได้เช่นกัน
“ฆ่ามัน!”
ต้วนหวูเหยียนตะโกนอย่างโกรธจัด
ทันทีที่เขาออกคำสั่ง ยอดฝีมือแดนเทพชั้นกลางสองคนและยอดฝีมือแดนเทพชั้นปลายสองคน ก็พุ่งไปหาตู๋โยวพร้อมกัน
ต้วนหวูหยาก็รีบวิ่งออกไปเช่นกัน หยางเฉินจะตายไม่ได้ ตู๋โยวก็เช่นกัน
มาถึงจุดนี้แล้ว แม้ว่าจะต้องตาย เขาก็ต้องคิดหาทางช่วยหยางเฉินและตู๋โยวให้ได้
เมื่อนับรวมต้วนหวูเหยียน อีกฝ่ายนั้นมีเพียงยอดฝีมือแดนเทพ 5 คน หากตู๋โยวปล่อยพลังทั้งหมด ไม่นานก็จะดึงดูดให้มีผู้สนับสนุนยอดฝีมือแดนเทพมากขึ้น
ถึงตอนนั้นต่อให้พวกเขาเก่งกาจสามารถมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางหนีรอดได้แน่
“ต้วนหวูหยา!”
ต้วนหวูเหยียนคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวและพุ่งตรงเข้าไปหาต้วนหวูหยา
เขาเข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันดี ลำพังยอดฝีมือแดนเทพทั้งสี่ มันไม่สามารถเอาชนะหยางเฉินได้เลย
“ไปซะ!”
ต้วนหวูหยาผลักเข้าไปที่หน้าอกของต้วนหวูเหยียน
ร่างของต้วนหวูเหยียนกระเด็นออกไปทางด้านหลังราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่
ทั้งคู่อยู่ในระดับแดนเทพชั้นปลาย แต่ต้วนหวูเหยียนกลับไม่สามารถทนรับการผลักจากต้วนหวูหยาได้ ซึ่งทำให้ยอดฝีมือแดนเทพทั้งสี่ตกใจ
ขณะที่ต้วนหวูหยากำลังโจมตีต้วนหวูเหยียนกระเด็นออกไป ตู๋โยวก็ชกยอดฝีมือแดนเทพชั้นปลายกระเด็นออกไปด้วยหมัดเดียว
“ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของข้า เจ้ารีบพาคุณหยางและหยู่เยียนออกไป!”
ต้วนหวูหยาพูดพลางตรงดิ่งเข้าไปหายอดฝีมือแดนเทพชั้นปลายอีกคนหนึ่ง
ตู๋โยวไม่พูดอะไรไร้สาระ แบกหยางเฉินและรีบออกไปพร้อมกับต้วนหยู่เยียน
“องค์ชายรอง ท่านอย่าตัดอนาคตตัวเองนะ!”
ยังเหลือยอดฝีมือแดนเทพที่เหลืออีกสามคน ล้วนมีสีหน้าตกใจและโกรธเคือง
“ไปให้พ้น!”
ต้วนหวูหยาไม่ได้พูดอะไรไร้สาระอีก แต่กลับสาวเท้าตรงเข้าไปหายอดฝีมือแดนเทพชั้นปลายที่พยายามขัดขวางตู๋โยว
“พลั่ก!”
ยอดฝีมือแดนเทพชั้นปลายอีกคนถูกต่อยกระเด็นออกไป
เพียงชั่วครู่ ยอดฝีมือแดนเทพทั้งสี่ที่ต้วนหวูเหยียนพามา มีสองคนเป็นยอดฝีมือแดนเทพชั้นปลาย ทั้งหมดล้มลงกับพื้น
เหลือยอดฝีมือแดนเทพชั้นกลางเพียงสองคน แม้แต่โอกาสที่จะได้เข้าใกล้ต้วนหวูหยายังไม่มี ก็ถูกเขาซัดกระเด็นไปภายในชั่ววินาที
ถึงตอนนี้ยอดฝีมือแดนเทพผู้ทรงพลังทั้งห้าที่รวมต้วนหวูเหยียนอยู่ด้วย ทั้งหมดต่างล้มลงกับพื้น แต่ละคนใบหน้าซีดเผือดอย่างถึงขีดสุด ได้แต่มองดูตู๋โยวพาหยางเฉินออกไปตาปริบๆ
“ต้วนหวูหยา!!”
ต้วนหวูเหยียนคำรามเสียงต่ำ ดวงตาทั้งสองมีสีแดงเลือด เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง
หลังจากที่เขาฟันฝ่ามาถึงระดับแดนเทพชั้นปลายแล้ว เขาคิดว่าตนเองไม่ถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ต้วนหวูหยา และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะต้านทานกระบวนท่าของต้วนหวูหยาไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียว
จนถึงเวลานี้ เขาถึงตระหนักได้ว่า ระหว่างเขากับต้วนหวูหยามีช่องว่างแห่งความแตกต่างอยู่มาก
“ต้วนหวูหยา ท่านกล้าขัดคำสั่งของเสด็จพ่อ ปล่อยหยางเฉินไป ท่านไม่กลัวเหรอว่าเสด็จพ่อจะฆ่าท่าน?”
ต้วนหวูเหยียนถามอย่างโกรธจัด
ต้วนหวูหยาหัวเราะเยาะกับตัวเอง “ถ้าหากเสด็จพ่อสามารถลงมือจัดการเขาได้ และตายในมือเขาล่ะ?”
ขอเพียงตู๋โยวสามารถพาหยางเฉินและต้วนหยู่เยียนออกไปได้ ต่อให้ต้องตาย เขาก็จะตายโดยไม่เสียใจเลย
สำหรับต้วนหยู่เยียน เขาเชื่อว่าหยางเฉินจะต้องปกป้องเธออย่างดี
“พลั่ก!”
ในเวลานี้ เสียงโจมตีอันน่าอึดอัดได้ดังขึ้น จากนั้นตู๋โยวที่เพิ่งพาหยางเฉินและต้วนหยู่เยียนออกมาพร้อมกัน ก็กระเด็นตกลงไปแทบเท้าต้วนหวูหยา
“พลั่ก!”
ขณะที่ตกลงบนพื้น ตู๋โยวก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากในทันใด ลมปราณแห่งวิถีบู๊ที่อยู่ในร่างกายอ่อนแรงลงในทันที
ทันใดนั้นสีหน้าของต้วนหวูหยาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก “ตู๋โยว!”
เมื่อเขาเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยเดินตรงมาหาเขา ราวกับเป็นเทพแห่งความตาย สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง