ตอนที่ 2600 ลักเรียน

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“เอกภพ!”

“สองขั้ว!”

“สี่ลักษณ์!”

เย่หยวนนั้นปล่อยดาบออกมาอย่างต่อเนื่องรุนแรงแต่ว่าเมื่อต้องเผชิญกับการกดดันจากหกยอดฝีมือนั้นเขาก็ยังแทบไม่อาจจะต้านทานได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเจอกับอันดับสี่จ้าวเฉินตงนั้น เย่หยวนย่อมจะรู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาล

เหล่ายอดฝีมือในแดนเนรเทศนั้นมิใช่ว่าทุกคนจะมีพรสวรรค์เหนือล้ำเหมือนคนจากโลกภายนอก

แต่การเข่นฆ่าสังหารที่พวกเขาผ่านมานั้นมันมากมายจนไม่อาจจะเอาคนจากโลกภายนอกมาเทียบเคียงได้!

การต่อสู้นั้นมันเป็นสัญชาตญาณของพวกเขาไปแล้ว

ในที่แห่งนี้ ไม่สู้ก็เท่ากับตาย!

จ้าวเฉินตงคนนั้นเองก็เป็นนักดาบเช่นกันแต่วิชาของเขานั้นมันแตกต่างจากคนทั้งหลายไปอย่างสิ้นเชิง

แต่ละครั้งที่เขาฟันดาบออกมานั้นมันจะดูเชื่องช้าเหมือนดั่งคนแก่ เป็นความช้าที่ไม่อยากเชื่อว่าเป็นยอดฝีมือ

แต่ว่าดาบนั้นมันกลับจะเข้าโจมตีในจุดที่ผู้คนไม่อาจคาดฝันได้

ดูเหมือนช้า แต่มันกลับเร็ว!

วิชานี้ของจ้าวเฉินตงแม้แต่เย่หยวนเองก็ยังตกตะลึงเช่นกัน

เขานั้นกลับใช้งานเต๋าแห่งความเร็วและช้าออกมาได้อย่างถึงที่สุด!

ดาบเร็วนั้นมันย่อมจะไม่ถือว่าแปลกประหลาดอะไร

แต่เต๋าแห่งความเร็วและช้านั้นมันคือความสมดุล!

หรือก็คือวิชาดาบของจ้าวเฉินตงนั้นมันเป็นวิชาที่ลอกมาจากยอดเต๋า!

ในวิชาดาบของเย่หยวนนั้นมันได้มียอดเต๋าแห่งเอกภพแฝงอยู่ มีพลังรอบด้านและย่อมจะนับได้ว่าแข็งแกร่งกว่าจ้าวเฉินตง

เพียงแค่ว่าอีกฝ่ายนั้นก็ไม่ได้อ่อนแอจนจะจัดการลงได้ง่ายๆ และจ้าวเฉินตงยังร่วมมือกับคนทั้งหลายได้อย่างลงตัว

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้เลยว่าศึกนี้มันยาก

แต่ว่าภาพตรงหน้านี้ทำให้คนทั้งหลายต้องตกตะลึง

“วิชาดาบของเขานั้นกลับแข็งแกร่งเหนือกว่าจ้าวเฉินตงด้วยซ้ำ!”

“เจ้าเด็กคนนี้มันกลับรับมือยอดฝีมือหกคนด้วยตัวเองได้ กำลังของเขานี้ย่อมจะติดสามอันดับแรกได้ง่ายๆ แล้ว!”

“นิกายสวรรค์ยุทธมั่นไปเก็บสัตว์ประหลาดเช่นนี้มาจากที่ใดกัน?”

ตอนแรกๆ นั้นเย่หยวนย่อมจะเป็นดั่งตัวตลกในสายตาของคนทั้งหลาย

แต่เวลานี้มันไม่มีใครกล้าหัวเราะเย้ยเขาอีกต่อไปแล้ว

ต่อให้เขาจะเอาชนะคนทั้งหกไม่ได้ แต่เขานั้นก็เก่งกาจอย่างแท้จริง

ในฝูงชนนั้นมันมีสองเงาร่างกำลังยืนพูดคุยกันอยู่

ชายชุดดำกล่าวขึ้นมา “หึๆ ข้าก็นึกว่ามันจะแน่สักแค่ไหน ที่แท้มันก็ทำได้แค่เท่านี้”

ด้านหลังของเขานั้นชายชุดเขียวจึงตอบกลับขึ้นมา “กำลังของเขามันไม่น่าจะมีแค่นี้”

ชายชุดดำจึงตอบกลับไป “คิดว่างั้นหรือ?”

ชายชุดเขียวจึงตอบกลับมา “การจะกล้าท้าทายคนทั้งเมืองเช่นนี้มันย่อมจะมีแต่คนโง่หรือไม่ก็คนที่เก่งกาจสุดฝีมือ! เจ้าดูสภาพเขานั้นเหมือนคนโง่หรือ?”

ชายชุดดำจึงกล่าวขึ้น “เจ้าจะบอกว่าเขานั้นเหมือนพวกเรา บรรลุกฎมากกว่าสองอย่างนั้นหรือ? แต่สภาพตอนนี้ก็ดูเสียเปรียบมากแล้ว หากมีจริงทำไมเขาจะไม่เอาออกมาใช้กันเล่า?”

ชายชุดเขียวนั้นจึงยิ้มตอบกลับไป “มันย่อมจะเพื่อฝึกฝนวิชาดาบ! กำลังฝีมือของพวกจ้าวเฉินตงทั้งหกนั้นมันไม่สูงเกินไปไม่ต่ำเกินไป เรียกได้ว่าพอเหมาะพอดีที่จะใช้ฝึกฝน! และนี่มันก็คงเป็นเป้าหมายแต่แรกที่เขามายังแดนเนรเทศนี้มิใช่หรือ?”

ชายชุดดำจึงตอบกลับไป “ศิษย์นิกายมันก็คิดเช่นนั้นได้ด้วยหรือ? ข้าไม่เชื่อหรอก! แดนเนรเทศนี้มันเคยมีศิษย์นิกายต่างๆ เข้ามามากมายเท่าไหร่แล้ว? สุดท้ายพวกมันก็ไปนอนตายอยู่กับพื้นดินหมดสิ้นมิใช่หรือ? ไอ้เด็กคนนี้มันก็ไม่ต่างหรอก”

ชายชุดเขียวยิ้มแต่ไม่ตอบใดๆ กลับมา

ระหว่างการต่อสู้รุนแรงนั้นเย่หยวนก็ค่อยๆ ลดความเร็วดาบของตัวเองลง

จังหวะของเขานั้นมันเริ่มจะเข้ากับจังหวะของจ้าวเฉินตงขึ้นมา

แต่การเปลี่ยนแปลงนี้มันย่อมจะทำให้เอกภพนั้นเคลื่อนไหวได้ช้าลงมากจนเกินเป็นช่องว่าง

เย่หยวนจึงได้รับบาดเจ็บไปมากมาย

แล้วมีหรือที่จ้าวเฉินตงจะไม่เข้าใจว่าเย่หยวนคิดทำอะไร? เขาจึงกล่าวขึ้นมา “ลอกเลียนคนอื่นจนเสียความเป็นตัวเอง มีแต่จะเสียหน้าต่อยอดคน! วิชาดาบนี้ของข้ามันเกิดขึ้นมาจากศึกนับไม่ถ้วนในชีวิต มีหรือที่มันจะมาเรียนรู้กันได้ในชั่วข้ามคืน?”

“หึ นี่มันคือจะลับหอกระหว่างศึกหรืออย่างไร? เจ้าไม่คิดว่ามันสายไปแล้วหรือ?” หลิงบู่กล่าวขึ้นเสริม

การลักเรียนของเย่หยวนนี้มันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายรู้สึกเย้ยหยันดูถูก

แต่สำหรับคนทั้งหกนั้นแล้วมันย่อมจะเป็นเรื่องที่ดี

เพราะนี่จะเปิดโอกาสให้พวกเขาได้สังหารศัตรู มีหรือที่พวกเขาจะไม่ดีใจ

สิ่งที่ไร้ค่าที่สุดในแดนเนรเทศนี้มันก็คือชีวิต

เอกภพของเย่หยวนนั้นมันมีพลังรอบด้านแต่มันก็เป็นได้แค่กรอบ

สิ่งที่อยู่ในเอกภพนั้นต่างหากที่จะทำให้วิชาดาบของเขาแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ!

เต๋าแห่งความเร็วและช้าของจ้าวเฉินตงนั้นมันทำให้เย่หยวนได้เห็นเส้นทางใหม่

การผสานจ้าวเฉินตงลงไปในเอกภพของเขามันย่อมจะเพิ่มพลังของเอกภพไปได้อีกมากล้น

แต่พูดกับทำนั้นมันแตกต่างกันสิ้นเชิง

เหมือนอย่างที่จ้าวเฉินตงว่ามา นี่มันคือเต๋าที่เขาสร้างขึ้นมาจากประสบการณ์ศึกเสี่ยงตายนับครั้งไม่ถ้วน มีหรือที่มันจะเรียนรู้ได้ง่ายๆ ปานนั้น?

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการผสานมันเข้ากับเต๋าดาบเอกภพเลยด้วย

แต่จ้าวเฉินตงก็ประเมินเย่หยวนต่ำไป!

เต๋าดาบเอกภพของเย่หยวนนั้นมันเป็นเต๋าระดับสูงมาแต่แรกและการจะเอาเต๋าแห่งความเร็วและช้าใส่ลงไปนั้นมันก็ทำได้จริง

เมื่อเริ่มได้อย่างถูกต้องแล้วตัวเย่หยวนก็ย่อมจะอยู่ไม่ไกลจากการบรรลุมัน

กอปรด้วยความสามารถในการพัฒนาระหว่างต่อสู้นั้นเป็นสิ่งที่เย่หยวนถนัดจะทำมากที่สุด

เอกภพของเย่หยวนนั้นมันค่อยๆ กลับมามีสภาพสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง!

จ้าวเฉินตงเองก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ของเย่หยวนจนหน้าซีดขาว “ไม่ดีแล้ว! เต๋าดาบของเจ้าหมอนี่มันกลับกำลังพัฒนาขึ้นไปอีก! เจ้าเด็กคนนี้มันจะทลายสวรรค์ลงหรืออย่างไร!”

เย่หยวนนั้นมีร่างกายที่เปี่ยมล้นไปด้วยบาดแผลแต่เขาก็ยังยิ้มตอบกลับมา “ลอกเลียนคนอื่นจนเสียความเป็นตัวเอง? หึๆ เห็นแก่เต๋าแห่งความเร็วและช้านี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าให้แล้วกัน!”

ยอดเต๋ากลับสู่ต้นกำเนิด!

วินาทีนี้ดาบของเย่หยวนมันได้เปล่งแสงรุนแรงออกมา

มันยังคงเป็นเอกภพนั้นแต่ความเร็วและช้าของมันกลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากล้ำ!

มันเป็นดาบที่แปลกประหลาดจนถึงที่สุด

พวกจ้าวเฉินตงทั้งหลายนั้นพยายามใช้พลังออกมาสุดตัวเพื่อจะป้องกันดาบนี้ไว้

ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!

คนทั้งหกนั้นถูกดาบแสงนั้นฟันจนลอยลิ่วออกไปสิ้น

ดาบเดียวนั้นจัดการยอดฝีมือทั้งหกลงสิ้น!

เมื่อชายชุดดำเห็นเช่นนั้นเขาก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมา

“นี่… เจ้าหมอนี่มันเป็นสัตว์ประหลาดหรือ? ลักเรียนระหว่างสู้แล้วกลับเอามันผสานลงในเต๋าตัวเองได้! ให้ตายสิ นี่มันจะบ้าเกินไปแล้ว!”

ชายชุดเขียวนั้นจึงยิ้มขึ้นมาตอบ “ช่างเป็นทักษะการเรียนรู้ที่บ้าคลั่งนัก! แม้ว่าเต๋าดาบของเขานั้นจะแข็งแกร่งกว่าจ้าวเฉินตงแต่เต๋าแห่งความเร็วและช้ามันก็เป็นเต๋าดาบที่ดุดันอีกสายหนึ่ง แต่เขานั้นกลับมิใช่แค่ใช้ออกมาได้! เขานั้นกลับผสานมันเข้ากับเต๋าดาบของตนในเวลาสั้นๆ นั้น! ช่างเป็นสัตว์ประหลาดโดยแท้!”

ในความคิดของเขานั้นเย่หยวนย่อมจะใช้คนทั้งหลายเพื่อฝึกฝนวิชาเต๋าดาบและสุดท้ายจะใช้ไม้ตายออกมาจัดการคนทั้งหลายลง

ใครจะไปคิดฝันว่าเย่หยวนนั้นกลับเอาเต๋าดาบที่เพิ่งสำเร็จได้นั้นจัดการคนทั้งหลายลงแทน!

ชายชุดดำนั้นกล่าวขึ้น “เฮ่อหยุนเซียง มันถึงเวลาเจ้าขึ้นสังเวียนแล้ว! หากเจ้าแพ้เขาข้าก็คงต้องขอยอมแพ้ด้วย!”

ชายชุดดำคนนี้คือยอดฝีมืออันดับสามแห่งเมืองตะวันโรจน์ ตี้ชิง

และชายชุดเขียวนั้นคือยอดฝีมืออันดับสอง เฮ่อหยุนเซียง

เฮ่อหยุนเซียงนั้นไม่คิดพูดกล่าวใดๆ เดินออกมาจากฝูงชนมุ่งหน้าไปหาเย่หยวน

ตี้ชิงที่ได้เห็นจึงหัวเราะขึ้นมา “ดูท่ามันจะมีศึกระหว่างสองยอดคนให้ได้ดูอีกแล้ว! หากเป็นเฮ่อหยุนเซียงแล้วเจ้าหมอนั่นคงต้องแสดงพลังฝีมือที่แท้จริงออกมาแน่แล้ว”

เฮ่อหยุนเซียงนั้นเดินมาหยุดตรงหน้าเย่หยวนมันย่อมทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้น!

“เป็นเฮ่อหยุนเซียง! ได้มีเรื่องสนุกๆ ให้ดูอีกแล้ว!”

“เฮ่อหยุนเซียงนั้นผสานสองกฎเข้าด้วยกันได้ พลังฝีมือของเขานั้นเรียกได้ว่าไร้เทียมทาน! สงสัยเหลือเกินว่าระหว่างเขาและเข้าเด็กคนนี้ใครจะเก่งกว่ากัน?”

“บ้าบอ! มันก็ต้องเป็นเฮ่อหยุนเซียงสิ! เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเขานั้นคืออดีตเจ้าเมืองมาก่อน หากมิใช่เพราะการปรากฏตัวของจางซุนซิงหยู่นั้นเขาก็คงจะยังเป็นยอดคนอันดับหนึ่งในเมืองตะวันโรจน์เรา!”