มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1439

ไม่เพียงแต่ เว่ยมู่เท่านั้น แม้แต่ ฉู่จวินและ ถานบูที่เห็นภาพนี้สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

ดาบฟ้าเยือกนั้นเป็นสมบัติแห่งเทพฟ้าที่หลอมด้วยวัสดุพิเศษโดยเว่ยมู่ ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีผลการฝึกฝนเทพมารสามารถรับการโจมตีดาบสงครามเทพฟ้าด้วยสองนิ้วได้อย่างไร?

“เจ้า…” เว่ยมู่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หลัวซิวไม่สนใจฟังพร้อมต่อยเขาโดยตรง

เว่ยมู่ตกใจกลัวในทันที เขามั่นใจว่าคนๆ นี้น่าจะเป็นปรมาจารย์ร่างยุทธ์ร่างเนื้อขั้นสูงที่ไปถึงแดนเทพ หากโดนหมัดนี้ต่อย ร่างกายที่เปราะบางของเขาคงได้รับบาดเจ็บสาหัส

เขาต้องการหลบ แต่เว่ยมู่ตกใจกลัวเมื่อพบว่าการเคลื่อนไหวของเขาช้าลงหลายเท่า เขาทำได้เพียงมองดูหมัดของคู่ต่อสู้เข้าใกล้ใบหน้าของเขามากขึ้นเท่านั้น

“ปัง!”

ด้วยหมัดเดียว หัวของเว่ยมู่ก็ระเบิดทันที ร่างกายของเขาก็แตกเป็นละอองเลือด

หลัวซิวดูเฉยเมย ยกเอื้อมมือออกไปคว้าช่องจิตดวงหนึ่งจากหมอกเลือดแล้วโยนลงในวงแหวนเก็บของ

ในตอนนี้ ทุกคนบนแท่นตะลึงงัน ผู้ชายคนนี้เป็นแค่ผลการฝึกตนเทพมารจริงหรือ? เขาฆ่า เว่ยมู่ซึ่งผลการฝึกตนอยู่ในเทพฟ้าขั้น 6 ด้วยกระบวนท่าเดียว

ฉู่จวินรู้ดีว่าความแข็งแกร่งของเขาแข็งแกร่งกว่าเว่ยมู่ แต่ก็ไม่ถึงขั้นรุนแรงขนาดนั้น เขาเข้าใจดีว่าคราวนี้เขาอาจจะเตะโดนแผ่นเหล็ก ผู้ชายที่ดูเหมือนผลการฝึกฝนเทพมาร แข็งแกร่งผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม เขาเยาะเย้ยในในใจ ถึงกับมองว่าชายคนนี้เป็นคนตาย ในฐานะคนนอก เขากล้าที่จะฆ่าทูตของสำนักปีศาจดำบนแท่นหินต้อนรับ ด้วยการกระทำที่ต้องแก้แค้นทุกอย่างของสำนักปีศาจดำ แปลกที่ปล่อยคนๆนี้ไป

หลังจากฆ่า เว่ยมู่ด้วยมือของเขา หลัวซิวรู้ว่าเขาและกองกำลังในเมืองฟ้าเยือกได้เป็นศัตรูกันแล้ว

เขาปล่อยเจตนาฆ่าอย่างดุเดือด ครอบคลุมทั้งฉู่จวินและถานบู พูดอย่างเฉยเมยว่า “ข้ามีคำถามสองสามข้อจะถามพวกเจ้า”

“สหายคนนี้ถามเลย ข้าจะบอทุกอย่างที่ข้ารู้” ฉู่จวินตอบอย่างรวดเร็ว

“ข้าถามเจ้า ผลการฝึกตนสูงที่สุดในเมืองฟ้าเยือกคือเท่าไหร่?” หลัวซิวถาม

“ผู้ที่มีผลการฝึกตนสูงที่สุด แน่นอนว่าต้องเป็นเจ้าเมือง ใต้เท้าโหมวเซี๋ย ซึ่งเป็นผู้แข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้ในแดนราชาเทพ!” ฉู่จวินกล่าวด้วยความเคารพเมื่อพูดถึงเจ้าเมือง

“ราชาเทพขั้นเท่าไหร่?” หลัวซิวถามอีกครั้ง

ฉู่จวินขมวดคิ้ว “ผลการฝึกฝนของเจ้าเมืองจะเป็นเรื่องที่คนฐานะเล็กๆอย่างเจ้าจะเดาได้หรือ?”

ผู้แข็งแกร่งระดับราชาเทพอยู่เหนือระดับสูง ฉู่จวินรู้สึกว่าไม่ว่าเจ้าเมือง เจ้าเมืองโหมวเซี๋ยจะเป็นราขาเทพขั้นใด ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ชายตรงหน้าเขาจะสามารถยั่วยุและโต้แย้งได้

“นอกจากเจ้าเมืองของพวกเจ้าแล้ว ยังมีราชาเทพอื่นอีกหรือไม่?” หลัวซิวถามอีกครั้ง

“รองจากท่านเจ้าเมืองคือเจ้าสำนักปีศาจดำและประธานสมาคมจรัสนภา ผลการฝึกฝนของพวกเขาต่างเป็นราชาเทพครึ่งก้าว” ฉู่จวินส่ายหัวพร้อมกล่าว

“คนที่ฆ่าคนของสำนักปีศาจดำของข้าคือผู้ใด?”

ในขณะนั้น มีแสงพุ่งออกมาจากเมืองฟ้าเยือกที่อยู่บนหินยักษ์ พุ่งมายังแท่นหินนี้

พรึบ!

ความเร็วของบุคคลนี้เร็วมาก และเขาก็ลงจอดบนแท่นหินในทันที เป็นชายชราที่มีใบหน้าชรา จ้องมองยังฉู่จวินอย่างเย็นชาและกวาดมองทุกคนไปทั่ว

“ผู้อาวุโสเฮยซาน” ฉู่จวินรีบทำความเคารพ ดูเหมือนจะเกรงกลัวชายชราคนนี้มาก ในเวลาเดียวกัน เขาใช้ตัวสำนึกส่งเสียงบอกอีกฝ่ายว่าเว่ยมู่ถูกฆ่า

เมื่อชายชราปรากฏตัว หลัวซิวรู้สึกว่าชายผู้นี้เป็นผู้แข็งแกร่งจ้าวนภาคนหนึ่ง ใบหน้าชรา ไฟแห่งชีวิตอ่อนแอ เห็นได้ชัดว่ามีชีวิตเหลือไม่มาก และอายุขัยของเขาเหลือไม่มาก ความแข็งแกร่งเริ่มลดลง

แต่ถึงกระนั้น ผู้แข็งแกร่งจ้าวนภาคนหนึ่งก็ไม่ควรมองข้าม