บทที่ 1242 กล้าคุกคามข้า

The king of War

“พูดจริงจังหรือ?”

ต้วนหวูหยาถามขึ้นหลังจากเงียบไปนาน

กษัตริย์ต้วนพ่นลมหายใจแรง “ข้าพูดจามีน้ำหนักเชื่อถือได้ ตราบใดที่เจ้าฆ่าตัวตาย ข้าจะปล่อยลูกสาวของเจ้าไป และปล่อยตู๋โยวกับหยางเฉินไปด้วย”

“แต่ต่อไปหากพวกเขาไม่สามารถไปจากราชวงศ์ต้วนได้ หยางเฉินและตู๋โยวต้องอยู่รับใช้ข้า!”

สีหน้าของต้วนหวูหยาแข็งทื่อทันที “ไม่มีทาง!”

ถ้ามีแค่ตู๋โยวคนเดียวก็ไม่เป็นไร แต่ยังมีหยางเฉินด้วย มันเป็นไปไม่ได้

ด้วยความสามารถของหยางเฉิน ต่อให้เป็นกษัตริย์ต้วนก็ยังไม่คู่ควรจะเป็นคู่ต่อกรกับเขา เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกักขังหยางเฉินเอาไว้ในราชวงศ์ต้วน

เหตุผลที่เขาพยายามโน้มน้าวกษัตริย์ต้วนอย่างเต็มที่ ก็เพราะต้องการหลีกเลี่ยงไม่ให้ราชวงศ์ต้วนเกิดหายนะ แต่กษัตริย์ต้วนกลับไม่คิดอย่างนั้น แต่กลับบีบบังคับเขา

“เสด็จพ่อ ข้าตายได้ แต่ได้โปรดปล่อยพวกเขาไปเถอะ!”

ต้วนหวูหยากัดฟันพูด

“นี่เจ้ากำลังต่อรองข้าอยู่เหรอ?”

กษัตริย์ต้วนโกรธจัด

ต้วนหวูหยากล่าวว่า “ท่านจะคิดอย่างนั้นก็ได้ ปล่อยพวกเขาไปและให้ข้าตาย! แต่ถ้าท่านยืนกรานที่จะฆ่าพวกเรา พวกเราก็จะสู้จนตายกันไปข้างหนึ่ง!”

“แต่หากเสด็จพ่อยังต้องการบังคับให้ข้าต่อสู้จนตายกันไปข้างหนึ่ง ข้าก็จะทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง!”

“หากนำพาอันตรายมาสู่ราชวงศ์ต้วน จะโทษข้าไม่ได้นะ!”

จิตวิญญาณการต่อสู้ของต้วนหวูหยาพลุ่งพล่าน น้ำเสียงเยือกเย็นอย่างถึงขีดสุด

นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาพยายามเกลี้ยกล่อมกษัตริย์ต้วน เพราะเขาได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว หากกษัตริย์ต้วนยืนกรานที่จะกักขังหยางเฉินและตู๋โยวไว้ในราชวงศ์ต้วน เขาก็ต้องยอมวางมือ

“เจ้ากล้าดียังไงมาข่มขู่ข้า?”

กษัตริย์ต้วนหัวเราะลั่นด้วยความโกรธ “เจ้าต้องเข้าใจว่า ยังไม่เคยมีใครในราชวงศ์ต้วนเคยต่อรองกับข้ามาก่อน!”

“ในเมื่อเจ้าเลือกทางตาย ข้าก็จะช่วยให้เจ้าสมหวัง!”

กษัตริย์ต้วนยืนเอามือไพล่หลัง ชายตามองอย่างโอหัง ไม่เห็นการข่มขู่ของต้วนหวูหยาอยู่ในสายตาเลย

ยอดฝีมือระดับแดนเทพชั้นยอดสองคน ยอดฝีมือระดับแดนเทพชั้นปลายสองคน และยอดฝีมือระดับแดนเทพชั้นกลางอีกสองคน

มียอดฝีมือแดนเทพทั้งหมดหกคน พวกเขาล้อมรอบหยางเฉินเอาไว้ตรงกลาง

รอบนอกของคนเหล่านี้ มียอดฝีมือกึ่งแดนเทพอีกเป็นจำนวนมาก รวมถึงยอดฝีมือแดนราชาที่จ้องมองพวกหยางเฉินด้วยสายตาหื่นกระหาย

ต้วนหวูหยาไม่ได้พูดอะไรอีก แต่จู่ๆ ก็เงยหน้าขึ้นมองเพดาน

เพียงชั่วครู่ อารมณ์มากมายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

มีทั้งสุข เศร้า ตื่นเต้น เจ็บปวด และสุดท้ายใบหน้าของเขาก็มืดมนลงอย่างสมบูรณ์

ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน ต้วนหวูหยากวาดสายตามองผู้คนและพูดเสียงดังชัดเจน “ตอนนี้ ข้าจะให้โอกาสพวกท่านทุกคนยอมสวามิภักดิ์ต่อข้า ข้าจะไว้ชีวิตพวกท่าน!”

ได้ยินดังนั้นทุกคนในที่นี้ก็ตกตะลึง!

แม้แต่หยางเฉินก็ยังแปลกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าต้วนหวูหยาที่พยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งระหว่างเขากับราชวงศ์ต้วนเมื่อครู่ จะพูดแบบนี้ออกมาได้

นี่เขาคิดจะเข้ามาแทนที่กษัตริย์ต้วน กลายเป็นกษัตริย์ต้วนองค์ใหม่ของราชวงศ์ต้วนงั้นหรือ?

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา กษัตริย์ต้วนก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก เขาเบิกตากว้างและถามด้วยความไม่เชื่อ “เจ้าคิดจะมาแทนที่ข้างั้นหรือ?”

ต้วนหวูหยามองไปยังกษัตริย์ต้วนด้วยสีหน้าซับซ้อน พลางเอ่ยปากว่า “เสด็จพ่อ ท่านชรามากแล้ว สละราชสมบัติดีกว่า! แต่ท่านไม่ต้องห่วง หลังจากท่านสละราชสมบัติแล้ว ข้าจะไม่ทำให้ท่านลำบาก!”

“หากท่านต้องการอยู่ในราชวงศ์ต้วนต่อไป ข้าจะไม่ขับไล่ท่านไปไหน แต่หากท่านต้องการไปตั้งรกรากข้างนอก ข้าก็ไม่ขัดข้อง และจะส่งยอดฝีมือแดนเทพไปคอยติดตามรับใช้ท่านด้วย”

“ส่วนทางราชวงศ์ต้วน ท่านมอบให้ข้าได้อย่างไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ทำให้ราชวงศ์ต้วนตกต่ำลง ตรงกันข้ามจะนำพาราชวงศ์ต้วนไปสู่อนาคตอันรุ่งโรจน์อีกด้วย!”

หลังจากพูดจบสายตาของเขาก็เยือกเย็น ชำเลืองมองดูผู้คนในราชวงศ์ต้วนและกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “ต่อจากวันนี้ไป ข้าคือกษัตริย์ของราชวงศ์ต้วน ใครกล้าขัดขืน จะถูกประหาร!”

หลังจากได้ยินสิ่งที่ต้วนหวูหยาพูด ทุกคนในที่นี้ก็ตกตะลึง!

เขาถึงขนาดพูดว่าจากวันนี้เป็นต้นไป เขาคือกษัตริย์ของราชวงศ์ต้วน นี่คือการยึดอำนาจหรือไม่?

มุมปากของหยางเฉินยกขึ้นเล็กน้อย เกิดเป็นรอยยิ้มอันพึงพอใจ

เขาคิดจะช่วยต้วนหวูหยาให้ขึ้นครองบัลลังก์มานานแล้ว แต่ต้วนหวูหยาก็ชักช้าลังเลไม่สามารถตัดสินใจได้ ยังคงนึกถึงกษัตริย์ต้วนอยู่

แต่ตอนนี้กษัตริย์ต้วนยืนกรานจะฆ่าพวกเขา

คนอื่นอาจไม่รู้ว่าความสามารถที่แท้จริงของหยางเฉินนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ต้วนหวูหยานั้นรู้ดี

อาจกล่าวได้ว่าเพื่อปกป้องศักยภาพของราชวงศ์ต้วน ต้วนหวูหยาจึงยอมยึดอำนาจและได้ชื่อว่าอกตัญญู

เพราะเขารู้ดีว่า เขาต้องขึ้นครองบัลลังก์เท่านั้น จึงจะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งระหว่างราชวงศ์ต้วนกับหยางเฉินได้

แต่คนอื่นๆ ไม่เข้าใจ โดยเฉพาะกษัตริย์ต้วน เขายิ่งโกรธและตะโกนลั่น “ลูกอกตัญญู นี่เจ้ากำลังพูดอะไรอยู่?”

ต้วนหวูหยามองไปยังกษัตริย์ต้วนด้วยสีหน้าสงบพลางพูดว่า “เสด็จพ่อ สละราชสมบัติเถอะ!”

“ปังๆๆ!”

พื้นดินใต้ฝ่าเท้าของกษัตริย์ต้วนทรุดตัวลงในทันที

จะเห็นได้ว่าตอนนี้เขาโกรธมากแค่ไหน

ในฐานะกษัตริย์แห่งราชวงศ์ต้วน โอรสของตัวเองคิดจะยึดอำนาจ

ในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ เรื่องราวเหล่านี้ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้น แต่ในราชวงศ์ต้วน กลับไม่เคยมีเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้น

ในเวลานี้สมาชิกของราชวงศ์ต้วนก็ตกตะลึงเช่นกัน เมื่อมองไปที่ต้วนหวูหยา มีคนคิดว่าเขาบ้าถึงได้กล้าพูดแบบนั้นออกมา

แต่ยอดฝีมือระดับแดนเทพชั้นปลายทั้งสี่และยอดฝีมือชั้นกลาง มีสีหน้าต่อสู้ดิ้นรน

ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในจวนเล็ก ต้วนหวูหยาได้ก้าวเข้าสู่ระดับแดนเทพชั้นยอดในชั่วพริบตา และระเบิดศักยภาพเทียบเท่าระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์ออกมาเพื่อที่จะสังหารหลัวซิว

ยิ่งกว่านั้น ยังมีหยางเฉินที่มีศักยภาพยากแท้หยั่งถึง รวมถึงตู๋โยวที่อยู่ระดับแดนเทพชั้นปลาย

ดูเหมือนว่ากำลังพลของต้วนหวูหยา ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าของกษัตริย์ต้วนมากนัก

อาจกล่าวได้ว่าตัวแปรเดียวในตอนนี้คือ หยางเฉินที่ยังไม่ได้ระเบิดศักยภาพของเขาออกมาอย่างเต็มที่

แม้ว่าหยางเฉินจะไม่ได้ระเบิดศักยภาพออกมา แต่พวกเขาก็ได้เห็นภาพหยางเฉินฆ่าต้วนหวูเหยียนได้ภายในเสี้ยววินาที ท่อนแขนทะลุผ่านหน้าอกของต้วนหวูเหยียนด้วยตาตัวเองแล้ว

ต้วนหวูหยามีท่าทีระมัดระวังเมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฉิน ซึ่งเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าศักยภาพของหยางเฉินอยู่เหนือต้วนหวูหยา

ส่วนความสามารถของกษัตริย์ต้วน เขาได้ไปถึงระดับแดนเทพชั้นยอดเมื่อหลายปีก่อนแล้ว ส่วนตอนนี้พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะฝ่าข้ามระดับได้อีกหรือไม่

“ต้วนหวูหยา!!”

กษัตริย์ต้วนตะโกนเสียงดัง “ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายที่จะฆ่าตัวตายที่นี่! ข้าจะไว้ชีวิตลูกสาวของเจ้า ถ้าไม่อย่างนั้น จะฆ่าเธอซะ!”

ต้วนหวูหยามีสีหน้าสงบนิ่ง ไม่ได้หวั่นไหวกับคำพูดข่มขู่ของกษัตริย์ต้วน พลังวิถีบู๊ระดับแดนเทพชั้นยอดได้แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา เพียงชั่วครู่ราชวงศ์ต้วนดูเหมือนจะถูกห่อหุ้มด้วยพลังวิถีบู๊ที่แผ่ปกคลุม

“ตอนนี้ข้าเพิ่งอยู่มาได้ห้าสิบปี ก้าวเข้าสู่ระดับแดนเทพชั้นยอด ต่อให้เป็นยอดฝีมือระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์ ข้าก็ยังสามารถสู้ได้”

ต้วนหวูหยามีสีหน้าหยิ่งผยอง พูดเสียงดังชัดเจน “ให้เวลาข้าอีกสิบปี ข้าจะต้องก้าวเข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์อย่างแน่นอน!”

“พวกท่านน่าจะรู้ดีว่า ยอดฝีมือระดับแดนเหนือมนุษย์คนหนึ่งมีความสำคัญต่อราชวงศ์ต้วนเพียงใด”

“ราชวงศ์ต้วนในตอนนี้ มีเพียงข้าคนเดียวที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดในการสืบทอดราชบัลลังก์กษัตริย์ต้วน”

“ตอนนี้ ข้าจะให้โอกาสยอมสวามิภักดิ์ต่อข้า เมื่อข้าได้ขึ้นครองบัลลังก์ ทุกท่านจะเป็นคนสนิทของข้า เสวยสุขจากการปรนนิบัติในฐานะราชนิกุลต่อจากนี้ไป!”

“แต่หากใครไม่เชื่อฟังจะถูกประหาร!!”