ตอนที่ 2607 ใช่ ข้าโคตรเก่ง

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

บนเขามีหิมะขาวโพลนพร้อมด้วยเมฆหมอกที่ลอยผ่านหน้าราวกับเป็นแดนสวรรค์อย่างแท้จริง

คนทั้งหลายนั้นเดินทางมาถึงยังเขาคาบเมฆ หรือก็คือพวกเขามาถึงยังตีนเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว

“แดนเนรเทศมียอดคนซ่อนตัวอยู่มากมาย ข้าไม่นึกเลยจริงๆ ว่าจะยังมียอดฝีมือด้านเต๋าค่ายกลอยู่ที่นี่!”

เย่หยวนยิ้มขึ้นเมื่อได้เห็น

เบื้องหน้าของเขามีค่ายกลที่ยิ่งใหญ่เชื่อมต่อกันไปไม่มีสิ้นสุด

แต่เย่หยวนไม่ได้เพียงแค่มีเต๋าค่ายกลที่สมบูรณ์แบบ มันยังพัฒนาขึ้นมาเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ครอบไปแล้วด้วย แน่นอนว่าเขาย่อมจะสังเกตเห็นถึงค่ายกลที่ถูกวางไว้นี้ได้ไม่ยาก

ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ครอบนั้นมันมิใช่การแปลงของเต๋าดาบเท่านั้นแต่มันคือการแปลงของค่ายกลดาบเอกภพ!

และในค่ายกลดาบเอกภพนั้นมันมีทั้งเต๋าดาบ เต๋าค่ายและกฎแห่งห้วงมิติ สามพลังนี้!

กำลังของมันย่อมจะเหนือล้ำกว่าการแปลงใดๆ

ส่วนกฎแห่งกาลเวลานั้นตั้งแต่ที่เย่หยวนบรรลุสวรรค์ขึ้นมามันก็ไม่อาจจะเปิดเข้ากับพลังกฎของสามสิบสามสวรรค์ได้เลย

มันมิใช่เพราะว่าเขานั้นไร้ความสามารถแต่มันเหมือนราวกับว่ากฎแห่งกาลเวลาที่เขาบ่มเพาะฝึกฝนมาในมหาพิภพถงเทียนนั้นมันจะไม่อาจใช้งานได้แม้แต่น้อย!

ราวกับว่ากระแสเวลาของมหาพิภพถงเทียนและสามสิบสามสวรรค์นั้นมันเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เย่หยวนคาดเดาว่ามันอาจจะเป็นเพราะฝีมือของเหยียนยูเจิน

“คนที่คิดบุกรุกเขาศักดิ์สิทธิ์มันต้องตาย! ไสหัวไป!”

ในเวลานั้นเองที่มันเกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นมาลั่นฟ้าดินราวกับว่าเป็นเสียงของสายฟ้าที่ฟาดลงมาบนดินทำให้คนทั้งหลายอกสั่นขวัญหาย

มันราวกับว่าเสียงนี้เป็นเสียงของเทพจากสวรรค์!

ด้านหลังเย่หยวนนั้นหลินถงและพวกต่างหน้าซีดไปตามๆ กัน

“นายท่าน ท่านเองก็มาถึงเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วคงไม่ต้องให้พวกเรานำทางอีก ท่านเข้าไปเองจะดีหรือไม่? พวกเราทั้งหลายที่ยังไม่บรรลุแปลงยอดเต๋าก็ถอยกลับไปก่อน…” หลินถงถามขึ้นมาด้วยความกลัว

เพราะเสียงที่เหมือนเทพจากสวรรค์นี้มันทำให้เขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาล

คนอื่นๆ เองก็รู้สึกไม่ต่างกัน

แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มตอบไป “มาถึงที่แล้วพวกเจ้าไม่อยากจะขึ้นไปดูหน่อยหรือ?”

หลินถงได้แต่ยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “แน่นอนว่าข้าอยากจะขึ้นไปดู แต่ข้าน้อยนั้นอยากมีชีวิตมากกว่าอยากดู”

“ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าไสหัวไปสามอึดใจ! ไม่เช่นนั้นก็จงรับผลที่ตามมาเอง! สาม!” จู่ๆ เสียงนั้นก็เริ่มนับถอยหลังขึ้นมา

สีหน้าของพวกหลินถงนั้นซีดขาวลงทันทีก่อนจะหันหน้ารีบพุ่งตัวไป

“ลูกไม้กระจอก! ไป!”

เย่หยวนหัวเราะเย้ยก่อนจะค่อยๆ แผ่ฝ่ามือออกและปรากฏต้นอ่อนนั้นค่อยๆ งอกขึ้นมา

ใบไม้นั้นของต้นอ่อนพุ่งออกไปกระแทกความว่างเปล่าด้านบน

“รนหาที่ตาย!” เสียงนั้นร่ำร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ

แต่วินาทีเดียวกันนั้นมันก็เกิดเสียงปะทะพร้อมเผยให้เห็นร่างของชายวัยกลางคนชุดขาวร่วงตกลงมาจากความว่างเปล่าด้วยสภาพหวิดตาย

สายตาของเขานั้นมองดูเย่หยวนด้วยความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด

เจ้าเด็กที่ไม่ได้มีคลื่นพลังรุนแรงคนนี้มันกลับมองถึงจุดอ่อนของค่ายกลเขาได้และโจมตีเขาจนต้องหนีออกมา

น่ากลัว!

ส่วนพวกหลินถงทั้งหลายนั้นต่างต้องหันหน้ากลับมามองอย่างตกตะลึง

ที่แท้เจ้าหมอนี่มันกลับไม่ได้โม้เปล่า!

เขานั้นบ้าจริง!

ใครมันเข้าเขาศักดิ์สิทธิ์ด้วยวิธีนี้กัน?

แต่ว่าพลังฝีมือของเย่หยวนนั้นมันยิ่งทำให้พวกเขาทั้งหลายตกตะลึงยิ่งกว่า

ยอดฝีมือที่ปกปักษ์รักษาค่ายกลบนเขานี้ต้องเก่งกาจแค่ไหน? แล้วเขานั้นยังซ่อนตัวอยู่ในค่ายกลด้วย

แต่เย่หยวนนั้นกลับมองเห็นในพริบตาและโจมตีเข้าไปอย่างแม่นยำด้วยดาบเดียว

หากเป็นนักยุทธแปลงยอดเต๋าคนอื่นๆ นั้นมันคงไม่มีใครทำได้

ชายวัยกลางคนผู้นั้นหันมามองหน้าเย่หยวนด้วยความดุร้าย “เด็กน้อย เจ้าคิดหรือว่าแค่บรรลุสำเร็จแปลงยอดเต๋าได้แล้วเจ้านั้นจะไร้เทียมทานเหนือฟ้าดิน?”

เย่หยวนหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะตอบกลับไป “ใช่”

ใบหน้าของชายคนนั้นกระตุกขึ้นอย่างดำมืดเมื่อได้ยิน

เจ้าเด็กคนนี้มันช่างรู้วิธีปั่นหัวคนเสียจริง!

ชายวัยกลางคนผู้นั้นยิ้มตอบกลับมา “เจ้าโง่ที่ไม่ได้รู้จักความยิ่งใหญ่ของฟ้าดิน! เจ้ารู้หรือไม่ว่ายอดฝีมือนับร้อยบนเขาศักดิ์สิทธิ์นั้นเก่งกาจแค่ไหน!”

เวลานี้แม้แต่พวกหลินถงทั้งสามเองก็ยังต้องผงะไปเมื่อได้ยินถึงจำนวนนั้น

พวกเขานั้นคิดว่าบนเขาศักดิ์สิทธิ์นั้นคงมียอดฝีมืออยู่กันแค่ไม่กี่คน

ไม่นึกฝันว่ามันกลับจะมีนักยุทธแปลงยอดเต๋าอยู่นับร้อย!

พวกเขานั้นเริ่มกังวลว่าการกระทำของเย่หยวนนี้มันจะทำให้ยอดฝีมือบนเขาศักดิ์สิทธิ์นี้ไม่พอใจขึ้นมา

แต่เย่หยวนนั้นกลับตอบไปอย่างไม่แยแส “หลายร้อยแล้วทำไม? นักยุทธแปลงยอดเต๋าบ้าบออะไร สุดท้ายพวกเจ้าก็เป็นแค่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยมิใช่หรืออย่างไร? เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นนักบุญมาจากที่ใดหรือ? ไอ้ความหลงตัวเองนี้มันเกิดขึ้นมาจากที่ใด?”

ชายคนนั้นเห็นว่าเย่หยวนนั้นไม่อาจจะใช้เหตุผลเข้าคุยได้จึงร้องลั่นตอบกลับมา “เด็กน้อย เจ้ามันรนหาที่ตาย!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นข้าก็อยากจะเห็นเหลือเกินว่าเจ้าจะทำให้ข้าตายได้อย่างไร!”

เขานั้นยังไม่ทันได้พูดกล่าวอะไรก็ถูกไล่ให้ไสหัวไปเสียแล้ว

วางท่าราวกับตัวเองเป็นยอดคนอันดับหนึ่งของโลกหล้าเช่นนี้เย่หยวนย่อมจะไม่มีทางทนรับไหว

ชายวัยกลางคนผู้นั้นหรี่ตาลงร้อง “เด็กน้อย เมื่อกี้มันแค่การลอบโจมตีเท่านั้น เจ้าคิดว่าตัวเองเก่งกาจพอจะทำอันตรายข้าได้หรือ?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ใช่ ข้าโคตรเก่ง!”

ชายคนนั้นหัวเราะตอบกลับไปพร้อมกางฝ่ามือออกก่อนจะค่อยๆ สร้างง้าวยาวขึ้น!

แปลงยอดเต๋าของเขานั้นมันแปลงเป็นอาวุธ ซึ่งนับได้ว่าเป็นการแปลงที่พบเห็นได้มากที่สุดรูปแบบหนึ่ง

เขายิ้มตอบกลับมา “เด็กน้อย ข้านั้นบรรลุแปลงยอดเต๋ามาได้กว่าห้าสิบปีแล้ว แค่คนอย่างเจ้าที่เพิ่งบรรลุสำเร็จขึ้นมานี้ก็คิดจะเอาชนะจันทราสว่างของข้าคนนี้?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นก็ลองรับมันไปดู! ไป!”

ใบไม้นั้นมันเปลี่ยนเป็นดาบพุ่งออกไปอีกครั้งหนึ่งพุ่งใส่ตัวชายวัยกลางคนนั้นอย่างรุนแรง

ชายวัยกลางคนนั้นเองก็เดือดดาลอย่างมากรีบฟาดง้าวยาวกลับออกมารับดาบนั้นอย่างรุนแรง

ตูม!

พริบตานั้นเองที่อาวุธทั้งสองมันได้เข้าปะทะกันอย่างรุนแรง!

ชายวัยกลางคนนั้นต้องกระอักเลือดออกมาพร้อมกระเด็นถอยหลังกลับไปไกล

ส่วนเย่หยวนนั้นยังยืนมั่นอยู่กับที่

“ห-หักแล้ว!” หลินถงกล่าวขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

ง้าวนั้นมันหักลงคามือของชายผู้นั้น!

แปลงยอดเต๋านั้นมันย่อมจะแข็งแกร่งกว่าโลหะใดๆ!

แต่มันกลับถูกเย่หยวนหักลงด้วยการโจมตีเดียว!

ที่สำคัญไปกว่านั้นอาวุธแปลงนั้นมันเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของนักยุทธที่ใช้

เวลานี้เมื่อมันหักลงแล้วมันย่อมจะเท่ากับว่าชายคนนั้นได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสปางตาย

อย่างน้อยๆ ในอีกสิบปีข้างหน้าเขาก็คงไม่อาจจะกลับมาสู่สภาพสมบูรณ์ได้!

พวกเขานั้นรู้ดีว่าเย่หยวนนั้นแข็งแกร่งมากล้นแต่… ก็ไม่มีใครคิดฝันว่ามันจะถึงขั้นนี้!

อีกฝ่ายนั้นบรรลุสำเร็จแปลงยอดเต๋ามากว่าห้าสิบปี ส่วนเย่หยวนนั้นเพิ่มสำเร็จได้แค่สามปี!

เวลานี้เขากลับทำลายอีกฝ่ายลงในการปะทะเดียว!

มันจะแข็งแกร่งจนเกินไปแล้ว!

เย่หยวนมองดูชายวัยกลางคนที่นอนกองอยู่กับพื้นนั้นพร้อมกล่าว “แค่นี้เจ้าก็กล้าเรียกว่าจันทราสว่าง? ฝึกฝนมากว่าห้าสิบปีกลับทำได้เท่านี้? เอาหัวไปโขกเต้าหู้ตายเสียเถอะ ข้าไม่มีเวลามาฆ่าเจ้า!”

แปลงยอดเต๋าของชายคนนี้มันห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์ไปมาก

เขานั้นไม่อาจจะทำให้มันสมบูรณ์ได้หลังจากผ่านไปถึงห้าสิบปี เรียกได้ว่าสมองของเขานั้นช้าอย่างมาก!

เย่หยวนนั้นใช้เวลาแค่ปีเดียวก็ทำให้มันสมบูรณ์ได้!

ที่สำคัญไปกว่านั้นชายคนนี้มีแปลงแค่กฎเดียว แต่สิ่งที่เย่หยวนแปลงนั้นมันเป็นการผสานของสามกฎ แน่นอนว่าความยากของมันย่อมจะไม่อาจเทียบเคียงกันได้

แต่เขานั้นกลับยังไม่อาจทำให้มันสมบูรณ์ได้แม้จะใช้เวลาถึงห้าสิบปี สมควรที่จะเอาหัวโขกเต้าหู้ตายจริงๆ

“อั่ก!”

ชายคนนั้นต้องกระอักเลือดออกมาเมื่อได้ยินคำถางถากของเย่หยวน

“พวกเจ้าทั้งหลาย ไปกันได้แล้ว!”

เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจปลิดชีวิตชายคนนี้ใดๆ และเดินผ่านค่ายกลไปหน้าตาเฉย

ค่ายกลแค่นี้มันแสนจะอ่อนแอ เขาสามารถพังมันลงได้ทุกเมื่อ

แต่ว่าภาพนี้มันยิ่งทำให้ชายคนนั้นรู้สึกคับแค้นใจอย่างมากล้ำ

เจ้าเด็กนรกคนนี้มันผุดขึ้นมาจากนรกขุมไหน?

เข้าเขาศักดิ์สิทธิ์นั้นมีใครคิดเข้าด้วยวิธีการนี้บ้าง?

หลินถงและพวกถึงจะลังเลอยู่ไม่น้อยแต่สุดท้ายก็ต้องทำใจเดินตามเย่หยวนขึ้นไป

…………………..