ตอนที่ 1433 สิบเอ็ดชั่วโมงแห่งวิกฤต!

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

“เขาจะฆ่าเรา!”

คนที่ขดตัวอยู่ข้างๆ ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ด คือชายผิวสีพูดประโยคนี้เป็นครั้งที่สามด้วยน้ำเสียงที่ประหม่า

ในขณะที่ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดลังเลว่าจะปลอบเขาดีไหม จู่ๆ ดวงตาของชายผิวสีก็แสดงอาการตื่นตระหนก ไหล่ของเขาสั่นเทาในขณะที่พูด “ผมจำได้ว่าคนพวกนั้นเป็นใคร คนที่นอนอยู่บนพื้นคืออลันโด และผู้นำของพวกเขาคือจีน รูซาส หนึ่งสัปดาห์ก่อนกองทัพชุดแรกของพาน-เอเชียได้ทำลายการปฏิบัติการของพวกเขา เห็นได้ชัดว่ามีการยึดสารเสพติดแอลฟานิวโรทอกซินได้ 20 ตัน เหตุการณ์นี้ทำให้ราคายาในนิวลอนดอนเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ผมจำได้แม่นเลย!”

เห็นได้ชัดว่ายานั่นไม่ใช่ยาแก้ไข้หวัด แต่เป็นยาที่ทำกำไรได้มากกว่า

ส่วนรูซาสนั้นเขาเป็นโจรสลัดอวกาศที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เมื่อสองปีที่แล้วเขาถูกระบุว่าเป็นอาชญากรระดับห้าดาวโดยองค์การตำรวจสากลและเขาก็เป็นที่โด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้

แม้ว่าศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดเคยสอนและทำงานวิชาการบนโลกมาก่อน แต่เขาก็ไม่ได้เพิกเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในอวกาศโดยสิ้นเชิง เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับโจรสลัดอวกาศมาบ้างเล็กน้อย

เขาไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งชีวิตของเขาจะสัมผัสกับชื่อนี้จริงๆ

ลีโอนาร์ดซึ่งเดิมตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อปลอบโยนเด็กชายผิวสีซึ่งได้แสดงร่องรอยแห่งความสิ้นหวังในดวงตา

พวกเขาได้พบกับโจรสลัดที่ชั่วร้ายที่สุดในน่านฟ้านี้!

เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนเขายังคงมีความหวังกับความพยายามอันกล้าหาญของลู่โจว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าแค่การมีชีวิตรอดจะเป็นปาฏิหาริย์

ประตูห้องโดยสารที่ล็อกอยู่ จู่ๆ ก็ถูกเปิดจากด้านนอก

เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูและเสียงฝีเท้าอันรวดเร็ว เขาก็ตกใจจนรู้สึกประหม่าและเขาก็อยากจะขดตัวลงใต้เก้าอี้โดยไม่รู้ตัว

แต่เขาเหลือบไปเห็นใบหน้าที่ปรากฏขึ้นที่ประตูจากหางตาของเขา

สีหน้าของเขาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีหน้าประหลาดใจ และเขาก็รู้สึกยินดีขึ้นมาในทันที

ไม่ใช่แค่ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดที่รู้สึกแบบนี้ ผู้โดยสารทุกคนที่กระสับกระส่ายอยู่ในห้องโดยสารต่างก็รู้สึกแบบเดียวกัน

ทันทีที่ประตูเปิดออก หัวใจของพวกเขาแทบจะหลุดออกมาจากอก เพราะกลัวว่าพวกเขาจะถูกต้อนรับด้วยใบหน้าที่ชั่วร้ายและกระสุนปืน

ทันทีที่พวกเขาเห็นใบหน้าที่ปรากฏขึ้นที่ประตู ผู้คนต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างพร้อมเพรียง และสิ่งที่เข้ามาในหัวใจของพวกเขาคือความปีติยินดีและความตื่นเต้นจนควบคุมไม่อยู่!

หญิงสาวผมสั้นที่ได้รับการช่วยเหลือจากลู่โจวก่อนหน้านี้ปรบมือ

เสียงปรบมือที่ดังชัดเจนทำลายความเงียบในห้องโดยสารราวกับฝนในฤดูใบไม้ผลิที่ละลายหิมะและน้ำแข็ง มันแพร่กระจายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที กลายเป็นพายุฝนฟ้าคะนอง

ผู้คนส่งเสียงเชียร์ ผิวปาก และยืนขึ้นอย่างตื่นเต้น พวกเขาต้องการกอดเขาและให้กำลังใจฮีโรของพวกเขา

เนื่องจากเขาเป็นคนที่ปรากฏตัวแทนที่จะเป็นโจรที่โหดเหี้ยม มันจึงมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ไม่ต้องสงสัยเลย พวกเขาปลอดภัยแล้ว!

ถ้าเรื่องต่างๆ จะง่ายดายขนาดนั้น

“เงียบ เงียบก่อน” ลู่โจวมองไปที่หญิงสาวที่เชียร์เขาอย่างกระตือรือร้น เธอเข้ามากอดเขา เขาผลักเธอออกไปและยกมือขึ้น และแสดงท่าทางให้ทุกคนสงบลง

เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นสีหน้าที่จริงจังของลู่โจว ทุกคนก็เริ่มตระหนักว่าสถานการณ์ไม่ได้ง่ายอย่างที่พวกเขาคิด ดังนั้นพวกเขาจึงสงบลงเล็กน้อย

ลู่โจวไอเบาๆ เมื่อเสียงเชียร์หยุดลง

“ผมจะพูดให้ฟังคร่าวๆ

“มีใครรู้วิธีขับเจ้าสิ่งนี้ไหม”

โรงพยาบาลจินหลิงที่ 3

ผู้อำนวยการหลี่นำผลไม้ไปที่วอร์ดเพื่อเยี่ยมหวังเผิงซึ่งเพิ่งฟื้นคืนสติอย่างที่เขาทำเป็นปกติ

เมื่อเห็นผู้อำนวยการหลี่เดินเข้าไปในวอร์ด หวังเผิงซึ่งนั่งอยู่บนเตียงก็ถามทันทีว่า “ผมจะออกจากโรงพยาบาลได้ตอนไหน”

“คุณต้องอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยสามวัน นั่นก็เพื่อตัวของคุณเอง คุณจะมีเวลาทำความคุ้นเคยกับสิ่งใหม่ๆ ในยุคนี้” ผู้อำนวยการหลี่วางผลไม้ลงบนโต๊ะข้างเตียงและมองดูชายหนุ่มนั่งอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลขณะที่เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “สองสามเดือนที่ผ่านมา มีคนนอนหลับอยู่บนถนนหลังจากออกจากโรงพยาบาล สองวันหลังจากออกจากโรงพยาบาล เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยตำรวจ เหตุผลคืออะไร ลองเดาสิ”

“เขาหาที่อยู่อาศัยไม่ได้เหรอครับ”

“นี่คือเหตุผลหนึ่ง” ผู้อำนวยการหลี่กล่าวพร้อมกับถอนหายใจว่า “เทคโนโลยีสารสนเทศของโลกนั้นล้ำหน้าเกินไป และเทคโนโลยีที่เราคุ้นเคยก็ถูกพัดพาสู่ประวัติศาสตร์โดยยุคสมัยนี้ สิ่งใหม่ๆ อยู่เหนือจินตนาการของพวกเรา

“เมื่อก่อน ถ้าไม่มีโทรศัพท์มือถือก็เท่ากับแยกตัวเองออกจากสังคม แต่ในยุคนี้ไม่มีโทรศัพท์มือถือ แต่มีอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะหลากหลายรูปแบบและแม้กระทั่งการฝังในร่างกายมนุษย์ ผมนึกขึ้นมาได้ คนจากกองทุนพิทักษ์สิทธิมนุษยชนแช่แข็งน่าจะติดต่อคุณไปแล้วใช่ไหม”

หวังเผิงพยักหน้า

“พวกเขามาที่นี่เมื่อวานนี้ครับ”

“พวกเขาพูดถึงการเป็นอาสาสมัครกับคุณหรือเปล่า”

“ก็นิดหน่อยครับ”

“แล้วแผนของคุณล่ะ”

หวังเผิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด “จากสิ่งที่พวกเขาแนะนำ ถ้าหากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ผมวางแผนที่จะไปโรงเรียนที่พวกเขาแนะนำสำหรับหลักสูตรเตรียมความพร้อมหนึ่งปีแล้วค่อยคิดถึงอนาคต”

ท้ายที่สุดแล้วกองทุนพิทักษ์สิทธิมนุษยชนแช่แข็งเป็นองค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ก่อตั้งโดยลู่โจว ซึ่งมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปีและมีชื่อเสียงเป็นอย่างดีทั่วทั้งภูมิภาคพาน-เอเชียน

จุดประสงค์หลักของกองทุนนี้มีขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ถูกแช่แข็งจากอดีตค้นพบสถานที่ของพวกเขาในโลกนี้เท่านั้น

สหการพาน-เอเชียนมีความมั่งคั่งในระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคจีน ผู้ว่างงานสามารถพึ่งพาเงินช่วยเหลือการว่างงานเพื่อตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานสำหรับอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย การขนส่ง และสินค้าอุปโภคบริโภคบางอย่าง แต่คุณค่ากระแสหลักยังคงส่งเสริมให้คนมีส่วนในสังคม

แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะค่อนข้างทรุดโทรมหลังจากที่ตื่นขึ้นมา แต่กองทุนพิทักษ์สิทธิมนุษยชนแช่แข็งยังคงทำงานอย่างหนักเพื่อเติมเต็มความรับผิดชอบและพยายามช่วยคนจากสมัยโบราณให้เข้ากับสังคมปัจจุบันได้

หวังเผิงไม่รู้ว่าเขามีค่าในยุคนี้หรือไม่ แต่เขาเชื่อในภูมิปัญญาของศาสตราจารย์ลู่และแผนการของเขาสำหรับอนาคต

เนื่องจากกองทุนนี้ก่อตั้งโดยเขาเพียงคนเดียว และไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ บางทีการทำตามข้อตกลงของพวกเขาก็เป็นทางเลือกที่ดี

“… อย่ากังวลเรื่องของอนาคตนักเลย ถ้ามันไม่ได้ผลคุณก็สามารถทำงานการกุศลเหมือนผมและช่วยเหลือเยาวชนคนอื่นๆ ที่มาจากยุคนั้นได้ หรือไปโรงเรียนทหาร ใช้ประวัติย่อของคุณในอดีตและความจงรักภักดีต่อรัฐ สังคมนี้ค่อนข้างจะยอมรับ พวกเขาปฏิเสธเฉพาะคนที่ดื้อรั้นเท่านั้น กุญแจสำคัญอยู่ที่ว่าคุณเต็มใจที่จะเรียนรู้หรือเปล่าแค่นั้นเอง”

ผู้อำนวยการหลี่ยิ้มและโบกมือช้าๆ

หวังเผิงเงียบไปครู่หนึ่ง

“กลับไปเป็นทหารเหรอ”

“อย่างที่ผมรู้จักกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมกองทัพชุดแรกของพาน-เอเชียตัวอย่างเช่น หลี่เกาเหลียงจากกองพลอากาศ เขาอยู่ในวงการทหารเป็นเวลาสามปีและปัจจุบันเป็นผู้บัญชาการกองพลนาวิกโยธินที่สาม”

“หลี่เกาเหลียงเหรอ!”

ผู้อำนวยการหลี่ถามว่า “พวกคุณรู้จักกันเหรอ”

หวังเผิงยิ้มอย่างขมขื่น

“คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้นะครับ”

ย้อนกลับไปตอนที่เขารับราชการทหาร หวังเผิงช่วยชีวิตชายคนนั้นไว้

เขาไม่ได้คาดคิดว่าชายคนนั้นจะหลับชั่วคราวเหมือนกัน

จู่ๆ ภาพในทีวีโฮโลแกรมบนเพดานของวอร์ดเปลี่ยนไป

นักข่าวที่ได้รับข่าวด่วนได้แสดงท่าทีจริงจังทันที

“ข่าวด่วน…”

“จากข้อมูลจากศูนย์ควบคุมเส้นทาง เที่ยวบิน N-177 ที่เดิมทีมีกำหนดจะมาถึงสถานีอวกาศเทียนโจว เวลา 8.00 น. พรุ่งนี้ถูกจี้โดยกองกำลังติดอาวุธที่ไม่รู้จัก”

“จนถึงตอนนี้ กองทัพชุดแรกของพาน-เอเชียได้ส่งเรือลาดตระเวนทหารสองลำไปช่วยเหลือแล้ว กองกำลังป้องกันโคจรของพาน-เอเชียยังใช้เครื่องมืออำนวยความสะดวกทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อจัดระเบียบการอพยพผู้อยู่อาศัยและผู้โดยสารที่ติดค้างบนสถานีอวกาศเทียนโจว”

ฉากเปลี่ยนไปและภาพถูกตัดจากสตูดิโอไปยังสถานีอวกาศเทียนโจว ฝูงชนภายในอาคารศุลกากรอยู่ในความโกลาหล

กระสวยอวกาศทั้ง 12 ลำถูกนำไปใช้งาน

แต่ถึงอย่างนั้นการอพยพผู้โดยสาร วิศวกร และคนบนสถานีอวกาศที่ติดค้างหลายหมื่นคนภายในสิบชั่วโมง ก็เป็นเรื่องที่ยากอยู่ดี!

หวังเผิงและผู้อำนวยการหลี่อ้าปากพร้อมกัน ทั้งคู่ไม่รู้ว่าจะต้องคิดหรือพูดอะไรออกมา

หลังจากนั้นกล้องก็เปลี่ยนอีกครั้ง ฉายให้เห็นสถานีอวกาศของกองทัพชุดแรกของพาน-เอเชีย ทหารกลุ่มหนึ่งสวมชุดเอ็กโซสเกลเลตันสีดำกำลังขึ้นเรือโดยสารลงจอดที่มีรูปทรงเหมือนกระสวยยาว

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินไปที่กล้องและถอดหน้ากากตรงหมวกออก

หลี่เกาเหลียงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเมื่ออยู่ต่อหน้าโดรนถ่ายทอดสดและไมโครโฟน

“สถานการณ์ยังอยู่ภายใต้การควบคุม เรากำลังสื่อสารกับโจรปล้นเครื่องบินและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อความปลอดภัยของตัวประกัน แน่นอนว่าหากอีกฝ่ายลงมือ เราจะไม่ปฏิเสธการใช้กำลังทหารในการต่อสู้เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารบนเครื่อง”

“สวัสดีค่ะ ฉันเป็นนักข่าวจากปักกิ่งทีวี อีกฝ่ายต้องการอะไรเหรอคะ”

“ผมต้องขอโทษด้วย ผมเองก็ทราบรายละเอียดแน่ชัด ผู้บังคับบัญชาไม่ได้แจ้งให้ผมทราบ”

“ทำไมต้องอพยพผู้โดยสารบนเทียนโจวด้วยคะ มีข่าวลือว่าอีกฝ่ายไม่ยอมสื่อสาร เป็นอย่างว่าจริงหรือเปล่า”

หลี่เกาเหลียง “การอพยพมีขึ้นเพื่อความปลอดภัย เราไม่สามารถสรุปได้ว่าโจรที่จี้เครื่องบินเหล่านั้นกำลังดำเนินการอย่างมีเหตุผล”

นักข่าวถามอย่างเฉียบขาด “กล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่อาจเป็นการโจมตีเพื่อแก้แค้นหรือเปล่าคะ”

“ครับ” หลี่เกาเหลียงพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เราไม่สามารถระบุความเป็นไปได้นี้”

“มันอาจเป็นการโจมตีแบบพลีชีพก็ได้

“เหมือนเหตุการณ์ 9/11”

นักข่าวที่รายล้อมเขาต่างพากันตกใจ…