ขณะที่ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดมองหญิงสาวจากข้างหลัง ท่าทีผิดหวังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

เขาหันกลับไปมองลู่โจวและพูด “คุณไม่น่าปฏิเสธเธอเลย”

“ทำไมล่ะ”

“คุณไม่ได้อยู่ในระบบ ถึงแม้ว่าคุณจะมีบัตรประจำตัวก็ตาม แต่คุณไม่น่าจะอยู่ในฐานข้อมูลทะเบียนบ้าน คุณไม่ได้ผลประโยชน์จากสหการพาน-เอเชียน คุณเปิดบัญชีส่วนตัวไม่ได้ ไม่ช้าก็เร็วคุณก็จะต้องการความช่วยเหลือ ข้อมูลส่วนตัวของคุณถูกยกเลิกไปนานแล้ว และขั้นตอนการลงทะเบียนในทะเบียนบ้านพาน-เอเชียก็ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น…”

หลังจากที่ดูดีแล้วว่าไม่มีใครกำลังมองอยู่ ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดเอี้ยวตัวทางลู่โจวและพูดเบาๆ “ผมรู้ภาษาจีนเล็กน้อย เท่าที่ฟังจากคำพูดของผู้หญิงคนนั้น เธอน่าจะเป็นคนจีนนะ…คุณรู้ไหมว่ามันหมายความว่าอย่างไร”

“หมายความว่าอย่างไร”

“จากทะเบียนบ้านทั้งหมดของประเทศสมาชิกสหการพาน-เอเชียน ทะเบียนบ้านของประเทศจีนจะมีค่าสูงที่สุดและลงทะเบียนยากที่สุด ถ้าคุณแต่งงานกับเธอและเปลี่ยนสัญชาติสำเร็จใน 12 เดือน คุณก็จะสามารถคืนเครดิตที่คุณยืมจากผมไปได้”

“เงียบไปเถอะน่า”

บางทีลีโอนาร์ดอาจจะกลัวน้ำเสียงของลู่โจว เขากดคอและหยุดพูดทันที

เดิมทีลู่โจวคิดว่าการปฏิเสธของเขาไม่สุภาพพอ แต่เขาไม่คาดคิดว่าเขาประเมินค่าความลุ่มหลงของคนในยุคนี้ต่ำเกินไป

ในช่วงสองวันที่ผ่านมา หญิงสาวคนนั้นเข้าหาเขาอยู่เรื่อยๆ และใช้คำหวานที่เธออาจจะอ่านมาจากนิยายโรแมนติก

บางทีอาจเป็นเพราะวิธีที่คนสมัยนี้แสดงออกในเรื่องความรักตรงเกินไป นอกเหนือจากความรู้สึกอาย ลู่โจวยังรู้สึกเหมือนโดนขืนใจอีกด้วย

ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดงุนงงในปฏิกิริยาของลู่โจว เขาพูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน

“อย่าบอกนะว่า…จริงๆ แล้วคุณชอบผู้ชาย”

ลู่โจวที่กำลังดื่มน้ำอยู่ แทบจะสำลักน้ำตาย เขาไออยู่หลายครั้งก่อนจะตอบโต้

“อะไรเหรอ?”

ให้ตายเถอะ!

นี่ถ้าฉันสำลักน้ำตายหลังจากที่ช่วยพวกเราจากการปล้นบนเครื่องบิน คงน่าอายน่าดูเลย

“ผมก็แค่สงสัย” ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดยักไหล่และเหลือบไปมองแถวหน้า “แม้ว่าคุณจะไม่ชอบเธอ ทำไมคุณถึงไม่ลองดูก่อนล่ะ หรือคุณไม่ชอบที่เธอมีลูกแล้ว”

“แล้วทำไมผมจะต้องเสียเวลาลองด้วยล่ะครับ ผมไม่เห็นด้วยกับตรรกะของคุณ…” ลู่โจววางถุงน้ำดื่มลงและพูดต่อ “ยิ่งไปกว่านั้นนะ ในยุคของเรา ความรักควรเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนกว่านี้ อีกอย่าง ผมก็รับไม่ได้”

“เข้าใจแล้ว…นั่นเป็นข้อมูลที่มีค่าจริงๆ ”

หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดหยิกคางตัวเองและพยักหน้า

แต่จู่ๆ เขาก็สังเกตเห็นว่าลู่โจวพยายามตีตัวออกห่างเขาอย่างเงียบๆ

ลีโอนาร์ดรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงอธิบาย “อย่าเข้าใจผิดนะ ผมหมายถึงค่านิยมในเรื่องของการศึกษาวัฒนธรรมโบราณ”

ลู่โจว “…”

สองวันหลังจากที่ผ่านสถานีเทียนโจว ยานลาดตระเวนสองลำของสหการพาน-เอเชียนก็เดินทางมาถึงเที่ยวบิน N-177

หลังจากทำการควบคุมยานอวกาศสำเร็จแล้ว ยานลาดตระเวนสองลำประกบเที่ยวบิน N-177 ในขณะที่เรือเทียบท่าปล่อยตัวขับเคลื่อนออกมา

ขณะที่ลู่โจวมองดูทหารพาน-เอเชียขึ้นเครื่อง ในที่สุดใจของเขาก็ผ่อนคลายได้เสียที สีหน้าของความเหนื่อยล้าในห้องโดยสารแสดงออกถึงความโล่งใจ

นี่อาจจะเป็นสายการบินที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของพวกเขา

แต่สำหรับลู่โจวแล้ว นี่คือเวลาปกติสำหรับการเดินทางระหว่างดาวอังคารและโลก

นอกจากแสดงความเสียใจแล้ว ทหารของสหการพาน-เอเชียนยังตรวจสอบบัตรประจำตัวของผู้โดยสารบนเครื่อง

เหตุผลก็เพื่อยับยั้งอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและป้องกันผู้สมรู้ร่วมคิดกับโจรสลัดจากการซ่อนตัวในหมู่ผู้โดยสาร อีกเหตุผลก็คือเมื่อตรวจดูว่ามีคนหายหรือเสียชีวิตหรือไม่

พูดตรงๆ ก็คือตอนที่ถึงตาของเขา ลู่โจวรู้สึกประหม่าเล็กน้อย

เพราะสุดท้าย เขาก็ไม่ได้อยู่ในระบบ ถ้าเกิดปัญหาขึ้น มันคงสำหรับเขาที่จะอธิบายตัวเอง

โชคยังดีที่ความกังวลของเขาดูจะไม่สำคัญอะไรเพราะเสี่ยวไอพึ่งพาได้มากกว่าทุกครั้ง

เมื่อทหารที่สแกนไอดีของเขาไม่พบปัญหาอะไร เขายื่นบัตรคืนให้อย่างสุภาพและเดินไปยังผู้โดยสารคนถัดไป

ทหารพวกนี้ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้โดยสาร

หลังจากที่จัดการกับศพและหุ่นยนต์ที่พังเสียหายแล้ว พวกเขาบางคนก็กลับไปยังเรือลาดตระเวน เหลือไว้เพียงแค่นักบินและทหารเรือสองนายบนเครื่อง

ลู่โจวสงสัยว่าพวกเขาจะเขียนในรายงานการสืบสวนว่าอย่างไรหลังจากที่เห็นซากหุ่นยนต์พวกนั้น

สลิงช็อตแม่เหล็กก็พอจะอธิบายง่ายอยู่ แต่เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องเกราะไนโตรเจนว่าอย่างไร

แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจเขาคือทหารสหการพาน-เอเชียนพวกนั้นไม่ค่อยมีคำถามอะไรมากนัก พวกเขาแทบจะไม่มีอาการประหลาดใจและชื่นชมในความกล้าหาญของเขาเลย พวกเขาก็แค่ทำอย่างอื่นที่ต้องทำ

หลังจากเติมเชื้อเพลิงเสร็จ สายการบิน N-177 กลับสู่การเดินทางอีกครั้ง

นักบินมืออาชีพปฏิบัติการยานอวกาศและซ่อมแซมโมดูลที่ถูกรื้อถอนออกไป ช่วงที่สองของการเดินทางไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น…

ลู่โจวกำลังจะเดินทางมาถึงสถานีอวกาศเทียนโจว

“สายการบินจะมาถึงในอีก 15 นาที คุณจะหยุดที่สถานีอวกาศเทียนโจวสักพักหนึ่ง แล้วขึ้นกระสวยต่อไปยังกลุ่มเมืองสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียง เมืองจินหลิง

“ส่วนในเรื่องของค่าชดเชย ทางสายการบินพาน-เอเชียและสำนักงานการควบคุมจราจรการบินพาน-เอเชียจะเจรจากับคุณในอนาคต เราจะรายงานสาเหตุของอุบัติเหตุให้คุณทราบทันทีที่ผลการสอบสวนออกมา

“เราต้องขอโทษจากใจจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น…”

ลู่โจวไม่ได้สนใจในสิ่งที่ทหารพูด

ขณะที่เขามองดาวเคราะห์สีฟ้าที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าต่างอีกครั้งและท่าอากาศยานอวกาศสูงตระหง่าน หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและการเต้นของหัวใจก็สูงขึ้นเรื่อยๆ

มันยากที่จะอธิบายความรู้สึกที่ดาลเดือดในหัวใจของเขาตอนนี้

นอกจากท่าอากาศยานที่สูงตระหง่านและดาวเคราะห์สีฟ้าแล้ว สิ่งที่ตรึงตาของเขาก็คืออารมณ์ที่มีทั้งความตื่นเต้น ความกังวล และมันยากที่จะอธิบาย

บางทีความรู้สึกนี้อาจจะเป็นความรู้สึกของการคิดถึงบ้านก็ได้

เขาหายไปหนึ่งร้อยปี

คนส่วนใหญ่มีอายุไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ

แต่สำหรับเขา ทุกสิ่งจากเมื่อศตวรรษที่แล้วดูเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

เพียงพริบตาเดียว ทุกอย่างเปลี่ยนไป…

พาน-เอเชีย กลุ่มเมืองสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียง เมืองจินหลิง

คนมากมายกำลังรออยู่ใกล้ๆ พื้นที่ลงจอดของสนามบิน

มีเพียงคนบางกลุ่มที่เข้ามาเพื่อความสนุกเท่านั้น แต่คนส่วนใหญ่จะเป็นสื่อเอกชนและนักข่าวจากทั่วโลก รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ของสหการพาน-เอเชียน

โดรนถ่ายทอดสดบินเหนือผู้คนที่เข้ามา ในขณะที่กล่องกำลังจับไปที่ท้องฟ้า

วันนี้คือวันที่ลูกเรือของเที่ยวบิน N-177 เดินทางกลับมา

ตั้งแต่ที่สายการบินโดนปล้น เรือบินขนส่งลำนี้ก็กลายเป็นจุดสนใจของสื่อทั่วโลก

นี่คือสายการบินสหการพาน-เอเชียน

สหพันธ์ระดับภูมิภาคที่ควบคุมโดยอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก

ใครกันที่กล้ายั่วยุสหการพาน-เอเชียนผู้มีอำนาจ

แทบจะทุกคนบนโลกกำลังจับตามองเหตุการณ์การปล้นครั้งนี้อยู่ พวกเขารอการตอบโต้ของสหการพาน-เอเชียนและอธิษฐานให้ผู้โดยสารบนเที่ยวบิน

ในที่สุดหลังจากที่ได้รับข่าวร้ายมาอย่างต่อเนื่อง พวกเขาได้ได้ฟังข่าวดีกันเสียที

ผู้โดยสารที่ถูกปล้นถูกส่งตัวกลับโลก

พวกเขาจะลงจอดที่นี่ในอีกครึ่งชั่วโมง…

“เราอยู่ตรงหน้าสหการพาน-เอเชียน สนามบินการบินและอวกาศจินหลิง…”

นักข่าวสาวสวมชุดทันสมัยถือปากกาบันทึกในมืออธิบายสถานการณ์สดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น พร้อมมองไปที่โดรน

“อีกไม่นาน กระสวยจากสถานีอวกาศเทียนโจวจะลงจอดที่นี่และพามิตรสหายของพวกเรากลับมาอย่างปลอดภัย! ดูนั่น! พวกเขามานั่นแล้ว!”

ลำแสงสีเงินปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

กระสวยโผล่พ้นมาจากก้องเมฆ และเข้าใกล้พื้นดินเข้าไปทุกที ในที่สุดมันก็ลงจอดอย่างนุ่มนวลบนพื้นที่โล่งกว้างยังจุดจอด

ทางเดินเคลื่อนที่เชื่อมต่อกับกระสวย บันไดลมเด้งขึ้นและเทียบท่าพร้อมประตูที่เปิดอยู่ ผู้โดยสารปรากฏตัวต่อหน้ากล้อง

ตอนที่ลู่โจวเดินออกมาจากกระสวยอวกาศ แสงอาทิตย์ส่องเข้าไปในตาของเขา

เขาได้รับความสนใจทันที

“ขอบคุณครับ วีรบุรุษของประชาชนพาน-เอเชีย!”

ชายวัยกลางคนในชุดทางการก้าวเข้ามาและสวมกอดเขา

“ในฐานะตัวแทนของสหการพาน-เอเชียน ผมขอเคารพและขอบคุณคุณเป็นอย่างสูง! ยินดีต้อนรับกลับบ้าน!”

ลู่โจวชำเลืองมองเขาด้วยความว่างเปล่า หลังจากที่ลู่โจวจับมือกับเขา เขาเห็นปากกาบันทึกข้อมูล กล้อง และโดรนสัมภาษณ์ที่บินอยู่ข้างหลังเขา

เพียงแค่พริบตาเดียว คำถามมากมายพรั่งพรูมาที่เขา

“ผมได้ยินว่าคุณต่อสู้กับโจรบนสายการบินเหรอครับ”

นี่น่าจะเป็นคำถามที่ง่ายที่สุด

แต่ลู่โจวให้คำตอบที่กำกวม

“ประมาณนั้นครับ…”

เสี่ยวไอเป็นคนจัดการเรื่องนี้ไป 70% ส่วนอย่างน้อย 20% ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของอาวุธไฮเทคที่ระบบจัดให้

แต่วิธีที่นักข่าวตีความคำตอบสั้นๆ ของเขาแตกต่างจากความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง

สถานการณ์ตอนนี้เกิดความโกลาหลขึ้น

“คุณช่วยเล่าให้เราฟังอย่างละเอียดได้ไหมครับ”

“ขอโทษนะครับ ผมไม่อยากนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”

นี่คือคำแนะนำจากศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดที่มีต่อเขา ถ้ามีคำถามที่เขาไม่อยากตอบ เขาก็สามารถปฏิเสธได้

ในช่วงศตวรรษที่ 22 ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์ของนักข่าวหรือคำถาม ถ้ามันไม่ใช่การหาเหตุของอาชญากรรม แม้แต่ศาลเองก็ไม่สามารถบังคับให้เราพูดได้

แน่นอนว่าหลังจากที่เขาปฏิเสธไปตรงๆ นักข่าวไม่ถามหารายละเอียดต่อ แม้ว่าเขาจะแสดงท่าทางผิดหวังมากก็ตาม

แต่ยังมีคำถามมากมายกำลังรอเขาอยู่

นักข่าวสาวแทรกตัวเข้ามาอยู่ตรงแถวหน้าของฝูงชน เธอมองเขาด้วยสายตาแห่งความชื่นชมและพูดอย่างตื่นเต้น “คุณวีรบุรุษ ฉันขอถามชื่อคุณได้ไหม”

ชื่อ…

“ผม…”

ลู่โจวอ้าปาก

เขาอยากจะบอกชื่อที่อยู่บนบัตรประจำตัวของเขา

แต่หลังจากที่เงียบอยู่สักพัก จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนใจ

ผมคือลู่โจว

ผมคือลู่โจวมาโดยตลอด…

ชื่อที่พ่อกับแม่เป็นคนตั้งให้ ชื่อที่คนทั้งโลกรู้จัก มันไม่ใช่สิ่งที่มีคุณค่าหรือเป็นสิ่งที่ควรปกปิด

ลู่โจวมองไปที่หน้ากล้อง เผชิญหน้ากับปากกาบันทึกและสายตาแห่งความชื่นชม สายตาแห่งความตื่นเต้นและสายตาแห่งความสงสัย

เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนและมั่นใจ

“ผมคือลู่โจว”