ตอนที่ 1538: พลังของทักษะปีศาจ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1538: พลังของทักษะปีศาจ

ใบหน้าสีเลือดของปีศาจดูร้ายกาจพร้อมกับภาพเงาที่เหมือนปีศาจปรากฏราง ๆ มันน่ากลัวและน่าคลื่นไส้ทำให้ทุกคนต้องสั่นสะท้านบวกกับเมฆโลหิตที่เหมือนกับผ้าคลุมยิ่งทำให้ผู้คนหนาวสั่นมากขึ้น เพียงแค่มองแว่บเดียวก็ทำให้เส้นผมต้องลุกชันขึ้นมาได้

ทันใดนั้นดวงตาที่ว่างเปล่าที่หน้าของปีศาจขนาดใหญ่ก็ขยับไปที่จอมยุทธขั้นรับมอบ 3 คนที่พุ่งเข้ามา มันเปิดปากและมีพลังดูดเข้าไปพัวพันทั้งสามคน พวกเขาพบว่ามันน่ากลัวเป็นอย่างนิ่งและยากที่จะต้านทาน พวกเขาทั้งสามพุ่งเข้าไปที่ใบหน้าของปีศาจด้วยความเร็วอย่างยิ่ง ดังนั้นยิ่งเจอกับแรงดูดพวกเขาก็เคลื่อนที่เร็วมากกว่าเดิม

จอมยุทธขั้นรับมอบทั้งสามจริงจังมากขึ้น เมื่อพวกเขาเดินเข้ามาใกล้ปาก พลังงานอันมหาศาลก็พุ่งออกมาจากร่างกายของพวกเขาและสร้างเป็นชุดเกราะพลังงานภายในพริบตา อาวุธของพวกเขาเปล่งแสงมากยิ่งขึ้นทำให้มันยาวขึ้นหลายร้อยเมตรและแทงไปที่ใบหน้าใหญ่ ๆ ของปีศาจ

ใบหน้าส่ายอย่างรุนแรงจากการโจมตีของสามจอมยุทธขั้นรับมอบ ใบหน้าที่พร่ามัวสาดกระจายราวกับว่ามันกำลังกลับไปรวมเข้ากับเมฆด้านบน

ในเวลาเดียวกันสามจอมยุทธขั้นรับมอบก็หายเข้าไปในปากของใบหน้านั้น พวกเขาถูกล้อมรอบด้วยชั้นเมฆที่มีความหนาแน่นสูงและทำให้พวกเขาไม่อาจมองเห็นหน้าพวกมัน สำหรับทั้งสามคนนั้น สาายตาของพวกเขาต่างเปล่งแสงสีแดง พวกเขาไม่อาจทะลวงออกจากเมฆได้แม้ว่าจะมองเห็น

ในโลกสีโลหิตพวกเขาทั้งสามรู้สึกถึงการปรากฏตัวของวิญญาณ มันมีพลังมากพอที่จะทำให้หัวใจของพวกเขาเต้นอย่างรุนแรง พวกเขารู้สึกกดดันมากขึ้น ชั้นหมอกสีแดงปั่นป่วนอยู่รอบ ๆ ตัวของเขา ขณะที่ละอองหมอกสัมผัสกับชุดเกราะมันก็ส่งเสียงดังกึกก้อง ชุดเกราะของพวกเขาถูกกลืนหายไปอย่างรวดเร็ว

เจ้าพลาดแล้ว เจ้าคิดว่าจะจัดการกับพวกเขาทั้งสามคนด้วยทักษะลับเพียงทักษะเดียว? หากเจ้ามีความกล้ามากพอที่จะเผชิญกับเรา ออกมาต่อสู้ในที่โล่ง ! หนึ่งในพวกเขาเย้ยหยัน ความน่าเกรงขามออกมาจากตัวของเขาและเกิดเสียงดัง ตูม พร้อมกับคลื่นที่กวาดไปทำให้มองเห็นได้ทันทีที่เขาพูดเสร็จขณะที่ยกดาบสองมือขึ้น มันสดใสราวกับดวงอาทิตย์ เขาเหวี่ยงมันอย่างแรงไปยังพื้นที่ว่างด้านหน้าของเขาเพื่อทำลาย

รังสีของแสงราวหลายร้อยเมตรฉีกหมอกที่อยู่ด้านหน้าของเขา เมื่อใดก็ตามที่มันเคลื่อนผ่าน หมอกที่อยู่รอบ ๆ ก็สั่นและกระจายออกไป การโจมตีนั้นทำให้หมอกหายไปโดยไม่ต้องรอนาน

ในเวลาเดียวกัน จอมยุทธขั้นรับมอบอีก 2 คนก็โจมตีเช่นกัน พวกเขาล้วนแต่ทรงพลังอย่างยิ่ง การเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวใด ๆ ก็ตามที่เขาทำก็จะเป็นการโจมตีที่เกิดขีดจำกัดของโลกนี้ไปแล้ว ภายใต้การโจมตีพร้อมกันของพวกเขา โลกสีโลหิตก็ดูจะกลายเป็นม่านหมอกที่เลือนราง

อย่างไรก็ตามเกราะพลังงานที่สวมใส่ก็ยังถูกกัดกินเรื่อย ๆ หมอกรอบ ๆ ของพวกเขาดูจะไม่หมดไม่สิ้น แม้ว่าหลังจากที่ได้ทำการพัดหมอกส่วนใหญ่ไป แต่มันก็ถูกแทนจากหมอกโดยรอบทันที สายหมอกได้ละลายเกราะของตนอย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่ปะทะกัน มันกัดกร่อนมากขึ้นและทั้งสามก็ไม่อาจปล่อยให้ละอองหมอกสัมผัสกับร่างกายของพวกเขาได้ สิ่งที่พวกเขาทำได้คือการถ่ายเทพลังงานเข้าไปในเกราะอย่างต่อเนื่องเพื่อคงสภาพ

ฮุสตันนั่งอยู่กลางเมฆ หมอกโลหิตลอยอยู่รอบ ๆ ตัวของเขาและเคลื่อนผ่านตัวเขาไป เขาจ้องมองจอมยุทธขั้นรับมอบทั้งสามที่รับมือกับเมฆโลหิตอย่างสงบและลึกล้ำ เขาค่อย ๆ ยกมือขึ้น

ขณะที่เขายกมือเมฆก็เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว มีเสียงกรีดร้องที่ไม่สิ้นสุดที่หนาวเย็นของปีศาจที่มักจะได้ยินเป็นบางครั้งและใบหน้าของปีศาจร้ายก็ปรากฏขึ้นทีละหน้า ๆ ขณะที่พวกมันส่งเสียงกรีดร้องและหลังจากที่ปรากฏตัวขึ้นมาพวกมันก็มองเข้าไปในสายหมอก

อย่างไรก็ตามฮุสตันดูเหมือนจะไม่ตระหนักถึงสิ่งนี้ ดวงตาของเขายังจดจ้องอยู่กับสามจอมยุทธขั้นรับมอบ เขายังคงนั่งอยู่ก่อนที่จะเหยียดนิ้วชี้ไปที่ทั้งสามคน

เมฆเริ่มปั่นป่วนอย่างรุนแรงทันที ใบหน้าของปีศาจที่ปรากฏออกมาและเห็นได้ในตอนนี้ พวกมันกรีดร้องและคำรามอย่างหนาวเย็น พวกมันพุ่งเข้าหาสามจอมยุทธขั้นรับมอบโดยไม่สนใจอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับพวกเขาและดูเหมือนจะเข้าไปอย่างไม่จบไม่สิ้น

สามจอมยุทธขั้นรับมอบได้ยินเสียงกรีดร้องร่ำไห้จากใบหน้าที่อยู่ไกล ๆ ใบหน้าของพวกเขาก็ขึงขังมากขึ้น

ฮึ่ม แกก็ทำได้แค่วนไปวนมา !

พวกเขาทั้งสามตะโกนอย่างเย็นชา พวกเขาหันหลังเข้าหากันและมีความระมัดระวังเต็มใบหน้าของพวกเขา คลื่นหน้าปีศาจถาโถมไม่หยุด มันปรากฏตัวจากทุกทิศทางและหลั่งไหลเข้าหาพวกเขา พวกเขาถูกล้อมอย่างสมบูรณ์ ใบหน้ากระแทกชุดเกราะของพวกเขา

มีแม้แต่บางใบหน้าที่จู่โจมร่างกายของพวกเขาอย่างเงียบ ๆ เมื่อพวกเขาได้สัมผัสกับใบหน้าเหล่านั้น ใบหน้าเหล่านี้เข้าไปในวิญญาณของพวกเขา ทำให้ใบหน้าของจอมยุทธทั้งสามต่างบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด

โอ้ ไม่ สิ่งพวกนี้เป็นอันตรายต่อวิญญาณ หนึ่งในนั้นตะโกนออกมา พร้อมกับกระแทกฝ่ามือ เขาบีบใบหน้าหลายพันหน้าด้วยฝ่ามือใหญ่ ๆ ที่กว้างกว่าสามร้อยเมตรและควบแน่นพลังงานดั้งเดิมเพื่อจัดการใบหน้าเหล่านั้นในทีเดียว

แต่ในวินาทีต่อมาใบหน้าเหล่านี้ก็ใหญ่ขึ้น มันรวมตัวกันหลังจากที่ถูกทำลายทันทีในเวลาไม่กี่วินาที พวกมันดูเหมือนว่าไม่อาจถูกทำลายได้ง่าย ๆ

ฝ่ามือที่ควบแน่นจากพลังงานดั้งเดิมฉีกผ่านอสูรนับไม่ถ้วน นี่เป็นเพราะฝ่ามือถูกปกคลุมด้วยใบหน้าในตอนนี้ ภายใต้การกัดกินของพวกมันทำให้พลังงานของฝ่ามือลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่เมฆโลหิตก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นอย่างช้า ๆ

สามจอมยุทธถูกล้อมรอบจากชั้นพลังงานดั้งเดิม ใบหน้าไม่อาจเข้าถึงวิญญาณของพวกเขาได้ พวกเขาต่อสู้อย่างหนักเท่าที่จะทำได้ทำให้สามารถสังหารใบหน้าปีศาจได้นับไม่ถ้วน อย่างไรก็ตามใบหน้านั้นก็จะกลับมาหลังจากที่ทุกทำลาย พวกเขาไม่อาจใช้ทักษะใด ๆ ได้อีก

อีกด้านสามจอมยุทธใช้พลังงานดั้งเดิมตลอดเวลาขณะอยู่ในเมฆ ความสามารถของพวกเขาคือพลังจำนวนมากที่ถูกใช้ไป พวกเขาต้องหาคนที่ควบคุมเมฆ แต่ดวงตาของพวกเขาก็ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงภายในเมฆ พวกเขาเป็นดั่งคนตาบอดที่ไม่อาจมองเห็นใครได้

สิ่งพวกนี้ไม่อาจฆ่าได้ เราตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง เราทำต่อไปไม่ได้แล้ว หนีออกไปทันที หนึ่งในจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมเอ่ย

พวกเขาทั้งสามก็บินออกไปอย่างไม่ลังเล พวกเขาทุกคนรู้สึกได้ว่ากลุ่มเมฆโลหิตกำลังระบายพลังออกมา ขณะที่มันเริ่มทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ

ใจกลางเมฆ ฮุสตันก็ยืนขึ้น เขาก้าวเดินออกเพียงก้าวเดียวและหายตัวไปปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าจอมยุทธสามคนที่กำลังหลบหนี คลื่นพลังที่ปล่อยออกจากฝ่ามือของเขาที่ใช้พลังจากเมฆ ทะเลโลหิตที่ราวกับถูกเสกออกมาจากความว่างเปล่า มันกลายเป็นกระแสพลังท่วมสามจอมยุทธอย่างรวดเร็ว