ตอนที่ 1890 พูดจาหื่นกามหน้าตาย
เหยียนหมิงซุ่นรู้นิสัยที่แท้จริงของภรรยาตัวเองเป็นอย่างดี จะมีความมุ่นมั่นใจการลดความอ้วนมากแค่ไหนเชียว?
อย่างมากแค่ปากพูดไม่กี่คำ แต่พอเขาย่างปีกไก่เสร็จเธอก็จะบอกว่า ‘วันนี้จะทานเป็นมื้อสุดท้าย พรุ่งนี้จะลดความอ้วนแล้วจริง ๆ’
พอถึงวันรุ่งขึ้นเธอก็จะพูดเหมือนเดิม พูดย้ำทุกวันว่าจะเป็นมื้อสุดท้ายตลอด
แต่เขาไม่คิดว่ายัยตัวแสบอ้วนเลยสักนิด หุ่นตอนนี้สิกำลังดีจนยากจะบรรยายออกมาได้ การไม่ลดความอ้วนต่างหากเป็นสิ่งที่เขาอยากเห็น และแน่นอนว่าคำพูดเหล่านี้เก็บไว้ในใจดีกว่า เขาจะพูดออกมาไม่ได้เชียว
“ฉันคิดว่าออกกำลังกายหนักกว่านี้ดีกว่า ไม่อย่างนั้นคราวหลังเธออยู่ข้างบน…ภรรยาลูกน้องฉันคนหนึ่งก็ผอมเพราะเหตุนี้แหละ…”
เหยียนหมิงซุ่นวาดแขนยาวโอบเหมยเหมยเข้ามาในอ้อมกอด มือซุกซนที่มาพร้อมกับแผนการชั่วร้าย
ยัยตัวแสบขี้เกียจจึงไม่ยอมเป็นฝ่ายออกแรง แน่นอนว่าการที่เขาเป็นฝ่ายอยู่ข้างบนรสชาติก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน แต่ท่าอื่น ๆก็ต้องกล้าที่จะลิ้มลองบ้าง คิดว่าจะต้องมีความรู้สึกยอดเยี่ยมยิ่งกว่าแน่ ๆ
เหมยเหมยหน้าแดงระเรื่อ ช่วงนี้เหยียนหมิงซุ่นหน้าด้านขึ้นเรื่อย ๆ แถมยังพูดจาน่าไม่อายด้วยสีหน้าเรียบนิ่งไม่สะทกสะท้านใด ๆอีก
ชาติที่แล้วทำไมถึงดูไม่ออกว่าผู้บัญชาการเหยียนผู้เย็นชาพูดน้อย ความจริงแล้วเป็นคนลามกหื่นกามภายใต้ภาพลักษณ์นายทหารผู้เก่งกาจกันนะ?
แต่เธอก็หวั่นไหวอยู่ดี…
“ผอมลงจริงเหรอ? ผอมไปกี่โลล่ะ?” เหมยเหมยทำท่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ช่วงนี้หมอนี่พูดเหลวไหลบ่อยเลยทำให้ความน่าเชื่อถือลดลงฮวบ
เหยียนหมิงซุ่นมองเธออย่างจริงใจแต่กลับโกหกหน้าตาย “น่าจะประมาณห้าโลมั้ง ได้ผลดีทีเดียว”
ผีสิถึงจะรู้ว่าผอมลงไปกี่โลเพราะเขาบังเอิญได้ยินลูกน้องสองคนกำลังโอ้อวดกันใหญ่โดยมีคนหนึ่งพูดขึ้นมาลอย ๆ เขาความจำดีถึงจำได้มาจนถึงตอนนี้
เหมยเหมยหวั่นไหวอย่างรุนแรง ห้าโลเชียวเหรอ…นั่นเท่ากับเนื้อส่วนเกินที่อยู่บนตัวเธอพอดีเลยไม่ใช่หรือไง?
แต่ทว่า–
“ทำไมลูกน้องพี่ถึงพูดเรื่องแบบนี้กับพี่ด้วยล่ะ? ปกติพวกพี่คุยกันเรื่องบนเตียงด้วยเหรอ?” เหมยเหมยนึกถึงประเด็นนี้ขึ้นมา ปกติแล้วเหยียนหมิงซุ่นไม่ใช่คนที่จะเข้าหาได้ง่าย ๆ ยามอยู่ต่อหน้าลูกน้องมักมีท่าทีราวกับภูเขาน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือก็ไม่ปาน ลูกน้องกลัวเขาแทบตายแล้วจะยอมคุยเรื่องลับ ๆระหว่างสามีภรรยากับเขาได้หรือ?
เหยียนหมิงซุ่นเลิกคิ้ว ยัยตัวแสบหลอกยากขึ้นทุกวันแฮะ
“พี่แอบได้ยินมา” สารภาพไปตามตรง
เหมยเหมยถึงยอมเชื่อพลางมองเขาอย่างยียวน เธอชูนิ้วชี้ขาวเนียนจิ้มหน้าอกเขาเบา ๆ “เป็นถึงคุณชายหมิงก็รู้จักแอบฟังเรื่องคนอื่นด้วยเหรอ?”
“แน่นอน พี่ต้องเรียนรู้ประสบการณ์ไว้…” เหยียนหมิงซุ่นตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบนิ่งไม่รู้สึกเขินอายเลยสักนิด กลับเป็นเหมยเหมยที่โดนเขาหยอกเอินจนใบหน้าเล็กแดงก่ำ หัวใจเต้นตึกตัก
เหยียนหมิงซุ่นลอบขำคนเดียว ยัยตัวแสบคิดจะล้อเขาหรือ?
“เหมยเหมยไม่อยากลองบ้างเหรอ…ห้าโลเลยนะ…ไม่ต้องทานผักต้มแล้วยังทานเนื้อได้ด้วย…ขยับไม่กี่ทีก็ได้แล้ว…”
เสียงทุ้มก้องกังวานที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนดังขึ้นข้างหูเหมยเหมย ไอร้อนยิ่งมอมเมาจนเธอแทบจะมึนอยู่แล้ว สมองเริ่มพล่ามัว ไม่ต้องแทะผักเขียวแล้วยังผอมได้อีกห้าโล…เรื่องดี ๆแบบนี้ทำไมเธอจะไม่ยอมทำกันล่ะ?
……
ดังนั้นหนูน้อยหมวกแดงเหมยเหมยจึงถูกหมาป่าเหยียนคาบไปด้วยเหตุฉะนี้ แถมยังเป็นการเอาตัวเองไปถึงปากหมาป่าเองอีกต่างหาก…
ตอนทานมื้อเย็นเหมยเหมยประคองเอวที่แทบหักนั่งพิงเก้าอี้อย่างอ่อนแรงและท้องที่ส่งเสียงร้องด้วยความหิวโซ
จะผอมได้ห้าโลจริงหรือเปล่าตอนนี้เธอยังไม่รู้เลย แต่ขณะนี้เธอสามารถเขมือบไก่ได้ทั้งตัวนั้นเป็นเรื่องจริง หิวจนอกด้านหน้าแทบจะแบนติดกับแผ่นหลังอยู่แล้ว ไหนจะส่วนเอวที่ใกล้จะหักนี่อีก!
เหมยเหมยถลึงตาจ้องใครบางคนที่ร่าเริงอย่างนึกแค้นใจ ทำไมเธอถึงไม่หลาบจำสักที โดนเจ้าหมอนี่หลอกไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว!
คราวหน้าถ้าเธอยังเชื่อเขาอีก เธอก็จะ…จะแทะผักเขียวทุกวัน!
เหยียนหมิงซุ่นแกะกุ้งตัวหนึ่งมาจ่อปากเธอด้วยรอยยิ้มพลางเอ่ยเสียงอ่อนโยนเป็นการปลอบใจ “เด็กดี…ทานกุ้งสักตัวนะ บำรุงไต”
เหมยเหมย ‘…ไอ้บ้าพี่นั่นแหละไตอ่อนแอ!’
……………………………………………………
ตอนที่ 1891 เจอหน้าก็แทงมีดใส่กัน
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหมยเหมยโดนหมาป่าบางตัวลากไปออกกำลังกายลดน้ำหนักทุกวัน เธอหมดหนทางที่จะประท้วงแล้ว แต่ผลที่ได้นั้นดีมาก ในเช้าวันหนึ่งเหมยเหมยแปลกใจที่พบว่าน้ำหนักของเธอลดลงแล้ว
46 กิโลกรัม!
ถึงแม้ว่าจะยังไม่ถึง 45 กิโลกรัมอย่างที่เธอพอใจ แต่เมื่อเทียบกับ 50 กิโลกรัมเธอก็พอใจมากแล้ว
เหยียนหมิงซุ่นก็คาดไม่ถึงว่าจะได้ผลจริง ๆจึงหงุดหงิดอย่างถึงที่สุด ลูกน้องที่เขาแอบฟังเป็นคนชอบคุยโว เมื่อก่อนที่ลูกน้องพูดโม้ว่าทำหนึ่งครั้งต่อหนึ่งชั่วโมงก็คนนี้แหละ ทำเอาเขาเชื่ออยู่ตั้งนั้น
ดังนั้นเขาจึงนึกว่าการออกกำลังกายจะต้องเป็นเรื่องไร้สาระของลูกน้องคนนี้ด้วย ไหนเลยจะรู้ว่าคราวนี้มันกลับเป็นจริงล่ะ?
ไม่ง่ายเลยกว่าจะขุนให้มีน้ำมีนวลขึ้นมาได้ห้ากิโล กลับโดนเขาทำให้ลดฮวบหายไปในพริบตา!
อยากจะจัดการเจ้าลูกน้องตัวดีคนนี้จริง ๆเลย!
“ผอมจริง ๆด้วย…พี่ ขอบคุณวิธีดี ๆของพี่มากเลยนะ!” เหมยเหมยดีใจมาก ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยหน่อยแต่วิธีนี้ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว!
เหยียนหมิงซุ่นปฏิกิริยาเร็วมาก เลิกคิ้ว กระตุกยิ้มชั่วร้ายที่มุมปากแล้วพูดเสียงเบาว่า “งั้นต่อไปข้างบนให้เป็นหน้าที่เธอแล้วกันนะ?”
“น่าเกลียด…”
เหมยเหมยมองค้อนใส่ เชิดจมูกขึ้นอย่างน่ารัก ยิ้มพลางพูดอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “ประจำเดือนฉันมา พี่ต้องใช้ห้านิ้วของตัวเองไปก่อนแล้วล่ะ…”
มองไปทางเหยียนหมิงซุ่นที่ชะงักแน่นิ่งไป จากนั้นใบหน้าก็ปรากฏร่องรอยของความหงุดหงิดใจ เหมยเหมยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างชอบใจ ฮ่า ๆ…ตอนนี้เธอผอมแล้ว เธอไม่โง่ถึงขั้นยอมโดนหลอกอีกหรอก!
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้โมโหแต่กลับส่งยิ้มออกมาแทน ยัยปีศาจน้อยใจกล้ามากขึ้นเรื่อย ๆ รอประจำเดือนหมดก่อนเถอะ ดูสิว่าเขาจะจัดการยัยปีศาจนี่อย่างไร!
งานเลี้ยงการกุศลมาถึงแล้ว เหมยเหมยใส่ชุดสีขาวที่เคยโดนเธอเก็บเข้ากรุใส่กล่องไว้ ดูเหมาะสมกำลังดี เหมยเหมยหมุนตัวด้วยความพึงพอใจแล้วสวมสร้อยไข่มุกแบบตะวันออกหนึ่งเส้น มุกแต่ละเม็ดมีขนาดเท่านิ้วก้อยซึ่งไม่มีร่องรอยตำหนิให้เห็นเลย
เหยียนหมิงซุ่นไม่คิดที่จะไปร่วมงานเลี้ยงประเภทนี้เลย แต่เพราะมีอู่เยวี่ยอยู่เขาไม่วางใจจึงยกเลิกธุระในคืนนี้ และไปงานเลี้ยงเป็นเพื่อนเหมยเหมย
เขาแต่งตัวสบาย ๆโดยเสื้อคลุมยาวสีดำถูกสวมไว้ด้านนอก ข้างในเป็นชุดสูทสีเดียวกัน ออร่าของเขาสามารถรับกับชุดแบบนี้ได้เป็นอย่างดี ดูเย็นชาแต่น่าหลงใหล แต่ความน่าหลงใหลก็มีให้เฉพาะผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขาเท่านั้น
รูปร่างของอู่เยวี่ยอ้วนท้วนสมบูรณ์ ใบหน้ามีฝ้าขึ้นไม่น้อยแถมยังแต่งหน้าไม่ได้อีกเพราะหนิงเฉินเซวียนไม่อนุญาต เขาห้ามอู่เยวี่ยทำทุกอย่างที่อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ซึ่งรวมถึงรองเท้าส้นสูงและการแต่งหน้า
หน้าที่เปลือยเปล่าของอู่เยวี่ยไม่ได้มีเสน่ห์ดึงดูดเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป ทั้งซีดเซียวและผิวดูแย่มาก รูขุมขนกว้างสุด ๆ จมูกและปากดูไม่เป็นธรรมชาติจึงทำให้รู้สึกหน้าแปลก ๆอยู่เรื่อย
เหมยเหมยรู้ว่านี่เป็นผลพวงมาจากการทำศัลยกรรม ต่อให้ทักษะทางการแพทย์จะก้าวหน้าไปแค่ไหน การศัลยกรรมใบหน้าก็มีแต่จะทำให้ใบหน้ายิ่งดูยาวและแปลกพิกลขึ้นเรื่อย ๆ หลังอายุมากขึ้นหน้าก็ยิ่งเหมือนผีจนแทบทนมองไม่ไหว
หน้าสดของอู่เยวี่ยมองแล้วดูแตกต่างจากโอหยางซานซานมาก เพียงแต่ว่าโอหยางซานซานไม่ได้กลับมาหลายปีแล้ว คนที่ไม่คุ้นเคยจะมองไม่เห็นถึงความแตกต่าง ถ้าหากหวงอวี้เหลียนยังมีชีวิตอยู่แค่มองแวบเดียวเธอก็รู้แล้ว
“คุณนายเฮ่อเหลียนท้องแก่แล้วยังจะออกมาอีกนะคะ เธอต้องระวังตัวหน่อยล่ะ หากว่าล้มหรือชนอะไรเข้า ยันต์ที่ใช้คุ้มครองเธอคงหายไปแน่”
เหมยเหมยแยกกับเหยียนหมิงซุ่น เธอจงใจเดินเข้าไปหาอู่เยวี่ยที่กำลังทักทายเล่าคุณหญิงคุณนายคนอื่น ๆอยู่ ดูแล้วอัลบั้มรูปโป๊คงไม่ได้ส่งผลกระทบกระเทือนต่อเธอมากเท่าไรนัก!
คุณนายคนอื่น ๆต่างก็หุบปากลงเมื่อเห็นเหมยเหมย ศัตรูทั้งสองมาประชันหน้ากันก็เหมือนดาวอังคารปะทะกับโลก พวกเธอต่างก็เป็นคนที่ไม่สามารถล่วงเกินได้ควรเงียบไว้จะดีกว่า
พอได้ยินคำพูดของเหมยเหมย ผู้หญิงทั้งหลายต่างก็สูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ คุณหนูจ้าวพูดจาแบบนี้ช่างทิ่มแทงใจเสียจริง!
……………………………………………………………..