ตอนที่ 1444 สภาวะของคณิตศาสตร์และฟิสิกส์

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

“เมื่อไม่นานมานี้เกิดเหตุโจรกรรมขึ้นในพื้นที่พิพิธภัณฑ์ของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง (สถานที่ตั้งเดิม) หุ่นยนต์มัคคุเทศก์ในพิพิธภัณฑ์ได้รับการยืนยันว่าถูกขโมยไป จากคำบอกเล่าของผู้จัดการพิพิธภัณฑ์ หุ่นยนต์ได้ออกจากพื้นที่ปฏิบัติงานไปในระหว่างช่วงเวลาการทำงาน และหลังจากออกจากพื้นที่พิพิธภัณฑ์ไปพลังงานที่ส่งไปยังระบบ BDS ก็ถูกตัด…

“มันรู้สึกเหมือนถูกควบคุมด้วยอะไรบางอย่าง”

คุณยายวัย 60 ปีท่านหนึ่งที่กำลังเผชิญหน้ากับกล้องที่มาสัมภาษณ์มีสีหน้าที่ตกตะลึงและกล่าวว่า “เราไม่ได้สังเกตมันในตอนแรกเพราะฉันไม่เคยคิดว่าจะมีใครขโมยหุ่นยนต์มัคคุเทศก์!”

“คุณคิดว่าใครล่ะจะทำเรื่องบ้าขนาดนี้ได้! แค่คุณไม่สามารถจะซื้อหุ่นยนต์ได้ถ้า—”

ครึ่งหลังของการสัมภาษณ์ดูเหมือนจะถูกตัดออกไปกะทันหัน

กล้องกลับไปถ่ายทอดภาพจากสตูดิโออย่างแนบเนียน

“…มีรายงานว่าประเภทของหุ่นยนต์คือหุ่นยนต์มัคคุเทศก์ G-004 ที่ผลิตโดยฮิปโปแคมปัสกรุ๊ป ซึ่งหน้าที่ของมันคือให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในการนำเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งให้ความบันเทิงต่างๆ ณ ตอนนี้ วิศวกรจากฮิปโปแคมปัสกรุ๊ปได้มาถึงที่เกิดเหตุและกำลังช่วยเหลือตำรวจและหน่วยงานประเมินสาเหตุของเหตุร้ายจากภายนอก

“เราไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ในเรื่องความล้มเหลวของระบบหุ่นยนต์ออกไปได้ ฮิปโปแคมปัสกรุ๊ปได้เอาหุ่นยนต์ออกจากช่องทางการขายของพวกเขาเองชั่วคราวและออกประกาศเตือนเรื่องความเสี่ยงต่อลูกค้าที่ซื้อหุ่นยนต์ไป”

“เนื่องด้วยอาจมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นคดีอาญา หน่วยงานรัฐด้านการรักษาความปลอดภัยในท้องถิ่นจึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสืบสวนหลังจากได้รับรายงานจากพิพิธภัณฑ์”

“สถานีของเราต้องการแจ้งทุกท่านว่าถ้าผู้ใดทราบที่อยู่ของหุ่นยนต์ โปรดโทรหาเราทันทีหรือแจ้งเบาะแสมายังพิพิธภัณฑ์หรือสถานีตำรวจท้องถิ่น”

“จินหลิงนิวส์ รายงานข่าวเพื่อคุณ”

เช้าวันถัดมา…

ที่โต๊ะรับประทานอาหาร ลู่โจวกำลังดื่มกาแฟอยู่ระหว่างที่ฟังข่าวรอบเช้า เขาใช้เครื่องเทอร์มินอลส่วนตัวของเขาในการค้นข้อมูลทางวิชาการที่เขารู้สึกสนใจ

เมื่อเขาได้ยินว่าหุ่นยนต์มัคคุเทศก์หายไปจากพิพิธภัณฑ์ของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง ลู่โจวก็เงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ที่สูงจากพื้นจรดเพดานซึ่งฝังอยู่ในกำแพง

เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง ลู่โจวก็ตะลึงงัน

จากนั้นเขาก็เมินหน้าหนีไปจากจออย่างเงียบๆ แล้วมองไปทางเสี่ยวไอที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโดยนั่งเท้าคางมองดูเขาอย่างมีความสุข

จู่ๆ บรรยากาศระหว่างทั้งสองคน…ก็เงียบกริบไป

“หืม?”

“หืมบ้าอะไร!”

ลู่โจวมองมาที่เสี่ยวไอ ซึ่งแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง เขาโกรธจัด

ให้ตายสิพับผ่า!

ประเด็นเรื่องตัวตนและที่อยู่ของเขายังไม่ได้รับการแก้ไข และเสี่ยวไอก็สร้างปัญหาให้กับเขา

ทุกอย่างสื่อว่าคุณขโมยหุ่นยนต์มาใช่ไหม?!

ไม่ใช่ว่าเราไม่มีเงิน คุณก็แค่ซื้อมาสักตัวหนึ่งไม่ได้เหรอ!

“เจ้านาย?”

“อย่ามากวนฉัน ขอฉันคิดก่อนว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้…”

ลู่โจวมองโทรทัศน์ซึ่งเริ่มรายงานข่าวอื่นๆ มือซ้ายของเขายังวางอยู่บนโต๊ะ

สองนาทีต่อมา ลู่โจวก็มองไปที่เสี่ยวไอแล้วพูดว่า

“เธอควรกลับไปที่ของเธอซะ”

“ไม่!”

ลู่โจวไม่คาดคิดว่าปฏิกิริยาของเธอจะเว่อร์ขนาดนี้ เขามองดูเธอด้วยความรู้สึกปวดหัวแล้วถามว่า

“มันมีปัญหาอะไร? ตัวเครื่องหลักของเธอก็เป็นแค่เซิร์ฟเวอร์ไม่ใช่เหรอ? มันไม่โอเคเหรอถ้าฉันจะซื้อตัวใหม่ให้เธอ?”

เสี่ยวไอ: “เจ้านาย… ไม่ชอบเสี่ยวไอแล้วเหรอ? นั่นคือเหตุผลที่เจ้านายอยากจะได้ตัวใหม่…”

ลู่โจว “…?”

เสี่ยวไอ: “แต่ แต่ หน้า! และตัว! ทุกๆ พารามิเตอร์ถูกออกแบบโดยเสี่ยวไอโดยใช้การรวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่ การวิเคราะห์และการเปรียบเทียบได้ถูกอ้างอิงจากภาพตัวละครที่ได้รับความนิยมมากที่สุด!”

ใช่ เจ้านี่…

มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคอนเซปต์ของความเป็นเจ้าของ

ลู่โจวผู้ซึ่งไม่เคยโต้เถียงกับเสี่ยวไอ รู้สึกว่าอำนาจของเขาในฐานะเจ้านายกำลังถูกท้าทาย

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้เห็นว่าเธอมีความสุขมาก เขาก็อยากจะยอมประนีประนอม

สถานะปัจจุบันของเขาดูน่าจะคล้ายกับพ่อแก่ๆ คนหนึ่งที่ดูลูกสาวของเขาแย่งของเล่นมาจากเด็กคนอื่น แม้เขาจะรู้ว่าลูกสาวของเขากำลังทำผิด แต่เขาก็ไม่สามารถจะทนตำหนิเธอได้

น่าปวดหัวเสียจริง…

ถ้าเพียงแต่ฉันจะสามารถคุยกับทางพิพิธภัณฑ์แล้วซื้อเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ได้

แต่ตอนนี้ตำรวจได้เข้ามาเกี่ยวข้องในการสืบสวนแล้ว ถึงแม้เขาอยากจะแก้ไขเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว แต่มันก็ไม่มีช่องทางในการหลบหลีก

“เธอประเมินพลังของสังคมมนุษย์และกฎเกณฑ์ต่ำเกินไป… เฮ้ ลืมเรื่องนี้ไปเสียเถอะ” ลู่โจวส่ายหัวแล้วเก็บแผงโฮโลแกรมที่ลอยอยู่ตรงหน้าเขาเข้าที่ เขาพูดว่า “ยังไงก็แล้วแต่ สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงก็ค่อนข้างเป็นทางของฉัน เก็บมันไว้ก็ได้ถ้าเธอชอบ”

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การที่ฉันรอดชีวิตกลับมาจากดาวอังคารก็ต้องขอบคุณเจ้าเพื่อนตัวน้อยนี้ที่ไม่ลืมฉัน

แม้ว่านี่มันจะน่าหวาดหวั่นเล็กน้อย แต่ฉันก็จะคิดเสียว่ามันเป็นเหมือนรางวัล

“เย้!”

หลังจากที่ได้ยินว่าลู่โจวจะยอมทำตามคำขออันมุ่งมั่นของเธอ เสี่ยวไอก็กระโดดขึ้นจากเก้าอี้อย่างตื่นเต้น หุ่นยนต์สาวรีบเข้ามาหาลู่โจวแล้วจูบเข้าที่แก้มของเขา

“มั้วะ! ขอบคุณค่ะเจ้านาย! ฉันหวังว่าคุณจะยอมรับคำขอบคุณของฉัน!”

“ยอมรับบ้าอะไรกัน!”

ลู่โจวยกนิ้วขึ้นมาแล้วเคาะที่หัวของเสี่ยวไอ เขาจ้องเขม็งไปที่เธอแล้วลุกขึ้นยืน

“เจ้านาย?”

“ฉันจะออกไปข้างนอกและช่วยหลิงหาว่ามีหมวกกันน็อกสำหรับตุ๊กตาไหม หลิงไม่สามารถจะออกไปข้างนอกแบบนี้ได้ เขาจะถูกจับเพราะสร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเมือง”

“ถ้าอย่างนั้นเสี่ยวไอจะช่วยด้วย! (๑•̀ᄇ•́)و✧”

“เธอกับหลิงต้องอยู่บ้านถ้าเธออยากจะช่วยไม่ให้ฉันเจอปัญหา!”

ยามมนุษย์อัจฉริยะ ‘ไพรเวท-1’ ซึ่งสวมผ้ากันเปื้อน เดินออกมาจากห้องครัวแล้วยืนอยู่ตรงนั้นโดยถือเครื่องดูดฝุ่นไว้

“รับทราบ หัวหน้า

“หลิง โอเค เตรียมพร้อม”

คิ้วของลู่โจวกระตุกอย่างแรง เขามองไปที่เสี่ยวไอซึ่งกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะด้วยสีหน้าที่เศร้าสลด แล้วพูดว่า

“ถ้าเธอมีเวลา ช่วยฉันปรับปรุงซอฟต์แวร์ความจำของเจ้านี่หน่อย ฉันสงสัยว่าความเข้ากันได้ได้รับความเสียหาย… อย่างน้อยก็ทำให้มันเป็นทางการน้อยกว่านี้”

“อีกอย่าง ชื่อของนายคือหลิง ไม่ใช่หลิง โอเค!”

แสงสีแดงกะพริบเล็กน้อย เขาดูเหมือนจะเข้าใจคำสั่ง

“เปลี่ยนชื่อสำเร็จ หลิงไม่ใช่หลิงโอเค ยินดีให้บริการ”

ลู่โจว “…”

ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างการจราจรในศตวรรษที่ 22 กับการจราจรในศตวรรษที่ 21 เป็นไปได้ว่าน่าจะสะท้อนออกมาในเรื่องของประสิทธิภาพ

การขนส่งในยุคนี้ผลักดันให้เกิดประสิทธิภาพถึงขีดสุด โดยเฉพาะในเรื่องของการขนส่งแบบสาธารณะ

จากระบบท่อขนส่งแม็กเลฟแบบสุญญากาศมาสู่ระบบขนส่งรางเบาในเมือง ระบบขนส่งสาธารณะที่สอดคล้องกันลงไปทีละชั้นเป็นเหมือนเส้นเลือดใหญ่และเส้นเลือดฝอยในร่างกายมนุษย์

ใครสักคนสามารถจะตื่นขึ้นมาในกลุ่มเมืองสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียงในตอนเช้า มีนัดที่กลุ่มเมืองสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียงตอนเที่ยง แล้วไปที่กลุ่มเมืองปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ยเพื่อชมการแข่งขันฟุตบอลแล้วกลับมานอน หนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา นี่คือไลฟ์สไตล์ที่มีไว้สำหรับชนชั้นนำในสังคมเท่านั้น แต่ตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถจะเข้าถึงมันได้…

เด็กทั้งสองที่ไร้ความสามารถด้านจิตใจอยู่ที่บ้าน ลู่โจวสวมรองเท้าแล้วออกมาจากบ้าน

ช่วงนี้เป็นเดือนมกราคม แม้ว่าบ้านจะมีเครื่องปรับอากาศส่วนกลาง แต่อากาศด้านนอกก็ยังคงหนาวเย็นมาก ดังนั้นเขาจึงต้องใส่เสื้อเพิ่มอีกตอนที่ออกมาข้างนอก

ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตอนที่เขาออกมาจากสนามบินเมื่อวานนี้ ลู่โจวซึ่งมีลางสังหรณ์ว่าใบหน้าของเขาอาจจะสร้างปัญหามากมาย เขาจึงแขวนระบบฉายโฮโลแกรมที่รูปร่างเหมือนสร้อยคอไว้ที่คอของเขา

เขาใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงในการปรับเปลี่ยนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเล็กน้อย จากนั้นเขาก็สวมแว่นตา AR แล้วหาเส้นทางไปยังสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดโดยใช้เคอร์เซอร์บนแผนที่

เขาคิดว่าการใช้รถไฟรางเบาน่าจะง่ายสำหรับเขา

อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาก้าวเข้ามาในสถานี เขาก็เจอกับความยากลำบาก

ลู่โจวมองไปยังสถานีที่ผู้คนแน่นขนัดด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เขาค้นหาอยู่สักพักแต่ก็หาเครื่องขายตั๋วไม่เจอ ในที่สุดเขาก็ต้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ต้อนรับ

“สวัสดีครับ ผมจะซื้อตั๋วรถไฟรางเบาได้จากที่ไหน? ผมไม่เห็นเครื่องขายตั๋ว—”

เจ้าหน้าที่ต้อนรับซึ่งนั่งอยู่ที่แผนกช่วยเหลือมองลู่โจวด้วยสีหน้าแปลกๆ “ตั๋วรถไฟรางเบา? มันคืออะไรคะ? ถ้าคุณต้องการจะขึ้นรถไฟ เดินเข้าไปข้างในได้เลย”

“ฟรีเหรอครับ?”

“คุณคิดอะไรอยู่คะ ไม่มีของฟรีบนโลกนี้หรอก” เจ้าหน้าที่ต้อนรับยังคงพูดต่อไปอย่างหงุดหงิดว่า “ตราบใดที่สถานีปลายทางของคุณเปิดอยู่ เราสามารถจะระบุตัวตนของคุณได้และก็จะหักเงินจากบัญชีของคุณ คุณคงจะเป็น…พวกที่หลับไปชั่วคราวใช่ไหม? นี่ศตวรรษที่ 22 แล้วนะคะ”

ลู่โจว “…”

นี่มันบัดซบที่สุด! เธอคงอยากจะเรียกฉันว่าไอติมแช่แข็งใช่ไหม?

ทำไมคนแบบนี้ถึงได้มาทำงานอยู่ในระบบขนส่งสาธารณะ?

หุ่นยนต์น่าจะมายึดงานเธอไปเร็วๆ นี้

ลู่โจวหันกลับไปแล้วเดินตรงไปยังประตู

ทันใดนั้นเขาก็เกิดความคิดขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาปิดเครื่องเทอร์มินอลส่วนตัวที่เขาสวมอยู่ที่ข้อมือซ้ายตอนที่เขาผ่านประตูตรวจตั๋ว

ลู่โจวรู้สึกว่าบางอย่างแย่ๆ จะต้องเกิดขึ้น

เขาไม่อยากจะหลบเลี่ยงค่าโดยสาร ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ลองทำแม้ว่าเขาจะอยากรู้ก็ตาม เหมือนอย่างผู้โดยสารคนอื่น เขาเดินผ่านประตูตรวจตั๋วแล้วเดินไปยังทางที่เป็นจุดขึ้นรถ

นี่คือสิ่งที่ต่างจากรถไฟรางเบาในศตวรรษที่ 21

แม้ว่ารถไฟรางเบาของยุคนี้จะยังคงเรียกว่ารถไฟรางเบา แต่ในแง่ของหลักการทางเทคนิคและประสบการณ์ของผู้ใช้งาน มันมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

รางสลับซับซ้อนที่ลอยอยู่กระจายออกไปทั่วเมืองเหมือนกับใยแมงมุม และเส้นทางขนส่งของรถไฟที่เชื่อมต่อกันในแต่ละสถานีก็วางซ้อนกันเหมือนกับชั้นของขนมเค้ก

มันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นและลงจากเส้นทางที่สถานีที่ถูกต้องโดยไม่ใช่แว่นตา AR มันคงจะไม่น่าไว้วางใจเหมือนกับคนขับรถแก่ๆ พวกนั้นที่พยายามใช้ความทรงจำของพวกเขาในการหาเส้นทางที่ถูกต้องในเขตชานเมือง

ในที่สุดหลังจากขึ้นมาบนรถไฟรางเบา ลู่โจวก็ชำเลืองมองเวลาถึง แล้วเขาก็ยื่นมือออกไปและกดที่สร้อยคออัจฉริยะ

หน้าจอโฮโลแกรมโปร่งแสงปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเขา หลังจากหรี่แสงสว่างของหน้าจอเขาก็มุ่งความสนใจไปที่เอกสารวิชาการที่เขาอ่านที่บ้านไม่จบ

โดยทั่วไปแล้วหากเปรียบเทียบกับศตวรรษที่แล้ว การพัฒนาของโลกวิชาการก็ค่อนข้างก้าวหน้า

แบบจำลองมากมายที่ยังคงถูกสำรวจเมื่อ 100 ปีก่อนก็ถูกนำมาทดสอบในยุคนี้

ยกตัวอย่างเช่น แบบจำลองหุ้นส่วนที่เขาได้ทดสอบในตอนนี้ก็ถูกใช้อย่างแพร่หลายในเขตไฮเทคจินหลิง แต่การบรรลุผลสำเร็จของมันไปไกลกว่าการพึ่งพาสตาร์สกายเทคโนโลยีไปสู่เมืองมหาวิทยาลัยด้วยส่วนย่อยที่มากกว่าหลายหมื่นสาขาอาชีพ

บริษัทนวัตกรรมขนาดใหญ่ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหลายแห่ง อย่างเช่น ฮิปโปแคมปัสกรุ๊ป ซึ่งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของห่วงโซ่อุตสาหกรรมอย่างแน่นอน พวกเขาก็ได้รับอบรมบ่มเพาะภายใต้แบบจำลองนี้

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ที่เขาใส่ใจมากที่สุด

แม้ว่าเมื่อเทียบกับวิทยาศาสตร์ประยุกต์ มุมมองนี้จะเป็นสิ่งที่ค่อนข้างเป็นความลับ แต่ด้วยความช่วยเหลือของเสี่ยวไอที่กรองเอาส่วนที่เป็นประโยชน์ออกจากข้อมูลที่ซับซ้อนแล้วมันก็ไม่ได้ยากจนเกินไป

มันเป็นสิ่งสมควรที่จะกล่าวว่าการประชุมแลกเปลี่ยนหารือทางวิชาการที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ LSPM แม้ว่าจะมีน้อยคนที่ยังจำชื่อเต็มของตัวย่อนี้ได้ มันก็ได้พัฒนาไปสู่ยุคใหม่ของแวดวงวิชาการ

โดยเฉพาะนับตั้งแต่มีการใช้เทคโนโลยีชุมชนเสมือนจริงอย่างแพร่หลาย นี่เป็นครั้งแรกที่มีการจัดการประชุมวิชาการทางออนไลน์แบบเสมือนจริงและแบบจำลองกลุ่มการอภิปรายทางออนไลน์ มันแทบจะกลายเป็น ‘ไวท์บอร์ดอันที่สอง’ ในมือของคนหนุ่มสาว

แม้ว่าจะเจอกับปัญหาเดียวกันในเรื่องของการเพิ่มจำนวนของวิทยาศาสตร์พลเรือนเหมือนกับ arXiv แต่หากเปรียบเทียบกันแล้ว มันก็ดีกว่าเว็บไซต์ร่วมสมัยหลายเว็บในประเภทเดียวกัน

มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับผู้จัดการของการประชุมนี้ ความเห็นในกระแสหลักปัจจุบันก็คือเว็บไซต์นี้ถูกควบคุมโดยผู้สืบทอดของนักวิชาการลู่ ซึ่งก็คือคณะกรรมการบริหารของมูลนิธิพิทักษ์สิทธิมนุษยชนแช่แข็ง

อย่างไรก็ตามคงไม่มีใครคิดว่า…

ในความเป็นจริงแล้ว คนที่ดำเนินการควบคุมเว็บไซต์นี้ไม่ใช่มนุษย์เลย แต่เป็นปัญญาประดิษฐ์ตัวหนึ่งที่อยู่ภายใต้สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง…

“โดยทั่วไปแล้ว การพัฒนาด้านคณิตศาสตร์นั้นโอเค เว้นแต่ความจริงที่ว่าข้อคาดการณ์ของฮอดจ์กับข้อคาดการณ์ของ BSD ได้รับการแก้ไขแล้ว… ไม่มีผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ แต่มันก็ยังคงเป็นพัฒนาการที่มั่นคง

“การพัฒนาด้านฟิสิกส์เป็นที่น่าพอใจพอสมควร แม้ว่ามันจะช้ากว่าที่ผมได้คาดไว้”

มีปัญหาเพียง 27 ข้อจากปัญหา 100 ปีที่ได้รับคำตอบแล้ว ยังเหลือคำถามอีก 78 ข้อที่ยังไม่มีคำตอบ คำถามแรกคือคำถามที่เขากังวลมากที่สุด ซึ่งก็คือการรวมตัวของแรงพื้นฐานในธรรมชาติทั้ง 4 ชนิด เมื่อเทียบกับ 100 ปีก่อน มันแทบจะไม่มีการพัฒนาที่เด่นชัดเลยในสาขาฟิสิกส์เชิงทฤษฎีสำหรับเรื่องนี้

หากเทียบกันแล้ว พัฒนาการในสาขาคณิตศาสตร์นั้นคืบหน้าไปเยอะกว่ามาก ประการแรกก็คือ ข้อคาดการณ์ของฮอดจ์ได้รับการพิสูจน์โดยศาสตราจารย์เฉินหยางและศาสตราจารย์เพเรลมาน จากนั้นข้อคาดการณ์ของ BSD ก็ได้รับการแก้ไขโดยหลี่โม่

ปัญหามิลเลนเนียมทั้งเจ็ดซึ่งคาดว่าจะได้รับการแก้ไขในศตวรรษที่ 21 เหลือเพียงปัญหาเดียวเท่านั้น ลำพังเขาคนเดียวก็อธิบายปัญหาที่ได้แก้ไปแล้วถึง 3 ใน 6 ข้อ ในกลุ่มของสามปัญหาที่เหลืออยู่ ข้อคาดการณ์ของฮอดจ์ครึ่งหนึ่งนั้นเขาเป็นคนแก้ และอีกครึ่งนั้นแก้โดยเด็กฝึกงานของเขา

ปัญหารากที่ไม่ชัดแจ้งของฟังก์ชัน L ของดีริชเลตที่เขากังวลดูเหมือนจะไม่มีความคืบหน้า มันถึงกับได้ชื่อว่าเป็นปัญหาแห่งศตวรรษเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามข้อพิสูจน์ของเขาเรื่องสมมติฐานของรีมันน์ก็มีส่วนช่วยให้เกิดผลการวิจัยใหม่ๆ มากมาย

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ จู่ๆ ลู่โจวก็ยิ้มออกมา

ถ้านี่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเขาฉลาดขนาดไหน เช่นนั้นก็ไม่มีอะไรจะมาพิสูจน์ได้แล้ว…