บทที่ 1904 ให้พระเจ้าเป็นคนตัดสิน + ตอนที่ 1905 ฉันคือนางฟ้าตัวน้อย

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1904 ให้พระเจ้าเป็นคนตัดสิน

เหยียนหมิงซุ่นส่งสัญญาณให้เหมยเหมย ความหมายคือให้เธอตกลงข้อแลกเปลี่ยนของอู่เยวี่ย เหมยเหมยกะพริบตาปริบ ๆด้วยความงุนงง ถึงแม้จะไม่เข้าใจแต่ก็ทำตามอย่างว่าง่าย

“เฮ้อ แต่ใครใช้ให้คนอย่างฉันขี้ใจอ่อนกันล่ะ เห็นแก่ความน่าสงสารที่โอหยางซานซานไม่มีพ่อไม่มีแม่ ฉันจะยอมช่วยเธอสักครั้งละกัน ถ้าปล่อยใบอนุญาตถ่ายทำมาเมื่อไร ฉันก็จะคืนสมุดบัญชีให้เมื่อนั้น”

ในจังหวะที่อูเยวี่ยกำลังจะถอดใจจากเหมยเหมยเตรียมตัวไปสารภาพผิดกับหนิงเฉินเซวียน เหมยเหมยที่พลิกบทบาทกะทันหันทำให้อู่เยวี่ยตั้งรับไม่ทันชั่วขณะและไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง

ห้าวินาทีก่อนยังกัดแน่นไม่ปล่อย แต่บทจู่ ๆจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนเร็วขนาดนี้เชียวหรือ?

อู่เยวี่ยลังเลไม่กล้าขานรับเหมยเหมย เธอกลัวว่ายัยชั่วนี่จะขุดหลุมฝังเธอ

ถึงแม้ยัยชั่วจ้าวเหมยจะไม่ฉลาด แต่คนข้างกายเธอนั้นคือเหยียนหมิงซุ่นที่เจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอก มีที่ปรึกษาเป็นทหารคอยช่วยวางแผนอยู่เบื้องหลัง ไม่แปลกเลยที่เธอจะพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง

แพ้ด้วยน้ำมือของคุณชายหมิงผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง ถึงจะแพ้ก็แพ้อย่างมีเกียรติ พอคิดแบบนี้อู่เยวี่ยก็รู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง!

“เธอไม่เต็มใจเหรอ? งั้นช่างมันเถอะ!” เหมยเหมยไม่รอให้อู่เยวี่ยตอบรับแล้วพูดขึ้นอย่างเสียอารมณ์ เตรียมตัดสายทิ้ง

อู่เยวี่ยที่เพิ่งจะได้สติกลับมาเอ่ยว่า “เดี๋ยวก่อน ฉันคิดว่าเราดำเนินการไปพร้อม ๆกันจะดีกว่า…”

“โอหยางซานซาน ตอนนี้เธอกำลังขอร้องฉันอยู่ไม่ใช่ฉันที่ขอร้องเธอ เธอมีสิทธิ์อะไรมายื่นข้อเสนอฉัน? ทำตามที่ฉันบอกซะ ถ้าไม่เต็มใจก็แล้วแต่นะ!” เหมยเหมยพูดเยาะเย้ย

อู่เยวี่ยกัดริมฝีปากแน่น แค่ตอนนี้เหมยเหมยไม่ได้อยู่ตรงหน้าเธอเท่านั้น ไม่งั้นเธอเอาถึงตายแน่!

“ได้…ฉันจะรีบจัดการใบอนุญาตถ่ายทำให้โดยเร็ว แล้วก็หวังว่าคุณหนูจ้าวจะไม่ผิดคำพูด!”

“ไม่มีทางหรอก เธอคิดว่าฉันเป็นเธอเหรอ!”

เหมยเหมยหัวเราะเยาะพร้อมตัดสายทิ้งแล้วดันโทรศัพท์ไปด้านข้าง จากนั้นก็ประคองพวงแก้มด้วยมือทั้งสองข้าง กะพริบตาปริบ ๆเพื่อรอรับคำชมเหมือนหมาตัวน้อย สะบัดหางอย่างอารมณ์ดี

“พี่คะ…ฉันทำได้ดีไหม? เมื่อกี้ทำอู่เยวี่ยโมโหแทบบ้าเลยนะ!”

เหยียนหมิงซุ่นบีบจมูกเธอ เอ่ยแกมประชด “เธอไม่ให้พี่ลงมือกับลูกอู่เยวี่ย แต่ตัวเองกลับทำให้อู่เยวี่ยโมโหแทบทุกวัน พี่ได้ยินว่างานเลี้ยงคืนนั้นเธอทำให้อู่เยวี่ยโมโหจนแทบแท้งลูก ตอนนี้กำลังรักษาอาการอยู่เลย!”

ยัยปีศาจน้อยมักปากไม่ตรงกับใจ เรื่องที่ห้ามไม่ให้เขาทำแต่ตัวเองกลับทำอย่างสนุกสนานเชียว!

เหมยเหมยแลบลิ้นปลิ้นตา “ตอนแรกฉันแค่คิดว่าลงมือกับเด็กมันไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ใครใช้ให้อู่เยวี่ยทำตัวน่าโมโหจนฉันแทบทนไม่ไหวตลอดเลย อีกอย่างฉันคิดว่าถ้าเด็กคนนี้ไม่ออกมาคงจะดีเสียกว่า จริง ๆนะ!”

จุดจบของหนิงเฉินเซวียนพอจะคาดเดาได้แล้ว การสูญสลายจะต้องมาถึงในไม่ช้า เฮ่อเหลียนเช่อเองก็คงมีจุดจบที่ไม่ดีนัก การที่เกิดมาในครอบครัวแบบนั้นไม่ได้เป็นเรื่องดีกับเด็กเลย

อีกทั้งหนิงเฉินเซวียนให้ความสำคัญกับเด็กมาก คิด ๆดูแล้วหลังจากเด็กคนนี้เกิดมาหนิงเฉินเซวียนคงเป็นคนเลี้ยงดูสั่งสอนเองแน่นอน จากนิสัยวิปริตของหนิงเฉินเซวียนแล้ว เด็กที่เขาเลี้ยงดูจะกลายเป็นคนดีได้อย่างไร?

เมื่อก่อนเหมยซูหานเคยเล่าให้ฟังว่าตอนเฮ่อเหลียนเช่อยังเด็ก เขาน่ารักและจิตใจดีมาก ขนาดเห็นนกตายข้างทางยังน้ำตาไหลพราก แต่หลังจากอยู่กับหนิงเฉินเซวียนกลับถูกเลี้ยงดูจนกลายเป็นพวกไร้คุณธรรมเช่นนี้!

คิดว่าถ้าเด็กในครรภ์มีความคิด เขาคงไม่อยากมาอยู่กับหนิงเฉินเซวียนหรอก!

เพราะงั้นก็ให้เป็นเรื่องของชะตาฟ้าลิขิตเถอะ หากว่าอู่เยวี่ยสามารถรักษาเด็กคนนี้เอาไว้ได้ นั่นก็คงเป็นลิขิตแห่งสวรรค์แล้วล่ะ แต่ถ้ารักษาไว้ไม่ได้ก็เป็นเพราะสวรรค์ลิขิตเช่นกัน!

เหยียนหมิงซุ่นเข้าใจความคิดของเหมยเหมย ลูบหลังเธอและไม่ได้พูดถึงเรื่องเด็กอีก

เหมยเหมยถามด้วยความแปลกใจ “ทำไมต้องคืนสมุดบัญชีให้อู่เยวี่ยด้วยล่ะ? งั้นแบบนี้เราก็เสียแรงเปล่าสิ? เรื่องละครฉันไม่รีบจริง ๆนะ อย่างมากก็แค่ไปถ่ายทำที่ฮ่องกง”

………………………………………………………….

ตอนที่ 1905 ฉันคือนางฟ้าตัวน้อย

เหมยเหมยกังวลว่าเหยียนหมิงซุ่นจะทำเพื่อละครของเธอถึงได้ยอมคืนสมุดบัญชีให้กับอู่เยวี่ย หากเป็นเพราะเหตุผลนี้เธอก็เต็มใจที่จะไม่ถ่ายทำเจ้าหญิงอัปลักษณ์ เธอจะไม่ยอมให้เกิดผลกระทบต่องานของเหยียนหมิงซุ่นเด็ดขาด

“ยัยโง่…พี่แค่เอาสมุดบัญชีปลอม ๆคืนให้อู่เยวี่ยเท่านั้นแหละทำให้อู่เยวี่ยวางใจเสียก่อน เพื่อเลี่ยงไม่ให้หนิงเฉินเซวียนไหวตัวทัน”

บัญชีของทางมูลนิธิได้ถูกตรวจสอบอย่างละเอียด แต่หมาจิ้งจอกอย่างหนิงเฉินเซวียนกลับยังไม่รู้เรื่อง อู่เยวี่ยกังวลว่าจะโดนด่าเธอจึงปิดบังเรื่องนี้ไว้เงียบกริบ นับว่ายังพอมีทักษะอยู่บ้าง

ดังนั้นเขาต้องทำให้อู่เยวี่ยวางใจเสียก่อน ตอนนี้ยังไม่ควรทำให้หนิงเฉินเซวียนไหวตัวทันเพื่อเลี่ยงการแหวกหญ้าให้งูตื่น

เมื่อได้ยินว่าไม่ได้เป็นเพราะละครของเธอ เหมยเหมยพลันรู้สึกโล่งใจแต่ก็ยังกังวลอยู่ดี “แล้วอู่เยวี่ยจะดูออกไหมว่าเป็นสมุดบัญชีเล่มปลอม?”

เหยียนหมิงซุ่นมองเธอด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองพลางหยิกแก้มเธออย่างเบามือ “พี่ว่าเธอโง่ยังไม่ยอมรับอีก ถ้ามันง่ายจนอู่เยวี่ยแยกของจริงของปลอมออก พี่จะเก็บคนพวกนั้นไว้ทำงานอีกทำไมล่ะ?”

เหมยเหมยอ้าปากงับนิ้วของเขา วันนี้พูดว่าเธอโง่ถึงสองครั้งแล้วนะ ตาบ้า!

เธอมีสิทธิ์ว่าตัวเองโง่เพราะคือการถ่อมตัว!

แต่คนอื่นห้ามเชียวนะเพราะนั่นคือการดูถูก!

เหยียนหมิงซุ่นก็ไม่ได้ เธอไม่ต้องการศักดิ์ศรีหรือไง?

“ฉันไม่ได้โง่ อย่างฉันเรียกว่าคนฉลาดที่ไม่แสดงความสามารถออกมา ถ้าฉันไม่แกล้งทำเป็นโง่สักหน่อยจะเผยให้เห็นบุรุษผู้ปราดเปรื่องอย่างพี่ได้ไง…จะกัดให้ตายเลย!”

เหมยเหมยค่อมตัวเหยียนหมิงซุ่นและกัดเขาเหมือนสุนัข เหยียนหมิงซุ่นก็ไม่ได้หลบปล่อยให้เธอทำไป ถึงอย่างไรมันก็แค่ความรู้สึกจักจี้ เขาชอบด้วยซ้ำไป!

“เธอมั่นใจเหรอว่าเธอคือคนฉลาดที่ไม่แสดงความสามารถออกมา? ทำไมพี่คิดว่าเธอคือคนโง่ที่แกล้งทำเป็นฉลาดล่ะ! จะว่าไปก็มีออร่าเปล่งประกายอยู่นะ…” เหยียนหมิงซุ่นขำขัน

เหมยเหมยอึ้งไป ใช้เวลาสักพักหนึ่งกว่าจะเข้าใจความหมายของเจ้าบ้านี่ มันคือการว่าเธอมีออร่าความสวยแต่โง่ยังไงล่ะ จากรักหวานชื่น…กลับกลายเป็นการดูถูกอย่างเปิดเผยไปแล้ว!

ทนไม่ไหวแล้วโว้ย!

“พี่บ้า…ต่อจากนี้ไปพี่พูดได้แค่ว่าฉันน่ารัก ฉันฉลาด ฉันสวยสะดุดตา ฉันคือนางฟ้าตัวน้อย…”

เหมยเหมยกัดใบหูของเหยียนหมิงซุ่น ตะโกนเสียงดังข้างหูเขาจนน้ำลายกระเด็นใส่หน้า

ลุงเหลาและป้าฟางหัวเราะจนท้องแข็ง ความสัมพันธ์ของคุณชายกับคุณหนูนับวันยิ่งดีขึ้นเหมือนในบทละครไม่มีผิด เพียงคิดอิจฉานกยวนยาง หาได้คิดอิจฉาเทพเซียน[1]!

อู่เยวี่ยร้อนใจอยากได้สมุดบัญชีคืน หลังจากวางสายไปก็โทรหาโอหยางเซี่ยงหมิงให้เขารีบเปิดไฟเขียวให้กับฝ่ายละคร ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี ตอนนี้โอหยางเซี่ยงหมิงได้แต่ทำตามคำสั่งของเธอไม่มีทางอิดออดแน่นอน

เจ้าเสวียเอ๋อร์ได้รับสายจากสำนักงาน GD ก็รีบไปดำเนินการทำเรื่องใบขออนุญาต เมื่อก่อนแต่ละคนทำตัวเย็นชาราวกับน้ำแข็ง หยิ่งผยองราวกับเป็นเทวดา แต่ตอนนี้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นราวสายลมในฤดูใบไม้ผลิพูดอะไรก็ง่ายไปเสียหมด ไม่ถึงครึ่งวันก็ทำใบอนุญาตเสร็จเรียบร้อย

“เหมยเหมยใบอนุญาตทำเสร็จแล้ว เธอนี่ก็มีความสามารถไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย อีกสามวันเป็นพิธีเปิดกล้อง ถึงตอนนั้นเธอจะมาไหม?” จ้าวเสวียเอ๋อร์ดีใจยกใหญ่คึกคักขึ้นมาเชียว

“ถึงเวลานั้นค่อยว่ากันนะ”

เหมยเหมยเองก็นึกไม่ถึงว่าอู่เยวี่ยจะว่องไวขนาดนี้ แต่นั่นก็บ่งบอกได้ว่ายัยชั่วนั่นร้อนใจแค่ไหน หึ!

เธอไม่ร้อนใจเลยสักนิด ก็แค่ทำทีเมินเฉยใส่ยัยชั่วนั่นไป!

ตอนแรกอู่เยวี่ยคิดว่าหลังจากที่เหมยเหมยได้รับใบอนุญาตถ่ายทำก็จะส่งสมุดบัญชีกลับมาเอง แต่รออยู่นานก็ไม่มีสายโทรเข้าจากเหมยเหมย เธอนั่งไม่ติดเสียแล้ว ร้อนใจจนต้องเป็นฝ่ายโทรหาเอง

“คุณหนูจ้าว ฉันทำตามข้อตกลงของเราเรื่องใบขออนุญาตถ่ายทำเรียบร้อยแล้ว สมุดบัญชีจากเธอล่ะ? คุณหนูจ้าวคงไม่คิดที่จะผิดคำสัญญาหรอกนะ?” อู่เยวี่ยพูดจาไม่ดีนัก

“โอ้โฮ โอหยางซานซานเธอจัดการได้เร็วจัง ฉันนึกว่าจะต้องยืดเยื้อออกไปอีกสักครึ่งเดือน ฉันขอโทรถามพี่สามก่อนนะ ขอแค่ทำเสร็จฉันก็จะคืนสมุดบัญชีให้เธอเลย ฉันไม่ใช่พวกชั้นต่ำที่ไร้ความน่าเชื่อถือสักหน่อย!”

เหมยเหมยพูดด้วยท่าทีเกินจริงก่อนตัดสายไป กินคุกกี้ที่ป้าฟางอบให้ตามด้วยนมอุ่น ๆอีกหนึ่งแก้วเสร็จถึงจะกดโทรศัพท์โทรออกอย่างเนิบนาบ

……………………………………………………………

[1] แค่ได้อยู่ครองคู่กับคนรักไปตลอดชีวิตดั่งนกยวนยางนั้นประเสริฐยิ่งกว่าการได้เป็นเทพเซียนที่มีชีวิตยืนยาวแต่ต้องเดียวดายไร้คู่