ตอนที่ 1453 ผมได้รับมรดกของผมเอง?

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

ลู่โจวคิดว่าการเปลี่ยนผิวหนังของหุ่นยนต์อาจจะเป็นปัญหาขั้นรุนแรง แต่มันก็แก้ไขได้อย่างง่ายดาย

ผู้ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาคือนักบัญชีมืออาชีพที่ได้รับการว่าจ้างโดยสหการพาน-เอเชียน กระทรวงการคลัง และทนายความที่ว่าจ้างโดยมูลนิธิพิทักษ์สิทธิมนุษยชนแช่แข็ง

ลู่เสี่ยวเฉียว หลานสาวของเขาซึ่งอ่อนกว่าเขาสองสามรุ่นก็กำลังจะมา แต่เพราะเธอกำลังเข้าร่วมการประชุมสำคัญในส่วนภาคใต้ของสหการพาน-เอเชียน เธอจึงต้องส่งวิดีโอโฮโลแกรมมาแสดงความยินดีกับเขาแทน

สำหรับปู่ของลู่เสี่ยวเฉียว ซึ่งเป็นชายผู้ทำลายธุรกิจของตระกูลลู่นั้น ไม่ได้มาปรากฏตัว เขาเพียงแต่ขอให้ทนายความส่งจดหมายที่เขียนด้วยลายมือมาให้ เพื่อที่จะขอโทษด้วยความอับอาย

อันที่จริงลู่โจวก็เข้าใจอารมณ์อันซับซ้อนในจิตใจของพวกลูกหลานของเขาในเวลานี้

ความกลัวเกรงและความชื่นชมในจิตใจของพวกเขาที่มีต่อเขานั้นจริงแท้แน่นอน บางทีพวกเขาก็มักจะคุยโวโอ้อวดเกี่ยวกับบรรพบุรุษของพวกเขาว่าลู่โจวเป็นใครและเขาทำอะไร

อย่างไรก็ตาม ถ้าลู่โจวกลับไปปรากฏตัวออกมาจากหลุมศพจริงๆ…

พวกเขาอาจจะไม่อยากเจอเขาก็ได้

ผู้คนนั้นไม่ได้บริสุทธิ์และต่างก็มีข้อบกพร่อง และประวัติศาสตร์เองก็คือความยุ่งเหยิงที่ขัดแย้งกัน

มีเพียงเด็กๆ ที่ยังไม่โตเท่านั้นที่จะพูดถึงเรื่องเหตุผลในทุกวันและรู้สึกประทับใจอย่างลึกซึ้งกับเหตุผลของเขาที่ว่า “ไม่สามารถอธิบายได้ไม่ว่าปัจจุบันหรืออดีต หรือแม้แต่การสอบผ่านเลขของเขา”

มันดูราวกับกำลังพูดว่า IQ ทำให้ IQ ของใครสักคนสูงขึ้น

ขณะที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับลู่โจว นักบัญชีก็ชำเลืองมองมาที่เขาอย่างระแวดระวัง เขาส่งเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่พิมพ์ไว้บนอินเตอร์เฟสโฮโลแกรมมาให้ลู่โจว

“ตามกฎหมายมรดกฉบับแก้ไขใหม่ในปี 2100 ในฐานะที่เป็นผู้สืบทอดลำดับแรก ตอนนี้กรรมสิทธิ์ในการครอบครองสตาร์สกายเทคโนโลยีตกเป็นของคุณ แม้ว่าทรัพย์สินจะลดลงไปมากเมื่อเทียบกับเมื่อศตวรรษที่แล้ว แต่ก็ยังมีเงินทุนการศึกษาเพื่อการกุศลสำหรับโรงเรียนประถมและมัธยมอยู่ในนั้น ถ้าคุณต้องการ เราสามารถจะเอาทรัพย์สินส่วนนี้กลับมาได้…”

“ไม่ต้องหรอก” ลู่โจวพูดพร้อมกับยิ้มนิดๆ “ลูกหลานของผมไม่ได้ใช้ทรัพย์สินสุรุ่ยสุร่ายตามความพอใจ พวกเขาทำสิ่งที่มีความหมายต่อประชาชนของประเทศนี้ซึ่งมันเหนือกว่าความคาดหมายของผม นอกจากนี้พวกเขายังทำสิ่งที่ผมอยากทำมาตลอดแต่ไม่มีเวลาจะใส่ใจ ดังนั้นปล่อยให้พวกเขาทำอาชีพนี้ต่อไปเถอะ”

ลู่โจวไม่ได้สนใจเรื่องของสตาร์สกายเทคโนโลยีมากนัก

อย่างไรก็ตามเขาได้ตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อสนับสนุนทรัพย์สินทางปัญญาของเขาเอง 100 ปีผ่านไป เขายังพอใจกับการเป็นเจ้าของชื่อเพียงลำพัง

อย่างน้อยมันก็ช่วยไม่ให้เขาต้องเจอกับปัญหาที่จะเกิดกับชื่อใหม่

“ได้ครับ…”

ด้วยความรู้สึกสับสน นักบัญชีมองมาที่ลู่โจวแล้วพูดต่อไปว่า “นอกจากนั้น สำหรับเรื่องทรัพย์สินของคุณในจงซาน อินเตอร์เนชั่นแนล เนื่องด้วยสิทธิในทรัพย์สินได้สิ้นสุดลงในเวลา 70 ปีและความชำรุดทรุดโทรม รัฐบาลเมืองจินหลิงจึงวางแผนที่จะทำให้มันเป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มันได้รับการพัฒนาให้เป็นจุดชมวิวเพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อวิทยาศาสตร์และการศึกษา ตามกฎหมายแล้วทรัพย์สินเหล่านี้ไม่สามารถที่จะส่งคืนกลับมาให้กับคุณได้ แต่ทางเมืองจินหลิงจะชดเชยให้กับคุณตามราคาตลาดในปัจจุบัน”

“จากการคำนวณของเรา มูลค่าของการชดเชยนี้คือ 430 ล้านเครดิต ซึ่งเพียงพอสำหรับคุณในการสร้างคฤหาสน์สไตล์โมเดิร์นสองชั้นจำนวน 3 หลังแบบเดียวกับชานเมืองบริเวณใกล้เคียง… คุณพอใจไหมครับ?”

ลู่โจวตอบว่า “ผมเฉยๆ”

“อย่างสุดท้ายก็คือมหาวิทยาลัยจินหลิง พวกเขาได้เก็บตำแหน่งศาสตราจารย์ของคุณไว้เป็นเวลาร้อยปี พวกเขาคาดหวังที่จะว่าจ้างคุณต่อในตำแหน่งศาสตราจารย์และช่วยคุณให้ปรับตัวเข้ากับสังคมอนาคต… แต่แน่นอนว่าถ้าคุณอยากจะให้มูลนิธิพิทักษ์สิทธิมนุษยชนแช่แข็งช่วยหางานให้คุณ นั่นก็ไม่มีปัญหาครับ แต่เราอยากแนะนำมหาวิทยาลัยจินหลิงมากกว่า ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้ที่นี่ก็เป็นมหาวิทยาลัยระดับสุดยอดในสหการพาน-เอเชียน ดังนั้นคุณสามารถที่จะเข้าถึงองค์ความรู้ที่ล้ำสมัยได้เร็วกว่า”

ทนายความจากมูลนิธิซึ่งนั่งอยู่ข้างเขาพยักหน้าด้วย

“นี่ก็เป็นคำแนะนำของเราด้วยเช่นกันครับ”

ลู่โจวยิ้มแล้วพูดว่า “งั้นผมจะทำตามที่คุณบอก”

“อย่างงั้นที่นี่ก็เรียบร้อยแล้ว” งานที่ยุ่งยากนี้ราบรื่นกว่าที่คาดเอาไว้ นักบัญชีรู้สึกโล่งอกแล้วก็มองไปทางทนายความที่นั่งอยู่ข้างๆ “ถ้าอย่างนั้น… ไปที่ธุระเรื่องต่อไปเลย”

ทนายความยื่นนามบัตรของเขามาให้ลู่โจว

“ผมเป็นทนายความที่มูลนิธิพิทักษ์สิทธิมนุษยชนแช่แข็งส่งมาครับ นี่คือนามบัตรของผม และผมมาที่นี่เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่คุณ ถ้าคุณเจอปัญหาใดๆ ที่ยากจะแก้ไขในชีวิต คุณสามารถปรึกษาผมได้ฟรีๆ”

เฉินเทียนลู่?

ลู่โจวรับนามบัตรมาแล้วมองผาดๆ เขาพยักหน้าแล้วจำชื่อเอาไว้

“ขอบคุณครับ”

“ด้วยความยินดีครับ นี่เป็นงานของผม”

จากนั้นทนายความก็หยิบกระเป๋าเดินทางสีเงินสว่างมาจากโซฟาแล้วค่อยๆ วางมันลงบนโต๊ะรับแขก

“นอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว พ่อแม่ของคุณได้เช่าตู้เซฟไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศจีนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ และได้ทิ้งของบางอย่างไว้ให้คุณ… เราได้ทำการติดต่อไปยังธนาคารแห่งรัฐจีนเพื่อจัดหาตู้นิรภัยให้คุณแล้ว ผมจึงนำมันมาที่นี่”

“รหัสผ่านคือวันเกิดของคุณครับ”

ลู่โจวเงียบไป ดวงตาของเขาจับจ้องอยู่ที่กระเป๋าเดินทาง ทนายเฉินเหลือบหันไปมองตานักบัญชีที่นั่งอยู่ข้างเขา แล้วเขาก็ลุกขึ้นจากโซฟา

“ถ้าเช่นนั้นผมขอให้คุณโชคดีนะครับ พวกเราก็มีธุระเพียงเท่านี้”

หลังจากอธิบายทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งสองคนก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อเป็นการรบกวน ไม่นานพวกเขาก็ลุกขึ้นแล้วกลับออกไป

ก่อนจะกลับ นักบัญชีจากสหการพาน-เอเชียนได้มอบจดหมายเชิญในนามของประธานหลี่กวงหยาผู้ซึ่งปรารถนาจะให้ลู่โจวมาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับที่พวกเขาจัดขึ้นเพื่อเขาที่ฮาร์ทออฟเอเชียในวันมะรืนนี้เพื่อฉลองการกลับมาจากดาวอังคารของเขา

การให้ความสนใจในเรื่องสัพเพเหระเหล่านี้ ลู่โจวไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่นิด

เมื่อกลับมาที่ห้องนั่งเล่น เขาเปิดกระเป๋าเดินทางออกแล้วใส่เมมโมรี่การ์ดโฮโลแกรมในตัวเสี่ยวไอซึ่งนั่งอยู่ข้างเขาอย่างเงียบๆ จากนั้นเสี่ยวไอก็ก๊อบปี้แล้วถ่ายทอดข้อมูลไปยังโฮมเธียเตอร์

อนุภาคแสงสีฟ้าอ่อนค่อยๆ เบนเข้ามาบรรจบกันในอากาศ

ภาพทิวทัศน์ชายหาดอันน่ารื่นรมย์ปรากฏขึ้นในห้องนั่งเล่น พร้อมกับแสงแดดที่อบอุ่นและคลื่นทะเลที่เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ตรงขอบฟ้า

ขณะที่ลู่โจวมองไปยังคนสูงวัยสองคนที่ยืนอยู่บนชายหาด เขาก็เริ่มน้ำตาคลอ

แม้เขาจะไม่รู้ว่าภาพวิดีโอโฮโลแกรมนี้ถ่ายไว้กี่ปีแล้ว แต่ริ้วรอยบนใบหน้าของผู้สูงวัยทั้งสองก็เยอะขึ้นมากเมื่อเทียบกับครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้พบกัน สิ่งเดียวที่ปลอบประโลมเขาได้คือรอยยิ้มบนใบหน้าของทั้งสองท่าน

“นี่เจ้าลูกชาย”

“ตอนที่ลูกกำลังดูวิดีโอนี้อยู่ คงจะเป็นช่วงเวลาที่ห่างไกลในอนาคต”

“หลังจากที่ลูกจากไป แม่ของลูกกับพ่อใช้ชีวิตอย่างมีความสุขทีเดียว… ถึงแม้เราจะเศร้าอยู่สักพัก แต่ก็เหมือนอย่างที่น้องสาวของลูกบอก ชีวิตคือการมองไปข้างหน้า”

“อย่างที่ลูกเห็นอยู่ เรากำลังมาพักผ่อนในวันหยุดกันที่เกาะเล็กๆ ทางใต้… พรุ่งนี้เราจะกลับไปที่เจียงหลิงเพื่อฉลองวันปีใหม่ พูดตามตรง มันเหงานะที่ลูกไม่ได้อยู่ด้วย แต่พ่อหวังว่าลูกจะไม่กังวลเรื่องพ่อกับแม่ สิ่งที่น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวคือเราไม่ได้แบ่งปันความสุขนี้กับลูก”

“ถึงแม้เราจะครุ่นคิดถึงเรื่องที่ว่าจะไปอนาคตดีหรือไม่และดูว่าผู้คนในอนาคตจะใช้ชีวิตกันแบบไหน แต่หลังจากมาคิดดูแล้ว เราก็ตัดสินใจที่จะปฏิเสธ คนเราสามารถจะมีชีวิตอยู่ไปได้แค่ร้อยปีหรืออะไรประมาณนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในอนาคตหรือในตอนนี้ มันสำคัญตรงไหนล่ะ?”

“แม่ของลูกบอกเสมอว่าพ่อน่ะบ้า บางทีอาจจะนิดหน่อยแหละ… แต่พ่อก็คิดเสมอว่าลูกคงสบายดี ลูกต้องมีชีวิตอยู่ที่สักมุมหนึ่งของจักรวาล บางทีวันหนึ่งลูกอาจจะกลับมาที่บ้าน”

“สำหรับการบันทึกวิดีโอโฮโลแกรมนี้ มันเป็นแค่สิ่งหนึ่งที่ทำให้พ่อรู้สึกสบายใจ มันกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นตอนนี้ใช่ไหม? การใช้วิดีโอโฮโลแกรมเพื่อบันทึกความหนุ่มสาวของเราหรืออะไรสักอย่าง ยังไงมันก็ทำให้ดูเหมือนว่าเราไม่ได้แก่ลงไปมาก”

ระหว่างที่ยืนอยู่บนชายหาด ชายแก่ดูเหมือนจะรำลึกถึงบางสิ่งในอดีต และสีหน้าของเขาก็เริ่มที่จะแสดงออกมาให้เห็นถึงร่องรอยการคิดถึงอดีต

แต่ไม่นานเขาก็ยิ้มออกมาอย่างเบิกบาน หลบซ่อนความคิดถึงอดีตไว้หลังกล้อง

“ถ้าเพียงแต่ลูกได้มีโอกาสที่จะดูวิดีโอนี้!

“แต่ถึงแม้ลูกจะไม่ได้ดูมัน แม่ของลูกกับพ่อก็จะคิดเสียว่าลูกได้ดูมันแล้ว ฮ่าฮ่า!

“อีกอย่างคือพ่อไม่เข้าใจสิ่งที่น้องสาวของลูกขอให้พ่อเก็บมันไว้ แต่เราก็เก็บมันไว้ พ่อไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้จะมีค่ามากแค่ไหนในอนาคต ถ้ามันไม่มีค่า ลูกจะเอามันไปขายเหมือนเป็นของโบราณก็ได้…”

วิดีโอโฮโลแกรมจบลง

ลู่โจวสูดลมหายใจลึก พยายามที่จะฝังจมูกของเขาไว้ระหว่างฝ่ามือ

อย่างไรก็ตามทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามือขวาของเขาถูกมืออันอบอุ่นจับเอาไว้อย่างอ่อนโยน

เมื่อลู่โจวรู้สึกถึงความอบอุ่นอันเหลือเชื่อที่หลังมือ เขาก็เงยหน้ามองเสี่ยวไอที่กำลังนั่งอยู่ข้างเขา

“เจ้านาย เสี่ยวไอจงใจติดตั้งระบบทำความร้อนไว้… ถึงเสี่ยวไอจะไม่เข้าใจความรู้สึกของคุณ แต่เสี่ยวไอยังหวังว่าอารมณ์ของเจ้านายจะดีขึ้น”

“ฉันไม่เป็นไร” อารมณ์ของลู่โจวดีขึ้นเล็กน้อย และรอยยิ้มฝืนๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าระหว่างที่เขาพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ฉันค่อนข้างรู้สึกโล่งใจที่ได้เห็นพวกเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแบบนั้น”

ลู่โจวหยิบกล่องออกมาจากกระเป๋าเดินทาง แล้วเขาก็เปิดมันออกด้วยนิ้วมือที่สั่นระริก

แต่ในวินาทีที่เขาได้เห็นสิ่งที่วางอยู่ในกล่อง เขาก็ชะงักไปเลย

เดิมแล้วเขาคิดว่าสิ่งที่พวกเขาใส่ไว้ข้างในจะเป็นของใช้ประจำวัน อย่างเช่น ไดอารี เขาคาดไม่ถึงว่าสิ่งที่พวกเขาใส่ไว้ข้างในจะเป็นกองกระดาษ

กองเอกสารดูคุ้นตา

“อีสต์เอเชียพาวเวอร์ อีสต์เอเชียคอมมิวนิเคชั่น อีสต์เอเชียเฮฟวีอินดัสตรีส์…”

ลู่โจวอ่านออกเสียงชื่อต่างๆ ที่คุ้นเหล่านี้บนหัวเรื่องเอกสาร ขณะที่เขามองดูกองเอกสาร เขาก็รู้สึกตกตะลึง

บริษัทจ้งซานซินฉาย เป่าเซิ่งกรุ๊ป…

ตอนนี้ทุกอย่างดูสมเหตุสมผลแล้ว

ตอนที่เขากำลังคุยกับนักบัญชีเรื่องสตาร์สกายเทคโนโลยีก่อนหน้านี้ เขายังรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดไป

วินาทีที่เขาได้เห็นกองเอกสาร เขาก็ตระหนักถึงปัญหาได้ในทันที

ใช่แล้ว…

สตาร์สกายเทคโนโลยีคงจะไม่ได้ล้มละลายไปได้ง่ายๆ

ในขณะนั้นเฉินยู่ซานได้ชำระบัญชีทรัพย์สินทั้งหมดของสตาร์สกายเทคโนโลยีเพื่อที่จะซื้อหุ้นหลายพันล้านในอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ก่อนที่จะมีการสร้างระบบไฟฟ้าข้ามภูมิภาคขึ้นด้วยซ้ำ

และตอนที่จีนสร้างเคเบิลออปติกใต้น้ำควอนตัมขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก สตาร์สกายเทคโนโลยีในฐานะเจ้าของสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องก็ยังมีส่วนร่วมในการก่อตั้งอีสต์เอเชียคอมมิวนิเคชั่นอีกด้วย

ยังไม่ต้องพูดถึงพวกบริษัทไฮเทคในอุตสาหกรรมที่เกิดใหม่เหล่านั้น อย่างเช่น สถานีชาร์จไฟฟ้า โลจิสติกส์อัตโนมัติ วัสดุแบตเตอรี่ และอื่นๆ สตาร์สกายเทคโนโลยีได้ลงทุนในอุตสาหกรรมพวกนั้นทั้งหมด…

อย่างน้อยเงินบางส่วนก็ยังเหลืออยู่ จริงไหม?

ปรากฏว่าเสี่ยวถงได้พิจารณาแล้วว่าเงื่อนไขในการดำเนินงานของสตาร์สกายเทคโนโลยีอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในอีก 100 ปีข้างหน้า ดังนั้นเธอจึงใช้มาตรการป้องกันเพื่อแยกทรัพย์สินส่วนนี้ออกจากสตาร์สกายเทคโนโลยีไว้ล่วงหน้า

ด้วยวิธีนี้ ถึงแม้จะมีวิกฤติครั้งใหญ่ อย่างเช่นสตาร์สกายเทคโนโลยีล้มละลาย ทรัพย์สินส่วนนี้ก็จะไม่ถูกขายทอดตลาดหรือถูกนำไปชำระหนี้

ลู่โจวมองดูสิ่งต่างๆ ที่พ่อแม่ของเขาทิ้งเอาไว้ให้ ด้วยความรู้สึกอันท่วมท้น เขารู้สึกคิดไม่ตก

หมื่นล้าน?

แสนล้าน?

หรือล้านล้าน?

บางทีอำนาจของหุ้นเหล่านี้ก็ไม่สามารถที่จะวัดได้ด้วยสิ่งของอย่างจำนวนเครดิต

ระหว่างที่ถือกล่องไว้ในมือ ลู่โจวก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อยในฉับพลัน

เขาไม่เคยคิดว่าในฐานะที่เป็นนักวิชาการคนหนึ่ง แทนที่จะพึ่งพาสติปัญญาในหัวของเขา เขาจะได้รับขุมทองขุมใหญ่จากการที่ฟื้นขึ้นมาในศตวรรษที่ 22 และได้ช่วยชีวิตผู้โดยสารในการบินเอาไว้

เขาไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเขาจะกลายเป็นชายที่ร่ำรวยที่สุดในโลกจากการได้รับมรดกซึ่งเป็นของเขาเอง

คำกล่าวนี้ไม่ได้เป็นการกล่าวเกินจริงแต่อย่างใด

หากไม่รวมค่าชดเชยที่สหการพาน-เอเชียนได้มอบให้เขา เขาก็เป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกแล้วจากการอาศัยหนังสือรับรองตราสารทุนในมือที่ธนาคารแห่งประเทศจีนได้เก็บรักษาและให้การรับรองไว้