ในเวลานี้ คุณท่านซ่งก็กล่าวอีกว่า “หวั่นถิงเป็นเด็กกตัญญูมาตลอด ห่วงใยครอบครัวเสมอมา เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริง ๆ เมื่อก่อนฉันป่วยหนักนอนติดเตียง หมอประกาศว่าฉันเหลือเวลาไม่นานนัก ตอนนั้นหวั่นถิงเชิญอาจารย์เย่เฉิน อาจารย์เย่รักษาฉันจนหายดี ดึงฉันกลับมาจากประตูผี แล้วก็ให้ยาอายุวัฒนะแก่ฉัน ทำให้ฉันได้กลับมารู้สึกเด็กลงยี่สิบปีอีกครั้ง”
เมื่อคุณท่านกล่าวถึงตรงนี้แล้ว ก็หยุดนิ่ง แล้วโค้งคำนับเย่เฉินเล็กน้อย และกล่าวอีกว่า “ในใจของผมรู้สึกขอบคุณอาจารย์เย่ และรู้สึกขอบคุณหลานสาวแสนดีคนนี้ด้วย ดังนั้นในโอกาสที่วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ ผมจึงขอใช้โอกาสนี้ประกาศเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ ผมตัดสินใจแล้วว่า ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป หวั่นถิงจะรับตำแหน่งผู้นำตระกูลซ่งอย่างเป็นทางการ และจากพรุ่งนี้ผมก็จะเกษียณอย่างเป็นทางการ!
ทันทีที่คุณท่านซ่งประกาศเช่นนั้นออกมาชั่ว ขณะนั้นเหมือนระเบิดระเบิดออกมาดังสนั่นไปทั่วพื้นที่บริเวณนั้น
ไม่มีใครคิดว่าคุณท่านซ่งจะปล่อยให้ผู้หญิงคนหนึ่งสืบทอดตระกูลซ่ง
อย่างไรก็ตาม แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีตระกูลใด โดยเฉพาะตระกูลใหญ่ที่มอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้แก่หญิงสาวคนหนึ่ง
นอกจากนั้น คุณท่านซ่งยังมีลูกชายหลายคน และหลานอีกมากมาย ซ่งเทียนหมิงลูกชายคนโตก็พร้อมจะสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลซ่งแล้ว เดิมทีสังคมภายนอกคาดการณ์กันว่า ภายในไม่กี่ปีข้างหน้าคุณท่านซ่งจะมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้แก่ลูกชายคนโต
แต่คาดไม่ถึง ไม่เพียงคุณท่านซ่งไม่มอบตำแหน่งให้ลูกชายคนโตหรือหลานชายคนโต แต่กลับมอบให้กับหลานสาวของเขา!
เวลานี้ในใจของซ่งเทียนหมิงและซ่งหรงวี่ สองพ่อลูกมีแต่เกลียดชังอันรุนแรง
พวกเขาไม่เคยคิดฝันว่า อยู่ดี ๆ ซ่งหวั่นถิงจะเป็นผู้นำตระกูลซ่ง
ในเวลานี้ หัวใจของพวกเขาระอุไปด้วยความเกลียดชังอย่างสุดขีดต่อคุณท่านและซ่งหวั่นถิง!
อย่างนี้ไม่ใช่ว่าคุณท่านลำเอียงเกินไปอีกหรือ !
ทรัพย์สินของตระกูลสองแสนล้านจะถูกมอบให้กับซ่งหวั่นถิงมาถือหางเสือครอบครอง?
ผู้หญิงวัย 26 ปีตัวเล็ก ๆ มีสิทธิ์อะไรมาดูแลทรัพย์สินสองแสนล้านของตระกูลซ่ง? !
ในเวลานี้ซ่งหวั่นถิงก็ตกตะลึงจนตาค้าง
เธอเคยคิดเพียงจะอุทิศตัวเองดูแลตระกูลซ่งอย่างดีก่อนที่ตัวเองจะแต่งงาน
แต่เธอไม่เคยคิดเพ้อฝันมาก่อนว่าจะ อยู่ ๆ ตนเองจะได้สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลซ่ง
เวลานี้ในใจของซ่งหวั่นถิงตื่นเต้นมาก เธอก็เป็นผู้หญิงที่ทะเยอทะยานและกล้าได้กล้าเสียมาก เมื่อเธอได้ยินว่าตนเองกำลังจะได้สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลซ่ง ในหัวใจของเธอก็สุขเกินคำบรรยาย
ในตอนนั้นซ่งหรงวี่ควบคุมตนเองไม่ได้เล็กน้อย เขายืนขึ้นและพูดโพล่งออกไปว่า “คุณปู่! คุณจะมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้หวั่นถิงได้อย่างไร เธอเป็นแค่ผู้หญิง ในอนาคตเธอจะแต่งงานกับคนอื่น เมื่อเธอแต่งงาน ก็จะเป็นคนนอก คุณปู่จะสามารถมองดูทรัพย์สินของตระกูลซ่งตกไปอยู่ในมือคนอื่นได้เหรอ”
คุณท่านซ่งมองมาที่เขา แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “หวั่นถิงเป็นคนแซ่ซ่ง ไม่ว่าเมื่อไหร่เธอก็เป็นคนตระกูลซ่ง และฉันเชื่อว่าตระกูลซ่งทั้งหมดนี้ในแง่ของความสามารถไม่มีใครเทียบกับหวั่นถิงได้ คงไม่มีใครเหมาะไปกว่าหวั่นถิงที่จะรับตำแหน่งผู้นำตระกูลซ่งแล้ว”
ในเวลานี้ซ่งเทียนหมิงกล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “ฉันคิดว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะสมจริง ๆ คุณพ่อโปรดคิดใหม่อีกครั้ง!”
พวกลูกชายคนอื่น ๆ ก็ยืนขึ้นทีละคน แล้วพูดว่า “คุณพ่อ โปรดคิดให้รอบคอบ!”
พวกเขาไม่สามารถยอมรับได้ว่าคุณท่านซ่งจะให้ซ่งหวั่นถิงดูแลตระกูลซ่ง
คุณท่านซ่งพูดอย่างเย็นชาว่า “อะไรไม่เหมาะสม ฉันเป็นคนก่อตั้งธุรกิจนี้ด้วยมือเปล่า ไม่ได้สืบทอดต่อมาจากใคร ฉันจึงมีสิทธิ์ควบคุมตระกูลซ่งอย่างสมบูรณ์ ฉันจะมอบมันให้หวั่นถิง เป็นเรื่องที่คิดพิจารณามาแล้ว เพราะว่าหวั่นถิงจะทำให้ตระกูลซ่งดีและแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน!”
คุณท่านซ่งพูดแล้ว ก็มองไปรอบ ๆ และพูดกับทุกคนในตระกูลซ่งว่า “ลูกหลานตระกูลซ่งทุกคนของฉันมีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลจำนวนมากจากตระกูลซ่ง ดังนั้นแม้ว่าหวั่นถิงจะรับหน้าที่ผู้นำตระกูลซ่ง ลูกหลานตระกูลซ่งทุกคนก็สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องกังวล อย่าลืมว่าใครจะสืบทอดผู้นำตระกูลซ่งนั้นไม่สำคัญ เรื่องที่สำคัญคือใครที่จะทำให้ตระกูลซ่งดีแข็งแกร่งขึ้น”
หลังจากคุณท่านนิ่งชั่วครู่ ก็พูดด้วยสีหน้าอันสง่างามว่า “ตัวอย่าง เช่น ถ้าเงินปันผลต่อปีคือห้าพันล้าน ครอบครัวของไอ้สาม ทุกปีพวกเขาจะได้รับเงินปันผลสิบเปอร์เซ็นต์จากตระกูลซ่ง ครอบครัวพวกเขาก็จะได้ห้าร้อยล้าน แต่ถ้าคนคนหนึ่งสามารถนำพาตระกูลซ่งให้มีเงินปันผลปีละสิบพันล้านได้ ครอบครัวของพวกเขาก็จะได้รับเงินปีละหนึ่งพันล้าน ทุกคนไม่ต้องการคนมีความสามารถมากกว่านี้มาเป็นผู้นำสร้างเม็ดเงินให้ได้มากขึ้นอีกเหรอ?”