บทที่ 1916 เข้าร่วมด้วยกัน + ตอนที่ 1917 ฉันบอกเมื่อไรว่าเต้นไม่เป็น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1916 เข้าร่วมด้วยกัน

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับฉีฉีเก๋อเองก็ตื่นเต้นเช่นกันเห็นบอกว่าจะเข้าร่วมงานเต้นรำวันคริสต์มาสที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้นอีกด้วย ในคืนวันนั้นทางมหาวิทยาลัยเมตตาอนุญาตให้นักศึกษาเล่นสนุกโต้รุ่งได้ ทำเอาเหล่านักศึกษาที่อัดอั้นมาตั้งนานเตรียมสนุกกันทั้งคืน!

“เหมยเหมยเธอจะมาร่วมงานเต้นรำไหม? สนุกมากเลยละ เสียดายที่ปีที่แล้วเธอกับฉีฉีเก๋อไม่ไป” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดโน้มน้าว

ปีที่แล้วเวลานี้เหมยเหมยกับเหยียนหมิงซุ่นไปเที่ยวบ้านฉีฉีเก๋อจึงใช้เวลาวันคริสต์มาสที่ทุ่งกว้างและสนุกมากเช่นกัน อีกทั้งยังมีความหมายลึกซึ้งยิ่งกว่านี้ด้วยนะ!

พอนึกถึงปีที่แล้วตอนยั่วยวนหลอกล่อเหยียนหมิงซุ่นที่ทุ่งกว้าง เหมยเหมยก็อดหน้าแดงขึ้นมาไม่ได้ ไม่รู้จริง ๆว่าทำไมตอนนั้นเธอถึงใจกล้าขนาดนี้?

หน้าไม่อายมากจริง ๆเลย!

“ฉันต้องกลับไปถามก่อนว่าเขาวางแผนจะทำอะไรหรือเปล่า” เหมยเหมยก็เริ่มสนใจ การที่อาจารย์และลูกศิษย์ทั้งมหาวิทยาลัยมาร่วมฉลองด้วยกันแค่คิดก็น่าสนุกแล้ว!

*********

“งานเต้นรำวันคริสต์มาส? เพื่อนทั้งมหาวิทยาลัยจะเข้าร่วมกันหมดเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นเงียบไปนาน สรุปอนุญาตหรือไม่อนุญาตกันแน่นะ?

คืนนั้นต้องมีเพื่อนผู้ชายมากแน่ ๆ แค่คิดเขาก็รู้สึกไม่สบายใจแล้ว แต่หากไม่ปล่อยให้เหมยเหมยไปเธอจะต้องงอนอีกแน่ ๆ ต้องคิดหาวิธีรับมือทั้งสองทางให้ได้!

“พี่…ฉันไปสนุกแค่สองชั่วโมงเอง แล้วจะกลับมาก่อนสี่ทุ่มแน่ ๆได้ไหม…”

เหมยเหมยกอดแขนออดอ้อนลากเสียงยาวหวานหยดย้อนราวกับขนมน้ำตาลเคลือบ ทำเอาคนฟังเสียวซ่านจับใจและเหยียนหมิงซุ่นเองก็ใจอ่อนยวบทำใจแข็งใส่ไม่ได้อีกต่อไป

“งั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเธอแล้ว…” เขาพูดเหมือนมีนัยยะแอบแฝงอยู่ เขาคิดในใจไว้แล้วว่าถึงตอนนั้นจะต้องหาเวลาไปร่วมงานเต้นรำกับยัยปีศาจน้อยนี้ให้ได้ มีหมาป่าอยู่ตั้งมากมาย หากเขาไม่อยู่จับตามองเขาคงไม่วางใจ

พอได้ยินดังนั้นเหมยเหมยก็เข้าใจทันทีจึงหน้าแดงระเรื่อ…

แต่เพื่อผลประโยชน์ของวันคริสต์มาสอีฟ เธอยอมทุ่มหมดหน้าตักเลยทำท่าเหมือนยอมให้อีกฝ่ายทำทุกอย่าง ขอแค่ผู้บังคับบัญชาใหญ่เหยียนพอใจก็พอ

……

ไม่นานคืนคริสต์มาสอีฟก็มาถึง เหยียนหมิงซุ่นรีบสะสางงานให้เสร็จตั้งแต่กลางวันเพื่อเตรียมพาภรรยาตนไปสนุกสนานตอนกลางคืน เขาต้องคอยกันหมาป่าพวกนั้นไว้

“พี่…พี่จะไปด้วยกันเหรอ?”

เหมยเหมยมองเหยียนหมิงซุ่นที่เตรียมไปพร้อมกับเธออย่างตกตะลึงจนลิ้นพันกันไปหมด หากมีสามีคอยตามติดแบบนี้แล้วเธอจะสนุกสนานอย่างเต็มที่ได้ไงล่ะ?

ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้แต่แรกเมื่อหลายวันก่อนเธอคงไม่จำเป็นต้องคอยเอาอกเอาใจอีกฝ่ายหรอก

ตอนนี้ยังปวดเอวอยู่เลย!

เหยียนหมิงซุ่นเหลือบมองเธอด้วยสายตาเรียบนิ่งแวบหนึ่ง…

เธอรู้ตัวเองแล้วกัน

เหมยเหมยเสียววาบตรงคอ ต่อให้มีใจขัดขืนแต่กลับไม่มีความกล้านั้น เธอเลยเค้นรอยยิ้มหวานออกมาแล้วพูดอย่างฝืนใจว่า “ฉันอยากให้พี่ไปด้วยกันด้วยซ้ำ ฉันไม่อยากอยู่ห่างพี่เลยแม้แต่นาทีเดียว…”

เหยียนหมิงซุ่นมองยัยปีศาจน้อยที่กำลังแสดงละครเกินจริงอย่างขบขัน ทักษะการแสดงที่เกินจริงแบบนี้แม้แต่คนโง่ยังดูออกว่ากำลังฝืนใจอยู่

“วันหลังถ้ามีงานเต้นรำแบบนี้ฉันจะไปกับเธอด้วย” เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงต่ำประโยคหนึ่ง พอเห็นสีหน้าเปลี่ยนไปของเหมยเหมยถึงกระตุกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ

สิ่งที่ชอบที่สุดคงไม่พ้นการหยอกล้อภรรยาแสนโง่นี่ล่ะ!

หยอกทีไรก็ได้ผลทุกที สนุกที่สุดเลย!

เหมยเหมยแอบทำหน้าแลบลิ้นปลิ้นตาใส่แผ่นหลังเหยียนหมิงซุ่นแล้วกวาดสายตาหาเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับฉีฉีเก๋อ แต่พอทั้งคู่เห็นเหยียนหมิงซุ่นที่กำลังขมวดคิ้วทำหน้าเย็นชาก็ตกใจจนไม่กล้าหายใจเสียงดัง พวกเธอเลยตัดสินใจทิ้งเหมยเหมยชิ่งหนีไปก่อน

พวกเธอไม่อยากหาเรื่องอยากตายในคืนคริสต์อีฟหรอกนะ อยู่กับพญายมบาลในโลกมนุษย์แบบนี้จะสนุกอะไร?

ทั้งคู่ส่งสายตาให้เหมยเหมยเป็นเชิงหาทางเอาตัวรอดเองแวบหนึ่งก่อนจะจากไปอย่างไร้ซึ่งน้ำใจใด ๆ

เหมยเหมยถลึงตาใส่พวกเธอแวบหนึ่ง บนฟลอร์เต้นรำล้วนเป็นเพื่อนที่เธอไม่รู้จักจึงทำให้เหมยเหมยไม่กล้าเข้าไป เธอได้แต่หาที่นั่งแถวนั้นแล้วนั่งลงโดยมีเหยียนหมิงซุ่นคอยเฝ้าเธออยู่ข้าง ๆตามหน้าที่

“สวัสดี เต้นรำด้วยกันสักเพลงไหม?” ไม่นานเหมยเหมยผู้งดงามก็ได้ดึงดูดฝูงหมาป่าให้เข้าหา โดยมีเพื่อนผู้ชายใจกล้าคนหนึ่งเดินเข้ามาโค้งตัวให้เหมยเหมยทีหนึ่งก่อนจะเอ่ยคำเชื้อเชิญ

………………………..

ตอนที่ 1917 ฉันบอกเมื่อไรว่าเต้นไม่เป็น

เหมยเหมยรู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ดีเลยคิดจะอ้าปากตอบรับ แต่เหยียนหมิงซุ่นตวัดตาเยือกเย็นไปที่เพื่อนผู้ชายคนนั้นทำเอาอีกฝ่ายอดสะท้านเฮือกไม่ได้ แต่ยังหัวรั้นผายมือทำท่าเชื้อเชิญอย่างแน่วแน่ต่อไป

นาน ๆทีดาวมหาวิทยาลัยจะเข้าร่วมงานเต้นรำด้วย เขาไม่อยากพลาดโอกาสดี ๆแบบนี้ไป!

เหมยเหมยทำท่าเคอะเขินเล็กน้อย แม้เธอจะไม่ค่อยได้ร่วมงานเต้นรำบอลรูมเช่นนี้บ่อยนักแต่พอจะรู้กฎอยู่บ้าง ปกติหากผู้หญิงถูกผู้ชายเชิญเต้นรำจะไม่สามารถปฏิเสธได้ด้วยเรื่องมารยาท

อีกอย่างเธอรู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ดีจริง ๆนะ!

ร่วมเต้นรำกับเพื่อนมากมายขนาดนี้ น่าสนุกออก!

“ขอบคุณ…” เหมยเหมยลุกขึ้นยืนตัดสินใจรับคำเชิญ แค่เต้นรำด้วยกันเพลงเดียวเท่านั้นเอง เหยียนหมิงซุ่นคงไม่ใจแคบขนาดนั้นหรอกมั้ง?

แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือใครบางคนดันใจแคบขนาดนี้จริงๆ ด้วย จิตใจคับแคบยิ่งกว่าเข็มเสียอีก!

เพื่อนผู้ชายคนนั้นนัยน์ตาฉายแววดีใจแวบหนึ่ง ได้เต้นรำกับดาวมหาวิทยาลัยเป็นเรื่องที่สามารถเอาไปโม้กับเพื่อน ๆได้ในอนาคตเชียวนะ!

เพียงแต่–

มือของเพื่อนผู้ชายยังไม่ทันได้สัมผัสมือขาวละเอียดของเหมยเหมยดาวมหาวิทยาลัยคนสวยก็ถูกลมหอบตัวไปจนไม่เหลือแม้แต่เงา เพื่อนผู้ชายที่น่าสงสารขยี้ตาและกวาดตามองรอบ ๆอย่างสงสัย

ดาวมหาลัยล่ะ?

ถูกพายุประหลาดหอบตัวไปหรือ?

เหมยเหมยถูกเหยียนหมิงซุ่นพามาที่ฟลอร์เต้นรำ ไม่นานก็จมหายไปท่ามกลางฝูงชน ขณะนี้ดนตรีได้เปลี่ยนเป็นเพลงจังหวะเร็วอย่างรุมบ้าซึ่งเพลงก่อนหน้านั้นเป็นดนตรีจังหวะวอลซ์ ทุกคนเริ่มเปลี่ยนจังหวะเท้าให้เร็วขึ้นอย่างอัตโนมัติแล้วร่วมเต้นรำเพลงรุมบ้ากันอย่างสนุกสนาน ชายกระโปรงบนฟลอร์เต้นรำบิดพลิ้ว แสงไฟหลากสีสาดส่องลงมาทำให้บรรยากาศเริ่มร้อนแรงขึ้นมา

วันนี้เหมยเหมยสวมชุดกระโปรงพลิ้วสีแดงเลยเข่าซึ่งสะดวกต่อการเต้นรำมาก อีกทั้งยังช่วยให้เต้นได้สวยเป็นพิเศษ เธอเอาตัวแนบชิดเหยียนหมิงซุ่นแล้วบ่นอุบอิบ “พี่เต้นไม่เป็นด้วยซ้ำ พาฉันเข้ามาเต้นเพลงพื้นบ้านเหรอ?”

เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านเธอจะชวนเหยียนหมิงซุ่นเต้นรำบ้างเป็นครั้งคราวเพราะเธอนึกอิจฉาคู่รักในหนังอย่างมาก เวลากลางคืนที่แสนสงบเปิดดนตรีจังหวะช้า ๆ สวมกระโปรงผ้าบางพลิ้วแล้วถือแก้วไวน์แดงหอมละมุนหนึ่งแก้ว คู่รักโอบกอดเต้นรำกันตัวแนบชิด…

ภาพนั้นแค่คิดก็โรแมนติกแล้ว!

แต่เหยียนหมิงซุ่นกลับไม่ยอมเติมเต็มความหวังที่แสนโรแมนติกของเธอโดยปฏิเสธการเต้นรำทุกครั้ง แล้วยังบอกว่าหากจะเต้นก็ให้เต้นออกกำลังกายฉบับทหารแทน

เต้นบ้าบออะไรของเขาล่ะ!

การเต้นรำด้วยกันจะทำให้บรรยากาศยิ่งหวานชื่นขึ้นซึ่งเป็นการปูทางเข้าสู่ฉากรักของชายหญิงอย่างดี แต่เต้นออกกำลังกายฉบับทหารจะทำอะไรได้?

เสียงดนตรีฮึกเหิม จังหวะเท้าแข็งทื่อที่มีแต่จะช่วยให้รู้สึกเลือดร้อนขึ้น…ภาพนั้นแค่จินตนาการถึงก็แย่แล้ว!

เหมยเหมยเตรียมใจบิดตัวเต้นมั่ว ๆบนฟลอร์เต็มที่แล้วแต่เหยียนหมิงซุ่นกลับหัวเราะเสียงเบา “เหมยเหมยไม่เชื่อใจพี่ขนาดนี้เชียว?”

เพิ่งสิ้นเสียงเหยียนหมิงซุ่นก็ยกแขนเหมยเหมยขึ้นสูงแล้วพาเหมยเหมยหมุนรอบตัวเองตามจังหวะเพลงหลายรอบ ปล่อยให้ชายกระโปรงสีแดงบิดพลิ้วโดดเด่นเตะตาผู้คนท่ามกลางฟลอร์เต้นรำ

เหมยเหมยยังไม่ทันได้สติดีเหยียนหมิงซุ่นก็โอบเธอเต้นรำบิดตัวไปตามจังหวะก่อนจะให้เธอหมุนรอบตัวเองอีกหลายที…จังหวะเท้าที่แสนคล่องแคล่วนี้ทำให้เหมยเหมยเบิกตากว้าง เงยหน้ามองเหยียนหมิงซุ่นอย่างไม่เชื่อสายตา

เป็นใบหน้าเดิมไม่ผิด หรือว่าเทพแห่งการเต้นรำจะสิงร่าง?

เหยียนหมิงซุ่นหลุดขำเสียงเบาอีกทีแล้วพาเหมยเหมยหมุนรอบตัวเองอย่างช่ำชองอีกหลายรอบก่อนจะดึงเข้ามาในอ้อมแขนแล้วกระซิบถามข้างหูเธอว่า “ทำไมนิ่งไปแล้วล่ะ?”

พอรู้สึกถึงจังหวะหัวใจและลมหายใจอันคุ้นเคยของคนรักตนเหมยเหมยถึงหลุดจากภวังค์แล้วบิดตัวไปตามจังหวะเพลง พลางมองค้อนใส่ “พี่ไปเรียนเต้นรำมาตั้งแต่เมื่อไร?”

“พี่บอกเมื่อไหร่ว่าพี่เต้นไม่เป็น?” เหยียนหมิงซุ่นพูดหยอกเย้า

ในฐานะสายลับตัวฉกาจไม่ถึงขั้นต้องทำได้ทุกอย่างหรอก แต่มารยาทขั้นพื้นฐานทางสังคมแบบนี้จำเป็นต้องเรียนรู้เอาไว้ซึ่งหนึ่งในบทเรียนที่เขาต้องเรียนรู้ก็คือการเต้นรำ แทงโก้รุมบ้าลีลาศหรือการเต้นแบบวอลซ์…ล้วนไม่ใช่เรื่องเกินตัวสำหรับเขาเลย

เพียงแต่เขาไม่ชอบการเต้นรำสักเท่าไร ผู้บังคับบัญชาการใหญ่เหยียนคิดมาเสมอว่าการเต้นรำเป็นเรื่องของผู้หญิง หากลูกผู้ชายมาเต้นรำมันดูไม่เข้าท่าเอาเสียเลย!

แต่ตอนนี้เพื่อเอาใจยัยปีศาจตัวน้อยของตน ต่อให้เขาไม่ชอบมากแค่ไหนก็จำเป็นต้องเสียสละเพื่อให้สาวงามได้มีความสุขล่ะ

………………………….