เมื่อซ่งเทียนหมิงคิดถึงเรื่องนี้ ก็ได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในใจของเขาพลุ่งพล่านอย่างอยากจะฆ่าใครระบายความโกรธแค้น

คุณท่านซ่งดูเหมือนว่าจะสังเกตเห็นความไม่พอใจภายในใจของลูกชายคนโต จึงมองไปที่เย่เฉิน แล้วกล่าวอย่างยกย่องว่า “อาจารย์เย่ ผมมีคำขอที่ไม่น่าขอ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะยอมรับ”

เย่เฉินยิ้มอย่างเย็นชา และกล่าวว่า “คุณท่าน โปรดบอกมาเถอะ”

คุณท่านซ่งพูดว่า “ฉันหวังว่าคุณจะเป็นว่าที่ผู้นำตระกูลซ่งอันดับที่สอง หากมีอุบัติเหตุใด ๆ เกิดขึ้นกับหวั่นถิงในอนาคต และหวั่นถิงไม่มีลูก คุณก็จะเป็นผู้นำตระกูลซ่ง ถ้าคุณเห็นด้วย ตอนนี้ผมก็จะให้คำสัญญาว่า ในอนาคตกำไรสุทธิของตระกูลซ่งสามสิบเปอร์เซ็นต์จะเป็นของคุณ และจะมีผลตลอดไป”

เหตุผลที่เขาพูดแบบนี้ ก็เพราะว่าคุณท่านซ่งกังวลว่าครอบครัวของลูกชายคนโตจะต่อต้านซ่งหวั่นถิง

แต่เขาก็ไม่เต็มใจที่จะยกเลิกความตั้งใจของตนเองเพราะเหตุนี้

ในใจของคุณท่านซ่งรู้ดีว่า อนาคตของตระกูลซ่งจะต้องเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว สิ่งแรกที่ตระกูลวซ่งต้องทำคือการให้ซ่งหวั่นถิงเป็นผู้นำตระกูล

ถ้าเย่เฉินสามารถเป็นสามีของซ่งหวั่นถิง และแต่งงานเข้าตระกูลซ่งได้ ก็จะสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ

ถึงแม้ว่าเย่เฉินจะไม่ยินยอมแต่งงานเข้าตระกูลก็ไม่เป็นไร ตราบใดที่เขากับซ่งหวั่นถิงมีลูก ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะแซ่ซ่งหรือไม่ก็ไม่เป็นไร เพราะเขามีสายเลือดของตระกูลซ่ง

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเย่เฉินกลายเป็นหลานเขยของเขา ในอนาคตตัวเขาก็จะได้รับประโยชน์อย่างไม่สิ้นสุด

จนถึงตอนนี้เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับเงินทองผลกำไรเป็นอันดับแรก แต่คำนึงถึงสุขภาพร่างกาย และอายุที่ยืนยาวเป็นสำคัญที่สุด

ดังนั้นการส่งมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้ซ่งหวั่นถิงเป็นเพียงหนึ่งในแผนการของเขา

ความหวังสูงสุดของคุณท่านคือต้องการให้เย่เฉินเป็นสามีของซ่งหวั่นถิง

เย่เฉินไม่รู้ว่าในใจคุณท่านซ่งยังมีความคิดให้เขาเป็นหลานเขย

เขาเพียงรู้สึกว่าเมื่อคุณท่านซ่งกล่าวอย่างนั้น เพราะความกังวลว่าซ่งหวั่นถิงจะมีอันตรายในอนาคต ดังนั้นจึงต้องผูกมัดเขากับซ่งหวั่นถิง และให้เขาปกป้องดูแลความปลอดภัยของซ่งหวั่นถิง

ท้ายที่สุด หากตัวเขาเป็นว่าที่ผู้นำตระกูลคนที่สองของตระกูลซ่ง ก็ไม่มีเหตุผลที่คนอื่นจะทำอันตรายซ่งหวั่นถิง เพราะแม้ว่าซ่งหวั่นถิงจะถูกฆ่าไป ก็ยังมีตัวเขาอยู่อีกคน

ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าคนในตระกูลซ่งจะต้องการตำแหน่งผู้นำตระกูล ถ้าอย่างนั้นเขาก็ต้องชั่งใจว่าเขาจะสามารถหลอกล่อคนพวกนั้นให้โกรธได้หรือไม่

คุณท่านซ่งจริงจังจริงใจมาก เพียงครู่เดียวก็มอบสามสิบเปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดของตระกูลซ่งให้แก่เขา ช่างมือใหญ่ใจโตจริง ๆ

หากแต่เย่เฉินไม่ขาดแคลนเงิน และไม่สนใจเรื่องเงิน

เขาสนใจเพียงความปลอดภัยและอนาคตของซ่งหวั่นถิง

สถานะในหัวใจของเย่เฉิน ซ่งหวั่นถิงนั้นรองลงมาจากเซียวชูหรัน ภรรยาของเขา

เขาก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไม เขาเพียงคิดว่า ซ่งหวั่นถิงช่างเป็นสตรีที่ดีงามจนไร้ที่ติ

ตัวเขากับเธอไม่เพียงแต่มีความสนใจความชอบที่คล้ายกัน แต่อารมณ์ และอุปนิสัยการแสดงออก ทั้งหมดก็เข้ากันได้ดี

จะเรียกว่าเป็นคนสนิทก็ไม่เกินไป

ตอนที่เย่เฉินกับซ่งหวั่นถิงดื่มด้วยกัน เขาก็ได้ยินซ่งหวั่นถิงพึมพำกับตัวเองว่า ประสบการณ์ชีวิตของเธอค่อนข้างน่าสมเพช ในฐานะเด็กผู้หญิงที่มาจากตระกูลร่ำรวย เธอไม่มีแม้แต่อำนาจตัดสินใจเรื่องการแต่งงานของตนเองในอนาคต

ดังนั้นเขาจึงคาดหวังว่า ซ่งหวั่นถิงจะสามารถเป็นผู้นำตระกูลซ่งได้

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ในอนาคตก็จะไม่มีใครสามารถบังคับให้เธอทำสิ่งที่เธอไม่ต้องการทำได้

เย่เฉินพูดอย่างจริงจัง: “คุณท่านซ่ง วางใจเถอะ ต่อจากนี้ไปฉันขอรับรองความปลอดภัยของหวั่นถิง”