บทที่ 1920 จะพาเธอโบยบินสู่ที่ไกล + ตอนที่ 1921 พิษกู่ที่คุณโดนไม่ใช่พิษบริสุทธิ์

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1920 จะพาเธอโบยบินสู่ที่ไกล

 

เหยียนหมิงซุ่นจูงมือเหมยเหมยเดินออกจากโถงงานเต้นรำตัวปลิวราวกับอยู่บนก้อนเมฆ ข้างนอกลมหนาวพัดแรง ไม่นานเหมยเหมยก็ถูกความหนาวปะทะเข้าจนได้สติ เหยียนหมิงซุ่นถอดเสื้อโค้ทตัวใหญ่ให้เธอสวมแล้วตามด้วยหมวกกับผ้าพันคอก่อนจะอมยิ้มมองเธอ

 

ดวงจันทร์คืนคริสต์มาสอีฟสว่างเป็นพิเศษ แสงจันทร์สีนวลอ่อนโยนปกคลุมทั่วมหาวิทยาลัยและสาดกระทบบนตัวพวกเขาด้วยเช่นกัน ราวกับมีผ้าผืนบางสีขาวประกายเงินคลุมอยู่ ใบหน้าเย็นชาของเหยียนหมิงซุ่นดูอ่อนโยนขึ้นไม่น้อยภายใต้แสงจันทร์สีนวลนี้

 

ริมฝีปากของเหมยเหมยบวมเล็กน้อยและกำลังยู่เข้าหากัน ดวงหน้าเล็กแดงก่ำเพราะไอเย็นที่ปะทะมาทำให้รู้สึกน่าเอ็นดู

 

“อุ๊บ”

 

เหมยเหมยอดขำไม่ได้แล้วเอ่ยเสียงซุกซนว่า “เราเหมือนคู่รักที่เตรียมจะหนีเลยว่าไหม? ท่าทีลับ ๆล่อ ๆ!”

 

เหยียนหมิงซุ่นเลิกคิ้วและเริ่มรู้สึกสนุกขึ้นมา เขาฉุดมือเหมยเหมยไปที่รถยนต์ ไม่นานจากนั้นก็สตาร์ทรถพุ่งทะยานออกไป แต่ไม่นานเหมยเหมยก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติเพราะนั่นไม่ใช่เส้นทางกลับบ้าน

 

“พี่ลดอุณหภูมิหน่อย ร้อนจัง”

 

เธอว่าพลางถอดเสื้อโค้ทไปด้วย จากนั้นก็ถอดผ้าพันคอเพราะยังรู้สึกร้อนเหมือนเดิม

 

“ร้อนก็ถอดเสื้อ”

 

เหยียนหมิงซุ่นเสหน้ามามองเธอ ดวงตาสีดำขลับยากจะคาดเดาอารมณ์ได้ ความเงียบสงบมักจะมาก่อนที่จะเกิดพายุครั้งใหญ่ เหมยเหมยที่เริ่มรู้สึกบางอย่างได้จึงทั้งเฝ้ารอคอยทั้งลนลานปะปนกันไป

 

“เราไปไหนเหรอ? ไม่กลับบ้านเหรอ?”

 

รถยนต์เริ่มขับออกนอกเมืองหลวงมากขึ้นเรื่อย ๆโดยมุ่งหน้าสู่เขตชานเมือง

 

“ไม่กลับ เราจะหนีไปกันสองคน!”

 

เหยียนหมิงซุ่นยกยิ้มมุมปากสูงแล้วเหยียบคันเร่งจนสุด รถยนต์พุ่งไปข้างหน้าราวกับจรวดโลดแล่นบนถนนกว้างใหญ่และรวดเร็วปานสายฟ้าจนคนที่นั่งบนรถรู้สึกฮึกเหิมเลือดพลุ่งพล่านขึ้นมา

 

เหมยเหมยในเวลานี้กำลังรู้สึกเช่นนั้น สนุก ตื่นเต้นและคาดหวัง

 

“ได้สิ คืนนี้เราไม่กลับบ้าน เราจะหนีไปไกล ๆเลย!”

 

หนีกันไปสองคน แค่ได้ยินก็รู้สึกตื่นเต้นแล้วราวกับคู่รักที่แอบคบหากัน น่าตื่นเต้นจะตายไป!

 

หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นพวกเขาก็มาถึงยอดเขาในเขตชานเมือง ทุกอย่างเงียบสงัดได้ยินเพียงเสียงสายลม นอกรถยนต์ลมหนาวกำลังพัดโกรกไปมา แต่ภายในรถนั้นกลับร้อนระอุดั่งฤดูร้อน

 

เหยียนหมิงซุ่นที่แทบทนไม่ไหวรีบจอดรถให้ดีแล้วปรับเบาะรถให้เป็นแนวราบ มุมปากยกยิ้มร้ายกาจ “ที่รัก งานฉลองคริสต์มาสเริ่มต้นขึ้นแล้ว!”

 

การเต้นรำนับเป็นการฉลองอะไรกัน?

 

แบบเขาต่างหากถึงจะเป็นวิธีการฉลองที่ถูกต้อง!

 

เคยลิ้มรสชายหาดกับทุ่งกว้างมาแล้วแต่กลับไม่เคยสัมผัสความรู้สึกบนรถมาก่อน ไหนจะอยู่ในป่าในเขาอีกต่างหาก คืนนี้ก็ลองมันให้หมดทีเดียวเลยแล้วกัน!

 

ลมหนาวพัดผ่านทั้งคืนแต่เหตุการณ์เร่าร้อนนี้กลับโรแมนติกยิ่งกว่าสิ่งใด!

 

พอเหมยเหมยตื่นมาอีกทีพบว่าตนนอนอยู่บนเตียงกว้างอบอุ่นที่บ้านเรียบร้อยแล้ว หากไม่ใช่เพราะความรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวรวมถึงร่องรอยน่าอายบนกาย เธอคงคิดว่าเมื่อคืนเป็นเพียงความฝันลามกที่แสนวิเศษเท่านั้น

 

“คนนิสัยไม่ดี!”

 

เธอลอบด่าอีกฝ่ายอย่างขุ่นเคืองปนเขินอายก่อนจะหลับตาพักผ่อนต่อ ช่วงเช้าทางมหาวิทยาลัยหยุดจึงมีคาบเรียนในช่วงบ่ายเท่านั้น อีกอย่างเมื่อคืนได้กระทำการอุกอาจที่มหาวิทยาลัยไป เธอไม่อยากโผล่หน้าไปให้คนอื่นหัวเราะเยาะหรอกนะ หลับให้สบายดีกว่า

 

เหมยเหมยที่เหนื่อยล้าอย่างมากเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วพร้อมอมยิ้มที่มุมปากอย่างพึงพอใจ

 

เหยียนหมิงซุ่นกลับจากการวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า วันอากาศหนาว ๆแบบนี้กลับสวมเพียงเสื้อยืดตัวเดียว เผยให้เห็นกล้ามเนื้อปูดโปนเป็นมัด ๆและหยาดเหงื่อที่เกาะตัวบนผิวสีน้ำผึ้งเป็นเม็ด ๆราวกับไข่มุก เซ็กซี่เสียจนรู้สึกลำคอแห้งผาก

 

เขาห่มผ้าให้เหมยเหมยอย่างดีแล้วเขี่ยนิ้วตรงปลายจมูกเธอเบา ๆทีหนึ่งก่อนจะเดินยิ้มไปอาบน้ำ…

 

บรรเลงเพลงรักในรถก็น่าเร้าใจไม่เบา ไว้วันหลังค่อยหาโอกาสไปสัมผัสประสบการณ์อีกรอบแล้วกัน!

 

เหยียนหมิงซุ่นทานข้าวเช้าเสร็จก็ไปสะสางงานต่อ ลูกน้องที่ถูกเขาส่งตัวไปชายแดนเหมียวเจียงกลับมารายงานว่าตามหาตัวพ่อมดยอดฝีมือเจอแล้วซึ่งเขาจำเป็นต้องไปเจอสักหน่อยเพราะพิษกู่หักสวาทที่อยู่ในร่างกายถือเป็นไข้ใจของเขา

 

พ่อมดยอดฝีมือเป็นชายตัวผอมผิวคล้ำคนหนึ่ง สวมเสื้อผ้าสีสันสดใสเพียงแต่เสื้อผ้านั้นสกปรกเกินไปเลยแทบดูไม่ออกถึงสีเดิมของเสื้อผ้า อีกทั้งบนตัวยังมีเครื่องประดับห้อยอยู่ไม่น้อยรวมถึงลูกประคำหลากสีอีกบางส่วน ผมยาวถูกปล่อยสยายพร้อมติดเครื่องประดับบนศีรษะอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ช่างดูลึกลับเหลือเกิน

 

……………………….

 

ตอนที่ 1921 พิษกู่ที่คุณโดนไม่ใช่พิษบริสุทธิ์

 

“ลูกพี่ ท่านนี้ก็คือพ่อมดยอดฝีมือ ตามที่ได้ยินมาเป็นผู้รู้วิชาสูงสุดของชายแดนเหมียวเจียงแล้ว” ลูกน้องรายงาน

 

ชายตัวผอมผิวคล้ำก้มให้เหยียนหมิงซุ่น อีกฝ่ายสามารถพูดภาษาจีนกลางได้แต่ไม่ค่อยชัดเจนนัก “สวัสดี”

 

“สวัสดี ผมโดนพิษกู่เหมียวเจียงของพวกคุณเลยอยากให้ท่านพ่อมดมาช่วยดูว่าสามารถแก้พิษได้ไหม” เหยียนหมิงซุ่นถามไปตรง ๆ

 

พ่อมดยอดฝีมือเผยสีหน้าตกใจก่อนเขาจะยื่นแขนผอมแห้งหนังหุ้มกระดูกและเล็บที่ทั้งยาวทั้งดำออกมาเป็นเชิงให้เหยียนหมิงซุ่นยื่นแขนออกมาด้วยเช่นกัน จากนั้นเขาก็วางแขนไว้บนข้อมือเหยียนหมิงซุ่นหลับตาลงเอียงศีรษะราวกับกำลังเงี่ยหูฟังบางอย่าง

 

ผ่านไปสักพักใหญ่พ่อมดยอดฝีมือถึงลืมตาขึ้นพูดช้า ๆว่า “พิษที่คุณโดนเป็นพิษกู่หักสวาทที่ไม่มีการสืบทอดในเหมียวเจียงเรามานานแล้ว ผมหาวิธีช่วยคุณไม่ได้”

 

เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกผิดหวังในใจเล็กน้อยก่อนถามต่อ “ภรรยาของผมก็โดนวางยาชนิดนี้ด้วยเช่นกัน คุณสามารถแก้พิษให้เธอได้ไหม?”

 

พ่อมดยอดฝีมือส่ายศีรษะอีกครั้ง “มีเพียงผู้ที่ทำพิษกู่หักสวาทใส่เท่านั้นถึงจะหาทางแก้พิษให้ได้ ผมทำไม่ได้ แต่ยาพิษบนตัวคุณไม่ใช่พิษกู่หักสวาทที่บริสุทธิ์ ฉะนั้นยังมีทางแก้อีกทางหนึ่ง”

 

“หมายความว่ายังไง?” เหยียนหมิงซุ่นถาม

 

พ่อมดยอดฝีมืออธิบายช้า ๆ “พิษกู่หักสวาทชนิดนี้เลี้ยงยากมาก ซึ่งต้องใช้เลือดสดของเด็กผู้หญิงที่เกิดวันที่เป็นเลขคู่ เดือนที่เป็นเลขคู่และปีเกิดที่เป็นเลขคู่ตั้งแต่เด็กในการเลี้ยงมันและจะขาดไม่ได้แม้แต่วันเดียว อีกอย่างพิษชนิดนี้เป็นพิษสกปรก ฉะนั้นพ่อมดรุ่นก่อนผมถึงสั่งห้ามเอาไว้ไม่ให้คนในเผ่าแตะต้องพิษกู่หักสวาทเด็ดขาด”

 

เหยียนหมิงซุ่นเลิกคิ้วด้วยความสงสัยก่อนถาม “ท่านพ่อมดรุ่นก่อนของคุณสั่งห้ามตั้งแต่เมื่อไร?”

 

“สามสิบปีก่อน เพราะเกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้นเมื่อสามสิบปีก่อน มีคนแอบเลี้ยงกู่ชนิดนี้ขึ้นมาแล้วทำใส่ชาวฮั่นคนหนึ่งจึงทำให้ท่านพ่อมดใหญ่โกรธมากจนต้องตั้งกฎข้อห้ามนี้ขึ้นมา”

 

เหยียนหมิงซุ่นแอบสงสัยเลยถามต่อ “แล้วจะมีคนแอบเลี้ยงไหม?”

 

“เป็นไปไม่ได้ คำสั่งของท่านพ่อมดใหญ่เท่ากับราชสาส์นในชนเผ่าที่ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่ง ถ้าถูกจับได้จะต้องโดนขับออกจากเผ่าและถูกคนทั้งเผ่ากีดกัน”

 

พ่อมดยอดฝีมือเริ่มไม่พอใจแต่ก็อธิบายด้วยความอดทน “ต่อให้มีคนแอบเลี้ยงก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นอยู่ดี เพราะตลอดสามสิบปีที่ผ่านมาชนเผ่าเราไม่เคยมีผู้หญิงที่เกิดในวันที่เป็นเลขคู่เดือนที่เป็นเลขคู่และปีที่เป็นเลขคู่สักคนเดียว”

 

เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วแน่นแล้วเอ่ยถามข้อสงสัยตัวเอง “ในเมื่อถูกสั่งห้ามมาตั้งแต่สามสิบปีก่อนแล้วยาพิษในตัวผมมาจากไหนล่ะ?”

 

ต่อให้เขาถูกพิษกู่มาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้เขาอายุเพียงยี่สิบห้าปีเท่านั้น เวลาไม่ตรงกันเลย

 

พ่อมดยอดฝีมือกล่าว “เพราะยาพิษในตัวคุณไม่ใช่พิษกู่หักสวาทที่บริสุทธิ์ ถ้าเป็นพิษกู่หักสวาทของเหมียวเจียงเราตอนนี้คุณไม่มีทางแข็งแรงแบบนี้แน่ จิงชี่ในตัวคุณจะถูกกู่ค่อย ๆดูดหายไปตามกาลเวลา ร่างกายก็จะเริ่มซูบผอมลงเรื่อย ๆ!”

 

เหยียนหมิงซุ่นใจผวาและรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจึงถามขึ้นต่อ “หรือว่าจะมีคนอื่นที่เลี้ยงกู่ชนิดนี้ได้อีก?”

 

“ไม่มีทาง มีแค่คนจากชายแดนเหมียวเจียงเราที่เลี้ยงได้ ตอนนี้มีแค่ผมที่เลี้ยงได้แต่ผมไม่สามารถเลี้ยงได้” พ่อมดยอดฝีมือหยุดเว้นช่วงก่อนกล่าวต่อ “ผมเดาว่าคนที่ทำกู่ใส่คุณน่าจะเป็นผู้ชายที่โดนพิษกู่หักสวาทชนิดนี้จากเหมียวเจียงเมื่อสามสิบปีก่อน”

 

เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้ว เขาลองเดาดูแล้วแต่ยังไม่ได้คำตอบที่แน่ชัด พ่อมดยอดฝีมือพูดต่อ “ในร่างกายของผู้ชายคนนั้นมีพิษกู่ชนิดนี้ แค่เขาใช้เลือดของตัวเองเลี้ยงก็สามารถทำพิษกู่ชนิดนี้ขึ้นได้ เพียงแต่ไม่ค่อยได้ผลเท่าไรนัก”

 

“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? แล้วทำไมเขาถึงโดนทำพิษกู่ใส่ได้ล่ะ?”

 

พ่อมดยอดฝีมือถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ผมไม่รู้จักเขา แต่พี่สาวผมเรียกเขาว่าพี่สามและคนที่ทำกู่ใส่เขาก็คือพี่สาวผมพี่สาวผมเป็นคนสุดท้ายในเผ่าที่เลี้ยงกู่ชนิดนี้ เธอช่วยชายชาวฮั่นคนหนึ่งไว้นั่นก็คือพี่สามคนนี้ แล้วแอบตกหลุมรักเขา แต่พี่สามคนนี้ไม่ยอมอยู่ด้วย พี่สาวผมเลยทำกู่ใส่เขา แต่สุดท้ายผู้ชายคนนี้ก็จากไปอยู่ดี”

 

พ่อมดยอดฝีมือลอบถอนหายใจพลางทำหน้าเศร้าสลด

 

………………………