ตอนที่ 2634 ผงาด ความกังวลเบื้องหลัง

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

โอสถดาราดาวปฐมฤกษ์เป็นถึงโอสถสวรรค์จักรพรรดิระดับสองที่มีคุณสมบัติไม่แพ้โอสถสวรรค์ระดับสาม! โอสถสวรรค์นี้มันมีฤทธิ์รุนแรงในการก่อตัวของโลกใบน้อยและทำให้พื้นฐานของการบ่มเพาะหนักแน่นมากขึ้น

ต้วนหยงชุนเป็นคนมากพรสวรรค์แต่หลานทั้งสามของเขาไม่ได้เป็นเช่นนั้น เวลานี้พวกเขาทั้งสามต่างติดคอขวดของชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ขั้นสุดและไม่อาจจะบรรลุขึ้นไปได้เสียที

โอสถดาราดาวปฐมฤกษ์ระดับแท้นี้มันย่อมจะเป็นดั่งยาวิเศษสำหรับพวกเขาแล้ว

ต้วนหยงชุนไม่รู้ว่าโอสถสวรรค์ระดับแท้นั้นมันจะมีฤทธิ์ที่รุนแรงปานใดแต่เขารู้ว่ามันต้องรุนแรงเหนือล้ำอย่างไม่เคยเห็นมาก่อนแน่! เพราะฉะนั้นเขาจึงเลือกที่จะตบหน้าตัวเองในวินาทีที่ได้ยินนามของโอสถดาราดาวปฐมฤกษ์

เขารู้ดีว่ากล่าวเช่นนี้ออกมามันเท่ากับการยกมือขึ้นตบหน้าตัวแล้ว แต่หากทำเพื่อหลานเขาย่อมพร้อมตบหน้าตัวเอง

แน่นอนว่าทางหยางเจี๋ยก็ต้องหันมามองต้วนหยงชุนด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ผู้อาวุโสต้วน ไหนเจ้าบอกว่าจะไม่เอามิใช่หรือ?”

ต้วนหยงชุนได้แต่กล่าวตอบกลับมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ “เย่หยวนนี่มันลงมือหนักเสียจริง! ข้าเองก็ไม่นึกฝันว่ามันกลับจะเอาโอสถสวรรค์ระดับแท้ออกมาได้มากมายขนาดนี้!”

หยางเจี๋ยพยักหน้ารับเพราะเขาเองก็ไม่คาดคิดเช่นกัน

แท้จริงแล้วตัวเขานั้นก็ตกตะลึงกับรายการโอสถนี้ไม่น้อยไปกว่าต้วนหยงชุน

การเอาโอสถสวรรค์ระดับแท้ออกมาใช้งานได้กว่าร้อยเม็ดเช่นนี้มันย่อมจะเป็นการลงมือที่หนักหน่วง

แม้ว่าโอสถสวรรค์ทั้งหลายนี้มันจะไม่ส่งผลใดๆ ต่อยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดินัก แต่ว่าสำหรับนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่หรือแม้แต่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำแล้วมันย่อมจะเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก

โอสถสวรรค์ชุดใหญ่นี้มันจะสร้างยอดฝีมือขึ้นมาให้นิกายได้อย่างมากล้น

ทุกคนนั้นต่างรู้ดีว่าเย่หยวนหลอมโอสถสวรรค์ระดับแท้ได้

เพียงแค่ว่าโอสถสวรรค์ที่เขาหลอมได้ถึงระดับแท้ในตอนก่อนหน้านั้นมันเป็นเพียงแค่โอสถสวรรค์ปรับฐานระดับสอง เป็นโอสถที่สุดแสนจะพื้นฐานของพื้นฐาน

และโอสถพื้นฐานเช่นนั้นมันย่อมจะแตกต่างกับโอสถสวรรค์จักรพรรดิอย่างสิ้นเชิง

แต่ว่าพวกเขาก็ไม่คิดฝันว่าเวลาแค่ราวยี่สิบปีนี้เย่หยวนกลับจะพัฒนาได้อย่างบ้าคลั่งเช่นนี้!

“เช่นนั้นแล้วเจ้าคงไม่มีขอคัดค้านเรื่องศาลาโอสถแล้ว?” หยางเจี๋ยถามขึ้นมา

ต้วนหยงชุนรีบหัวเราะตอบกลับไป “ไม่มีแล้ว! แน่นอนว่าไม่มีแล้ว! เพียงแค่ว่าผู้อาวุโสฉี เจ้าเองก็ต้องพยายามเข้าให้มากเล่า!”

ฉีเหยียนที่ได้ยินก็ยิ้มตอบกลับไป “ผู้อาวุโสต้วน อย่าได้กังวลไป ครั้งนี้เฒ่าคนนี้เองก็มีของติดตัวมาเช่นกัน!”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวทางต้วนหยงชุนและหยางเจี๋ยต่างก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นอย่างสงสัย

พูดไปฉีเหยียนก็นำเอารายการโอสถอีกชุดหนึ่งมอบให้หยางเจี๋ย

หลังจากหยางเจี๋ยมองดูรายการนั้นแล้วเขาก็ต้องถามขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดขาว “ผู้อาวุโสฉี นี่… โอสถสวรรค์ทั้งหลายนี้เจ้าเป็นคนหลอมหรือ?”

ฉีเหยียนพยักหน้ารับ “หลายปีมานี้ภายใต้การชี้แนะของอาจารย์เย่ท่าน เฒ่าคนนี้ได้พัฒนาฝีมือขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด! โดยเฉพาะอย่างยิ่งสองปีมานี้ที่ข้าแทบจะเรียกได้ว่าผงาดขึ้นฟ้า!”

โอสถสวรรค์ระดับสี่ทั้งหลายนั้นมันเป็นโอสถสวรรค์ที่ทรงคุณภาพอย่างมาก

แม้ว่ามันจะยังตามหลังระดับคุณภาพของพันธมิตรโอสถอยู่บ้างแต่ความแตกต่างนั้นก็ไม่ได้มากมายอีกแล้ว

เพราะจะอย่างไรเสียทางพันธมิตรโอสถเองมันก็คงไม่เอาโอสถสวรรค์ที่ดีที่สุดออกมาวางขาย

หากเป็นเช่นนี้ต่อไปแล้วฉีเหยียนคงก้าวขึ้นมาหลอมโอสถสวรรค์ระดับสี่คุณภาพเดียวกับของพันธมิตรโอสถได้ในเวลาไม่นานนัก!

ต้วนหยงชุนนั้นต้องอ้าปากค้างขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อ

ตัวเขานั้นย่อมจะไม่มีทางเชื่อว่าเย่หยวนจะทำให้ฉีเหยียนกลายเป็นยอดฝีมือเทียบเคียงพันธมิตรโอสถได้ด้วยเวลาแค่สามสิบปี

นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสี่นั้นมันแตกต่างจากนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งไปมาก พวกเขานั้นต้องใช้เวลาในการฝึกฝนและเรียนรู้มหาศาล

หากไม่มีเวลาแล้วมันย่อมจะไม่มีทางพัฒนาได้

เพียงแค่ว่าเขาก็ไม่นึกฝันว่าเขากลับจะถูกฉีเหยียนเอาโอสถสวรรค์มาตบหน้าเช่นนี้เข้า

หยางเจี๋ยนั้นเห็นได้ชัดเจนว่าฉีเหยียนเรียกเย่หยวนเป็นอาจารย์ไปแล้ว

นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสี่นั้นกลับไปเรียกเย่หยวนเป็นอาจารย์เย่ แค่นี้มันก็มากพอจะแสดงถึงความเคารพที่ฉีเหยียนมีต่อเย่หยวนไปแล้ว!

น่ากลัวนัก!

ฉีเหยียนนั้นยิ้มขึ้นมาราวกับมองออกว่าทั้งสองคนกำลังคิดอะไรกันอยู่ก่อนจะกล่าวขึ้น “ท่านเจ้านิกาย ผู้อาวุโสต้วน พวกท่านวางใจเถอะ ด้วยกำลังของศาลาโอสถในตอนนี้เราย่อมจะก้าวขึ้นมาเทียบเคียงกับพันธมิตรโอสถได้ในไม่ช้าแน่นอน! และในเวลานี้เราก็ไม่ต้องไปพึ่งพาใดๆ พันธมิตรโอสถอีกต่อไปวันหน้าหากอาจารย์เย่นั้นบรรลุขึ้นเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสามหรือระดับสี่มาแล้วพันธมิตรโอสถมันก็คงไร้ค่าใด!”

ยี่สิบปีมานี้ฉีเหยียนได้คารวะเคารพเย่หยวนจนหมดหัวใจ

แท้จริงแล้วหลังจากได้เรียนรู้วิธีการฝึกฝนของเย่หยวนนั้นฉีเหยียนเองก็เริ่มรู้สึกว่าความเหนือล้ำของเย่หยวนมันไม่เป็นปริศนาอีกต่อไป

เพราะจะอย่างไรเสียการพยายามเช่นนี้ มันก็เป็นสิ่งที่ใครก็สามารถทำได้สิ้น

แม้แต่หวู่เฉิงเฉาคนนั้นยังก้าวขึ้นไปถึงระดับนั้นได้ มีหรือที่ฉีเหยียนคนนี้จะทำไม่ได้?

แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานวันเข้าเขาก็ยิ่งได้รู้ว่ามันไม่ใช่

เพราะเส้นทางการฝึกฝนนี้มันเริ่มต้นงานแต่ชำนาญยาก!

เหมือนดั่งการหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐานระดับหนึ่งนั้นที่เขาสามารถจะหลอมมันจนถึงระดับเก้าได้อย่างง่ายดาย

แต่ระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์นั้นมันกลับต้องใช้อะไรที่มากกว่าแค่ความพยายาม

เป็นตอนนั้นเองที่ฉีเหยียนได้เข้าใจว่าช่องว่างระหว่างพวกเขามันคืออะไร

เขานั้นไม่อาจจะหลอมถึงระดับเก้าขั้นสุดได้ เพราะฉะนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงระดับแท้เลย

จนถึงตอนที่เย่หยวนออกมาจากการเก็บตัวพร้อมโอสถสวรรค์ระดับแท้มากมายนั้นเองที่ทำให้ศาลาโอสถเกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้งในรอบหลายปี

ระดับแท้นั้นมันมิใช่สิ่งที่ยากเกินมือเย่หยวนอีกต่อไป

ฉีเหยียนนั้นคิดว่าตัวเขาเองจะตามทันและอาจจะนำเย่หยวนไปได้ในเวลาไม่นาน

แต่เวลาที่ผ่านมายี่สิบปีนี้มันทำให้ฉีเหยียนได้เข้าใจว่านอกจากช่องว่างมันจะไม่ลดลงแล้วมันกลับจะเพิ่มพูนมากขึ้นแทน

“ดี! ดี! ดี!”

หยางเจี๋ยนั้นกล่าวว่าดีขึ้นมาถึงสามครั้งเป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาชอบใจแค่ไหน “ดูท่าเจ้านิกายทั้งห้าเราจะมองเขาไม่ผิดไปจริงๆ! ความตกตะลึงที่เด็กคนนี้มันทำนั้นมากมายกว่าที่เราคาดไปมากนัก! ในเมื่อผู้อาวุโสต้วนไม่คิดขัดแล้วนิกายสวรรค์หมื่นช้างเราก็จะส่งศิษย์ทั้งหลายไปช่วยศึกของนิกายทั้งสี่ต่อไป!”

โอสถสวรรค์ที่ศาลาโอสถเอาออกมานั้นมันทำให้เกิดความแตกตื่นไปทั่วทิศ

เหล่ายอดฝีมือกำลังหลักของนิกายสวรรค์ต่างๆ นั้นต่างพัฒนาผงาดล้ำขึ้นมาด้วยพลังของโอสถสวรรค์ระดับแท้นั้น

แน่นอนว่ากำลังต่อสู้ของพวกเขาในสนามรบมันก็ย่อมจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก

กำลังฝีมือของผู้บรรลุสวรรค์นั้นมันแข็งแกร่งกว่าคนท้องถิ่นมาแต่เดิมเวลานี้เมื่อได้พลังของโอสถสวรรค์มาช่วยมันก็ยิ่งทำให้พวกเขากดดันเหล่านักยุทธท้องถิ่นได้ง่ายกว่าเก่า

แนวหน้าของสนามรบนั้นมันเริ่มจะเห็นความเสียเปรียบของฝั่งดินแดนสวรรค์ทั้งสี่ปรากฏขึ้น

พร้อมๆ กันนั้นจิตใจของคนดินแดนสวรรค์ห้าแสงเองก็แทบจะรวมเป็นหนึ่ง

เป็นตอนนี้เองที่พวกเขามั่นใจว่าการสร้างศาลาโอสถขึ้นมาในตอนนั้นมันเป็นทางเลือกที่ถูกต้องจริงๆ

แต่เย่หยวนที่นั่งอยู่ในศาลาโอสถนั้นกลับต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา

เมื่อเฟิงซวนยี่ได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นอย่างมึนงง “เย่หยวน เรานั้นเอาชนะสภาพในตอนนี้ได้และเริ่มผลักดันกำลังของสี่ดินแดนสวรรค์ออกไปอย่างมากนามของศาลาโอสถเองมันก็ดังลั่นไปทั่วทั้งดินแดนสวรรค์ห้าแสง ทำไมเจ้าจึงยังขมวดคิ้วแน่นทำหน้ากังวลเช่นนี้เล่า?”

เย่หยวนถอนใจยาวออกมา “ท่านเจ้านิกาย ท่านได้เห็นพลังของโอสถสวรรค์ระดับแท้แล้วใช่หรือไม่?”

ได้ยินเช่นนั้นเฟิงซวนยี่ก็ยิ้มกว้างขึ้นมา “แน่นอน! โอสถสวรรค์ระดับแท้นั้นมันสุดยอดเสียจริง! กำลังของเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำของนิกายทั้งห้าต่างพุ่งทะยานขึ้นอย่างมากหลังได้กินโอสถสวรรค์จักรพรรดิของเจ้า! เวลานี้พวกเขาได้กลายเป็นสุดยอดขุมกำลังต่อสู้ของศึกครั้งนี้ไปแล้ว!”

โอสถสวรรค์ระดับแท้นั้นมันมิใช่เพิ่มแค่พลังบ่มเพาะง่ายๆ แค่นั้น

ฤทธิ์ของมันนั้นส่งผลรอบด้าน!

เพราะมันเหมือนกับการให้คนได้กินพลังของกฎเต๋าเข้าไปในร่าง

มันย่อมจะสร้างพลังที่เหนือล้ำเกินจินตนาการได้

เมื่อเฟิงซวนยี่ได้เห็นถึงพลังของระดับแท้นั้นเขาก็ต้องรู้สึกตื่นเต้นในใจ

เพราะหลังจากเย่หยวนบรรลุขึ้นมาแล้ว ตัวเขาเองก็คงจะได้มีโอกาสลิ้มลองพลังของโอสถสวรรค์ระดับแท้นี้เช่นกัน!

แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่ได้มองโลกในแง่ดีเหมือนเฟิงซวนยี่และกล่าวขึ้นมาอย่างหนักใจ “ศิษย์ห้านิกายสวรรค์เราเพิ่มกำลังขึ้นมาได้ในเวลาแค่ไม่กี่เดือน แต่พันธมิตรโอสถนั้นมันมีระดับแท้ใช้มานานปี! เช่นนั้นแล้วยอดฝีมือของพวกมันนั้นจะต้องแข็งแกร่งแค่ไหน? ตัวผู้นำพันธมิตรโอสถนั้นเองจะเก่งกาจเพียงใด?”

คำพูดเดียวนี้มันทำให้เฟิงซวนยี่ต้องหน้าซีดขาวลงทันที!

…………………………