ตอนที่ 1459 กลับสู่มหาวิทยาลัยจิน

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

ประเด็นเรื่องหนังสือรับรองหุ้นง่ายกว่าที่ลู่โจวได้จินตนาการไว้

ในตอนแรกเขาคิดว่ามันจะเป็นข้อพิพาททางคดีความที่ยาวนาน เขาไม่ได้คาดหวังประสิทธิผล กรมอุตสาหกรรมและการค้าส่งจดหมายไปถึงบริษัทหลายแห่ง เช่น อีสต์เอเชียเอเนอร์จี้และอีสต์เอเชียคอมมิวนิเคชั่นเพื่อให้ทำการเปิดเผยข้อมูลให้สมบูรณ์

บางทีเสี่ยวถงอาจจะพิจารณาข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตไว้เมื่อนานมาแล้วและได้ทำการรับรองเอกสารหุ้นเหล่านี้ สถาบันรับรองเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังคงทำการอยู่ในปัจจุบัน และพวกเขาก็มีอันดับความน่าเชื่อถือที่ค่อนข้างดี จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะแสดงห่วงโซ่หลักฐานได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่มีข้อพิพาท

ลู่โจวค่อนข้างแปลกใจด้วย

เขาไม่ได้คาดว่าจะเป็นเช่นนั้น นอกจากสามยักษ์ใหญ่แห่งอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ อีสต์เอเชียคอมมิวนิเคชั่น และอีสต์เอเชียเฮฟวีอินดัสตรีส์ ซึ่งแผ่ขยายขอบเขตพลังงาน ข้อมูล และอุตสาหกรรมออกไป บริษัทต่างๆ สารพัดส่วนใหญ่ที่เขาได้ลงทุนไว้ก่อนหน้านี้ก็ยังอยู่รอดจริงๆ

ยกตัวอย่างเช่นบี๊บบี๊บชาร์จจิง แม้ว่าชื่อของมันจะแตกต่างไปหลังจากมีการควบรวมและการเข้าถือสิทธิ์หลายครั้ง ธุรกิจของมันก็ได้ขยายออกไปจากสถานีชาร์จไฟฟ้าไร้สายไปสู่เทคโนโลยีหลักสาขาต่างๆ อย่างเช่นคลาวด์ในเมือง การผลิตอุปกรณ์ชาร์จไร้สาย และชิ้นส่วนรถแม็กเลฟ

ยังมีเป่าเซิ่งกรุ๊ปซึ่งทำวัสดุตัวนำยวดยิ่งสำหรับแกนเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่น พวกเขาก็ได้เปิดขายหุ้นในตลาดหุ้นด้วย ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์แกนฟิวชั่นที่ควบคุมได้รายใหญ่ที่สุดในสหการพาน-เอเชียนและแม้กระทั่งในโลก มันได้กลายเป็นกระดูกสันหลังที่สองในการผลิตเทคโนโลยีฟิวชั่นที่ควบคุมได้

สิ่งที่ลู่โจวไม่ได้คาดหวังมากที่สุดคือฮิปโปแคมปัสกรุ๊ป ซึ่งมีชื่อเสียงในระดับโลกในเรื่องผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์ระดับกลางถึงระดับดีเยี่ยมก็ยังเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ย้อนกลับไปตอนนั้นบริษัทจ้งซานซินฉายได้เข้าสู่ห่วงโซ่อุตสาหกรรมชิปคาร์บอนด้วยการสนับสนุนของเขา ในช่วงกลางศตวรรษที่ 21 บริษัทจ้งซานซินฉายได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิปคาร์บอนที่ใหญ่ที่สุดในจีน

และซีอีโอหลิวก็ยังเป็นผู้ประกอบการที่ช่างคิดคนหนึ่ง ในช่วงระยะหลังๆ เขาเห็นโอกาสในตลาดใหญ่สำหรับหุ่นยนต์และใช้เงินจำนวนมากในการพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรมหุ่นยนต์

แม้ว่าการดำเนินการที่มีความเสี่ยงนี้จะไม่ได้นำผลประโยชน์สำคัญมาสู่บริษัทจ้งซานซินฉาย มันก็ได้บ่มเพาะให้เกิดบริษัทด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มากมายในเขตไฮเทคจินหลิง

ฮิปโปแคมปัสกรุ๊ปก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้ว่าขนาดของมันในตอนนั้นจะยังเล็กอยู่

แล้วต่อมาธุรกิจของบริษัทจ้งซานซินฉายก็ตกต่ำลง หลังจากมีการควบรวมและการเข้าถือสิทธิ์หลายครั้งบริษัททั้งสองก็เพียงแค่ควบรวมกันและรวมแหล่งทรัพยากรที่เป็นประโยชน์เข้าด้วยกันตามลำดับเพื่อก่อตั้งฮิปโปแคมปัส กรุ๊ป

นอกจากนี้ยังมีเกม VRMMO ใหญ่ๆ อย่าง ‘คาลานเอ็มไพร์’ และธุรกิจบางอย่างที่ลู่โจวไม่ได้แม้แต่จะตรวจดูในตอนนั้น ปัจจุบันพวกมันได้เติบโตเป็นต้นไม้ที่สูงตระหง่าน

หลังจากทราบเรื่องนี้ ลู่โจวก็อดที่จะรู้สึกสะเทือนใจไม่ได้

แม้ว่าสตาร์สกายเทคโนโลยีจะ ‘ตาย’ ไปพร้อมกับเขา แต่มรดกของมันได้ประสานรวมเข้ากับทุกแง่มุมของทั้งสังคมในสหการพาน-เอเชียนมาเป็นเวลานานแล้วและได้กลายเป็นส่วนที่ไม่สามารถแยกออกจากสังคมนี้ได้

เหมือนกับเป็นรากของต้นไม้ใหญ่ มันได้หล่อเลี้ยงทุกเซลล์ของต้นไม้…

ในขณะเดียวกันตามการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายล่าสุด หุ้นที่ถือโดยบุคคลที่หลับไปชั่วคราวซึ่งได้หลับไปเป็นเวลามากกว่าสิบปีจะได้รับการจัดการเหมือนเป็น ‘สิทธิแช่แข็ง’ ในระหว่างช่วงเวลาแช่แข็ง และผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ จะปฏิบัติตนเป็นผู้ถือหุ้นในนามในฐานะตัวแทนของพวกเขา พวกเขาจะไม่ได้ใช้ผลประโยชน์อย่างเต็มที่ อย่างเช่นเงินปันผล

อย่างไรก็ตามในทางตรงกันข้าม สิทธิและผลประโยชน์ของเจ้าของหุ้นในช่วงเวลาแช่แข็งจะได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่

สิ่งที่จำเป็นที่สุดได้กำหนดไว้ว่า ในระหว่างช่วงเวลาแช่แข็งหุ้นของผู้ถือหุ้นจะไม่ถูกทำให้ราคาลดลงตามกิจกรรมจัดหาเงินตามธรรมเนียมปฏิบัติ อย่างเช่นการจัดหาเงินทุน

พูดง่ายๆ ก็คือเมื่อคนคนหนึ่งถูกแช่แข็งและจำศีลเป็นเวลามากกว่า 10 ปี นับตั้งแต่เริ่มปีที่ 11 ไม่ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้นในการบริหารจัดการของบริษัทและผู้ถือหุ้น ส่วนของหุ้นที่ถูกแช่แข็งไว้ก็จะไม่ได้รับผลกระทบ

เจตนาดั้งเดิมของกฎหมายนี้คือเพื่อที่จะปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานและผลประโยชน์ของคนที่หลับไปชั่วคราว อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่เข้าไปในตู้สำหรับหลับชั่วคราวก็เพราะโรคภัยไข้เจ็บขั้นร้ายแรง มีไม่กี่คนที่อาจจะเลือกการพักตัวแบบเยือกแข็งเพียงเพราะความสนุกหรือบอกว่าพวกเขาอยากจะเห็นอนาคต

หากพูดในแง่ของอารมณ์ความรู้สึกแล้ว การลาจากญาติพี่น้องและเพื่อนๆ ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย ความรู้สึกของการถูกแบ่งแยกจากสังคมในอนาคตหลังจากตื่นขึ้นมาก็ยังเป็นสิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถยอมรับได้มากที่สุด

โดยรวมแล้วด้วยระบบที่ชอบด้วยกฎหมายในสังคมปัจจุบันมันไม่ใช่เรื่องยากที่จะเรียกทรัพย์สินของใครสักคนกลับคืนมา

หลังจากมอบความรับผิดชอบในงานเพิกถอนหุ้นให้กับทนายเฉิน ลู่โจวก็ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องยุ่งยากอื่นๆ มากนัก นอกจากการขอให้เสี่ยวไอช่วยดูแลมันให้เขา

เขาไว้วางใจมูลนิธิพิทักษ์สิทธิมนุษยชนแช่แข็ง

ไม่เพียงแค่เพราะองค์กรประชาสงเคราะห์แห่งนี้ดำเนินการอยู่ในสหการพาน-เอเชียนมาเป็นเวลาหลายปีและได้ช่วยเหลือผู้คนหลายล้านรายที่หลับไปชั่วคราวอย่างไม่เห็นแก่ได้ แต่เหล่าผู้จัดการกองทุนยังเป็นลูกหลานของเขาอีกด้วย

ในฐานะที่เป็นบรรพบุรุษของตระกูลลู่ ลู่โจวรู้สึกว่าชื่อของเขายังมีสถานะที่มั่นใจได้ในใจของพวกเขา…

วันต่อมาหลังจากงานเลี้ยงจบลง ลู่โจวมอบหมายการทำงานบ้านให้กับเสี่ยวไอ เขาออกจากบ้านมาแต่เช้าตรู่และขึ้นรถไฟรางเบาเพื่อไปยังเมืองมหาวิทยาลัยที่อยู่บริเวณชานเมืองของจินหลิง

นี่เป็นสิ่งที่แตกต่างจากตอนที่เขาได้มาที่นี่ครั้งสุดท้าย

ย้อนไปในตอนนั้นเขาใช้ใบหน้าของคนแปลกหน้าโดยสมบูรณ์และมาที่นี่แบบไม่เปิดเผยชื่อ

แต่ในตอนนี้ เขามายืนอยู่ที่นี่อีกครั้งในฐานะของลู่โจว แม้ว่าทัศนียภาพตรงหน้าเขาและภาพในความทรงจำของเขาจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ทุกอย่างของที่นี่ก็ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยเป็นพิเศษ

“กลับมาที่นี่อีกครั้ง…”

ลู่โจวมองไปที่สนามหญ้า โดรนทำสวนกำลังตัดแต่งดอกไม้และนักศึกษาหนุ่มสาวกำลังเดินอยู่บนถนนที่ปูด้วยอิฐที่เป็นหิน เขาสูดอากาศอันหอมอบอวลที่ผสมกับความรู้เข้าไปลึกๆ แล้วก้าวออกจากประตูของสถานีรถไฟรางเบา

ในเวลาเดียวกันนั้น หน้าจอโฮโลแกรมซึ่งลอยอยู่กลางอากาศก็เข้ามาสู่สายตาของเขา

[เรายินดีต้อนรับนักวิชาการลู่กลับบ้าน!]

ถึงยุคนี้แล้วยังมีป้ายประกาศในมหาวิทยาลัยอยู่อีกเหรอ?

ลู่โจวมองดูบรรทัดตัวอักษรพวกนั้น เขาอดที่จะแสดงความรู้สึกเศร้าออกมาทางสายตาไม่ได้

บ้าน…

จะว่าไปแล้วที่นี่คือสถานที่ที่ควรค่ามากที่สุดสำหรับเขาในการเรียกว่าบ้าน

“คุณ… คุณคือนักวิชาการลู่ใช่ไหมครับ?!”

ชายสูงวัยที่กำลังยืนคอยอยู่ตรงทางเข้าของสถานีรีบเดินเข้ามาหาเขาแล้วจับมือขวาของเขาด้วยความตื่นเต้น

ลู่โจวรู้สึกว่าชายสูงวัยคนนี้ดูคุ้นตาอยู่บ้าง แต่เขาก็บอกไม่ได้ว่าเคยเจอกันที่ไหนมาก่อน

ลู่โจวพูดพร้อมกับยิ้ม “ขอโทษนะครับ คุณคือ?”

ชายสูงวัยพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ฉินฉวน! นักวิชาการของสถาบันวิทยาศาสตร์พาน-เอเชียน คณบดีของสถาบันการศึกษามหาวิทยาลัยจินหลิง! ผมเป็นหลานชายของลูกศิษย์ของคุณ!”

ฉินฉวน…

จำชื่อนี้ไม่ได้เลย

แต่หน้าของเขาดูคุ้นมาก

หลังจากจ้องหน้าของเขาอยู่สักพัก ทันใดนั้นลู่โจวก็โต้ตอบและถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจว่า “คุณรู้จักฉินเยว่หรือเปล่า?”

“รู้จักเหรอ? นั่นคุณปู่ของผมครับ!” ชายสูงวัยมองดูลู่โจวอย่างตื่นเต้นและพูดต่อไปว่า “ผมจำได้ว่าตอนที่ผมยังเด็ก เขามักจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับคุณให้ผมฟัง รวมถึงเรื่องที่คุณสอนเขาที่พรินซ์ตันและอิทธิพลของคุณต่อวงการคณิตศาสตร์จีน”

“เขาเป็นยังไงบ้าง… ผมหมายถึงตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่น่ะ”

“เขามีชีวิตที่ดีครับ” ชายสูงวัยพูดด้วยน้ำเสียงรำลึกถึงอดีต “ไม่กี่ปีหลังจากที่คุณจากไป เขาก็ได้รับเหรียญฟิลด์ นับแต่นั้นเขาได้ทำการวิจัยทฤษฎีต่างๆ ที่คุณทิ้งเอาไว้ หวังที่จะผลักดันพวกมันให้ก้าวหน้าต่อไป ผมยังจำได้ว่าก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ความสำเร็จของโรงเรียนแห่งความคิดลู่โจวพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ สูงยิ่งกว่าโรงเรียนแห่งความคิดเกิททิงเงนเสียอีก!”

ทันใดนั้นฉินฉวนก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วกล่าวต่อไปด้วยความรู้สึกละอายใจว่า “ผมรู้สึกอายที่จะพูด คนรุ่นพวกเราทำให้ชื่อของคุณต้องได้รับความอับอาย”

“ไม่มีทาง” ลู่โจวยิ้มปลอบใจขณะที่เขามองดูชายสูงวัยที่มีความละอายใจอยู่บนใบหน้า “อย่าดูถูกตัวเองเลย จริงๆ พวกคุณทำได้ดีมากทีเดียว”

“คุณไม่ต้องปลอบพวกเราหรอกครับ” คณบดีฉินพูดพร้อมกับถอนหายใจ “ถ้าเราทำให้คุณพอใจได้จริงๆ คุณก็คงจะไม่ผิดหวังมากตอนคุณมาที่นี่เมื่อนานมาแล้ว”

ลู่โจว “…?!”

ลู่โจวมองชายสูงวัยที่กำลังถอนหายใจด้วยใบหน้าที่สับสน ในตอนที่ลู่โจวกำลังจะถามเขาว่าทำไมเขาจึงคิดว่าเขารู้สึก ‘ผิดหวัง’ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมา

ผู้นำของกลุ่มไม่ใช่คนหนุ่มสาว แต่อายุราวๆ 50 หรือ 60 ปี เขาสวมชุดสูทอย่างเป็นทางการและผมของเขาก็หวีมาอย่างเรียบร้อย ความกระตือรือร้นบนใบหน้าของเขาไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าคณบดีฉินเลย หลังจากที่เห็นลู่โจว เขาก็ยื่นมือขวาออกมาตั้งแต่ไกล

“นักวิชาการลู่ สวัสดีครับ สวัสดี!” เขาจับมือขวาของลู่โจวอย่างกระตือรือร้นแล้วเขย่ามืออย่างแข็งขัน ชายสูงวัยที่หวีผมมาอย่างเรียบร้อยนั้นพูดอย่างตื่นเต้นว่า “เรารอมาร้อยปีแล้ว! ในที่สุดคุณก็กลับมา!”

ฉินฉวนรีบกระแอมแล้วแนะนำว่า “ท่านนี้คืออธิการบดีของมหาวิทยาลัยจินหลิงครับ ไช่หมิงรุ่ย”

“อธิการบดีไช่ ผมทราบครับ” ลู่โจวพยักหน้า เขาพูดพร้อมกับยิ้มออกมา “ยินดีที่ได้พบคุณ”

“คุณสุภาพเหลือเกิน นับเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ของเราที่ได้พบคุณ!” อธิการบดีไช่พูดต่อไปพร้อมกับยิ้ม “เราได้เก็บตำแหน่งศาสตราจารย์ของคุณมาเป็นเวลา 100 ปีแล้ว เราไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งคุณจะกลับมาจริงๆ แต่ความเคารพนับถือของเราที่มีต่อคุณไม่ได้เปลี่ยนไปเลยครับ!”

“คุณใจดีกับผมมากเกินไป” ลู่โจวกล่าวพร้อมกับยิ้ม “จริงๆ แล้ว เมื่อศตวรรษก่อนผมเป็นแค่ศาสตราจารย์ด้านคณิตศาสตร์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง คุณไม่จำเป็นต้องปฏิบัติกับผมเป็นพิธีการมากก็ได้”

ศาสตราจารย์ด้านคณิตศาสตร์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง…

นอกจากอธิการบดีไช่กับคณบดีฉินแล้ว คิ้วของกลุ่มคนที่ยืนอยู่ข้างพวกเขาต่างก็กระตุกอย่างพร้อมเพรียงกัน

อำนาจของคนคนหนึ่งสามารถจะช่วยส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยจินหลิงขึ้นไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลกได้และช่วยขับเคลื่อนศูนย์คณิตศาสตร์โลกจากอีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิกให้ก้าวหน้าได้ ถ้าเขาเป็นแค่ศาสตราจารย์ด้านคณิตศาสตร์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง แล้วพวกเขาจะเป็นอะไรได้ล่ะ?

อธิการบดีไช่เปลี่ยนเรื่องพูดแล้วผลักหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างเขาออกมา

“ผมขออนุญาตแนะนำคุณ นี่คือที่ปรึกษาของคลาสเตรียมความพร้อม ซุนหลาน อาจารย์ซุน! คนจากมูลนิธิพิทักษ์สิทธิมนุษยชนแช่แข็งได้ติดต่อเรามา คุณสามารถมาที่นี่เพื่อทำการบรรยายได้เลย เราจะช่วยคุณจัดการคอร์สเพื่ออำนวยความสะดวกให้คุณในการปรับตัวให้เข้ากับสังคมปัจจุบัน”

“ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลืออะไร คุณสามารถติดต่อผมได้โดยตรงหรือติดต่ออาจารย์ซุนก็ได้ครับ!”

อาจารย์ที่ชื่อซุนหลานน่าจะจบการศึกษาระดับปริญญาโทหรือไม่ก็ปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยจินหลิง และดูเหมือนว่าเธอน่าจะอายุประมาณ 25 ปี

ลู่โจวไม่รู้ว่าเป็นเพราะขาดประสบการณ์ในการทำงานหรือเหตุผลอื่นๆ แต่เขารู้สึกเหมือนเธอดูออกจะกลัวเขามากๆ

“คุณลู่ สวัสดีค่ะ นักวิชาการลู่! ฉ-ฉันชื่อซุนหลาน ดีใจที่ได้พบคุณนะคะ ฉันจะส่งอีเมลเกี่ยวกับคลาสเรียนต่างๆ และคอร์สไปให้คุณทางอีเมลทีหลัง…”

เธอยื่นมือขวาที่สั่นระรัวออกมาขณะที่เสียงของเธอเริ่มเบาลงเรื่อยๆ

“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบคุณเช่นกัน”

เนื่องจากไม่อยากให้เธอรู้สึกอายมากเกินไป หลังจากลู่โจวจับมือทักทายกับเธออย่างรวดเร็วแล้ว เขาจึงหันไปมองอธิการบดีไช่แทน

“ผมจะติดต่อเธอไปในเรื่องคอร์ส แต่ก่อนอื่นถ้าผมจะขออะไรเล็กๆ น้อยๆ ได้ไหม?”

อธิการบดีไช่พูดขึ้นทันทีว่า “โอ้ คุณไม่ต้องสุภาพมากหรอกครับ ถ้าคุณต้องการอะไร แค่เพียงขอเรามา เราจะช่วยเหลือคุณอย่างดีที่สุดเลย!”

“จริงๆ ก็ไม่มีอะไรพิเศษหรอกครับ” ลู่โจวพูดพร้อมกับยิ้มอย่างเขินอาย “ตอนที่ผมตรวจสอบข้อมูลเมื่อคืน ผมได้รู้มาว่ามหาวิทยาลัยจินหลิงมีห้องปฏิบัติการวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย นั่นเป็นเรื่องจริงใช่ไหมครับ?”

“จริงครับ” ก่อนที่อธิการบดีไช่จะได้พูด ชายสูงวัยคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ด้านหลังเขาก็พูดขึ้นอย่างภูมิใจว่า “พวกเรามหาวิทยาลัยจินหลิงอาจจะไม่ได้เป็นมหาวิทยาลัยด้านวัสดุศาสตร์ที่ดีที่สุดในโลก แต่อย่างน้อยเราก็ติดหนึ่งในสามอันดับ โดยเฉพาะในสาขาวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณ!”

“จริงเหรอ? เยี่ยมไปเลย”

หลังจากได้ยินข่าวนี้ ลู่โจวก็อดที่จะยิ้มอย่างจริงใจออกมาไม่ได้

“บังเอิญว่าผมเกิดความคิดที่น่าสนใจบางอย่างที่ผมอยากจะตรวจสอบความจริง ไม่ทราบว่าผมจะขอใช้ห้องปฏิบัติการของคุณหน่อยได้ไหมครับ”