ตอนที่ 1924 เป็นอย่างที่คิดจริงด้วย
เหยียนหมิงซุ่นขังตัวเองอยู่ในห้องครึ่งชั่วโมงแล้วลูบหน้าทีหนึ่งก่อนจะออกมา เขาจะให้เวลาตัวเองอ่อนแอไม่เกินครึ่งชั่วโมง ในครึ่งชั่วโมงนี้เขาสามารถเผยมุมอ่อนแอได้และร้องไห้ได้…
แต่ผ่านช่วงเวลาครึ่งชั่วโมงนี้ไปเขาจะกลับมาเป็นเหยียนหมิงซุ่นผู้แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าอีกครั้ง
จะไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อความลำบากเด็ดขาด!
ตอนนี้เฉินซานไม่อยู่ในประเทศเพราะนับตั้งแต่เกิดการจัดระเบียบใหม่ขึ้นในเมืองหลวง เฉินซานก็เก็บตัวมากกว่าเดิม อีกทั้งใช้เวลากว่าครึ่งปีอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
เขาซื้อฟาร์มขนาดใหญ่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเอาไว้ซึ่งปกติจะใช้ชีวิตอยู่ในฟาร์ม เลี้ยงวัวเลี้ยงแกะเลี้ยงไก่เลี้ยงเป็ดและปลูกผัก ใช้ชีวิตเรียบง่ายกับพืชผักในชนบท
หลังจากเฉินหมิงตายเฉินซานก็เอาแต่ใช้ชีวิตอยู่ในฟาร์มเสียส่วนใหญ่ ขณะที่กิจการในประเทศก็ปล่อยให้ลูกน้องเป็นคนจัดการดูแลทั้งหมดราวกับปลดเกษียณไปแล้วอย่างไงอย่างนั้น
เดิมทีเหยียนหมิงซุ่นคิดว่าการที่เฉินซานใช้ชีวิตเช่นนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดี ขนาดเขายังคิดไว้ว่าอนาคตรอเฉินซานแก่เฒ่าเขาจะเลี้ยงดูและเป็นคนจัดการเรื่องงานศพให้เฉินซานเอง
ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีวันลืมบุญคุณในการชี้ทางชีวิตของเฉินซานกับเฉินหมิงไปตลอดชีวิต!
แต่ตอนนี้…
เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจเย้ยตัวเองทีหนึ่งแล้วโทรหาเสี่ยวกัว หรือก็เป็นศัตรูหัวใจของเฉินซานนั่นเองซึ่งอีกฝ่ายเป็นถึงนักสืบผู้โด่งดัง
เสี่ยวกัวแต่งงานกับเถ้าแก่เนี้ยโรงน้ำชาผู้งดงามแล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่น่าเสียดายที่ไม่มีลูกด้วยกัน
แต่เสี่ยวกัวกลับไม่ใส่ใจเท่าไรเพราะความรักของเขากับเถ้าแก่เนี๊ยยังหวานแหววดี ในหนึ่งปีเขาจะเลือกทำงานเพียงครึ่งปี ส่วนเวลาที่เหลือสองสามีภรรยาจะออกไปท่องเที่ยวด้วยกัน คาดว่าอีกไม่กี่ปีพวกเขาคงท่องโลกครบทุกประเทศแล้ว
ระยะนี้สองสามีภรรยาเสี่ยวกัวอยู่เมืองหลวงพอดี แถมยังได้ข่าวว่าเพิ่งกลับมาจากการพักร้อนที่ฮาวาย
“ยินดีต้อนรับการมาเยือนของคุณชายหมิง!” เสี่ยวกัวยิ้มตาหยีมองเหยียนหมิงซุ่นที่เดินเข้ามาภายในโรงน้ำชา
โรงน้ำชาของสาวสวยเถ้าแก่เนี้ยดูเก่าไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับหลายปีก่อน แต่เจ้าของร้านกลับงดงามไม่เปลี่ยน วันเวลาช่างใจกว้างนักไม่ได้ทิ้งร่อยรอยอะไรไว้บนตัวเธอเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าเปล่งปลั่งอ่อนเยาว์ ดูก็รู้ว่าเป็นผู้หญิงที่มีความสุขและได้รับความรักจากคนรักอย่างเต็มเปี่ยม
เสี่ยวกัวเคยพูดคุยกับเหยียนหมิงซุ่นอยู่หลายครั้ง เขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้าหมอนี่มีช่องทางพิเศษของตัวเขาเองจริง ๆ มีบางเรื่องที่ลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นตามสืบไม่ได้แต่เสี่ยวกัวกลับตามสืบได้อย่างง่ายดาย มิน่าเขาถึงเรียกค่าจ้างราคาสูงและเข้มงวดมากแต่กลับมีเศรษฐีมากมายจ้างวานเขาไม่เปลี่ยน!
เหยียนหมิงซุ่นคร้านจะเสียเวลากับเขาเลยเอ่ยเสียงเรียบ “มีธุระมาหาคุณเกี่ยวกับเรื่องผู้สืบทอดตระกูลกัวของคุณ”
เสี่ยวกัวสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะพาเหยียนหมิงซุ่นไปยังห้องที่ค่อนข้างส่วนตัวแล้วถามด้วยเสียงร้อนรน “คุณหมายความว่ายังไง?”
การไม่มีลูกเป็นหนามยอกอกของเขากับภรรยามาโดยตลอด เขาย่อมอยากมีลูกที่น่ารักเป็นของตัวเองอยู่แล้ว แต่ในเมื่อไม่มีแล้วจะทำอย่างไรได้?
พอเวลาผ่านไปเขากับภรรยาก็เริ่มปล่อยวางพลางคิดว่าให้ทุกอย่างเป็นไปตามชะตากรรม หากไม่มีลูกจริง ๆก็บ่งบอกได้ว่าพวกเขาไม่มีวาสนาเรื่องลูกและคงจะฝืนชะตาไม่ได้!
เหยียนหมิงซุ่นเองก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงลงมือไวปานสายฟ้า ขณะที่เสี่ยวกัวยังไม่ทันตั้งตัวดีก็ถูกเหยียนหมิงซุ่นจับถอดเสื้อผ้า ทำเอาเขาตกใจรีบกำขอบกางเกงไว้แน่น
โอ้โฮ…หรือว่าคุณชายหมิงก็เหมือนเจ้าเฮ่อเหลียนเช่อที่เอาได้ทั้งชายทั้งหญิงกันนะ?
แต่เขาทั้งแก่ทั้งขี้เหร่ คุณชายหมิงจะทำได้ลงคอหรือ?
แม้แต่ตัวเขาเองยังรังเกียจตัวเองเลยนะ
“คุณชายหมิง มีอะไรค่อย ๆคุยกันดีกว่า อย่าลงไม้ลงมือกันสิ ผมกับเมียยังรักกันดีนะ…”
เสี่ยวกัวจับขอบกางเกงไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เขาไม่อยากเป็นรุกและยิ่งไม่อยากเป็นรับ!
เหยียนหมิงซุ่นถลึงตาใส่เขาอย่างนึกรังเกียจแวบหนึ่งแล้วยื่นมือกระชากจนขอบกางเกงหลุดจากการกอบกุมของมือเสี่ยวกัวจนเผยให้เห็นบั้นท้ายสุดอวบอั๋น เสี่ยวกัวรู้สึกเย็นวาบตรงก้น แต่หัวใจกลับเย็นวาบยิ่งกว่าธารน้ำแข็ง
ความบริสุทธิ์ของเขา…
เมียจ๋า เขาขอโทษด้วยนะ!
พอเหยียนหมิงซุ่นเห็นรอยสีแดงจาง ๆตรงข้างเอวของเสี่ยวกัวก็พรูลมหายใจออกอย่างโล่งใจ เป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ด้วย
………………….
ตอนที่ 1925 อยากมีลูกชายก็ทำตามคำสั่งแต่โดยดี
เสี่ยวกัวรออยู่พักใหญ่ก็ไม่เห็นเหยียนหมิงซุ่นจะทำอะไรเลยเผลอโล่งอกอย่างห้ามไม่ได้ แต่การอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบนทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัยเลย
“คุณชายหมิง…แบบนี้มันหนาวนะ ผมใส่เสื้อได้ไหม?” เสี่ยวกัวถามด้วยความระแวง
“คุณรู้ไหมว่าทำไมคุณถึงไม่มีลูก?” เหยียนหมิงซุ่นโพล่งถามกะทันหัน
เสี่ยวกัวชะงักไป จากความปราดเปรื่องของเขาก็ยังเดาไม่ถูกว่าคุณชายหมิงหมายถึงอะไรจึงตอบไปตามตรงหลังผ่านการครุ่นคิดว่า “น่าจะเพราะบุญวาสนาไม่ถึงมั้ง!”
เหยียนหมิงซุ่นแค่นหัวเราะเยาะเย้ยทีหนึ่งพลางชี้ตรงรอยแดงข้างเอวเขาว่า “วาสนา? เหอะ…คุณไปส่องกระจกเองเถอะ!”
เสี่ยวกัวใจหล่นวูบและเริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆจึงไม่คิดจะใส่เสื้อผ้า แต่เลือกจะหยิบกระจกบานเล็กเท่าฝ่ามือจากลิ้นชักออกมาส่อง รอยแดงจาง ๆลักษณะคล้ายตัวพยาธิปรากฏขึ้นในดวงตา หากเหยียนหมิงซุ่นไม่เตือนเกรงว่าเขาคงไม่เห็นมันไปจนวันตาย
“นี่มันพิษอะไร? ฉันไม่มีลูกก็เพราะอันนี้เหรอ?”
สมแล้วที่เสี่ยวกัวเป็นถึงนักสืบที่ผ่านโลกมามากมาย ไม่นานเขาก็สงบจิตใจลงพร้อมสวมเสื้อผ้าอย่างใจเย็นแล้วถึงเอ่ยถามเหยียนหมิงซุ่น
“นี่คือพิษกู่หักสวาท เป็นพิษกู่ชนิดหนึ่งที่ขาดการสืบทอดแล้วในเหมียวเจียงและไม่มียาถอนพิษด้วย ผู้ชายที่โดนวางยาพิษชนิดนี้จะทำให้มีลูกไม่ได้แล้วยังแพร่ให้ภรรยาอีกต่างหาก ถ้าภรรยาคิดถึงสามีเมื่อไรก็จะปวดหัวจนยากจะทนไหว”
เหยียนหมิงซุ่นพูดถึงผลกระทบของพิษกู่หักสวาทชนิดนี้ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง และขณะนี้เขาสามารถมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่าคนที่ทำกู่ใส่ก็คือเฉินซาน เขากับเสี่ยวกัวรู้จักคนในประเทศไม่มากซึ่งเฉินซานเป็นหนึ่งในบรรดาเหล่านั้น อีกอย่างเฉินซานเป็นศัตรูหัวใจของเสี่ยวกัว เขาจึงมีเหตุจูงใจให้ทำเช่นนี้ได้
เสี่ยวกัวสีหน้าเปลี่ยนไปพาลนึกถึงอาการปวดศีรษะหลังแต่งงานของภรรยาที่ดูจะอาการสาหัสขึ้นเรื่อย ๆ ตอนไปตรวจที่โรงพยาบาลก็ไม่พบสาเหตุแต่พอปวดทีไรก็เหมือนตายทั้งเป็นทุกที
นอกจากนี้ทุกครั้งที่ภรรยาอาการกำเริบมักจะเป็นช่วงที่เขาออกไปทำงาน ด้วยเหตุนี้ทำให้ช่วงสองปีที่ผ่านมาเขาลดปริมาณงานลง ส่วนงานไหนที่ยกเลิกไม่ได้ก็จะพาภรรยาไปทำงานด้วย
ไม่คิดว่าเขาจะลอบโดนทำกู่ใส่เสียได้–
“ไอ้สารเลวคนไหนเป็นคนทำ? ฉันจะฆ่ามันมาดองซะ!” เสี่ยวกัวนึกแค้นใจจนดวงตาแดงก่ำ
กล้าทำให้วงศ์ตระกูลของเขาขาดผู้สืบทอดตระกูล เขาจะทำให้ไอ้สารเลวนั่นใช้การไม่ได้เลย เอาให้อกแตกตายไปเลย!
“เฉินซาน”
เหยียนหมิงซุ่นตอบเสียงเรียบ เสี่ยวกัวตกตะลึงก่อนเป็นอันดับแรกก่อนจะบันดาลโทสะสบถออกมา “ให้ตายเถอะ…ฉันจะไปจัดการมันที่อเมริกา!”
เขานึกอยู่แล้วเชียวว่าไอ้คนสกุลเฉินไม่ใช่คนดี แต่ภรรยากลับบอกว่าเฉินซานเคยช่วยเหลือเธอไว้ไม่น้อยไม่อย่างนั้นหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอจะสามารถเปิดโรงน้ำชาที่เมืองหลวงได้อย่างราบรื่นหรือ
แต่ความรักไม่เท่ากับบุญคุณ เฉินซานช่วยเหลือภรรยาของเขามามากมายแต่ใช่ว่าภรรยาของเขาจะต้องยอมสละตัวเองเพื่อตอบแทนเขาเสียหน่อย
เฉินซานดีกว่าเขาตรงไหน?
การที่ภรรยาเลือกเขาสิเรียกว่าฉลาด!
“จะไม่พูดเรื่องไร้สาระแล้วกัน ผมมีงานให้คุณทำ” เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงเย็นชา
เสี่ยวกัวฉุกคิดบางอย่างขึ้นได้ “ไม่ใช่ว่าคุณเองก็โดนลอบทำกู่ใส่เหมือนกันหรอกนะ?”
เหยียนหมิงซุ่นทำหน้าเรียบเฉยแต่อุณหภูมิภายในห้องกลับลดลงหลายสิบองศา เสี่ยวกัวเสียวสันหลังวาบรีบโบกมือเป็นพัลวันแล้วเอ่ยพึมพำ “ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น คุณจะให้ผมทำอะไรเหรอ?”
“ตามหารูปถ่ายในระยะเวลาสามสิบปีที่ผ่านมาของเฉินซานมาให้หมด มีมากเท่าไหนก็เอามาเท่านั้น”
เสี่ยวกัวชะงักไปสามวินาทีแล้วลอบด่าเหยียนหมิงซุ่นในใจก่อนจะถามด้วยความฉงนว่า “คุณมีลูกน้องคนเก่งเยอะแยะไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่ให้พวกเขาไปทำล่ะ?”
“พวกเขามีงานสำคัญกว่านี้ให้ทำ เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ไม่จำเป็นต้องไปเสียเวลาพวกเขาแล้ว” เหยียนหมิงซุ่นตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
เสี่ยวกัวสบถคำหยาบในใจหลายประโยคแต่เขาไม่กล้าขัดเหยียนหมิงซุ่นเลยได้แต่พูดเสียงอ่อย “กฎของผมคุณก็รู้ดีนี่ว่าจ่ายเงินก่อนถึงจะเริ่มเดินงาน ไม่ให้ค้างจ่ายหรือผ่อนจ่ายด้วยนะ”
“ถ้าคุณยังอยากมีลูกชายก็ทำตามที่ผมบอกซะดี ๆ ไม่อย่างนั้นคุณก็รอตายอย่างเดียวไม่มีลูกหลานสืบตระกูลต่อไปแล้วกัน!” เหยียนหมิงซุ่นแค่นหัวเราะ คิดจะขอเงินจากเขาหรือ?
เสี่ยวกัวกึ่งเชื่อกึ่งสงสัยแต่ก็ยอมเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริงมากกว่าเป็นเรื่องโกหก เพื่อลูกชายเขาจึงยอมไปทำงานแต่โดยดีไม่กล้าปริปากบ่นสักคำ!
……………………….