ตอนที่ 2643 แดนสวรรค์ใต้

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“ผะ…ผู้อาวุโส เมื่อครู่ข้าได้ลบหลู่ท่านไปมากแล้ว!” หวงห่าวหยานนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดขาว

พลังฝีมือที่เย่หยวนแสดงออกมาทำให้เกิดความกลัวหนักหน่วงขึ้นมาในหัวใจของเขา

คิดย้อนกลับไปว่าพวกเขาทั้งหลายวางท่าใหญ่โตต่อหน้าคนเช่นนี้แล้วย่อมจะไม่ต่างอะไรจากการรนหาที่ตาย

ส่วนตัวเย่หยวนเองก็ย่อมจะไม่คิดลดตัวไปถือสาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ “ที่นี่คือที่ใดกัน?”

หวงห่าวหยานนั้นรีบตอบกลับมา “ที่นี่ทะเลหนามใต้ขอรับ”

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยิน “ทะเลหนามใต้? มันห่างจากดินแดนสวรรค์ห้าแสงแค่ไหนกัน?”

นี่มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินนามนี้แต่เย่หยวนเองก็ทราบดีว่าดินแดนกว้างใหญ่อย่างทวีปพิรุณใสนั้นย่อมจะไม่ได้อยู่ใต้การปกครองของห้ายอดแดนสวรรค์หมดสิ้น

ชายแดนของทวีปพิรุณใสนั้นเป็นทะเลกว้างไกลสุดสายตา

และทะเลกว้างใหญ่นั้นเป็นดินแดนต้องห้ามของเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายบนทวีป

เพราะว่าในทะเลนั้นมันมีสิ่งมีชีวิตทรงพลังอยู่มากมาย!

แม้แต่เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนเองก็ยังไม่อาจจะข้ามทะเลนั้นไปได้เช่นกัน

เพราะว่าในทะเลนั้นเองมันก็มีตัวตนที่พลังเทียบเคียงได้กับชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนอยู่

เย่หยวนนั้นไม่นึกฝันว่าทะเลที่เขาตกลงมานี้จะกลายเป็นพื้นดินสุดแดนกว้างไกลเช่นนี้!

เพียงแค่ว่าเขานั้นไม่รู้เลยว่าทะเลนี้มันอยู่ ณ ที่ใดของทวีปพิรุณใสและมันห่างจากดินแดนสวรรค์ห้าแสงเพียงใด

เย่หยวนนั้นกังวลเรื่องสภาพของดินแดนสวรรค์ห้าแสงอย่างมากแม้ว่าเขานั้นจะเข้าใจดีว่าดินแดนสวรรค์ห้าแสงและชายแก่ชุดดำคนนั้นคงมีโอกาสรอดได้ยากแต่เขาก็ยังไม่อยากยอมแพ้จนกว่าจะได้เห็นกับตา

เพียงแค่ว่าเมื่อเขาตกลงมาในทะเลกว้างเช่นนี้แล้วเขายังจะไปถามหาข้อมูลจากที่ใดได้?

“ดินแดนสวรรค์ห้าแสงหรือ? นั่นมันใจกลางแผ่นดินเลย อย่างน้อยๆ ก็ต้องใช้เวลาเดินทางหลายสิบปีทีเดียว! ที่สำคัญไปกว่านั้นยังมีเขาหมื่นอสูรขวางกั้นเอาไว้อยู่ด้วย! ผู้อาวุโสมาจากดินแดนสวรรค์ห้าแสงหรือ?” หวงห่าวหยานถามขึ้นมา

ในเขาหมื่นอสูรนั้นมันมีภูติแท้อยู่มากมายนับไม่ถ้วน!

ภูติแท้ระดับชั้นบรรยากาศสวรรค์จักพรรดิหยกเองก็มีไม่น้อยเช่นกัน

หวงห่าวหยานไม่อาจจะจินตนาการได้เลยว่าเย่หยวนจะเดินทางมาจากดินแดนสวรรค์ห้าแสงได้อย่างไร

แม้ว่าเขาจะเอาชนะกองทัพเงือกได้ด้วยตัวคนเดียวแต่ก็ย่อมจะไม่มีทางเอาชนะภูติแท้ระดับชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำหรือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกได้แน่

ยิ่งได้ยินได้ฟังเช่นนั้นตัวตนของเย่หยวนก็ยิ่งดูลึกลับมากขึ้นไปทุกที

เมื่อตัวเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็เองก็ต้องรู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ

เส้นทางที่ต้องใช้เวลากว่าสิบๆ ปีมันย่อมจะเป็นระยะทางที่ไกลลิบ!

ด้วยความเร็วของเขาในตอนนี้แล้วจะเดินทางวันละแสนกิโลเมตรมันก็มิใช่เรื่องยากอะไร

เพียงแค่ว่าหากต้องทำเช่นนั้นนับสิบๆ ปีย่อมจะหมายความว่าระยะทางนั้นต้องมากกว่าร้อยล้านกิโลเมตรแน่แล้ว!

เย่หยวนนั้นไม่คิดตอบคำถามของหวงห่าวหยานแต่ถามขึ้นมาแทน “ดูจากชุดของเจ้าแล้วเจ้าคงไม่ได้เป็นคนของเผ่าทะเลแน่ หรือว่าดินแดนที่เจ้าอาศัยอยู่นี้จะไม่ได้อยู่ใต้การปกครองของห้ายอดแดนสวรรค์หรือ?”

หวงห่าวหยานพยักหน้ารับ “ห้ายอดแดนสวรรค์นั้นปกครองพื้นที่กว่าร้อยละแปดสิบของทวีปพิรุณใสแต่แดนสวรรค์ใต้ของเรานั้นกินพื้นที่ที่เหลืออีกราวร้อยละยี่สิบนั้น อ่า…ข้าได้ยินพ่อข้าบอกว่ามาคนในทวีปนั้นจะเรียกแดนสวรรค์ใต้เราว่าแดนเถื่อนใต้ พวกเราทั้งหลายนั้นคือคนจากเมืองสงบทักษิณ เมืองใต้สุดของแดนสวรรค์ใต้นี้”

หากพูดถึงแดนเถื่อนใต้ขึ้นมาเย่หยวนก็ย่อมจะเคยได้ยินมาบ้าง

ตอนที่เขาอยู่ในนิกายสวรรค์ยุทธมั่นเขาย่อมจะอ่านหนังสือบันทึกมากมาย หนึ่งในนั้นก็ได้เขียนถึงแดนเถื่อนใต้นี้ไว้ด้วย

มีตำนานกล่าวกันว่าแท้จริงแล้วการหายตัวไปของโฉปู้ฉุนนั้นเกิดขึ้นมาเพราะเขานั้นคิดจะเดินทางออกทะเลไปจากเมืองเถื่อนใต้และจนทุกวันนี้เขาก็ยังไม่กลับมาที่ดินแดนสวรรค์ห้าแสง!

เพียงแค่ว่าตำนานเช่นนี้หลายๆ คนย่อมจะไม่คิดเชื่อถือมากมายนัก

เพราะจะอย่างไรเสียก็มียอดฝีมือมากมายในเผ่าทะเล

เพียงแค่ว่าห้ายอดแดนสวรรค์และแดนสวรรค์ใต้นั้นถูกขวางกั้นไว้ด้วยเขาหมื่นอสูรทำให้ข่าวสารใดๆ ไม่ค่อยจะเดินทางผ่านไปได้มากนัก

เย่หยวนนั้นรู้จักเขาหมื่นอสูร

ในเขาลูกนั้นมีภูติแท้อยู่นับไม่ถ้วนและยังจะมียอดฝีมือที่พลังเทียบเคียงกับเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกมากกว่าฝ่ายมนุษย์เสียด้วย

เย่หยวนได้ยินมาว่าแม้แต่ภูติแท้ที่พลังเทียบเคียงได้กับยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนเพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนพวกเขาล้วนแล้วแต่จะไม่คิดยุ่งเกี่ยวกับเขาหมื่นอสูรนี้ให้มากมายนัก

แม้แต่เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกเองก็ยังไม่กล้าจะข้ามเขาหมื่นอสูรนี้ไป

มีเพียงเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนเท่านั้นที่จะกล้าข้ามเขาลูกนี้ไป

ตัวเย่หยวนเองก็ไม่คิดฝันว่าหลังจากลอยมาตามกระแสมิตินานสองนานสุดท้ายกลับถูกโยนลงทะเลมาเช่นนี้

แต่ที่นี่มันก็ไม่เลวเช่นกัน

อย่างน้อยๆ พันธมิตรโอสถก็จะตามมาล่าหัวเขาในที่แห่งนี้ไม่ได้

แต่ปัญหานั้นคือเขาไม่อาจจะแก้แค้นใดๆ คืนได้ในตอนนี้

ด้วยกำลังฝีมือของเขาในตอนนี้ย่อมจะไม่มีทางข้ามเขาหมื่นอสูรไปได้

หรือว่าเขาต้องอยู่บ่มเพาะที่นี่จนถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนก่อนจึงจะกลับไปได้?

ถึงเวลานั้นเขาย่อมจะไม่ต้องเกรงกลัวพันธมิตรโอสถใดๆ เว้นเสียแต่ว่ามันต้องใช้เวลานานแค่ไหนกัน?

ตอนที่เย่หยวนลอยมาตามกระแสมิตินั้นเขาได้คิดหาทางที่จะแก้แค้นไว้มากมาย

เขาเชื่อมั่นว่าตราบเท่าที่เขาซ่อนตัวอยู่ในเงามืดเขาย่อมจะสร้างความเสียหายให้การค้าของพันธมิตรโอสถได้ไม่น้อย! แต่เวลานี้แผนการใดๆ มันย่อมจะไร้ความหมาย

เห็นสีหน้าเครียดเช่นนั้นของเย่หยวนพร้อมด้วยความคับแค้นในดวงตาตัวหวงห่าวหยานก็แทบจะไม่กล้าหายใจ

จนสุดท้ายเย่หยวนก็ถอนหายใจยาวออกมา “ในเมื่อมาถึงแล้วก็อยู่เสียหน่อยแล้วกัน! พาข้าไปที่เมืองสงบทักษิณเถอะ!”

หวงห่าวหยานนั้นผงะไปทันทีที่ได้ยินก่อนจะกล่าวถามขึ้นมา “ผู้อาวุโสท่านคิดจะไปเมืองสงบทักษิณหรือ?”

“ทำไมเล่า? ข้าไปไม่ได้หรือ?” เย่หยวนถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

หวงห่าวหยานนั้นรีบส่ายหัวตอบกลับมาทันที “ไม่ๆ! แน่นอนว่าท่านยอมไปได้! หากผู้อาวุโสท่านอยากไปเราย่อมพร้อมไปส่ง”

มีหรือที่เขาจะกล้าขัดเย่หยวนในตอนนี้? หวงห่าวหยานนั้นได้แต่รีบตอบรับมา

ระหว่างทางไปเย่หยวนก็ได้ถามถึงเรื่องราวของแดนสวรรค์ใต้นี้

เมืองสงบทักษิณนั้นป็นหนึ่งในหัวเมืองใหญ่ที่มีกำลังไม่น้อย

เหล่ายอดฝีมือในดินแดนนี้มักจะถูกโจมตีจากเผ่าทะเลอยู่เรื่อยๆ ทำให้ในดินแดนนี้มันไม่มีใครว่างมาแบ่งแยกระหว่างคนถิ่นกับผู้บรรลุสวรรค์

ตราบเท่าที่แข็งแกร่งพวกเขาก็จะรอดและได้รับการยอมรับ ไม่มีการแบ่งแยกดูถูกผู้บรรลุสวรรค์ใดๆ ในที่แห่งนี้

เย่หยวนเองก็เข้าใจได้เพราะว่าเผ่าทะเลนั้นแข็งแกร่งกันอย่างมาก!

ทั้งเหล่าภูติแท้เผ่าทะเลนั้นยังมีมากมายล้นเหลือจะรับมือ ต่อให้จะตามการนำของมนุษย์ไปก็ยังไม่แน่ว่าเผ่าพันธุ์ต่างๆ บนบกจะเอาชีวิตรอดได้

เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นคนถิ่นหรือผู้บรรลุสวรรค์พวกเขาต่างก็ต้องร่วมมือกันต่อต้านเผ่าทะเลทำให้ไม่มีเวลามาสนใจแบ่งแยกกันว่าใครเป็นเจ้าใครเป็นบ่าว

แม้ว่าในทะเลนั้นจะมีสมบัติมากมายแต่ชีวิตของเผ่าทะเลมันก็ลำบากกว่าผู้คนบนบกมาก

เพราะฉะนั้นเหล่าภูติแท้เผ่าทะเลทั้งหลายจึงมักจะขึ้นมาโจมตีเมืองกันบ่อยๆ

เป้าหมายของพวกมันย่อมจะมิใช่อะไรนอกจากการปล้นชิงทรัพยากรและสมบัติจากมนุษย์

ที่สำคัญไปกว่านั้นภูติแท้เผ่าทะเลนั้นยังกระหายเลือดอย่างมาก ที่ใดที่พวกมันเข้าปล้นนั้นมันจะต้องมีการนองเลือดเสมอ

เพราะฉะนั้นเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายจึงได้วางท่าเป็นปฏิปักษ์กับภูติแท้เผ่าทะเลเสมอมา

แต่ทะเลอันกว้างใหญ่นั้นมันก็เป็นดินแดนที่เหมาะสมแก่การฝึกฝนอย่างมาก

เพราะฉะนั้นยอดฝีมือของหลายๆ เผ่าจึงมักจะส่งคนไปในทะเลเป็นกลุ่มเพื่อล่าสมบัติและเพื่อฝึกฝนฝีมือ

พวกหวงห่าวหยานทั้งหลายนั้นเองก็ออกเดินทางมาเพื่อฝึกฝนตัว

เพียงแค่ว่าพวกเขาก็ไม่นึกฝันว่าจะเกิดเรื่องราวใหญ่โตเช่นนั้นขึ้นมา

“หากพวกเจ้าแค่ขโมยสมบัติมาแล้วพวกเงือกเองมันก็คงไม่โกรธเคืองจนถึงขั้นยอมตายเช่นนี้แน่ พวกเจ้าไปขโมยอะไรยิ่งใหญ่มาหรือ?” เย่หยวนถามขึ้น

หวงห่าวหยานนั้นส่ายหัวออกมา “มันมีของดีอยู่ไม่น้อยแต่มันก็ไม่ได้มีสมบัติล้ำค่ามากมายอะไร!”

เย่หยวนจึงตอบกลับไป “เอามาดู!”

หวงห่าวหยานและพวกย่อมจะไม่กล้าขัดเย่หยวนและเอาสมบัติที่ได้มาวางกองไว้จนแทบถมได้ครึ่งดาดฟ้าเรือ

เมื่อเย่หยวนได้เห็นเช่นนี้เขาก็อดยกมือขึ้นมากุมขมับไม่ได้

คนทั้งหลายนี้ช่างสร้างปัญหาได้มากมายเสียจริง!

หลังจากขโมยสมบัติมามากมายปานนี้แล้ว หากอีกฝ่ายไม่คิดไล่ตามจนชีวิตหาไม่สิมันถึงจะแปลก!

โชคยังดีที่ชาวเงือกไม่ได้นับว่าแข็งแกร่งมากมายทำให้เย่หยวนคนเดียวก็พอจะรับมือมันได้

หากมันมียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำติดตามมาด้วยแล้วเย่หยวนคงไม่คิดเข้าแต่สู้และหนีหายไปคนเดียวแน่

หลังจากตรวจสอบดูแล้วเย่หยวนก็ไม่ได้พบเจอว่ามีสมบัติล้ำค่าใดๆ มากมาย

แต่มันก็มีหลายสิ่งที่เย่หยวนพอจะยอมรับได้ว่ามันไม่เลว

หนึ่งในสิ่งที่ต้องตาเย่หยวนนั้นคือสิ่งของบางอย่างที่มีรูปร่างเหมือนเปลือกหอยสังข์