ทางเข้าและห้องนั่งเล่นถูกระเบิดทำลายจนหมด และระเบียงยังกลายเป็นสีดำเพราะเปลวไฟจากการระเบิด ถึงแม้ลู่โจวจะยังสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ แต่เขาก็คงจะไม่กล้าอยู่ที่นี่ต่อ

มันไม่ใช่ว่าเขาอยากจะตายใช่ไหม?

อันที่จริงลู่โจวก็ยังคิดไม่ออกว่าใครที่จะเกลียดชังเขาได้มากขนาดนั้น

ฆาตกรรอจนกระทั่งเขาฟื้นคืนตัวตนขึ้นมาและเปิดเผยหุ้นในบริษัทของเขา อย่างเช่น อีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ อีสต์เอเชียเฮฟวีอินดัสตรีส์ อีสต์เอเชียคอมมิวนิเคชั่น และอื่นๆ อีกมากมาย จากนั้นเขาก็เริ่มทำการพยายามลอบสังหารลู่โจว

เขาเชื่อว่าเรื่องนี้จะต้องทำร่วมกับสมาชิกคณะกรรมการบริหารของบริษัทเหล่านี้

แน่นอนว่าหลี่กวงหยาก็ยังน่าสงสัยอยู่เล็กน้อย

แต่อย่างไรก็ตามลู่โจวก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน ถ้าผู้ชายคนนั้นอยากจะให้เขาตายจริงๆ เขาก็คงจะไม่ยอมเดินทางจากปักกิ่งเพื่อมาพูดคุยกับเขาเป็นพิเศษ

อีกอย่างคือถ้าเขาถูกฆ่าจริงๆ หลี่กวงหยาก็น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด

ไม่เช่นนั้นแล้วผู้ชายคนนั้นก็คงจะไม่ส่งเลขานุการของเขามาทำงานในจินหลิงเพื่อมาเยี่ยมเขาในทันที

ในตอนนี้เองจู่ๆ ลู่โจวก็นึกถึงชื่อหนึ่งขึ้นมา

ผู้จัดการของซอฟต์แบงก์กรุ๊ปที่ชื่อโมรินากะดูเหมือนจะพูดไว้ว่าเขาควรจะระวังคนที่ชื่อหลิวเจิ้งซิงไว้ คนคนนั้นเป็นประธานของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้และเป็นผู้ถือหุ้นส่วนบุคคลที่ใหญ่ที่สุดถ้าไม่นับตัวเขา

หลังจากได้พิจารณาข้อดีและข้อเสียของเรื่องนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ลู่โจวก็รู้สึกว่าอาจจะเกิดปัญหาเพิ่มขึ้นได้

“หลิวเจิ้งซิง”

“บอกยาก… เจ้าโมรินากะคนนั้นก็น่าสงสัยอยู่หน่อยๆ”

ด้านในออฟฟิศที่สำนักงานวางแผนที่ดินจินหลิง

ลู่โจวซึ่งกำลังนั่งพักอยู่บนโซฟากับเสี่ยวไอกำลังครุ่นคิดกับตัวเองระหว่างที่รอข่าวจากเหว่ยซง

เขาพักอยู่ที่โรงแรมใกล้ๆ เมื่อคืนก่อนเขามาที่นี่กับเลขานุการเหว่ยเมื่อเช้านี้เพื่อจัดการเรื่องบ้าน

“เจ้านาย คุณโอเคไหม? 0.0”

“ฉันโอเคอยู่ตลอดแหละ” ลู่โจวตอบว่า “ไม่ต้องห่วงฉัน เรื่องเล็กน้อยแค่นี้คงไม่ทำให้ฉันกลัวหัวหดหรอก ฉันแค่กำลังคิดเรื่องบางอย่าง… จะว่าไป หลิงเจออะไรที่นั่นไหม?”

เสี่ยวไอส่ายหัวแล้วพูดท่าทีที่เสียใจเล็กน้อย

“หลิงบอกเสี่ยวไอว่าเขาติดตามสัญญาณและเจอห้องที่หุ่นยนต์ตัวนั้นถูกควบคุมจากทางไกล แต่ของที่อยู่ข้างในนั้นถูกเผาไปแล้ว เป็นไปได้สูงว่านี่จะเป็นการโจมตีแบบฉายเดี่ยว… เจ้านายอยากให้เขากลับมาไหม?”

“สำหรับตอนนี้บอกให้เขาหาสถานที่ไปรออยู่เฉยๆ ก่อน” ลู่โจวพูดต่อหลังจากนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง “พรุ่งนี้ตอนบ่ายไปเจอกันที่ประตูเวิร์กช็อปเล็กที่ขายอุปกรณ์เสริมหุ่นยนต์”

แม้ว่าการระเบิดในระดับนั้นจะไม่ได้ทำให้หลิงเสียหาย แต่มันก็ระเบิด ‘ผิวหนัง’ ที่ลู่โจวทุ่มเงินไปมากกับการแทนที่มัน

ด้วยเหตุนี้ หลังจากค้นพบว่าห้องนั่งเล่นของเขาถูกระเบิดไปเรียบร้อยแล้ว ลู่โจวก็เรียกตำรวจและขอให้หลิงไล่ตามแหล่งสัญญาณโดยใส่เสื้อกันฝันไปทันที

ไม่ว่าเขาจะสามารถหาเบาะแสใดๆ ได้หรือไม่ เขาก็ต้องซ่อนตัวจากสาธารณชน

เสี่ยวไอจัดการได้ง่ายกว่า หลังจากเปลี่ยนไอดีและผิวหนัง มันก็ไม่ได้ต่างไปจากหุ่นยนต์ประจำบ้านส่วนใหญ่มาก อย่างไรก็ตามเสื้อผ้ากับอาวุธของหลิงที่แขวนอยู่บนตัวเขาอาจจะยากที่จะอธิบายกับตำรวจ

มีเสียงฝีเท้าดังมาจากประตู

ไม่นานนักเหว่ยซงก็เดินเข้ามาพร้อมกับชายคนหนึ่งซึ่งใส่ชุดแบบทางการ

“นี่คือหัวหน้าเจิ้งจากสำนักงานวางแผนที่ดิน”

“สวัสดีครับ นักวิชาการลู่”

ลู่โจวมองไปยังชายผู้ซึ่งยื่นมือขวามาให้เขาแล้วเขาก็ลุกขึ้นจากโซฟาและจับมือ

“สวัสดีครับ”

“ผมได้หารือเรื่องค่าชดเชยกับทางเมืองจินหลิงแล้ว” เลขานุการเหว่ยยังกล่าวต่อไประหว่างที่มองมาทางลู่โจวผู้ซึ่งจับมืออยู่กับหัวหน้าเจิ้ง “เดิมทีตามขั้นตอนปกติ เราต้องรออย่างน้อยสามเดือนเพื่อที่จะได้รับค่าชดเชยสำหรับการระเบิด แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่ปกติ ผมจะขอให้พวกเขาจ่ายค่าชดเชยให้คุณก่อน”

“ผมได้ยินเรื่องที่คุณประสบมา” หัวหน้าเจิ้งพูดต่อระหว่างที่เขามองมาที่ลู่โจวอย่างจริงใจ “ผมเสียใจที่เรื่องนั้นเกิดขึ้น ทางเมืองจินหลิงไม่เคยมีเหตุการณ์ร้ายแรงขนาดนั้นเกิดขึ้นมาก่อนในเวลาสิบปีที่ผ่านมา ตอนนี้ฝ่ายความมั่นคงสาธารณะของกลุ่มเมืองสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียงทั้งหมดสั่นคลอน และทางเมืองจินหลิงก็ได้จัดกองกำลังตำรวจอย่างเต็มที่ให้ไปทำการสืบสวน ผมเชื่อว่าความจริงของคดีนี้จะได้รับการเปิดเผยออกมาอีกไม่นานนี้!”

“แล้วผมจะตั้งตารอข่าวดีของคุณ” ลู่โจวพูดอย่างสบายๆ เขามองมาที่เหว่ยซงซึ่งยืนอยู่ข้างเขา และพูดว่า “เออนี่ แล้วเมื่อไรผมจะได้เห็นบ้านใหม่ของผมล่ะ?”

เหว่ยซงตอบทันทีว่า “ผมได้ทำตามระเบียบแบบแผนของที่นี่เรียบร้อยแล้ว ขึ้นอยู่กับคุณเลยครับว่าจะย้ายออกตอนไหน”

“โอเคครับ” ลู่โจวพยักหน้าและมองไปที่หัวหน้าเจิ้งที่อยู่ข้างๆ “ผมคงจะไม่รบกวนพวกคุณแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ”

อันที่จริงลู่โจวไม่ได้หวังอะไรมากนักว่าคดีจะได้รับการสะสางในอนาคตอันใกล้นี้

มันไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อในวิธีการจัดการคดีของตำรวจ แต่เขารู้สึกอยู่เสมอว่าตัวตนของคนที่โจมตีเขาอาจจะไม่ใช่มือสมัครเล่น อย่างน้อยนี่ก็ไม่ใช่คดีที่ตำรวจธรรมดาจะสามารถรับมือได้

อย่างไรก็ตามเมื่อเหว่ยซงบอกเขาว่าหน่วยงานความปลอดภัยของพาน-เอเชียนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการสืบสวน ลู่โจวก็โล่งใจขึ้นเล็กน้อย

ในช่วงเวลาระหว่างนี้ เขาอาจจะไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก และเสี่ยวไอก็น่าจะยกระดับความปลอดภัยขึ้นไปถึงระดับสูงสุด

หลังจากจัดการตั้งถิ่นฐานของบ้านเสร็จเรียบร้อย เขาก็จะตั้งกับดักง่ายๆ ไว้ใกล้บ้านของเขา

ถ้ามือลอบสังหารมาที่ประตูบ้านของเขาอีกครั้ง พวกมันคงจะไม่ได้มีช่วงเวลาที่ดีสักเท่าไร

หลังจากเหว่ยซงออกมาจากสำนักงานวางแผนที่ดิน ลู่โจวก็พาเสี่ยวไอขึ้นรถ

หลังจากขับรถมา 20-30 นาที ทุกคนก็มาถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว

อสังหาริมทรัพย์ที่ชดเชยให้แก่ลู่โจวในเมืองจินหลิงนั้นตั้งอยู่ข้างๆ เขตไฮเทคจินหลิง ซึ่งน่าจะเป็นที่ดินชานเมืองที่ใกล้ที่สุดกับเมืองจินหลิง

แม้ว่าสภาพแวดล้อมจะไม่ได้น่าพึงใจเท่ากับบนเพอร์เพิล เมาน์เทน แต่มันก็มีเขตติดต่ออยู่ใกล้เขตพื้นที่และมหาวิทยาลัย ทำให้สะดวกมากยิ่งขึ้นทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิต

แน่นอนว่าถ้าเทียบกับการวางแผนจัดสรรบ้านพัก ที่ทำงาน และความบันเทิงที่หนาแน่นในพื้นที่เขตเมือง ที่นี่ก็ดูมีชีวิตชีวาน้อยกว่านิดหน่อย

แต่สำหรับลู่โจวแล้ว สภาพแวดล้อมที่นี่เหมาะกับเขามากกว่า

เขาไม่ใช่คนประเภทที่ชอบความวุ่นวาย นอกจากการศึกษาปัญหาที่เขาสนใจแล้ว เขาก็ไม่ได้มีงานอดิเรกใดที่ทำให้เขามีความจำเป็นต้องอยู่ในเมือง

“บ้านพักแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 5,000 ตารางเมตร รวมสนามด้านหน้า สนามด้านหลัง โรงรถ สระว่ายน้ำ และสนามหญ้า ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของนายทุนท้องถิ่นคนหนึ่ง แต่ต่อมาอสังหาริมทรัพย์ก็ถูกจำนองไว้กับธนาคารท้องถิ่นเนื่องด้วยปัญหาหนี้สิน ตามขั้นตอนแบบปกติทรัพย์สินควรจะต้องผ่านการขายทอดตลาด แต่เพื่อเป็นการประหยัดเวลา ทางเมืองจินหลิงจึงทำข้อตกลงกับเขาและธนาคารเพื่อที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์จากเขาโดยตรงในรูปแบบของการหักล้างหนี้”

เลขานุการเหว่ยหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วเขาก็มองมาที่ลู่โจว

“และตอนนี้มันก็เป็นของคุณแล้วครับ”

สไตล์การตกแต่งของบ้านพักทั้งหมดค่อนข้างจะเป็นแบบโพสต์โมเดิร์น โรงรถที่อยู่ไม่ไกลจากสนามหญ้าหันหน้าชนกับถนนที่ใช้พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าด้านนอก

จากที่เลขานุการเหว่ยบอก หลังคาของโรงรถยังสามารถพับออกไปข้างนอกได้ด้วย

ฟังก์ชันนี้ส่วนใหญ่จะมีไว้สำหรับรถหรูพวกนั้นที่มีฟังก์ชันระบบพลังงานไอพ่นและการออกตัวและจอดในแนวดิ่งของตัวเอง

หลังจากเดินดูรอบสนาม ลู่โจวก็ตามเลขานุการเหว่ยเข้าไปในห้องและดูรอบๆ

ถ้ากล่าวโดยทั่วไป เขาค่อนข้างพอใจกับที่นี่ ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวก็คือว่าแผนเดิมของเขาที่จะสร้างตึกของเขาเองนั้นเป็นอันต้องล้มเหลว

“ไม่มีที่ดินว่างในละแวกนี้แล้วเหรอครับ?”

เหว่ยซงพูดพร้อมกับกระแอมเบาๆ “นี่เป็นกลุ่มเมืองสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียง ที่ซึ่งผมควรจะหาที่ดินที่ยังไม่ได้พัฒนาให้กับคุณ… แน่นอนว่าถ้าคุณยังไม่พอใจ เราก็สามารถช่วยรื้อถอนมันให้คุณได้ แต่เศษเหลือทิ้งและขยะที่เกิดขึ้นอาจจะต้องอยู่ในความรับผิดชอบของคุณ”

ลู่โจวส่ายหัว “การรื้อถอนสิ้นเปลืองเกินไป แค่นี้ก็พอแล้ว”

คิ้วของเหว่ยซงกระตุกอย่างแรง

แค่นี้ก็พอแล้ว…

คฤหาสน์ขนาด 5,000 ตารางเมตร นี่มันใหญ่กว่ากลุ่มอาคารอพาร์ทเมนท์ที่ออกแบบมาอย่างอัดแน่นกันเสียอีก

ตลกสิ้นดี!

หลังจากยื่นเอกสารเพื่อลงนามและกุญแจให้กับลู่โจว เลขานุการเหว่ยก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อนานนัก เขาบอกว่าเขายังมีหลายอย่างที่ต้องจัดการและเขาก็รีบกลับออกไป

หลังจากเดินดูรอบๆ บ้านหลังใหม่ ลู่โจวก็กลับมาที่ห้องนั่งเล่นที่ชั้นหนึ่ง เขามองไปที่เสี่ยวไอซึ่งอยู่ข้างๆ เขาและพูดว่า

“ทำลายสวนพฤกษศาสตร์ในสนามด้านหลังให้ราบแล้วเปลี่ยนเป็นห้องปฏิบัติการ แบบแปลนจะต้องเหมือนกับห้องเก่าของฉัน ส่วนจุดอื่นๆ ไม่ต้องเคลื่อนย้าย ฉันส่งรายชื่อของอุปกรณ์ที่ต้องซื้อไปให้เธอแล้ว… คิดว่าจะทำได้ไหม?”

“ไม่มีปัญหา เสี่ยวไอเข้าใจแล้ว! มีอย่างอื่นที่เจ้านายต้องการเพิ่มเติมไหม? (๑•̀ᄇ•́)و✧”

ลู่โจวครุ่นคิดในเรื่องนั้นแล้วตอบว่า “เตาผิงในห้องนั่งเล่น… เท่านี้แหละสำหรับตอนนี้”

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกัน โดรนสองตัวที่เสี่ยวไอซื้อไว้ก็บินเข้าจากด้านนอก ประตูไฟฟ้าเปิดออก และหุ่นยนต์ทำความสะอาดจำนวนมากกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ถูกลากเข้ามาจากประตูก็เข้ามาพร้อมกับพวกมันด้วย

เสี่ยวไอทำการสร้างแบบจำลองของพื้นที่ด้านในของบ้านพักทั้งหมดและออกแบบแผนการทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว

ไม่นานนัก อุปกรณ์อัจฉริยะเหล่านั้นก็เริ่มทำงานภายใต้คำแนะนำของเธอ

ลู่โจวรู้สึกโล่งใจที่เห็นเสี่ยวไอทำงานแล้ว

“ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับการทำความสะอาดและการเอาของออกมา ฉันมีเรื่องอื่นต้องไปทำ”

เสี่ยวไอ: “เจ้านายต้องการให้เสี่ยวไอไปเป็นเพื่อนไหม? ข้างนอกมันอันตรายนะ ∑(゚Д゚)”

“ไม่ต้องหรอก” ลู่โจวชี้ไปที่สร้อยคอบนคอของเขา “มีเจ้าสิ่งนี้ก็คงไม่มีใครจำฉันได้”

ทันใดนั้นเสี่ยวไอก็นึกอะไรออก เธอประสานฝ่ามือเข้าด้วยกันแล้วรีบวิ่งไปที่กระเป๋าเดินทางของเธอ

ไม่นานเธอก็ดึงลูกบอลโลหะสีเงินออกมาจากกระเป๋าเดินทาง เธอกลับมาแล้วมอบมันให้ลู่โจว

ลู่โจวมองไปยังลูกบอลโลหะสีเงินในมือของเขา เขาอึ้งไปเล็กน้อย

“นี่คืออะไร?”

เขารู้สึกว่าสิ่งนี้ดูคุ้นตานิดหน่อย

“โดรนขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมในศตวรรษที่ 22 เหมาะมากที่จะพกพาไปด้วย เผื่อว่าเจ้านายจะพาเสี่ยวไอไปด้วยตอนที่เขาไปข้างนอก! (⃔*`꒳ ́*)⃕↝”

ถ้าเช่นนั้นมันก็คือโดรนตัวหนึ่ง…

“เธอพูดถูก”

เขาไม่ได้พูดอะไรอีก เขาคิดว่าเสี่ยวไอมีเหตุผล

ลู่โจวใส่โดรนไว้ในกระเป๋าเสื้อของเขา แล้วเขาก็เอื้อมมือออกไปแล้วแตะที่ระบบการฉายภาพโฮโลแกรมที่สวมใส่ได้บนใบหน้า เขาเลือกภาพบุคคลทั่วไปเพื่อปกปิดใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาก่อนจะเดินออกไปนอกประตู