บทที่ 1286 เป็นวันสุดท้ายหรือเปล่า

The king of War

ในขณะเดียวกัน ณ ตระกูลหลี่แห่งหนิงโจว

“พ่อครับ จางโฉงได้พาผู้แข็งแกร่งแดนราชาประจำตระกูลทั้งหมด มุ่งหน้าไปยังตระกูลลู่แล้ว”

ภายในคฤหาสถ์ หลี่ถงเฮ่อยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความเคารพ เขาพูดกับหลี่ซาน

“เอ๊ะ?”

หลี่ซานประหลาดใจเล็กน้อย “ตระกูลจาง พาผู้แข็งแกร่งแดนราชาทั้งหมดไปแล้ว?”

หลี่ถงเฮ่อพยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนว่าครั้งนี้แผนของพวกเราจะประสบความสำเร็จแล้ว ตระกูลจางคิดว่าผู้แข็งแกร่งของตระกูลลู่ได้ฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นต้นไปคนหนึ่ง แล้วยังมีกองกำลังเหล่านั้นที่ติดตามตระกูลจาง ก็มีผู้แข็งแกร่งที่ถูกฆ่าตาย”

“เรื่องนี้ทำให้จางโฉงโกรธมาก แต่เขาไม่ได้โง่ เขาย่อมรู้ว่าผู้ที่สามารถฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นต้นได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลาย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะพาผู้แข็งแกร่งแดนราชาประจำตระกูลทั้งหมดไปที่ตระกูลลู่ทันที”

หลี่ซานพยักหน้าและขมวดคิ้วกล่าวว่า “เรื่องนี้คงไม่เดือดร้อนมาถึงพวกเราหรอกนะ?”

“พ่อไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ผมจัดการอย่างสะอาดหมดจด ไม่มีใครนึกถึงพวกเราแน่นอน”

หลี่ถงเฮ่อรับประกัน แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เกรงว่าตระกูลจางจะเหลือเพียงประวัติศาสตร์อย่างแท้จริงแล้ว ต่อให้มีชีวิตรอดมาได้ แต่รากฐานของตระกูลก็จะเสียหายอย่างหนัก”

“ถ้าเราสามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดคนนั้นบาดเจ็บสาหัสได้ ตระกูลหลี่ของเราจะได้นั่งเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างมหาศาล”

หลี่ซานพ่นลมหายใจแรง “แกดูถูกผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดเกินไปแล้ว ขอเพียงชายหนุ่มของตระกูลลู่เป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดจริงๆ อย่าว่าแต่ตระกูลจางเลย ต่อให้รวมตระกูลหลี่ของเราเข้าไปด้วย ก็ยังไม่คู่ควรเป็นคู่ต่อสู้ของตระกูลลู่”

“ผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดหนึ่งคน สามารถเทียบเท่ากับผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลายนับสิบคนได้อย่างแน่นอน ตระกูลหลี่กับตระกูลจางรวมกันก็ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลายไม่ถึงสิบคนเลย”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ซาน หลี่ถงเฮ่อก็มีสีหน้าเป็นกังวลมากขึ้น

“ไม่ว่าจะยังไง อย่างน้อยพวกเราก็สามารถรักษาตำแหน่งของตระกูลหลี่ในหนิงโจวเอาไว้ได้ และตระกูลลู่เองก็มีแนวโน้มว่าจะมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดแค่คนเดียว แม้ว่าตระกูลลู่จะเป็นมหาอำนาจในหนิงโจวได้ มันก็เป็นเพียงด้านวิถีบู๊เท่านั้น ส่วนด้านอื่นๆ มันไม่ง่ายเลยที่จะแซงหน้าพวกเรา”

หลี่ถงเฮ่อพูดปลอบใจตัวเอง

“สั่งการลงไป ให้ผู้แข็งแกร่งแดนราชาประจำตระกูลมุ่งหน้าไปที่ตระกูลลู่เดี๋ยวนี้!”

หลี่ซานออกคำสั่งอย่างฉับพลัน

เมื่อได้ยินเช่นนี้หลี่ถงเฮ่อก็ตกใจทันที “พ่อครับ พวกเราจะพาผู้แข็งแกร่งไปที่ตระกูลลู่ด้วยงั้นหรือ?”

ตอนแรกเขายังคิดว่าตระกูลหลี่แค่ยืนดูอยู่ห่างๆ ก็พอแล้ว แต่ตอนนี้เขารู้ว่า หลี่ซานคิดวางแผนจะไปที่ตระกูลลู่

หลี่ซานกล่าวด้วยสีหน้าร้อนรน “ไร้สาระ นี่เป็นโอกาสที่หายากสำหรับตระกูลหลี่ที่จะได้เหยียบย่ำตระกูลจาง ในเมื่อพวกเราแน่ใจว่าตระกูลลู่มีผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดอยู่ มีโอกาสชนะอยู่ในกำมือ แล้วทำไมถึงจะไม่ไปล่ะ?”

“พ่อพูดถูก ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”

หลี่ถงเฮ่อรีบออกไป

ในเวลานี้ จางโฉง ผู้นำตระกูลจางได้พาผู้แข็งแกร่งแดนราชาประจำตระกูลมาถึงคฤหาสน์ของตระกูลลู่แล้ว

“โครม!”

เสียงรถบรรทุกขนาดใหญ่พุ่งชนประตูจนเปิดออก

ด้านหลังรถบรรทุก มีขบวนรถโรลส์-รอยซ์ 11 คันทยอยวิ่งเข้ามาทีละคัน

คันแรกคือโรลส์-รอยซ์ที่ขยายความยาวเพิ่ม

รถจอดนิ่งอยู่กลางคฤหาสน์ตระกูลลู่ ชายชราผมขาวในชุดราชวงศ์ถังเดินลงมาจากรถ

เห็นได้ชัดว่าชายชราผมขาวเป็นผู้นำของตระกูลจาง จางโฉง

ผู้แข็งแกร่งสองคนเดินลงจากรถคันอื่นๆ อีกสิบคัน

มีผู้แข็งแกร่งแดนราชาทั้งสิ้น 20 คน ยืนอยู่ข้างหลังจางโฉง ทุกคนแผ่ลมปราณอันแข็งแกร่งออกมา

ชั่วครู่หนึ่ง คฤหาสน์ตระกูลลู่ทั้งหลังดูเหมือนจะเต็มไปด้วยแรงกดดันที่ทำให้หายใจไม่ออก

“ลู่หยวนทง รีบออกมาเดี๋ยวนี้!”

จางโฉงตะโกนลั่น

“ฮ่าฮ่า ผู้นำตระกูลจางมาไกล มีอะไรให้ผมช่วยไหม?”

ลู่หยวนทงอยู่ในกลุ่มทายาทสายตรงของตระกูลลู่ เขาเดินเข้ามา

ด้านหลังเขา อาจารย์ฉีคอยติดตามอย่างใกล้ชิด ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นต้นอีกหลายคนอยู่รายรอบตัวเขา คอยมองดูผู้แข็งแกร่งของตระกูลจางอย่างระแวดระวัง

เมื่อมองไปที่การแสดงออกที่สงบบนใบหน้าของลู่หยวนทง สีหน้าของจางโฉงก็มืดมนจนน่ากลัว เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “ลู่หยวนทง ถ้าคุณมอบตัวฆาตกรที่ฆ่าผู้แข็งแกร่งของตระกูลจางของเรามา เรื่องนี้ก็ยังพอประนีประนอมกันได้ ถ้าไม่อย่างนั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะไม่มีตระกูลลู่ในหนิงโจวอีก!”

ท่าทีของจางโฉงนั้นเผด็จการและแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ดวงตาของเขาเป็นประกายเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง

เมื่อเห็นท่าทีของจางโฉง สีหน้าของลู่หยวนทงก็มืดมนลงไปอีก เขายิ้มเยาะ “ผมเห็นแก่หน้าคุณ คุณยังคงเป็นเจ้าบ้านจาง หากผมไม่ไว้หน้าคุณ คุณก็ไม่มีความหมายอะไรเลย!”

“ถ้าต้องการจัดการกับตระกูลลู่ก็แค่พูดออกมา ทำไมคุณต้องหาเหตุผลใหญ่โตด้วย?”

“ไม่เคยมีใครในตระกูลลู่ฆ่าคนของตระกูลจาง ตรงกันข้าม ตระกูลจางต่างหากที่ฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นต้นของตระกูลลู่สองคน วันนี้ ถ้าคุณไม่ให้คำอธิบายกับผม ก็อย่าคิดจะออกไปไหนเลย!”

ทันทีที่ลู่หยวนทงพูดจบ ผู้แข็งแกร่งระดับสูงของตระกูลลู่ที่อยู่ข้างกายเขาก็ตื่นตัวขึ้นมา ทั้งหมดพร้อมที่จะต่อสู้

ขอแค่ลู่หยวนทงพูดมาคำเดียว พวกเขาก็จะกล้าบุกตะลุย

จางโฉงโกรธมาก ดวงตาดุจนกอินทรีของเขาเปล่งประกายเจตนาฆ่าอย่างรุนแรง เมื่อเขามองไปที่ลู่หยวนทง สายตาของเขาดูเหมือนจะสามารถฆ่าคนได้แล้ว

ลู่หยวนทงไม่มีความเกรงกลัวเลย เขาประสานสายตากับจางโฉงด้วยสายตาที่เด็ดเดี่ยว พลางส่งข้อความถึงจางโฉง ขอเพียงตระกูลจางกล้าลงมือ ตระกูลลู่ก็กล้าสู้จนตัวตาย

ในเวลานี้ ไม่ใช่แค่คนของตระกูลลู่เท่านั้น แต่คนของตระกูลจางก็รู้สึกกดดันอย่างมากเช่นกัน

แม้ว่าจะมีช่องว่างระหว่างสองตระกูล แต่ก็ไม่ได้ใหญ่มาก เมื่อทั้งสองตระกูลมีการต่อสู้ที่เด็ดขาดจริงๆ มันจะเป็นหายนะสำหรับทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน

“จางโฉง คุณอย่าคิดว่าขู่ผมได้ ลูกผู้ชายตระกูลลู่อย่างผมไม่กลัวการต่อสู้ แต่คุณควรคิดให้ดี เมื่อคุณตัดสินใจที่จะต่อสู้ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก!”

ลู่หยวนทงกล่าวอย่างเฉยเมย มีความยั่วยุอยู่ในสายตาของเขา ราวกับว่าเขาต้องการให้ตระกูลจางประกาศสงครามขึ้นเอง

“ลู่หยวนทง คุณคิดไหมว่า คุณไม่กล้าแตะต้องตระกูลลู่? เพราะหากแตะต้องตระกูลลู่ของคุณ ต่อไปพวกเราจะไม่สามารถแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งผู้ปกครองมหาอำนาจของหนิงโจวแล้วนะ?”

จู่ๆ จางโฉงก็ถามขึ้น

ลู่หยวนทงตกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าจางโฉงจะพูดออกมาเอง

“หรือว่า เจ้าบ้านจางจะกล้าเปิดศึกกับตระกูลลู่จริงๆ?”

ลู่หยวนทงมองไปที่จางโฉงอย่างท้าทายและถามขึ้น

จางโฉงยิ้มเยาะที่มุมปากเล็กน้อย กล่าวอย่างเย็นชา “เมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลจาง จะตระกูลลู่ก็ดี หรือตระกูลหลี่ก็ดี มันไม่มีความแตกต่างเลย”

เมื่อมองไปที่จางโฉงที่มีสีหน้าหยิ่งผยอง ไม่รู้ว่าทำไมลู่หยวนทงก็รู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดี

“ออกมา!”

ทันทีที่เขาพูดจบ ชายร่างกำยำสองคนก็ค่อยๆ ก้าวออกมาจากฝูงชนที่อยู่ด้านหลัง ขนาบซ้ายขวาจางโฉงข้างละหนึ่งคน

ลู่หยวนทงยังเป็นผู้แข็งแกร่งระดับแดนราชาขั้นกลาง ในขณะนี้ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าลมปราณอันน่าสะพรึงกลัวได้แผ่ซ่านออกมาจากชายที่ขนาบทั้งสองข้างของจางโฉงอยู่

ทันใดนั้นชายกำยำทั้งสองก็ยกขาขวาขึ้น แล้วกระทืบอย่างแรง

“ตึง!”

“ตึง!”

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นสองครั้ง ผืนดินเหมือนกำลังสั่นสะเทือน

ในขณะที่ลู่หยวนทงกำลังตื่นตกใจ รอยร้าวหนาหนึ่งนิ้วเหมือนใยแมงมุมได้ปรากฏขึ้นบนพื้นรอบๆ เท้าของชายกำยำทั้งสอง

“แดนราชาสูงสุด!”

รูดม่านตาของอาจารย์ฉีหดตัว พูดด้วยสีหน้าตื่นตะลึง “ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดอีกสองคน!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้แข็งแกร่งของตระกูลลู่ทุกคนก็หน้าซีด

พวกเขารู้เพียงว่าผู้แข็งแกร่งที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลจางนั้นมีความสามารถอยู่ในระดับแดนราชาขั้นปลาย และมีเพียงคนเดียวเท่านั้น

แต่ตอนนี้กลับมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดปรากฏตัวขึ้นสองคน อย่าว่าแต่สองคนเลย แค่คนเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะกวาดล้างกองกำลังระดับสูงในหนิงโจวได้ทั้งหมด

ทันใดนั้นได้มีคนสองคนปรากฏตัวขึ้น

ลู่หยวนทงสะดุดถอยหลังไปสองสามก้าว ถามด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “นี่มัน…นี่มันเป็นไปได้ยังไง?”

ในความคิดของเขา ความสามารถของหยางเฉินนั้นแข็งแกร่งที่สุดก็ไม่พ้นระดับแดนราชาสูงสุด แต่จางโฉงได้พาผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดมาด้วย ต่อให้หยางเฉินจะออกหน้า ก็เกรงว่าจะมีแต่ตายกับตายเท่านั้น

ตอนนี้ตระกูลลู่ได้ล่วงเกินตระกูลจางอย่างแท้จริง ไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับเดินหวนกลับแล้ว

หรือว่า วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของตระกูลลู่จริงๆ?