เมื่อระดับแท้ปรากฏขึ้นมาแล้วการประลองแข่งขันใดๆ กันต่อไปมันย่อมจะไร้ค่าขึ้นมา
ต่อให้จะหลอมกันไปจนฟ้าถล่มดินทลายมันก็คงไม่มีใครจะหลอมได้ถึงระดับแท้มาได้แน่ สุดท้ายมันจะมีแต่ความเสียเวลาเปล่า
เพราะฉะนั้นชุยถงจึงได้ประกาศขึ้นมาทันทีว่าผู้ชนะงานชุมนุมโอสถสวรรค์เก้าเมืองในครั้งนี้มันคือเมืองสงบทักษิณ!
ได้เห็นสีหน้าของซุนหยุนจิงนั้นซูยี่ก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมาจนปากแทบฉีกถึงหู
นอกจากจะได้ตบหน้าคนที่หยามเหยียดแล้วเมืองสงบทักษิณของพวกเขายังได้รับทรัพยากรสนับสนุนมากมาย นี่มันคือโชคที่เหนือกว่าโชคใดๆ ในชีวิตเขา
มิเพียงแค่นั้นเก่อหลิงนั้นยังพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้มากมายจากการแนะนำของเย่หยวน
ตอนนี้เขานั้นเหนือล้ำกว่าตัวซัวเฟิงไปแล้วเสียด้วยซ้ำ!
แค่นี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าเมืองสงบทักษิณนั้นมันคือผู้ชนะที่แท้จริงของงานชุมนุมโอสถสวรรค์เก้าเมืองในครั้งนี้
“ฮ่าๆ อาจารย์เย่ เรื่องที่ซูผู้นี้วางตัวเย่อหยิ่งเกินไป! ขอกราบขออภัยท่านอีกสักครั้งเถอะ!”
ซูยี่นั้นก้มหัวลงต่อหน้าเย่หยวนอย่างสุดหัวใจ
เขานั้นยอมรับอย่างสุดหัวใจ!
ลูกสาวของเขาได้พาเอาสมบัติล้ำค่ากลับมาแล้วจริงๆ
เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกปัด “เรื่องมันแล้วไปแล้วก็ปล่อยมันผ่านไปเถอะ แต่จำไว้ว่าอย่าได้ทำอีก”
ซูยี่นั้นเห็นว่าเย่หยวนไม่คิดติดใจใดๆ และวางท่าเรียบเฉยเขาจึงได้รวบรวมความกล้ากล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “อาจารย์เย่ ซูผู้นี้ขอเชิญท่านมาพักที่เมืองสงบทักษิณเรา อาจารย์เย่จะคิดว่าอย่างไร?”
ก่อนที่เย่หยวนจะทันได้ตอบไปซุนหยุนจิงนั้นก็รีบพุ่งตัวเข้ามาก้มหัวต่อหน้าเย่หยวนอีกคน “อาจารย์เย่ ก่อนหน้านี้มันเป็นซุนผู้นี้เองที่มีตาหามีแววไม่! ตอนนี้ซุนผู้นี้คิดอยากเชิญท่านไปที่เมืองน้ำพองของข้านัก! ท่านวางใจได้เลยว่าเมืองน้ำพองของเราย่อมจะต้องมอบทรัพยากรให้ท่านได้มากกว่าเมืองสงบทักษิณแน่!”
“ซุนหยุนจิง เจ้า!” ซูยี่กล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าคับแค้น
เขานั้นก็ไม่นึกฝันว่าซุนหยุนจิงจะเปลี่ยนสีได้เร็วขนาดนี้!
ที่สำคัญไปกว่านั้นแล้วหากวัดกันที่ทรัพยากร เมืองสงบทักษิณย่อมจะไม่อาจเทียบเมืองน้ำพองได้
ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็คงซื้อตัวคนอย่างซัวเฟิงมาแล้ว
ซุนหยุนจิงนั้นหันมากล่าว “ซูยี่ อาจารย์เย่เองก็เพิ่งได้เจอกับเจ้าเป็นครั้งแรกที่สำคัญไปกว่านั้นท่านและซูเป่ยหยุนเองก็แค่บังเอิญร่วมทางกันมา ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเจ้าเมืองผู้นี้มาเชิญมันจะผิดอะไร? ใครในเมืองทั้งเก้านี้ไม่รู้บ้างเล่าว่าข้านั้นกระหายต้องการยอดอัจฉริยะแค่ไหน!”
ซูยี่นั้นได้แต่กัดฟันแน่นอย่างไม่อาจจะเถียงได้เพราะคำพูดของซุนหยุนจิงมันเป็นความจริง
ก่อนหน้านี้คนทั้งหลายย่อมคิดว่าเย่หยวนวางท่าเพื่อเข้าใกล้ซูยี่คิดชนะใจซูเป่ยหยุนแล้ว
แต่ตอนนี้มันย่อมจะไม่มีใครคิดเช่นนั้นอีก
อาจารย์เย่นั้นย่อมจะอยู่คนละระดับกับซูเป่ยหยุนอย่างสิ้นเชิง
ที่สำคัญไปกว่านั้นซูเป่ยหยุนและอาจารย์เย่คนนี้ก็แค่บังเอิญพบเจอกันระหว่างทาง ไม่ได้เป็นสหายกันเสียด้วยซ้ำไป
เช่นนั้นแล้วคนทั้งหลายก็ย่อมยังมีโอกาสมิใช่หรือ?
“อาจารย์เย่ เมืองพรเทพเรานั้นขอเรียนเชิญท่านไปอยู่ที่เมืองเรา”
“อาจารย์เย่…”
เมื่อซุนหยุนจิงนำเหล่าเจ้าเมืองคนอื่นๆ เองก็ย่อมจะพุ่งตัวเข้ามาตาม
แต่ละคนนั้นต่างเสนอสิ่งที่เหนือล้ำกว่าคนก่อนๆ สิ้น
ซูยี่นั้นแทบอยากจะซัดหน้าคนทั้งหลายนี้ลง
เขานั้นรีบหันไปหาลูกสาวพร้อมส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือแต่ตัวซูเป่ยหยุนนั้นก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไร
นางจะกล่าวอะไรได้?
จะบอกว่าการพบเจอกันนั้นมันมิใช่เรื่องบังเอิญหรือ?
เดิมทีนั้นนางย่อมจะคิดว่าเย่หยวนเป็นยอดฝีมือผู้เก่งกาจในด้านวิทยายุทธแต่ไม่นึกไม่ฝันว่าเขานั้นกลับจะมีวิชาการโอสถที่เหนือล้ำกว่าวิชายุทธไป!
โอสถระดับแท้ปรากฏขึ้นมาเช่นนี้มันย่อมจะทำให้ทั้งแดนสวรรค์ใต้นี้สั่นสะเทือน
ตอนนี้นางจึงไม่มีกำลังพอจะก้าวขึ้นมากล่าวชักชวนใดๆ แล้ว
ซูเป่ยหยุนนั้นหันมามองซูยี่ด้วยรอยยิ้มเหยเก
แต่ในเวลานั้นเองที่ชุยถงได้หัวเราะกล่าวขึ้นมา “หึ! พวกเจ้าคิดจะแย่งคนไปจากเมืองสวรรค์ใต้หรืออย่างไร?”
เขานั้นเดิมมาหยุดตรงหน้าเย่หยวนด้วยรอยยิ้มกว้าง “อาจารย์เย่ เมืองสวรรค์ใต้นั้นคือเมืองหลวงของแดนสวรรค์ใต้นี้ พวกเราคือผู้ปกครองของเมืองทั้งเก้า! แน่นอนว่าทรัพยากรของเมืองสวรรค์ใต้มันย่อมจะเหนือล้ำกว่าเมืองทั้งเก้าอย่างสิ้นเชิง ตราบเท่าที่อาจารย์เย่มาพักที่เมืองสวรรค์ใต้เราแล้วเราย่อมจะให้ท่านได้ทุกอย่าง!”
คำพูดนี้มันทำให้สีหน้าของคนทั้งหลายเปลี่ยนสีไป
แม้แต่ชุยถงนั้นเองก็ยังเริ่มเรียกเขาว่าอาจารย์เย่แล้ว!
เมืองสวรรค์ใต้ออกหน้ามาแย่งชิงเองเช่นนี้แล้วเมืองอื่นๆ จะยังมีที่ให้ต่อรองใด?
ในเวลานี้สายตาของคนทั้งหลายต่างจับจ้องไปที่ตัวเย่หยวน
เย่หยวนนั้นวางหน้านิ่งมาตลอดจนคนทั้งหลายไม่อาจจะเข้าใจความคิดของเขาได้
ตูม!
แต่จู่ๆ วินาทีนั้นเองมันกลับเกิดคลื่นพลังรุนแรงปะทุขึ้นมาจากทางสนามประลอง
คลื่นพลังงานฟ้าดินนั้นมันกำลังพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทางลงไปยังสนามนี้
“ฮ่าๆๆ…ข้าเข้าใจแล้ว! ในที่สุดข้าก็ได้เข้าใจ! สมชื่อจริง! สมชื่อว่าเป็นโอสถสวรรค์ระดับแท้ แค่โอสถสวรรค์ระดับสองนั้นมันกลับช่วยให้ข้าบรรลุขึ้นมาได้!” เสียงหัวเราะลั่นของเจียงหลี่นั้นมันดังขึ้นมาจากทางสนาม
กลายเป็นว่าตอนนี้เจียงหลี่กำลังบรรลุขึ้น!
หลังจากเขาได้โอสถสวรรค์ปรับฐานระดับสองระดับแท้ไปแล้วเจียงหลี่ก็จดจ่ออยู่กับมันนานสองนาน จนไม่ได้สนใจเรื่องราวใดๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว
ในที่สุดเจียงหลี่ก็ยอมแพ้ที่จะจ้องมองและไม่อาจจะทำความเข้าใจมันได้อย่างลึกซึ้ง เพราะฉะนั้นเขาจึงเลือกที่จะกลืนมันลงท้องไป
การศึกษาโอสถที่ดีที่สุดนั้นมันย่อมจะเป็นการทดสอบด้วยตัวเองแล้ว
ในความคิดของเขานั้นไม่ว่าโอสถสวรรค์ระดับแท้มันจะมีฤทธิ์รุนแรงแค่ไหน มันก็ย่อมจะไม่มีทางใดที่โอสถสวรรค์ระดับสองจะได้ผลต่อตัวเขาที่เป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสาม
เขาแค่คิดจะทดสอบพลังของมันและทำความเข้าใจต่อโอสถสวรรค์ระดับแท้เท่านั้น
แต่เมื่อโอสถสวรรค์ปรับฐานระดับสองระดับแท้นี้ลงไปถึงท้อง เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังแห่งกฎอันรุนแรงปะทุขึ้นมา
โลกใบน้อยของเขานั้นมันเหมือนถูกพลังงานรุนแรงบางอย่างกระตุ้นขึ้น
ในเวลานั้นเองประตูแห่งชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกที่เขาไม่อาจจะบรรลุขึ้นมาได้นานแสนนานมันก็เปิดออก!
ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำขั้นสุดนั้นมันคือสุดยอดของคอขวดที่ยากจะผ่าน
นึกย้อนกลับไปแล้วหลัวหยุนชิงที่เก่งกาจมากพรสวรรค์นั้นเองก็ยังต้องหยุดอยู่หน้าประตูปานนี้อยู่นานสองนาน
หากมิใช่เพราะเขาผ่านประสบการณ์เฉียดตายนับครั้งไม่ถ้วนในศึกกับนิกายสวรรค์หยกแท้แล้วเขาก็คงยังไม่อาจจะบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกมาได้ง่ายๆ
มันแสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่าชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำและชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนั้นมันแตกต่างกันเพียงใด!
แม้ว่าเจียงหลี่นั้นจะมากพรสวรรค์แค่ไหนเขาก็ย่อมจะต้องมาติดอยู่ตรงจุดนี้อยู่นานสองนาน
เหตุผลที่เขาออกมาอยู่เมืองน้ำพองก็เพราะว่าเขาติดอยู่ตรงนี้ไม่อาจจะพัฒนาขึ้นได้ จึงลองออกมาเปลี่ยนบรรยากาศดูแต่ว่ามันก็ไม่ได้ให้ผลที่ดีมากมายเท่าที่คิด
เขานั้นไม่เคยคิดฝันเลยว่าโอสถสวรรค์ระดับสองนี้มันกลับจะเป็นตัวที่ช่วยให้เขาบรรลุขึ้นได้!
คนทั้งหลายนั้นตกตะลึงไปถึงแก่น
โอสถสวรรค์ระดับสองนั้นกลับช่วยให้นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำบรรลุขึ้นได้?
ในเวลานี้ทั้งชุยถง หวู่เต้า จีชุน ซูยี่และซุนหยุนจิงทั้งหลายนั้นต่างหันมามองหน้าเย่หยวนเป็นตาเดียวอีกครั้ง
พวกเขานั้นได้แต่มองดูหน้าของชายหนุ่มแสนลึกลับคนนี้ด้วยความรู้สึกยากจะบรรยาย
“นี่…โอสถสวรรค์ระดับแท้มันกลับมีฤทธิ์รุนแรงถึงขั้นนี้! โอสถสวรรค์ปรับฐานระดับสองแค่เม็ดเดียวนั้นมันกลับทำให้นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกได้!” ชุยถงนั้นตื่นตะลึงจนแทบลืมหายใจ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้มันได้ทำลายสามัญสำนึกของเขาลงสิ้น
“นี่หรือคือระดับแท้? เหนือระดับเก้าขึ้นไปนั้นคือระดับแท้!” หวู่เต้ากล่าวขึ้นตามด้วยความชื่นชม
เย่หยวนยิ้มขึ้นมา “แท้จริงแล้วโอสถสวรรค์ปรับฐานที่พวกเจ้าดูถูกกันนักนั้นมันเป็นโอสถสวรรค์ที่รุนแรงมากชนิดหนึ่ง! มันมิใช่แค่ว่าโอสถสวรรค์ระดับแท้นั้นมีฤทธิ์รุนแรงแต่ตัวเจียงหลี่นั้นเดิมทีก็มีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำขั้นสุดอยู่ก่อนแล้ว อยู่ห่างจากชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกไปเพียงน้อยนิด โอสถสวรรค์ปรับฐานนั้นมันมีฤทธิ์ในการล้างไขกระดูกเสริมสร้างรากฐานพลังบ่มเพาะ มันทำให้ร่างกายของคนผู้นั้นเหมือนได้เกิดใหม่เป็นเทพสวรรค์ ส่วนโอสถสวรรค์ระดับแท้นั้นมันเป็นโอสถที่แฝงล้ำไปด้วยพลังของยอดเต๋าทำให้นอกจากมันจะเสริมความรุนแรงของโอสถขึ้นไปหลายเท่าแล้วมันยังช่วยเสริมสร้างความเข้าใจเต๋าของผู้กินไปด้วย! เจียงหลี่จะบรรลุขึ้นมาได้นั้นมันก็มิใช่เรื่องแปลกประหลาดใด”
ได้ยินคำกล่าวของเย่หยวนนั้นชุยถงก็ต้องรู้สึกเหมือนได้ฟังคำพูดคนละภาษา
โอสถสวรรค์ปรับฐานที่เป็นพื้นฐานของพื้นฐานนั้นมันกลับกลายเป็นโอสถสวรรค์ที่รุนแรงที่สุดชนิดหนึ่ง!
สำหรับพวกเขาทั้งหลายนั้นมันย่อมจะมองแต่โอสถสวรรค์ที่ความยากสูงๆ และมุ่งเน้นคุณภาพของโอสถเหล่านั้น
มันย่อมจะไม่มีใครลดตัวลงมาฝึกฝนการหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐานนี้เป็นแน่
แต่ในเวลานี้พวกเขากลับได้พบว่าความคิดของตนนั้นมันผิดพลาด
เย่หยวนนั้นได้ทำลายความเข้าใจทั้งชีวิตของพวกเขาลงอย่างสิ้นเชิง!