ตอนที่ 1575 : พี่น้องพบกัน

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1575 : พี่น้องพบกัน

มันมีกลุ่มคนหนุ่มที่เหมือนจะอายุประมาณ 20 ปีจับกลุ่มรวมกันใกล้กับ ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยน พวกนั้นต่างก็ใส่ชุดที่หรูหราและมองมาที่กลุ่มของซ่างกวนเอ๋อเจี้ยน

แต่สายตาของพวกนั้นต้องไปที่เสี่ยวเหยียนหรือเสี่ยวเยี่ยกันเป็นส่วนมาก พวกเขาแสดงสีหน้าแปลกใจและสายตาที่หลงใหล

“เฮ่าฟานหยุน, หลิวซิง, ซูเชาหัว, อลาดูกง เจ้าเห็นสองสาวนั่นรึไม่ พวกนางเป็นสาวงามที่หายาก ข้าไม่คิดว่าจะได้เห็นของดี ๆ ในวันที่มายังตระกูลเจียงหยางกับทวดข้า” ชายหนุ่มคนหนึ่งกระซิบ เขาใส่ชุดสีครามและดูสง่างามแต่เขาก็ไม่ได้ดูสำคัญอะไร สายตาที่เขามองไปที่เสี่ยวเหยียนและเสี่ยวเยี่ยนั้นมีแต่ความหลงใหล

” แน่นอนว่าข้าเห็นพวกนาง พูดไปแล้วข้าก็เคยนอนสาวงามมามากมายตอนที่โตมา มีหลายคนที่ไม่ได้แย่ไปกว่าสองคนนี่เลย แต่บุตรสาวของตระกูลใหญ่เหมือนจะขาดบางอย่างหากเทียบกับสองคนนี้ และตั้งแต่ที่ข้าเห็นพวกนางทั้งสองคน ข้าก็รู้สึกว่าผู้หญิงทุกคนที่ข้าเคยนอนด้วยในอดีตนั้นไม่ได้พิเศษอะไรเลย” ซูเชาหัวกางพัดออก เขามองไปที่เสี่ยวเหยียนและเสี่ยวเยี่ยอยู่ตลอด

“เจ้าโง่ มันเพราะสองคนนี้มีความงามที่ต่างกันออกไป พวกนางดูเหมือนกับเทพธิดาและมีหน้าตาอันสูงส่ง แม้ว่าผู้หญิงที่เจ้าจะเคยนอนด้วยน่ะจะงามแต่พวกนางก็ไม่อาจจะเอามาเทียบได้” หลิวซิงที่ยืนอยู่ข้างซูเชาหัวพูดขึ้น พวกชายหนุ่มที่มาจากตระกูลหรือองค์กรใหญ่ ถ้าพวกเขาไม่ได้มาจากราชวงศ์ของสามจักรวรรดิใหญ่ งั้นพวกเขาก็มาจากตระกูลโบราณ พวกเขาต่างก็มีฐานะที่โดดเด่น

“และชายหนุ่มนั่นเป็นใครกัน ? เขามีอะไรดี ? เขาทำให้ข้าอิจฉากับการที่มีสาวงามสองคนข้างกาย ถ้าข้าได้ผู้หญิงสองคนแบบนี้ ข้าจะยอมทิ้งตำแหน่งของข้ากับการมีสิทธิ์เป็นจักรพรรดิคนต่อไป” เฮ่าฟานหยุนพูดขึ้น สายตาที่เขามองไปที่ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนนั้นมีแต่ความอิจฉาและริษยา

สายตาของอลาดูกงนั้นจับจ้องไปที่เสี่ยวเหยียนกับเสี่ยวเยี่ยเช่นกัน เขาอยากได้ทั้งสองคน น้ำลายเขาไหลออกมาจากปาก เขาเองก็เคยนอนกับผู้หญิงมามากมายแต่เขาไม่เคยเห็นใครที่งดงามถึงขั้นนี้แอบบสองคนนี้ ผู้หญิงที่เขาเคยอยู่ด้วยนั้นไม่ได้มีอะไรพิเศษหากเทียบกับสองคนตรงหน้า

“ข้าต้องหาทางที่จะเอาตัวพวกนางมาให้ได้ ! ” อลาดูกงถูมือ เขาชอบเสี่ยวเหยียนกับเสี่ยวเยี่ยมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมองดูพวกนาง เขาต้องการจะเอาพวกนางไปกับเขาด้วย ยิ่งกว่านั้นเขามั่นใจว่าเขามีความสามารถแย่งทั้งสองคนมา เขามาจากตระกูลโบราณและบรรพชนของเขาก็เป็นหนึ่งในเซียนจักรพรรดิเพียงไม่กี่คนในทวีป

เฮ่าฟานหยุนตบหัวอลาดูกงแล้วพูดขึ้นมาว่า “ดูกง ทำไมเจ้าไม่มองว่าเจ้าอยู่ที่ไหนกัน ? นี่คือตระกูลเจียงหยาง ไม่ใช่ตระกูลของเจ้า พวกนางไม่มีทางเป็นของเราได้ ไปหาอาซูแล้วบอกเขาเรื่องนี้เถอะ เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของหัวหน้าตระกูล ดังนั้นเขาจึงเป็นนายน้อยของตระกูล เขาจะกลายเป็นหัวหน้าตระกูลในไม่ช้า ไปผูกมิตรกับเขา เขาจะได้สามารถช่วยเราได้ตอนที่เขามีอำนาจ”

เฮ่าฟานหยุนดึงเอาหยกขาวออกมาจากแหวนมิติและบดมันทันที เฮ่าฟานหยุนรู้จักเจียงหยางซูมาหลายปี ในฐานะสมาชิกของราชวงศ์แล้ว เขาได้สร้างกลุ่มขึ้นมาเพื่อที่จะรักษาตำแหน่งและขยายอำนาจของตัวเอง เขาสนิทกับเจียงหยางซู และมันก็ไม่สำคัญว่าเขาจะใช้เงินไปเท่าไหร่ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่มันก็จะช่วยเขาให้เป็นองค์รัชทายาทได้ หลังจากที่ไปงานรื่นเริงมามากมายเขาก็ผูกมิตรกับเจียงหยางซูได้ แม้ว่าเจียงหยางซูจะไม่เคยคิดว่าเขาเป็นคนสำคัญในฐานะสมาชิกของราชวงศ์ก็ตาม แต่เฮ่าฟานหยุนก็ไม่ได้คิดมาก เขายังคงตามเอาใจเจียงหยางซู สำหรับเขาแล้ว ตราบใดที่เขายังเกาะติดเจียงหยางซูไว้ เขาอาจจะมีอำนาจพอในการแย่งตำแหน่งเพื่อเป็นจักรพรรดิ

เจียงหยางซูตอนนี้อยู่ข้าง ๆ เจียงหยางป้า คอยทักทายแขกคนอื่น ๆ เจียงหยางซูดูเชื่อฟังต่อหน้าคนแก่และคอยโค้งทักทายอย่างสุภาพ

ตอนนั้นใบหน้าของเจียงหยางซูก็เปลี่ยนไป เขารู้สึกได้ว่าหยกในแหวนมิติได้แตกออก เขาได้ให้หยกอีกชิ้นกับ เฮ่าฟานหยุน เฮ่าฟานหยุนนั้นคอยตามเขาตลอดหลายปีมานี้และคอยช่วยทำทุกอย่างที่เขาบอก ซึ่งทำให้เจียงหยางซูที่หยิ่งทะนงยอมรับในตัวตนของเฮ่าฟานหยุน เจียงหยางซูได้มอบหยกนี้เพื่อไว้ใช้ติดต่อหากมีเรื่องสำคัญ

เจียงหยางซู ยอมให้ เฮ่าฟานหยุน ติดตามเขาแต่ไม่เคยถือว่าอีกฝ่ายเป็นสหาย ส่วนมากแล้วเฮ่าฟานหยุนเป็นได้แค่ผู้ติดตามในสายตาของเขา

“เฮ่าฟานหยุน ต้องการอะไรในเวลาแบบนี้ ? ” เจียงหยางซูสงสัยแต่ก็ไม่ได้รีบเดินออกไป

สุดท้ายเมื่อตกบ่ายงานก็กำลังจะเริ่ม เจียงหยางป้าและเจียงหยางเค่อปรากฎตัวขึ้นมาบนเวที ส่วนเจียงหยางซู ในที่สุดก็มีเวลาไปพบกับเฮ่าฟานหยุนและคนอื่น ๆ

เฮ่าฟานหยุนไม่สนใจภาพลักษณ์ในฐานะสมาชิกของราชวงศ์ ตอนที่เห็นเจียงหยางซู เขาเดินไปทักทายด้วยรอยยิ้มและบอกเจียงหยางซูถึงเรื่องสองสาวงามเพื่อเอาใจเจียงหยางซู

แม้แต่เด็กหนุ่มคนอื่นรอบตัวเฮ่าฟานหยุนก็ยังต้องลบความหยิ่งทะนงของตัวเองไป พวกเขาไปล้อมเจียงหยางซู และหาเรื่องพูดคุยด้วยราวกับว่าเจียงหยางซูนั้นเป็นหัวหน้าพวกเขาในตอนนั้น

เจียงหยางซูยังคงยืนนิ่งไร้อารมณ์ สายตาเขากวาดไปทั่วราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจ หลังจากที่ฟังคำอธิบายเรื่องผู้หญิง เขาก็ถามออกมาด้วยท่าทีสงสัย “ผู้หญิงสองคนที่เจ้าพูดถึงนั้นงดงามจริง ๆ หรือ ? ” เจียงหยางซูไม่ได้ดูหวั่นไหวในตอนที่พูด เขาเคยเห็นสาวงามมามากโดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา องค์กรใหญ่นับไม่ถ้วนเข้ามาเพื่อขอเรื่องแต่งงานและผู้หญิงของพวกนั้นทุกคนต่างก็งดงาม แต่เขามักจะดูถูกเพราะเขาเชื่อว่าไม่มีใครคู่ควรกับเขา แม้ว่าพวกนางจะสวยแต่เขาก็เชื่อว่าแค่เพียงเขากวักมือเมื่อเขาต้องการผู้หญิง คนจำนวนมากก็จะแห่กันมาเสนอตัวให้เอง

“ข้ามั่นใจ ถ้าเจ้าไม่เชื่อเรา เราจะพาเจ้าไปดูเอง เจ้าไม่ผิดหวังแน่นอน มีแค่เทพธิดาที่คู่ควรกับเจ้า” พวกเด็กหนุ่มพาเจียงหยางซูแหวกฝูงคนมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งของซ่างกวนเอ๋อเจี้ยน

แขกทุกคนที่อยู่ระหว่างทางต่างก็พากันยิ้มและพยักหน้าเมื่อเห็นเจียงหยางซู พวกเขาต่างก็พากันหลีกทางให้อย่างว่าง่าย

ไม่นานเจียงหยางซูก็พบกับซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนภายใต้การนำทางของชายหนุ่มคนอื่น ๆ แต่เมื่อเขาเห็นเสี่ยวเหยียนกับเสี่ยวเยี่ย เขาก็อึ้งและไม่อาจจะละสายตาได้

“เป็นยังไง ? พวกนางไม่ได้ทำให้เจ้าผิดหวังใช่หรือไม่ ? ” เฮ่าฟานหยุนยิ้ม สิ่งที่เขาทำไปก็เพื่อให้เจียงหยางซูประทับใจในตัวเขาเพิ่มมากขึ้น เขารู้ได้จากสีหน้าของอีกฝ่าย

“ดี ! ดี ! ดี ! เฮ่าฟานหยุน เจ้าน่ะไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริง ๆ” เจียงหยางซูพยักหน้าตอบรับ ตอนที่เขาเห็นเสี่ยวเหยียนกับเสี่ยวเยี่ย เขาก็ตะลึงกับความงามของพวกนาง ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่เขาเคยเห็นมาที่มีเสน่ห์แบบพวกนาง

เฮ่าฟานหยุนดีใจขึ้นมาทันทีเมื่อโดนชม เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

เจียงหยางซูก้าวเข้าไปหาเสี่ยวเหยียนกับเสี่ยวเยี่ย เขาไม่ได้สนใจซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนเลยสักนิด

ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนเหมือนรู้สึกได้บางอย่างตอนที่ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน เขาหันไปหาเจียงหยางซูและอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย

แต่รอยยิ้มนั้นก็แน่นิ่งไปเพราะเขาพบว่าสายตาของอีกฝ่ายมองไปสองสาว

เจียงหยางซูเดินมาถึงตรงหน้าเสี่ยวเหยียนกับเสี่ยวเยี่ย เขาป้องมือให้กับทั้งสองและพูดขึ้น “แม่นางทั้งสอง ข้า เจียงหยางซู เจียงหยางเค่อคือพ่อของข้า และข้าก็มาต้อนรับพวกเจ้าในนามพ่อข้า”

สีหน้าของเสี่ยวเหยียนกับเสี่ยวเยี่ยดูประหลาดไป ทั้งสองหันไปหาซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนและไม่ได้สนใจเจียงหยางซู

ในอีกด้านสีหน้าของซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนหม่นลงจนดูบิดเบี้ยว สายตาที่เขามองไปยังเจียงหยางซูนั้นมีแต่ความชั่วร้าย

เจียงหยางซูขมวดคิ้วเมื่อสองสาวไม่ได้สนใจเขาแต่กลับหันไปมองซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนซึ่งเขาไม่ได้สนใจแทน เขาเริ่มไม่พอใจ สำหรับเขาแล้ว ทั้งสองคนควรจะบอกฐานะและชื่อของตัวเอง เนื่องจากเขามาหาทั้งคู่ในฐานะนายน้อยของตระกูลเจียงหยาง

” นายน้อยพูดกับเจ้า เจ้าไม่ได้ยินหรือไง ? ” ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ตามเจียงหยางซูมาพูดขึ้น ก่อนที่เจียงหยางซู จะพูดอะไรขึ้นมา สายตาเขาไม่ได้เป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย

แต่เขาก็ทำให้ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนโกรธเพราะสิ่งที่เขาพูด ดวงตาของซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนหรี่ลง เขาพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “ถ้าเจ้าพูดเช่นนั้นต่อไป เจ้าเชื่อรึไม่ว่าข้าจะไม่ตัดลิ้นเจ้า ? แม้แต่ทวดเจ้าก็ไม่อาจจะช่วยเจ้าได้”

ชายหนุ่มนั้นแปลกใจและเงียบไปทันที จอมยุทธในตระกูลเจียงหยางนั้นมีมากมายอย่างกับก้อนเมฆ คนจากเผ่าพันธุ์ทั้งสี่ได้มาที่นี่ ดังนั้นถ้าเขาประมาท เขาก็อาจจะคุกคามองค์กรที่เขาไม่ควรไปหาเรื่อง

ชายหนุ่มรอบตัวเจียงหยางซูเริ่มกลัว พวกเขาต่างก็ไปยืนอยู่ด้านหลังเจียงหยางซู ก่อนที่พวกเขาจะรู้ฐานะของอีกฝ่าย พวกเขาก็ไม่กล้าหาเรื่องอีกฝ่าย สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนั้นขึ้นอยู่กับเจียงหยางซู ยังไงซะเขาก็เป็นนายน้อยของตระกูลเจียงหยาง ด้วยภูมิหลังของตระกูล มันก็ไม่จำเป็นที่เขาต้องมากลัวกลุ่มไหน ๆ บนโลก

” เจ้าเป็นใครกัน ? ” เจียงหยางซู ถามขึ้นมาอย่างเย็นชา แม้ว่าเขาจะเดาว่าชายหนุ่มตรงหน้ามีฐานะที่โดดเด่น แต่เขาก็ไม่คิดเอามาใส่ใจเพราะเขาเป็นนายน้อยของตระกูลเจียงหยางและเป็นหลานรักของเจียงหยางป้า

“ฮึ่ม ข้าเป็นพี่ของเจ้า” ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนตอบกลับอย่างเย็นชาด้วยสีหน้าไม่พอใจ เขาอยากพบกับน้องชายที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เขาพบว่าน้องชายเขานั้นน่าผิดหวังเกินไป