ตอนที่ 2655 จะคุยกันได้หรือยัง

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

บนกำแพงเมืองนั้นชุยถง ซูยี่และพวกทั้งหลายต่างได้แต่มองดูเรื่องราวด้วยใบหน้าซีดขาว

ไกลออกไปนั้นมันมีกองทัพเผ่าทะเลมากมายกกำลังแหวกว่ายเข้ามาใกล้ด้วยจำนวนที่เหนือจะนับได้

ทะเลหนามใต้นั้นเป็นทะเลที่กว้างใหญ่ แน่นอนว่ามันย่อมจะยิ่งใหญ่กว้างไกลกว่าแดนสวรรค์ใต้ไปนับสิบเท่าตัว

ราชวงศ์หนามใต้นั้นเองก็ควบคุมเผ่าทะเลน้อยใหญ่ทั้งหลายมากมายเป็นจำนวนกว่าร้อยล้านชีวิต

“นี่…นี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว! ราชวงศ์หนามใต้กลับส่งกองทัพทั้งทะเลหนามใต้มาสิ้น!” ซูยี่กล่าวขึ้นมาด้วยเสียงสั่น

ในเวลานี้ทั้งเมืองสงบทักษิณนั้นถูกล้อมไปด้วยเผ่าทะเลมากมายรอบทิศอย่างเหมือนปลาติดข้อง

ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกเองมันก็คงตายด้วยจำนวนที่มากมายมหาศาลของกองทัพนี้

ชุยถงนั้นกล่าวขึ้นมา “หวงห่าวหยานเจ้าเด็กคนนี้มันสมควรตายไปนับพันนับหมื่นรอบจริงๆ”

คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต่างพยักหน้ารับออกมาพร้อมๆ กัน

ใช่ เขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจแต่ว่ามันก็มีคนมากมายที่จะต้องตายเพราะความผิดพลาดอันไม่ตั้งใจนี้!

“เฮ้อ น่าเสียดายแค่เรื่องเย่หยวนเท่านั้น! ข้าไม่รู้เลยจริงๆ ว่าเจ้าเด็กคนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ถึงกลับจะออกไปตายพร้อมหวงห่าวหยานมัน! หรือว่ามันคิดว่าตัวเป็นมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนหรืออย่างไร?” ซุนหยุนจิงกล่าวขึ้นมาด้วยความเสียดาย

เพราะสุดท้ายแล้วชุยถงนั้นก็ไม่ได้ลงมือใดๆ ออกไป

ไม่ว่าจะมองอย่างไรเย่หยวนนั้นก็ย่อมจะต้องมีสุดยอดค่ายสำนักยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลัง

ศิษย์อัจฉริยะระดับนี้มันย่อมจะมิใช่สิ่งที่ค่ายสำนักเล็กๆ จะเลี้ยงดูขึ้นมาได้ แล้วมีหรือที่เขาจะไม่พกสมบัติใดๆ มาป้องกันตัวเลย?

หากถูกจับไว้ได้มันก็คุยกันได้แต่หากจับไม่ได้แล้วนอกจากว่าโอสถสวรรค์ระดับแท้จะหายสิ้นไป บางทีมันอาจจะทำให้สุดยอดค่ายสำนักที่อยู่เบื้องหลังเขานั้นโกรธเคืองขึ้นมาด้วย

เวลานี้เรื่องของทะเลหนามใต้มันก็เป็นเรื่องน่าปวดหัวพอแล้ว หากมีปัญหาใหม่เกิดขึ้นมาตอนนี้แล้วตัวเขาคนเดียวคงไม่อาจจะรับผิดชอบมันไว้ได้

เพราะฉะนั้นสุดท้ายแล้วเขาจึงได้แต่ต้องปล่อยเย่หยวนไปตามใจ

“เอาล่ะ ไปกันเถอะ!” ในเวลานี้ตัวเย่หยวนได้กล่าวขึ้นมาจากด้านล่างของกำแพงสูง

ประตูเมืองนั้นมันค่อยๆ เปิดออกมาพร้อมเผยให้เห็นเรือลำน้อยที่แล่นผ่านน้ำท่วมออกมาเผชิญหน้ากับกองทัพเผ่าทะเล

หวงห่าวหยานที่อยู่บนเรื่องนั้นสั่นสะท้านอย่างไม่อาจห้ามใจ

ก่อนจะออกมานั้นเขาได้เตรียมใจไว้แล้ว

แต่เมื่อออกมาจริงๆ เขากลับเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นกองทัพเผ่าทะเลที่อยู่ตรงหน้ามีหรือที่เขาจะไม่กลัวได้?

“อะ อาจารย์เย่ ทะ ทะ ท่านไม่กลัวบ้างหรือ?” หวงห่าวหยานถามขึ้นมาด้วยปากที่สั่น เขานั้นได้เห็นท่าทางอันสงบนิ่งของเย่หยวนและอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าความมั่นใจของเย่หยวนนี้มันมากจากที่ใด

ต่อให้ป็นเจ้าเมืองสวรรค์ใต้เองก็คงไม่มีทางที่จะใจเย็นได้อย่างตัวเขานี้หากต้องเผชิญกองทัพใหญ่เช่นนี้

เย่หยวนนั้นตบบ่าของเขาไว้ก่อนจะกล่าวขึ้น “หากเจ้ามีกำลังพอเจ้าย่อมจะไม่กลัว! วางใจเถอะ เวลานี้ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวมากนัก แท้จริงแล้วคนที่น่ากลัวที่สุดในโลกหล้านี้ก็คือนักหลอมโอสถสวรรค์นี่แหละ”

หวงห่าวหยานนั้นได้แต่ต้องก้มหน้าลงต่ำ บนกำลังนั้นมีนักหลอมโอสถสวรรค์อยู่นับสิบๆ แต่ไม่มีใครที่จะกล้าพูดกล่าวอย่างเย่หยวนนี้!

แต่เมื่อได้เห็นท่าทางสงบนิ่งของเย่หยวนนั้นหวงห่าวหยานก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้างและไม่รู้สึกกลัวใดๆ แล้ว

ไม่นานจากนั้นเรือลำน้อยก็ล่องมาถึงหน้ากองทัพเผ่าทะเล พริบตาเดียวนั้นพวกเขาก็ถูกทหารกุ้งและแม่ทัพปูเข้ามาปิดล้อมไว้

หวงห่าวหยานที่ได้เห็นนั้นหน้าซีดขาวลงทันที

คลื่นพลังของทั้งสองนั้นมันรุนแรงจนเขาแทบไม่อาจหายใจได้ ไม่ต้องพูดถึงการส่งเสียงใดๆ เลย

“สองนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่มันกลับกล้าออกมารนหาที่ตาย! ลอกหนังของพวกมันออกมาทำเป็นธงศึกเสีย!” แม่ทัพผ้าคลุมดำผู้มีร่างกายเป็นคนแต่มีหัวเป็นฉลามดำกล่าวสั่งขึ้น

และเขาผู้นี้ก็มีพลังบ่มเพาะถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุด

ดูท่าแล้วเขาคงเป็นรองแม่ทัพครั้งนี้ไม่ผิดแน่

เขาไม่คิดจะให้พวกเย่หยวนได้มีโอกาสพูดกล่าวใดๆ และคิดสังหารลงทันที!

เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องขมวดคิ้วแน่น “ข้ามีสิ่งที่พวกเจ้าอยากได้!”

พูดไปเขาก็ยกเอาสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกขึ้นมา

เมื่อแม่ทัพฉลามดำนั้นได้เห็นสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกเขาก็ร้องขึ้นมาอย่างตกตะลึง “สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยก! มันเป็นสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกจริง! จะยังนิ่งอะไรอีก? ไปสังหารมันแล้วชิงเอาสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกกลับมา!”

ภายใต้คำสั่งของเขาเหล่าทหารเผ่าทะเลก็พุ่งกรูกันเข้ามา เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องขมวดคิ้วเพราะอีกฝ่ายนั้นกลับไม่มีความคิดจะพูดคุยใดๆ ทั้งสิ้น!

กฎง่ายๆ ที่ว่าต่างฝ่ายต่างจะไม่สังหารทูตแม้ในยามสงครามนั้นมันไม่มีอยู่ในหัวของอีกฝ่ายเลย

“หึ!”

เย่หยวนหัวเราะตอบกลับไปพร้อมปล่อยพลังปราณดาบพุ่งทะยานขึ้น

ฟุบ ฟุบ ฟุบ!

เขานั้นฟันดาบออกมาด้วยเวลาไม่กี่อึดใจก็สังหารเผ่าทะเลไปนับร้อยแล้ว!

หวงห่าวหยานนั้นอ้าปากค้างขึ้นมาอย่างตกตะลึง “นี่มันคือแปลงยอดเต๋าระดับสอง! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอาจารย์เย่จึงสามารถจัดการทัพเงือกนับพันได้ด้วยตัวคนเดียว!”

บนกำแพงเมืองนั้นชุยถงและพวกต่างก็ได้เห็นเรื่องราวเช่นนี้กันและพวกเขาต่างก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมา

“เจ้าเด็กคนนี้มันจะเกินไปแล้ว! ข้าคิดว่าเขามีวิชาการโอสถที่เหนือล้ำเช่นนั้นมันย่อมจะไม่มีเวลาไปฝึกฝนวิชายุทธมากมายแต่ไม่น่าเชื่อว่าวิชายุทธของเขานั้นกลับถึงขั้นแปลงยอดเต๋าได้ ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังบรรลุขึ้นระดับสองมาได้! เช่นนี้เขาคงไร้เทียมทานในระดับชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่แล้ว!” ชุยถงกล่าวขึ้นมา

ซูยี่เองก็ตอบกลับไป “เขาบ่มเพาะอย่างไรกัน? เก่งกาจทั้งในด้านการโอสถและวรยุทธ ทั้งยังพัฒนาขึ้นไปจนถึงขั้นเหนือล้ำหัวผู้คนลิบ!”

แต่หวู่เต้านั้นกลับส่ายหัวออกมาพร้อมถอนหายใจยาว “ไม่มีประโยชน์! จะอย่างไรเขาก็มีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ ต่อให้จะมีวิชาฝีมือแค่ไหนมันก็ไม่มีทางสังหารเอาชนะได้หมดสิ้น!”

คนทั้งหลายที่ได้ยินต่างรู้สึกหนักใจขึ้นมาอีกครั้ง

ส่งยอดอัจฉริยะเช่นนี้ออกไปตายมันย่อมจะเป็นที่น่าเสียดายของพวกเขาทุกคน

แม่ทัพหัวฉลามนั้นเองก็ต้องหรี่ตาลงร้องขึ้นมาเช่นกัน “นายหมู่ระดับชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำ ไปสังหารมัน!”

แน่นอนว่าคำสั่งนี้เย่หยวนก็จะย่อมได้ยินด้วย

เขานั้นหัวเราะตอบกลับไป “ดูท่าเวลาจัดการกับพวกคนเถื่อนนั้นมันต้องสั่งสอนให้รู้จักจำเสียก่อน! ย่อมได้ มาสู้กันให้สะใจแล้วค่อยพูดคุยกัน!”

เย่หยวนกระทืบเท้าลงส่งคลื่นพลังเป็นวงออกมารอบๆ ตัว

รอบกายเขานั้นเหล่าทหารเผ่าทะเลทั้งหลายต่างหงายหลังลงไปตามๆ กัน

แม้แต่ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำเองก็ยังไม่รอด!

เหล่านายหมู่นายกองระดับชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำทั้งหลายที่พุ่งตัวเข้ามาหาเย่หยวนนั้นกลับถูกพลังนี้เข้าจนต้องจมหายลงไปในน้ำ!

จากนั้นเหล่าทหารทั้งหลายก็เริ่มหมดสติกันไปเรื่อยๆ โดยมีเย่หยวนเป็นศูนย์กลาง

สามร้อยก้าว!

หนึ่งพันก้าว!

หนึ่งกิโลเมตร!

สิบกิโลเมตร!

พริบตาเดียวนั้นเหล่าทหารเผ่าทะเลในระยะราวสิบกิโลเมตรต่างก็ถูกพิษกันหมดสิ้น

บนผิวน้ำนั้นมันมีเหล่าทหารมากมายลอยเกลื่อนกันอย่างไม่มีท่าทีจะต่อสู้ใดๆ ได้แล้ว

“อะไรกัน! นี่…เป็นไปได้อย่างไร?”

เมื่อรองแม่ทัพฉลามได้เห็นดังนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา!

มิใช่แค่เขาเท่านั้นแต่เวลานี้เหล่าคนบนกำแพงเมืองทั้งหลายต่างก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน

“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้นกัน?”

“พระเจ้าช่วย ความเป็นในการสังหารนี้มันจะไม่มากเกินไปหรือ?”

“จำนวนของเผ่าทะเลในระยะสิบกิโลเมตรนี้มันมีนับแสนๆ ใช่หรือไม่? จะบอกว่าพวกมันทั้งหลายนั้นถูกจัดการลงในพริบตาหรือ?”

เวลานี้พวกชุยถงนั้นแทบจะทรุดล้มลงตรงนั้น

ไม่มีใครคิดฝันว่าเย่หยวนกลับจะซ่อนไม้เด็ดเช่นนี้เอาไว้

อย่าว่าแต่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยหรือเลิศใหญ่ ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำเองก็ยังไม่อาจจะรอดไปได้

นี่มันช่างเป็นวิธีการที่สุดแสนรุนแรง!

นี่มันคือโค่นสายลมที่เย่หยวนปรับปรุงขึ้นมาใหม่!

เดิมทีแล้วโค่นสายลมนั้นมันจะเป็นพิษที่ใช้ในอากาศ

แต่หลังจากเย่หยวนปรับปรุงมันไปเล็กน้อย เขาก็ได้เปลี่ยนให้มันกลายเป็นพิษที่แพร่ผ่านน้ำ!

ที่สำคัญไปกว่านั้นภายใต้คลื่นลมที่ซัดสาดรุนแรงนี้โค่นสายลมของเขามันยิ่งจะแพร่กระจายได้รวดเร็วในระยะของค่ายกลพิษ!

“นี่…นี่มัน…ตาข้าไม่ได้ฝาดใช่ไหม?” หวงห่าวหยานที่กำลังหลับตารอความตายนั้นได้เบิกตากว้างขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อภาพตรงหน้า

เย่หยวนนั้นหันไปมองหน้ารองแม่ทัพฉลามนั้นก่อนจะกล่าวขึ้น “ไอ้โง่! ทีนี้จะคุยกันได้หรือยัง?”