มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1504

หลัวซิวค่อย ๆ เก็บนิ้วมือกลับมา ปลายนิ้วถูกฟันจนถลอกและมีเลือดไหลออกมาหนึ่งหยด

ส่วนสีหน้าท่าทางของชายชุดคลุมยาวสีทองผู้นั้นกลับเปลี่ยนไป ร่างกายถอยหลังกลับไปสองก้าว มีความขาวซีดกระพริบผ่านบนใบหน้า

เมื่อเขาเห็นแล้วว่าปลายนิ้วของหลัวซิวถลอกและมีเลือดไหลออกมาหนึ่งหยด สีหน้าท่าทางเขากลับตกตะลึงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเขาใช้กระบี่ยุทธ์ชีวีของตัวเองแล้ว

วิถีกระบี่ที่เขาฝึก ฝึกเพียงกระบี่เดียวเท่านั้น และกระบี่เดียวนั้นก็คือกระบี่แห่งชีวีของเขา เรียกได้ว่าเป็นอุบายที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาแล้ว สามารถสังหารกึ่งราชาเทพได้

อย่างไรก็ตามการโจมตีหนึ่งจากกระบี่ยุทธ์ชีวีของเขา กลับสามารถทำให้นิ้วมือของฝ่ายตรงข้ามถลอก และมีเลือดไหลออกมาเพียงหยดเดียวเท่านั้นหรือ?

ชายชุดคลุมยาวสีทองสูดหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง กระบี่ยุทธ์หายเข้าไปในร่างกาย ก่อนจะก้มคำนับ “ข้าน้อยจินหลิงหยุนจากสำนักเทียนเจี้ยน ไม่ทราบว่าผู้เพื่อนยุทธ์ชื่ออะไรหรือ?”

“หลัวซิว”หลัวซิวตอบกลับอย่างเรียบนิ่ง หยดเลือดตรงปลายนิ้วหายเข้าไปในบาดแผล ภายใต้การโคจรกฎพลังชีวิต บาดแผลบนปลายนิ้วกำลังฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว

“ที่แท้ก็เป็นผู้เพื่อนยุทธ์หลัวนี่เอง ผลการฝึกตนผู้เพื่อนยุทธ์สูง ฝีมือความสามารถก็แข็งแกร่ง แซ่จินเคารพนับถือมากเสียจริง ไม่ทราบว่าผู้เพื่อนยุทธ์มาจากสำนักใดหรือ?”จินหลิงหยุนถาม

อย่างไรก็ตามเวลานี้ มีเสียงฟ้าร้องที่ก้องกังวานไปทั่วทั้งผืนฟ้าและแผ่นดินดังออกมาจากเมฆทัณท์บนนภา

หลัวซิวไม่ได้ตอบกลับคำถามของจินหลิงหยุน แต่เป็นการแหงนหน้ามองไปทางขอบฟ้า ผลการฝึกตนของเขาบรรลุถึงเทพมารขั้น 4 ทัณฑ์สายฟ้าก่อตัวกันอยู่นานมาก ๆ ในที่สุดวินาทีนี้มันก็จะผ่าลงมาสักที

“ข้ากำลังจะข้ามผ่านทัณฑ์ ผู้เพื่อนยุทธ์จินถอยออกไปก่อนจะดีกว่า”หลัวซิวค่อย ๆ เอ่ยปากพูด

จินหลิงหยุนมองเมฆแห่งทัณฑ์สายฟ้าที่อยู่บนนภารอบหนึ่ง ก่อนจะมีความตึงเครียดและความเข้มงวดปรากฏออกมาจากสีหน้าท่าทางเขา เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลานุภาพสวรรค์ที่มากมายมหาศาลในทัณฑ์สายฟ้าได้เช่นกัน พลานุภาพนั้นเพียงพอที่จะทำลายล้างอสูรจิตทุกดวงที่อยู่ต่ำกว่าราชาเทพ

ทัณฑ์สายฟ้าที่น่าสยดสยองเช่นนี้ เป็นรองเพียงมหาทัณฑ์ราชาเทพเท่านั้น เขายากที่จะจินตนาการได้จริง ๆ ว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นนักยุทธ์ที่เก่งกาจถึงระดับใดกันแน่ ถึงขั้นสามารถล่อทัณฑ์สวรรค์ที่น่าสยดสยองเช่นนี้มาได้

“เช่นนั้นก็ขออวยพรให้ผู้เพื่อนยุทธ์ข้ามผ่านทัณฑ์สำเร็จแล้วกัน!”จินหลิงหยุนไม่ได้พูดอะไรมาก หลังจากก้มคำนับเสร็จแล้ว เขาก็กลายร่างเป็นลำแสงบินออกไปในทิศทางที่ไกลออกไป

“โครม! ……”

จินหลิงหยุนเพิ่งจากไปได้ไม่นานนัก ทัณฑ์สายฟ้าแรกก็ผ่าสังหารลงมา สาเหตุที่บอกว่าสังหารนั้น เป็นเพราะสายฟ้านี้เหมือนดั่งกระบี่เล่มหนึ่ง มีพลังออร่าการทำลายล้างของทัณฑ์สวรรค์ปนอยู่เล็กน้อย จึงทำให้ห้วงอากาศอันว่างเปล่าฉีกขาด

จินหลิงหยุนที่บินออกไปอย่างรวดเร็วหันหน้ากลับมามองอย่างอดไม่ได้ เมื่อหันกลับมามองก็ทำให้หัวใจเขาเต้นเร็วมากยิ่งขึ้น นี่เป็นเพียงทัณฑ์สายฟ้าแรกเท่านั้น พลานุภาพก็เทียบเท่ากระบี่ที่ทุ่มสุดกำลังสามารถของเขาแล้ว

และในเวลานี้เอง เขาก็เห็นว่าหลัวซิวลอยขึ้นฟ้า ไม่นึกเลยว่าหลัวซิวจะไม่มีความคิดที่จะถดถอยเลย ในทางตรงกันข้ามเขากลับลอยตัวขึ้นฟ้าเผชิญหน้ากับสวรรค์ พุ่งตรงไปทางกระบี่อัสนีที่ผ่าสังหารลงมา

“ตู้มม!”

แสงอัสนีที่แวววาวจับตาปกคลุมไปทั่วทั้งฟ้าดิน นักยุทธ์จำนวนมากที่อยู่ห่างออกไปไกลต่างหลับตาลงอย่างอดไม่ได้ แม้กระทั่งตัวสำนึกยังไร้ปฏิกิริยาโต้ตอบ ถูกทัณฑ์สายฟ้าพิโรธกดอัด

หลังจากดวงตาค่อย ๆ คุ้นชินกับแสงอัสนีแล้ว ทุกคนก็เบิ่งมองออกไปพร้อมกัน ทว่ากลับพบว่าเงาร่างของหลัวซิวหายไปแล้ว

“เขาหายไปแล้ว หรือว่าถูกทัณฑ์สายฟ้าสังหารจนสูญสิ้นไปแล้ว?”

“แสงอัสนีแรกก็น่าสยดสยองเช่นนี้แล้ว ดุจกระบี่อัสนีเล่มหนึ่งที่สามารถสังหารกึ่งราชาเทพ!”

“ข้าคิดว่าอาจไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป เมื่อครู่พวกเจ้าไม่เห็นกันหรือไงว่าจินหลิงหยุนยังมิใช่คู่ต่อสู้ของคนดังกล่าวเลย? ใช่ว่ากระบี่อัสนีที่สามารถสังหารกึ่งราชาเทพจะสังหารคนดังกล่าวได้เสมอไป”

ทุกคนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ประสบการณ์ในวันนี้เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาจดจำตลอดชีวิตได้แล้ว ไม่นึกเลยว่าผู้ที่ประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจนจะล่อทัณฑ์สายฟ้าพิโรธมาได้ โดยเฉพาะการตายของเทพฟ้าและเจ้านภาสิบกว่าคนนั้น ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกตื่นตะลึงอย่างมาก เป็นภาพเหตุการณ์ที่แค่หวนรำลึกถึงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้คนขนหัวลุกซู่ได้

ในบรรดาผู้คนทั้งหมด มีเพียงจินหลิงหยุนคนเดียวเท่านั้นที่กำลังแหงนหน้ามองไปทางเมฆแห่งทัณฑ์สายฟ้าที่รวมตัวกันบนนภา

และวินาทีนี้ หลัวซิวกำลังยืนอยู่ในเมฆแห่งทัณฑ์สายฟ้าด้วยท่าทางที่ทะนงองอาจ ร่างกายอาบอยู่ในทะเลอัสนีที่กว้างสุดลูกหูลูกตาอย่างไร้ขอบเขต

ในขณะที่สายฟ้าแรกได้ผ่าลงมา เขาก็พุ่งทะยานขึ้นฟ้าแล้ว สวนทางกับแสงอัสนี พุ่งเข้าไปในเมฆแห่งทัณฑ์สายฟ้า