เพียงพริบตาก็ไม่อยู่ในสายตา หายตัวไปในชั่วดีดนิ้ว

แต่ก็ด้วยพริบตานี้ที่ทำให้เทพธิดารั่วอู่ได้ฉวยโอกาสเคลื่อนผ่านช่องว่าง หนีจากสภาพสิ้นหวังมาได้

นี่ทำให้สีหน้าของพวกเล่อเซวี่ยซิวอึมครึมลงในชั่วขณะเดียว

เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่

พวกเขาแปลกใจสงสัย รู้สึกยากเข้าใจ

ถึงอย่างไรก็เป็นปริศนาชั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับกฎเกณฑ์เวลา ต่อให้เป็นระดับจักรพรรดิก็ยากจะมีพลังสัมผัสได้ นับประสาอะไรกับเหล่ามกุฎอริยะอย่างพวกเขา

“ตาม!”

เล่อเซวี่ยซิวกัดฟันกรอด ดวงตาแดงก่ำมองไปยังป่าหลอมจิตที่อยู่ห่างออกไป

ที่นั่นทิ้งกลิ่นอายของเทพธิดารั่วอู่ที่เคลื่อนผ่านห้วงอากาศว่างเปล่าไว้ ปิดบังพวกเขาไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

“รอจับตัวได้เมื่อไหร่ ข้าจะทรมานเจ้าให้ตาย!”

ชายหน้าตาห้าวหาญ ทั่วร่างปกคลุมด้วยพายุสายฟ้าสีน้ำเงินชวนประหวั่นคนหนึ่งกล่าวรุนแรง

ตอนอยู่ที่หุบเขาลมน้ำแข็งพวกเขาก็ล้อมกรอบเทพธิดารั่วอู่ ตามฆ่ามาตลอดทางจนถึงตอนนี้ ข้ามผ่านหนทางไกลมาแล้วหลายหมื่นลี้

ไม่ง่ายเลยกว่าจะบีบอีกฝ่ายให้อยู่ในสภาพสิ้นหวังที่นี่ได้ แต่ใครจะคิดว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝัน!

นี่จะไม่ให้พวกเขาเคียดแค้นได้อย่างไร

“ตาม!”

อริยะเจ็ดคนที่นำโดยเล่อเซวี่ยซิวเคลื่อนผ่านห้วงอากาศตามไป

“พี่หลิน ครั้งนี้ขอบคุณเจ้ามาก”

ใบหน้างามของเทพธิดารั่วอู่ซีดเผือด หว่างคิ้วเจือความซาบซึ้งใจ ขณะกล่าวมุมปากของนางยังมีคราบเลือดหลั่งออกมาเป็นสายๆ

เห็นชัดว่าอาการบาดเจ็บที่นางได้รับสาหัสกว่าที่เห็นภายนอกนัก

“อย่าเพิ่งพูดเลย รอเข้าไปในเหวลึกนั่นพวกเราก็ปลอดภัยแล้ว”

หลินสวินกล่าวรวดเร็ว

ยามนี้เขากำลังถูกรั่วอู่พาเคลื่อนผ่านห้วงอากาศว่างเปล่าไป

“ได้!”

เทพธิดารั่วอู่รับคำอย่างยินดี

“กลิ่นอายน่ากลัวยิ่งนัก!”

“นั่นเหมือนว่าจะเป็น… ใต้เท้าเล่อเซวี่ยซิวหรือ”

“สวรรค์ มกุฎอริยะตั้งเจ็ดคน!”

“ฮ่าๆๆ กองหนุนของพวกเรามาแล้ว เจ้าแพะสองขาที่ชื่อหลินสวินนั่นต้องตายแน่!”

ในป่าหลอมจิต ผู้แข็งแกร่งมากมายที่กำลังแตกตื่นลุกลี้ลุกลนต่างสังเกตเห็นเงาร่างของพวกเล่อเซวี่ยซิววาบผ่านไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

ทั้งหมดเป่าปากโล่งใจเฮือกใหญ่ ตื่นเต้นขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ทันที

ก่อนหน้านี้หลินสวินมุ่งหน้าซัดกวาดสังหารตลอดทาง มีผู้แข็งแกร่งไม่รู้เท่าไหร่ถูกฆ่า นอนจมอยู่ในแอ่งโลหิต

นี่ทำให้คนมากมายแทบจะพังทลาย คิดไม่ถึงว่าบุคคลขอบเขตมกุฎที่มาจากดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่ง ทำไมถึงน่ากลัวเช่นนี้ได้

แต่ตอนนี้เมื่อมกุฎอริยะเจ็ดคนอย่างพวกเล่อเซวี่ยซิวปรากฏตัว พวกเขาก็ไม่หวาดกลัวแล้ว!

“หืม? หลินสวิน? นี่มันเรื่องอะไรกัน”

พวกเล่อเซวี่ยซิวก็ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายตลอดทาง ล้วนอดสงสัยไม่ได้

ต้องรู้ว่าพวกเขามาคราวนี้ไม่ได้มาฆ่าหลินสวิน หากแต่กำลังไล่ล่าเทพธิดารั่วอู่อยู่

แต่ตอนนี้พวกเขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้แล้ว เรื่องเร่งด่วนคือตามล่าเป้าหมาย!

ในฐานะที่เป็นมกุฎอริยะ พวกเขาต่างรู้ดีว่าหากให้เทพธิดารั่วอู่รอดไปได้ ฝั่งดินแดนรกร้างโบราณก็จะมีคนที่เหมือนเสาหลักเพิ่มขึ้นมาอีกคน!

ลูกหลานของเผ่าวิหคชาดคนหนึ่ง หญิงสาวที่ก้าวสู่หนทางมกุฎอริยะคนหนึ่ง กลับสามารถต่อสู้หนึ่งต่อเจ็ด ยืนหยัดอยู่ใต้การตามล่าของพวกเขามาได้ถึงตอนนี้ เดิมทีก็สามารถพิสูจน์ความแข็งแกร่งของนางแล้ว

สวบ!

ไม่ทันไรเมื่อมาใกล้หุบเหวลึกนั่น พวกเล่อเซวี่ยซิวต่างก็ผงะในใจวูบหนึ่ง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

กลิ่นอายอันตรายแปลกประหลาดกำลังแผ่ออกมาจากเหวลึก ทำเอาเหล่ามกุฎอริยะอย่างพวกเขายังรู้สึกขนพองสยองเกล้า

“ผู้หญิงคนนั้นหนีเข้าไปในเหวลึกนี่แล้ว”

ชายชุดเขียวคนหนึ่งมุ่นคิ้วกล่าว เขาก้าวเข้าไปใกล้เหวลึก แผ่จิตรับรู้เข้าไปสำรวจใต้หุบเหว

ตูม!

พลังคลื่นกฎเกณฑ์ประหลาดสายหนึ่งพุ่งออกมาจากส่วนลึกของหุบเหวทันที จิตรับรู้ของชายชุดเขียวถูกจู่โจมทันใด คำรามเสียงอึดอัดขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ หนีห่างออกไปทันที

เพียงแต่สีหน้าเขากลับเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา “หุบเหวลึกนี้มีอะไรไม่เข้าที กลิ่นอายที่อัดแน่นอยู่ในนั้นสามารถกักขังพวกเราได้”

พวกเล่อเซวี่ยซิวตกตะลึง แววตาวาววาบ

“พวกเจ้าดู ที่นี่เคยเกิดการเข่นฆ่านองเลือดมาก่อน เอ๋ นี่คือติงซานเหอบรรณาการของเผ่างูมารทองคำนั่นไม่ใช่หรือ เขาตายแล้วรึ!?”

หญิงชราหน้าเด็กผมสีขนนกกระเรียน สวมชุดคลุมโลหิตคนหนึ่งกล่าวตกใจ จำร่างไร้วิญญาณหนึ่งที่นอนอยู่ในแอ่งโลหิตใกล้ๆ ได้

“พวกจี้ชิ่งเองก็ตายหมดแล้ว ทั้งยังตายไปเมื่อครึ่งชั่วยามก่อน ไม่มีทางถูกผู้หญิงเผ่าวิหคชาดนั่นฆ่าตายแน่”

อีกคนหนึ่งกล่าววิเคราะห์

“พวกเจ้าว่ามีคนช่วยรั่วอู่ แล้วพานางเข้าไปในเหวลึกนี้หรือไม่”

มีคนกล่าวเสียงต่ำ

ฟุ่บ!

เล่อเซวี่ยซิวลงมือทันที พุ่งไปกลางอากาศแล้วจับตัวชายชุดดำร่างผอมบางคนหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปมาสอบถาม “เล่าเรื่องที่เคยเกิดขึ้นที่นี่มา”

ชายชุดดำร่างผอมบางมาจากเผ่าผึ้งมารลายดำ ได้ยินดังนั้นก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับหลินสวินออกมาทีละเรื่องจนหมดเปลือก

ชั่วขณะหนึ่งมกุฎอริยะทุกคนในที่นั้นต่างอึ้งงัน

คิดไม่ถึงว่าแค่บุคคลขอบเขตมกุฎของดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่ง จะก่อเรื่องนองเลือดมากเช่นนี้ได้ในชั่วขณะเดียว

ถึงขั้นที่ว่าแม้แต่อริยะห้าคนอย่างพวกติงซานเหอยังตายอยู่ที่นี่กันหมด!

นี่น่าเหลือเชื่อเกินไป บุคคลขอบเขตมกุฎระดับอมตะเคราะห์ด่านเก้า สามารถข้ามระดับมาสังหารอริยะได้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ในแปดดินแดนนี้แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!

“เจ้าว่าอะไรนะ เล่อมู่จิ้นถูกหลินสวินนั่นฆ่าแล้วรึ”

ทันใดนั้นเล่อเซวี่ยซิวเดือดจัด ไอสังหารทะลุทะลวงไปทั้งตัว พาให้ห้วงอากาศใกล้เคียงครวญคร่ำ พลานุภาพร้ายกาจน่าพรั่นพรึงถึงขีดสุด

เล่อมู่จิ้นคือบุคคลแห่งยุคของเผ่าเหยี่ยวมารเหินของเขา ผู้กล้าจากสวรรค์ที่ถูกลิขิตให้ก้าวสู่หนทางมกุฎอริยะคนหนึ่ง!

เดิมทีตอนแรกที่เล่อเซวี่ยซิวมาป่าหลอมจิตก็เพื่อมารับเล่อมู่จิ้น พาเขาไปส่งที่เมืองอารักษ์มรรคเพื่อรวมตัวกับพวกเซวี่ยชิงอี เตรียมพร้อมเข้าสู่แดนลับนรกโลกันตร์

แต่ไหนเลยจะคิดว่าเล่อมู่จิ้นจะตายไปแล้ว!

ผู้แข็งแกร่งของเผ่าผึ้งมารลายดำคนนั้นตกใจจนทรุดลงกับพื้นกล่าวปากสั่น “ใต้… ใต้เท้า เรื่องนี้หลินสวินนั่นเป็นคนก่อ ข้า…”

ปึง!

เล่อเซวี่ยซิวมีหรือจะฟังคำอธิบายอะไร ซัดฝ่ามือเข้าที่กะโหลกของคนผู้นั้นจนละเอียด น้ำเลือดสาดกระจาย

เขาหน้าคล้ำเขียว ในดวงตามีไอสังหารแผ่ซ่าน จ้องมองไปยังเหวลึกนั่นที่อยู่ห่างไปไม่ไกล กล่าวว่า “นางตัวดีเผ่าวิหคชาด รวมถึงเจ้าสวะที่ชื่อหลินสวินนั่นล้วนต้องตาย!”

เขากล่าวเน้นทีละคำ ไอสังหารสะท้านฟ้าสะเทือนดิน

มกุฎอริยะคนอื่นอีกหกคนต่างเงียบงัน พวกเขาล้วนมองออกว่าด้วยการตายของเล่อมู่จิ้น ทำให้เล่อเซวี่ยซิวตกอยู่ในความเดือดดาล เวลานี้ใครก็ไปแตะต้องเขาไม่ได้

“หรือว่าพวกเราจะรออยู่ที่นี่”

มีคนมุ่นคิ้วถาม

“จับคนมา จับแพะสองขาของดินแดนรกร้างโบราณมาให้หมด!”

เล่อเซวี่ยซิวกล่าวโดยไม่ลังเล

ความคิดของเขาเหมือนกับเล่อมู่จิ้นหลานของเขาไม่มีผิด คิดจะใช้ชีวิตของผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณมาบีบหลินสวินให้ปรากฏตัว!

สมกับเป็นอาหลานยิ่งแล้ว

วันนี้โลกมารโลหิตสั่นสะเทือน

รั่วอู่มกุฎอริยะหญิงของดินแดนรกร้างโบราณถูกมกุฎอริยะมากมายตามฆ่า ซ่อนตัวอยู่ในป่าหลอมจิต!

ข่าวนี้ทำให้ผู้แข็งแกร่งของดินแดนโบราณมารโลหิตทุกคนตระหนักได้ว่า ที่แท้ในดินแดนรกร้างโบราณที่พวกเขาดูถูก ยังมีคนที่สามารถก้าวสู่ระดับมกุฎอริยะได้

นี่อยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขา

ข่าวที่สองเกี่ยวข้องกับหลินสวิน

หรือพูดได้ว่าการเข่นฆ่าสังหารและการเคลื่อนไหวที่หลินสวินก่อนั้นมีอิทธิพลมากกว่าข่าวของรั่วอู่ และทำให้ผู้แข็งแกร่งของดินแดนโบราณมารโลหิตพวกนั้นสั่นสะเทือนได้ยิ่งกว่า

การตายของเสอเจินเผ่างูมารทองคำ เล่อมู่จิ้นเผ่าเหยี่ยวมารเหิน รวมถึงอริยะทั้งห้าอย่างพวกติงซานเหอ…

ล้วนเป็นฝีมือของบุคคลขอบเขตมกุฎดินแดนรกร้างโบราณที่ยังไม่บรรลุอริยะคนหนึ่ง!

ใครจะกล้าเชื่อ

และหลินสวินที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บยังมุ่งหน้าซัดกวาดทั่วป่าหลอมจิต สังหารผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนได้ด้วยตัวคนเดียว ทำเอาผู้คนตื่นตระหนก

หลินสวินนี่เป็นสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่

ในดินแดนรกร้างโบราณมีบุคคลร้ายกาจราวพลิกฟ้าคนหนึ่งเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ไม่นานข่าวพวกนี้ก็แพร่ไปในเมืองอารักษ์มรรคของค่ายทัพใหญ่ดินแดนโบราณมารโลหิต ก่อให้เกิดความปั่นป่วนโกลาหลตามมา

ทั้งหลินสวินและรั่วอู่ ได้เข้าไปอยู่ในสายตาของผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าของดินแดนโบราณมารโลหิตทุกคนอย่างสมบูรณ์

วันนั้นแม้แต่เซวี่ยชิงอีที่ปิดด่านก็ถูกทำให้ตกใจ เงียบไปครู่ใหญ่จึงออกคำสั่งหนึ่งลงมา

“ไปบอกพวกผู้อาวุโสเล่อเซวี่ยซิว ว่าสองคนนี้จะต้องตาย หากพวกเขาต้องการ ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของดินแดนโบราณมารโลหิตเราจะร่วมมือกับพวกเขา!”

วันนั้นข่าวนี้ก็แพร่ออกไป

สำหรับผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าของดินแดนโบราณมารโลหิต เรื่องที่หลินสวินและรั่วอู่ทำช่างเป็นความอัปยศอดสูอย่างใหญ่หลวงครั้งแล้วครั้งเล่าจริงๆ ทำให้พวกเขาไม่อาจอดกลั้น

หากแพร่ออกไป เจ็ดดินแดนอื่นต้องมองพวกเขาเป็นตัวตลกแน่ ทำให้พวกเขารู้สึกว่าหน้าหม่นแสง

แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือพลังและรากฐานที่หลินสวินกับรั่วอู่สำแดงออกมาทำให้พวกเขาระวังตัว ไม่กล้าดูหมิ่นและดูถูกเหมือนก่อนหน้านี้อีก

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเหมือนเซวี่ยชิงอี ไม่อาจทนเห็นหลินสวินและรั่วอู่มีชีวิตรอดต่อไปอีก!

เพียงพริบตาในโลกมารโลหิตที่กว้างใหญ่ สายตาทุกคู่ล้วนเริ่มจับจ้องไปยังพื้นที่ป่าหลอมจิต

ในโลกมารโลหิตไม่ได้มีแค่ผู้แข็งแกร่งของดินแดนโบราณมารโลหิต ผู้แข็งแกร่งที่มาจากแปดดินแดนอื่นก็มีอยู่มากเช่นกัน

พวกเขาส่วนใหญ่ถูกเคลื่อนย้ายมาที่โลกมารโลหิตตอนสมรภูมิเก้าดินแดนเปิดออก

นอกจากผู้แข็งแกร่งของดินแดนรกร้างโบราณที่ถูกผู้แข็งแกร่งของดินแดนโบราณมารโลหิตกวาดล้างครั้งใหญ่ไปในช่วงนี้แล้ว ผู้แข็งแกร่งของเจ็ดดินแดนอื่นยังไม่เคยถูกเพ่งเล็งและเบียดเบียนอะไร

เมื่อผู้แข็งแกร่งที่มาจากเจ็ดดินแดนอื่นได้ยินเรื่องเกี่ยวกับหลินสวินและเทพธิดารั่วอู่ ก็รู้สึกแปลกใจอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน

ถึงอย่างไรดินแดนรกร้างโบราณก็อ่อนแอมานาน ตอนนี้กลับมีบุคคลร้ายกาจชั้นยอดสองคนโผล่ออกมา ย่อมทำให้ผู้คนคาดไม่ถึงเป็นธรรมดา

เมื่อผู้แข็งแกร่งเจ็ดดินแดนเหล่านี้จากโลกมารโลหิตไป ก็นำเรื่องเกี่ยวกับหลินสวินและเทพธิดารั่วอู่ไปแพร่ในขุมอำนาจค่ายทัพอื่นด้วย

สรุปง่ายๆ ก็คือ อิทธิพลที่เรื่องนี้สร้างขึ้นกำลังบ่มเพาะ!

แดนลับวังใต้ดิน

หลังจากมาถึงที่นี่แน่นอนว่าไร้อันตรายใดอีก รั่วอู่ยืนหยัดไม่ไหวอีกต่อไป ร่วงลงไปกองกับพื้น หน้าซีดเผือดจนไร้สีเลือด นัยน์ตากระจ่างทึบแสงไปมาก

“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”

หลินสวินประหม่าอยู่บ้าง นำโอสถเทพเยียวยาบางส่วนส่งมอบให้กับนาง

“ไม่เป็นไร”

รั่วอู่รับโอสถเทพมาเคี้ยวพลางสำรวจโดยรอบแล้วกล่าว “ก่อนหน้านี้ข้ายังเป็นห่วงว่าเจ้าจะประสบเคราะห์อยู่ที่ป่าหลอมจิต คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะหลบอยู่ในแดนลับที่ตัดขาดกับโลกภายนอกเช่นนี้”

หลินสวินชะงัก ไม่นานก็ตระหนักอะไรบางอย่าง กล่าวว่า “แม่นางรั่วอู่ เจ้า… เดิมทีคิดจะมาช่วยข้าหรือ”

รั่วอู่ยิ้มเยาะตนเอง “หากรู้ว่าเจ้าสุขสงบปลอดภัย ข้าคงไม่โง่ให้ถูกตามฆ่ามาตลอดทางจนถึงที่นี่”

ถึงตอนนี้หลินสวินเข้าใจแล้ว ในใจรู้สึกอบอุ่นอย่างอดไม่อยู่

……………….