“ที่นี่เหรอ?”
ลู่โจวยืนอยู่หน้าคฤหาสน์หรู เขากำลังอ่านแผนที่บนจอโฮโลแกรม ข้างกายของเขามีหลิงยืนอยู่ เขามองตัวเลขบนประตูคฤหาสน์แล้วเขาก็ก้าวเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าระบบควบคุมการเข้าออกคฤหาสน์แล้วเอ่ยขึ้นว่า
“ขอโทษนะครับ คุณโมรินากะอยู่บ้านไหม?”
จออิเล็กทรอนิกส์กะพริบเล็กๆ
หลังจากผ่านไปไม่นาน ภาพรอยยิ้มสดใสก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าลู่โจว
“นักวิชาการลู่เหรอ?” โมรินากะเอ่ยขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่ใบหน้าแสดงความประหลาดใจปนอยู่ “ลมอะไรหอบคุณมาเนี่ย?”
ลู่โจวตอบ “ผมต้องการจะคุยเรื่องบางอย่างกับคุณแบบละเอียดๆ น่ะ
“แหม่ จะไปคุยกันตรงทางเข้าบ้านก็กระไรอยู่ เข้ามาได้เลยครับ”
ประตูรั้วเหล็กทั้งสองข้างเปิดออกอย่างช้าๆ
ลู่โจวหันไปมองรอบๆ จากนั้นเขาก็พยักหน้าให้หลิงที่ใส่ชุดธรรมดาๆ มา พวกเขาเดินตามทางผ่านสวนข้างหน้า ตรงไปยังตัวคฤหาสน์ข้างใน
พ่อบ้านชราคนหนึ่งที่แม้ใบหน้าจะมีริ้วรอยแต่ก็ยังมีร่างกายกำยำแข็งแรงยืนอยู่หน้าประตูตึกหลัก พอเห็นลู่โจว เขาก็พยักหน้าเล็กๆ จากนั้นเขาก็ทำท่าเชื้อเชิญผู้มาเยือนเข้าไปในอาคาร และพาพวกเขาเดินผ่านระเบียงขนาดใหญ่
“บ้านคุณนี่ใหญ่ใช้ได้เลยนะครับ” ลู่โจวชมด้วยรอยยิ้มบางๆ ขณะนั่งลงที่โซฟาแล้วหันไปคุยกับโมรินากะ ซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามโต๊ะกาแฟ
“เป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษน่ะครับ” โมรินากะผงกหัวเล็กๆ ขณะที่เขามองผู้ดูแลบ้านวางถ้วยชาลงบนโต๊ะกาแฟ จากนั้นเขาก็ยิ้มให้ลู่โจวแล้วเอ่ยว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณมีธุระอะไรสำคัญถึงขนาดที่ต้องมาหาผมที่บ้านแสนสุขหลังนี้เลย”
ลู่โจวที่นั่งอยู่ที่โซฟาไม่แม้แต่จะแตะถ้วยชาบนโต๊ะ เขาคิดอยู่นิดหนึ่งก่อนจะตัดสินใจพูดเรื่องตรงประเด็นขึ้นมา “ผมไม่ใช่คนที่จะพูดอ้อมค้อมอะไร เพราะงั้นจะถามเลยก็แล้วกัน”
“คุณรู้เรื่ององค์กรจิตวิญญาณแห่งจักรวาลมากน้อยแค่ไหน”
บรรยากาศในห้องนั่งเล่นเปลี่ยนเป็นความเงียบสงัด
เหมือนอากาศในห้องกลายเป็นน้ำแข็ง
“…องค์กรเหรอ? องค์กรอะไรกัน?”
ดวงตาของโมรินากะฉายแววระแวดระวังอย่างไม่รู้ตัว ถึงแม้เขาจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ก็ตาม
ลู่โจวจับได้ว่าอีกฝ่ายมีท่าทีแปลกไป เขายิ้มเล็กๆ แล้วเหลือบไปมองที่หลิง
หลิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาก็พยักหน้าให้ จากนั้นเขาก็หยิบเมมโมรี่การ์ดขนาดเท่านิ้วหัวแม่โป้งออกมาจากกระเป๋า แล้ววางลงบนโต๊ะกาแฟจากนั้นจึงใช้นิ้วชี้ปัดมันส่งไปให้โมรินากะ
“นี่อะไร…?”
ลู่โจว “เมมโมรี่การ์ดที่เอาไว้เปิดกับทีวีโฮโลแกรมน่ะ เปิดสิ”
โมรินากะรู้สึกไม่สบายใจ เขาพยักหน้าให้พ่อบ้านแล้วสั่งให้อีกฝ่ายสอดเมมโมรี่การ์ดเข้าไปในทีวีโฮโลแกรม
ไม่นานนักอนุภาคแสงสีน้ำเงินอ่อนก็ปรากฏขึ้นในอากาศ แผงโฮโลแกรมโปร่งแสงปรากฏขึ้นเป็นกำแพงรายล้อมห้องนั่งเล่นอย่างรวดเร็ว
พ่อบ้านชราถามขึ้นด้วยความเคารพว่า
“จะให้ผมกดเปิดเลยไหมครับ?”
โมรินากะเหลือบมองลู่โจวด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ จากนั้นก็เหลือบไปมองหุ่นยนต์ที่นั่งอยู่ข้างเขา ตามด้วยตอบคำถามของพ่อบ้าน “เอาเลย ผมไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว”
พ่อบ้านชราผงกหัวรับ เขายื่นมือออกไปกดในอากาศ ภาพที่ชัดแจ๋วโผล่ขึ้นมาบนหน้าจอโฮโลแกรมโปร่งแสงทันที
สิ่งที่ฉายอยู่บนจอภาพเป็นภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิด และสถานที่ในวิดีโอก็เป็นตึกอพาร์ตเมนต์สักแห่งในเซี่ยงไฮ้
โมรินากะมองภาพตรอกซอกซอยที่เขาคุ้นเคย และภาพของตัวเขาเองที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ม่านตาของโมรินากะหดลงเล็กน้อย หยดเหงื่อเย็นเฉียบเริ่มค่อยๆ ปรากฏเป็นเม็ดๆ บนแผ่นหลัง
แน่นอน เขารู้อยู่แล้วว่าสถานที่นี้คือที่ไหน
ก็เขาเพิ่งไปมาเมื่อวานนี้เอง
ถ้าดูจากฉากบนจอแล้ว ภาพฟุตเทจกล้องวงจรปิดนี้ต้องเป็นของเมื่อวานแน่ๆ !
“หลังจากออกมาจากลานจอดรถแล้ว คุณโมรินากะก็มุ่งหน้าตรงไปที่ห้อง 5709 บนชั้น 57 แล้วใช้เวลาอยู่ที่นั่นสามชั่วโมง…ผมพูดถูกสินะ?”
“แล้วไง? มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้เหรอ?” โมรินากะมองลู่โจวที่นั่งตรงข้าม เขาพยายามควบคุมความเครียดในใจ เขาเอ่ยขึ้นมาโดยแกล้งทำเป็นใจเย็น “มันก็แค่ภาพฟุตเทจ อธิบายอะไรไม่ได้หรอก”
ลู่โจวยิ้มเล็กๆ “นี่ยังจะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องต่ออีกเหรอ? ถ้าคุณต้องการเนี่ย ผมทำได้แม้กระทั่งเอาประวัติการโทรคุณมาโชว์เลยนะ รวมไปถึงช่วงที่คุณข่มขู่นักวิชาการชิวหมิงรุ่ยด้วย”
พอโมรินากะได้ยินชื่อนักวิชาการชิว ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าหดหู่ในที่สุด
ในขณะที่ลู่โจวกำลังสงสัยว่าอีกฝ่ายจะอธิบายเรื่องราวอย่างไร ไหล่ของโมรินากะที่เกร็งก็หย่อนลงเล็กๆ ใบหน้าของเขาดูผ่อนคลายขึ้น
โมรินากะมองลู่โจวที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน เขาเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงนุ่มนวล “คุณชนะแล้ว”
ลู่โจวมองอีกฝ่าย เขาไม่พูดอะไรออกมา ได้แค่รอให้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายเล่าเรื่องทั้งหมด
“เอาจริงๆ นะ ผมแปลกใจมากเลย”
“ผมคิดว่าคุณจะเป็นแค่ไอ้แก่ไร้ประโยชน์จากเมื่อร้อยปีก่อนที่ผมจะทำอะไรกับคุณก็ได้ ผมไม่คิดว่าทางเลือกแต่ละทางที่คุณเลือกมา บวกกับผลลัพธ์พวกนั้น มันจะเกินความคาดหมายของผมขนาดนี้”
พอโมรินากะรู้ว่าตัวตนของตัวเองถูกเปิดโปงแล้ว เขาก็เลิกแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง เขาเอนหลังพิงโซฟาแล้วพูดต่อด้วยเสียงชิลๆ
“ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนคุณก็ควรจะตายตั้งแต่ระเบิดครั้งนั้นแล้ว ตายไปพร้อมกับหุ่นยนต์นั่นแหละ โลกภายนอกจะได้สร้างภาพยนตร์สุดวิเศษให้คุณกับหลิวเจิ้งซิง จุดจบของนักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่”
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ประเมินผมต่ำไปแล้วล่ะ” ลู่โจวเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ “ขนาดประตูนรกยังไม่ต้อนรับผมเลย คุณคิดจริงๆ เหรอว่าแค่ระเบิดสองกิโลกรัมจะจัดการผมได้?”
“ผมต้องยอมรับเลยว่าผมประเมินคุณต่ำไปจริงๆ ” โมรินากะมองลู่โจวที่นั่งตรงข้ามเขา จู่ๆ เขาก็โพล่งคำที่ไม่คาดคิดออกมา “ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว คุณมาเข้าร่วมกับพวกเราไหมล่ะ”
ลู่โจวชะงักไปเล็กน้อย เขาถามพร้อมรอยยิ้มว่า “ผมได้ยินคุณผิดไปหรือเปล่า?”
“คุณได้ยินถูกแล้วล่ะ ผมพูดจริง” โมรินากะเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ “ในช่วงหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมานี้ พวกเราเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แข็งแกร่งมากกว่าที่คุณจะจินตนาการได้ คุณรู้เรื่องต่างๆ มากเหลือเกิน การเข้าร่วมกับพวกเราเป็นหนทางเดียวที่คุณจะมีชีวิตรอดได้”
ลู่โจวเหลือบมองไปทางทีวีโฮโลแกรมแล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่จริงจัง “คุณน่าจะไปบอกเรื่องนี้กับตำรวจนะ”
สีหน้าโมรินากะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นหดหู่
“แปลว่าคุณจะปฏิเสธเหรอ?”
ลู่โจวถาม “ผมดูสนใจข้อเสนอคุณไหมล่ะ?”
“โอเค”
โมรินากะถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาหลับตา
ในขณะที่ลู่โจวกำลังคิดว่าโมรินากะจะยอมแพ้ อีกฝ่ายก็ลืมตาขึ้นมา
ม่านตาดำของเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง
“คุณไม่ควรมาหาผมถึงที่นี่เลย น่าเสียดายที่ความเย่อหยิ่งของคุณจะนำพาคุณไปสู่ความตาย! คุณก็เอาชีวิตรอดมาได้ตั้งนาน แต่ตอนนี้กลับจะมาเรียกหาความตายเสียอย่างนั้น ทำไมกันล่ะ?”
ในคฤหาสน์นี้มีสถานที่ปลอดภัยอยู่สองที่ ที่แรกคือห้องเก็บไวน์ใต้ดิน อีกที่คือห้องนั่งเล่น ที่แรกนั้นเชื่อมต่อกับเซฟเฮาส์ของเขาที่อยู่ใต้คฤหาสน์ ส่วนอีกที่นั้นเต็มไปด้วยอาวุธอัตโนมัติ อย่างน้อย 20 กระบอกที่เขาซ่อนไว้ในเงามืด
เพราะสุดท้ายสิ่งที่เขาทำก็คือการล้มล้างสังคมนี่นา ถ้าเขาไม่ได้เตรียมการป้องกันตัวเองไว้ล่ะก็ เขาอาจจะกลายเป็นศพไปสักวันแล้ว
ก็แค่โมรินากะไม่เคยคิดว่าไพ่ตายที่เขาเก็บไว้ป้องกันตัวเองจะมีประโยชน์ขึ้นมาสักวันเนี่ยแหละ หรือที่เขาไม่เคยคิดว่าจะต้องนำไพ่ตายพวกนี้มาใช้กับไอ้แก่หลงยุคจากเมื่อร้อยปีก่อน
จะอย่างไรก็แล้วแต่ ตัวตนของเขาจะถูกเปิดโปงไม่ได้!
ถ้าลู่โจวหายตัวไป คนจากกองความมั่นคงจะต้องตามหาเขาแน่ๆ แต่มันก็จะให้เวลาเขาในการหลบหนีด้วย
“คุณรู้เรื่องต่างๆ มากเกินไปแล้ว ไปลงนรกพร้อมกับความลับและความรู้พวกนี้ซะเถอะ!”
“นรกก็ไม่ต้อนรับผมมาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ก็เหมือนกันนั่นแหละ”
ลู่โจวมองลำแสงเลเซอร์ที่ฉายมาที่เขาและอาวุธอัตโนมัติที่ห้อยอยู่บนเพดาน แต่สีหน้าของลู่โจวกลับไม่มีความกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว เขายิ้มแล้วนั่งไขว้ขา
“ผมจะปล่อยเรื่องนี้ให้นายจัดการก็แล้วกัน”
แล้วคนที่นั่งอยู่บนโซฟาก็หายไปจากสายตาของโมรินากะในทันที…