แป้งของเขามีลู่ทางการตลาดค่อนข้างใหญ่สองแห่ง ที่แรกคือคาร์ฟูร์วอลมาร์ตซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่แบบนี้ อีกที่คือแฟรนไชส์ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดกลางของตระกูลเซว

ธุรกิจการผลิตแป้งลักษณะนี้ เทคโนโลยีค่อนข้างต่ำ และการแข่งขันสูงมาก

เดิมทีในประเทศมีแบรนด์พืชพันธุ์ธัญญาหารยักษ์ใหญ่อย่างจินหลงอวี๋ Fook Lam Moonมากมาย แบรนด์ของพวกเขาค่อนข้างโด่งดัง ดังนั้นสินค้าของพวกเขาขายได้ดีเลยทีเดียว

และทุกๆเมือง อย่างน้อยจะมีแบรนด์พื้นเมืองหลายๆแบรนด์

ดังนั้นแบรนด์เล็กๆแบบนี้ ทำได้เพียงมีจำนวนการขายในพื้นที่ที่แน่นอน และมีการพึ่งพาทางการตลาดสูงมาก

ถ้าช่องทางการตลาด ให้พื้นที่ในการจำหน่ายเยอะสักหน่อย รับของเขามากหน่อย เขาจะมีกำไรที่มากขึ้นได้

ถ้าตลาดไม่ให้พื้นที่จำหน่ายสินค้ากับเขา ไม่รับของของเขา งั้นแป้งทั้งหมดของเขาก็จะขายไม่ออกแล้ว

แบรนด์พื้นเมืองพืชพันธุ์ธัญญาหารหลายๆแบรนด์ ล้วนอยากสร้างสัมพันธไมตรีกับตระกูลเซว แบบนี้ก็จะสามารถได้รับทรัพยากรและส่วนแบ่งอย่างมากมายจากตระกูลเซวแล้ว แล้วยังสามารถเพิ่มปริมาณจำนวนการขายและกำไรให้ตัวเองได้อีกด้วย

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นซุนเต๋อวั่ง หรือสวีลี่ฉิน ล้วนเสแสร้ง อยากจะประจบประแจงเพื่อให้ได้มาเพื่อช่องทางนี้

นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมสวีลี่ฉินหวังอย่างยิ่งที่จะให้ซุนหงเหว่ยลูกชาย ได้คบกับลูกสาวของตระกูลเซว

ถ้าได้ขอลูกสาวของตระกูลเซว เป็นลูกสะใภ้ของตน แล้วแป้งของครอบครัวตัวเองยังจะต้องเครียดเรื่องช่องทางการตลาดอีกเหรอ? ไม่แน่หนึ่งปีเพิ่มหนึ่งเท่า สองปีเพิ่มสามเท่า

ขณะนี้ ท่าทีพี่ลู่นี้กำลังมองไปที่สวีลี่ฉินอย่างไม่พอใจ กล่าวอย่างเกรี้ยวกราดว่า “ลี่ฉิน แกไม่เห็นฉันเป็นเพื่อนเลยใช่มั้ย ลูกชายแกจะแต่งงานทั้งที ไม่บอกฉันสักคำ แล้วยังอยากให้ฉันช่วยลูกชายแกกับลูกสาวของประธานเซว์อีก นี่แกหลอกฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ?”

สวี่ลี่ฉินได้ยินคำพูดนี้ จึงรีบลากพี่ลู่มาข้างๆ แล้วกล่าวเบาๆว่า “โธ่พี่สาวของฉัน เรื่องนี้พูดแล้วยาว เอางี้ล่ะกัน วันนี้ลูกชายของฉันไม่มีทางแต่งงานแน่นอน”

พี่ลู่กล่าวอย่างเกรี้ยวกราด “แกโกหกใคร? งานเลี้ยงกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ยังจะหลอกฉันอีก?”

สวีลี่ฉินรีบอธิบาย “พี่สาวของฉัน ฉันจะบอกความจริงให้ เมื่อก่อนลูกชายฉันตาบอด หาแฟนที่ครอบครัวยากจน ครอบครัวของหญิงสาวคนนี้ยากจนมากๆ ต่ำขนาดไหน ก็ต่ำได้ขนาดนั้น คิดแต่จะแต่งเข้ามาเกาะรอบครัวฉัน เพื่อบรรลุเป้าหมายจึงได้ท้องลูกของลูกชายฉัน ที่ฉันทำในวันนี้ ความจริงแล้วแค่อยากให้มันทนไม่ได้ ให้มันยอมแพ้ไปเอง”

พี่ลู่ถาม “ถ้าหญิงคนนี้ไม่ยอมแพ้ละจะทำยังไง?”

สวีลี่ฉินดูแคลน “ยังไงฉันก็ไม่มีทางให้มันเข้ามาในครอบครัวพวกเราแน่นอน มันไม่ยอม ก็ช่างมัน จะทำอะไรก็ทำไป ไม่เกี่ยวอะไรกับครอบครัวของเรา”

ท่าทีของพี่ลู่ค่อยๆผ่อนคลายลง พยักหน้าแล้วกล่าว “กำลังหาแกอยู่พอดี พูดเรื่องของครอบครัวประธานเซว์”

“เกิดอะไรขึ้น?” สวีลี่ฉินตื่นเต้นทันใด รีบถาม “ประธานเซว์ว่ายังไงบ้าง?”

พี่ลู่พูดเสียงเบาๆ “ฉันบอกแกว่าลูกสาวของประธานเซว์ กลับมาจากต่างประเทศแล้วไม่ใช่เหรอ? ก่อนหน้านี้มีแฟนเป็นคนดำ”

“ใช่” สวีลี่ฉินพยักหน้า “เลิกกับคนดำนั่นแล้วไม่ใช่เหรอ?”

พี่ลู่ถอนหายใจ “เลิกนะเลิกแล้ว แต่เมื่อสองวันก่อนเพิ่งจะรู้ ว่าเด็กนั้นท้องแล้ว……”

สวีลี่ฉินกล่าวอย่างตกใจ “หา? ท้อง? เป็นลูกของคนดำ?”

พี่ลู่กล่าวอย่างเบื่อหน่าย “ใช่สิ! ที่สำคัญคือหญิงสาวคนนี้ดื้อมาก จะคลอดลูกออกมาให้ได้ ประธานเซว์มีลูกสาวเพียงคนเดียว ถ้าเด็กสาวคนนี้คลอดก่อนแต่ง แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?”

“ความจริง……”สวีลี่ฉินเอาลิ้นแตะเพดานปากแล้วกล่าว “เรื่องนี้จัดการยากจริงๆ”

พี่ลู่มอไปที่สวีลี่ฉินอย่างลึกซึ้ง แล้วพูดเบาๆ “ลี่ฉิน ตอนนี้มีข่าวดี อย่าหาว่าฉันพี่สาวไม่ดูแลแก”

สวีลี่ฉินรีบกล่าว “พี่ลู่ว่ามาเลย!”

พี่ลู่กล่าวอย่างระแวง “ภรรยาของประธานเซว์พูดกับฉันลับๆ ว่าถ้าหงเหว่ยของแกยอมแต่งกับลูกสาวของเธอ ในเวลาเดียวกันรอให้ลูกสาวเธอคลอดลูก เป็นพ่อให้เด็กคนนี้ ประธานเซว์ยอมให้สินเดิมฝ่ายหญิงสามสิบล้าน ต่อไปแฟรนไชส์ซูเปอร์มาร์เก็ตของเขา ครึ่งหนึ่งของล็อคแป้งจะเป็นของพวกแกเพียงเจ้าเดียว!”

————