บทที่ 2049 หิวครู่เดียวไม่ตายหรอก + ตอนที่ 2050 ความอึดอัดก่อนพายุจะก่อตัว

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2049 หิวครู่เดียวไม่ตายหรอก

อู่เยวี่ยสลบไปสองวันจนเกิดอาการหิวขึ้นมาจริง ๆจึงรับจานมาแล้วลงมือเขมือบเข้าไป

หมอเกาพูดโน้มน้าวว่า “อาหารเหล่านี้ไม่สามารถเพิ่มสารอาหารที่อุดมสมบูรณ์ให้น้ำนมได้เลย ไม่เพียงแค่ทำให้ร่างกายของเธออ่อนแรง แต่ยังไม่ดีต่อการเจริญเติบโตของเสี่ยวเป่าด้วย เธอต้องกินเนื้อสักหน่อยสิ”

เขาโน้มน้าวให้อู่เยวี่ยกินพวกเนื้อสัตว์และอาหารจานหลักมานับครั้งไม่ถ้วน แต่อู่เยวี่ยหัวรั้นไม่ฟังคำชักจูงของเขาเลย ดึงดันแต่จะทำตามใจตัวเอง

“บนร่างกายของฉันมีไขมันสะสมอยู่ตั้งเยอะแยะไป ตามกฎการเปลี่ยนแปลงพลังงาน สารอาหารครบถ้วนและเพียงพอน่า คุณไม่ต้องพูดแล้ว”

อู่เยวี่ยกินอาหารที่ไม่มีน้ำมันเลยสักนิดจึงไม่สามารถเพลิดเพลินกับการกินอาหารได้อย่างเต็มที่ จิตใจรู้สึกหดหู่มาก ไหนเล่าจะสนใจคำพูดของหมอเกา ใบหน้านิ่งขรึมไปทันที

ช่วงเวลาของการให้นมบุตรจะใช้พลังงานมากเป็นพิเศษ และเป็นช่วงลดน้ำหนักที่ดีที่สุด ถ้าเธอไม่คว้าโอกาสนี้ในการลดน้ำหนัก แล้วจะรอให้อ้วนเป็นหมูก่อนแล้วค่อยมาลดหรือไง?

หมอเกาโง่ลงทุกวัน น่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่มีคนที่ดีกว่านี้ ไม่งั้นเธอคงได้ฆ่าไอ้เศษสวะนี่ไปนานแล้ว

หมอเกาถอนหายใจและไม่ได้พูดโน้มน้าวอะไรอีก ในแววตามีแต่ความสิ้นหวังและรู้สึกผิด

ตอนนี้เขากำลังอยู่ในขุมนรกที่ดึงกลับขึ้นมาไม่ได้แล้ว

เฮ่อเหลียนเช่อยุ่งกับงานมาครึ่งค่อนวัน แต่ใจยังคงกลัดกลุ้มมิอาจปล่อยวางได้ เขาอยากกลับบ้านไปคุยกับเหมยซูหาน แต่เหมยซูหานออกบ้านไปตั้งแต่เช้าแล้ว โดยบอกว่ามีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการเลยไม่เจอเจ้าตัว

ไม่รู้ว่านางชั่วอู่เยวี่ยจะทำอะไรไม่ดีกับเสี่ยวเป่าอีกหรือเปล่า?

คำพูดของเหมยเหมยดังก้องอยู่ข้างหูของเฮ่อเหลียนเช่อ ที่บอกว่าอู่เยวี่ยต้องการลดน้ำหนักจึงกินแต่สลัดผลไม้และผักต้มที่ไร้สารอาหารอย่างพวกอาหารลดน้ำหนัก เพราะเสี่ยวเป่ากินน้ำนมที่ไร้สารอาหารถึงได้ผอมซูบเช่นนั้น!

ตอนแรกเขาก็ไม่ค่อยเชื่อนัก แต่เมื่อเห็นพฤติกรรมของอู่เยวี่ยในตอนเช้า ในใจของเฮ่อเหลียนเช่อจึงไม่อาจนิ่งนอนใจได้

ไม่แน่ว่าผู้หญิงคนนี้อาจจะทำเช่นนั้นจริง ๆ!

ไม่ได้การล่ะ เขาต้องกลับไปดูสักหน่อย!

ทันใดนั้นเฮ่อเหลียนเช่อก็นั่งไม่ติด ลุกขึ้นพรวดและไม่สนใจจะกินมื้อเที่ยงอีกต่อไป

อู่เยวี่ยกำลังกินมื้อเที่ยงอยู่ แม้ว่าจะเป็นพวกอาหารแคลอรีต่ำแต่มีปริมาณค่อนข้างมาก

อู่เยวี่ยกำลังเคี้ยวอย่างช้า ๆ ข้าวหนึ่งมื้อใช้เวลากินครึ่งค่อนชั่วโมง

เฮ่อเหลียนเช่อมาเร็วปานสายฟ้าพร้อมกับสั่งไม่ให้ลูกน้องส่งเสียงดัง เขาแอบย่องเข้าบ้านไปราวกับโจร

“ผมให้คนครัวทอดไข่ดาวแบบไร้น้ำมันให้เอาไหม?” หมอเกายังคงพยายามโน้มน้าวอู่เยวี่ย

“ไม่ต้องหรอก ไข่ไก่พลังงานสูง ต่อให้ไม่ใส่น้ำมันก็ทำให้อ้วนได้ ฉันกินแค่นี้ก็อิ่มแล้ว” อู่เยวี่ยปฏิเสธทันควัน ประจวบกับที่เฮ่อเหลียนเช่อเข้ามาได้ยินพอดี ความโกรธจึงพุ่งพรวดเข้ามาในใจ

เขาพยายามอดกลั้นไม่ให้ตนพุ่งพรวดเข้าไป อยากจะดูว่ายัยชั่วนี่คิดจะทำอะไรต่อ

เสี่ยวเป่าที่อยู่บนเตียงตื่นแล้ว เขาสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงรอบตัว ไม่มีกลิ่นหอมให้สูดและไม่มีน้ำเสียงอ่อนโยนนั้นแล้ว เสี่ยวเป่าจึงเงียบขึ้นกว่าเดิม เขาแค่นเสียงในลำคอออกมาเบา ๆบ่งบอกว่าหิวแล้วอยากกินนม

แม้ว่าเขาจะไม่อยากกินนมของผู้หญิงคนนั้น แต่เขาที่อายุยังน้อยจึงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และยากที่จะต่อต้านฤทธิ์ยาด้วย

“เสี่ยวเป่าตื่นแล้ว ต้องให้นมแล้วล่ะ” หมอเกาเดินไปอุ้มเสี่ยวเป่า ทุกครั้งที่เห็นเด็กคนนี้หมอเกาจะรู้สึกเหมือนถูกประณามด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ในใจเกิดการปะทะกันระหว่างความดีและความชั่ว

อู่เยวี่ยพูดขึ้นอย่างรำคาญใจ “จะรีบไปทำไมกัน รอให้ฉันกินเสร็จก่อนแล้วค่อยให้นมก็ได้ หิวครู่เดียวไม่ตายหรอก”

“โครม”

ประตูถูกเตะเข้ามา จากนั้นประตูก็สั่นไปมาอยู่ไม่กี่ที จนในที่สุดก็ทนไม่ไหวจึงพังลงมาบนพื้นและจบชีวิตลง

เฮ่อเหลียนเช่อเดินเข้ามาด้วยสีหน้าบึ้งตึง ความเยือกเย็นบนตัวเขาเหมือนพายุในขั้วโลกเหนือ หมอเกาตกใจจนขาทั้งสองข้างสั่นพึ่บพั่บ รู้ดีว่าวันนี้ชีวิตน้อย ๆของเขายากที่จะรอดไปได้แล้ว!

……………………………………………………………………

ตอนที่ 2050 ความอึดอัดก่อนพายุจะก่อตัว

อู่เยวี่ยเองก็สะดุ้งเฮือกใหญ่ ปีศาจตนนี้กลับมาอีกทำไมกัน?

ไหนว่าจะมาตอนค่ำไง?

แม้เธอจะกลัวแต่เพราะมียันต์ป้องกันตัวอย่างเสี่ยวเป่าอยู่เลยใจเย็นลงมาก ฝืนยิ้มให้น้อย ๆแล้วหยัดกายลุกขึ้น

เฮ่อเหลียนเช่อมองเธออย่างเยือกเย็นแต่ไม่ได้ลงไม้ลงมือ เอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ทำไมยังไม่ป้อนนมให้เสี่ยวเป่าอีก?”

“กำลังเตรียมจะป้อนแล้ว ฉันจะป้อนเดี๋ยวนี้เลย!” อู่เยวี่ยเห็นเฮ่อเหลียนเช่อไม่โกรธ แม้จะโล่งอกแต่เธอก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี

แบบนี้มันน่าอึดอัดเกินไป หากระเบิดอารมณ์เหมือนตอนเช้าเลยเธอคงสบายใจกว่านี้ แต่ตอนนี้…

อู่เยวี่ยไม่กล้าชักช้ารีบรับเสี่ยวเป่ามาจากมือคุณหมอเกา พอเห็นเฮ่อเหลียนเช่อไม่มีท่าทีจะหลบไปเลยกัดฟันปลดกระดุมเสื้อออกป้อนนมต่อหน้าเฮ่อเหลียนเช่อ

คุณหมอเกาอยากออกไปจากห้องนี้แต่ถูกเฮ่อเหลียนเช่อเรียกตัวไว้ “ใครให้คุณออกไป?”

“ผม…ผมออกไปหลบก่อน…” คุณหมอเกาตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่างและพูดไม่เป็นประโยค

“หลบอะไร คุณหมออย่างพวกคุณน่าจะเคยเห็นมามากแล้วนี่ รออีกเดี๋ยวฉันมีเรื่องจะถามด้วย” เฮ่อเหลียนเช่อเอ่ยเสียงเรียบ แต่พอเข้าหูคุณหมอเกาแล้วกลับเหมือนค้อนหนักที่ทุบหัวใจเขาอย่างแรง

จบแล้ว…ความแตกแล้วแน่ ๆ!

คุณหมอเกาสิ้นหวังเหลือเกินแต่กลับรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยเล็กน้อย ถูกจับได้ก็ดี เขาจะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานใจกับความรู้สึกผิดทุกวัน หวังเพียงว่าคุณชายเช่อจะปล่อยครอบครัวของเขาไป แล้วลงโทษเขาเพียงคนเดียว!

อู่เยวี่ยเองก็ใจดิ่งวูบแต่กลับแสดงสีหน้าเรียบนิ่ง ป้อนนมเสี่ยวเป่าด้วยความใจเย็น เสี่ยวเป่าดื่มไปเพียงไม่กี่คำก็ไม่ดื่มอีก เขาไม่ชอบกลิ่นนมของผู้หญิงคนนี้ ไม่อร่อยเท่านมที่ผู้หญิงอ่อนโยนคนนั้นป้อนเลยสักนิด

“เสี่ยวเป่าดื่มอีกหน่อยนะ…”

อู่เยวี่ยพยายามเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนพลางลูบหลังเสี่ยวเป่าแผ่วเบา ทำท่าเหมือนเป็นคุณแม่ที่แสนดีคนหนึ่งแต่เสี่ยวเป่ากลับไม่รับน้ำใจ หัวนมที่อู่เยวี่ยยัดใส่ปากถูกเขาคายออกมา

อู่เยวี่ยร้อนใจแล้ว เฮ่อเหลียนเช่อกำลังจ้องเขม็ง หากเห็นว่าเสี่ยวเป่าดื่มไปเพียงเล็กน้อยเขาจะต้องโมโหเหมือนเมื่อเช้าอีกแน่ เธอไม่อยากโดนตบตีอีกแล้วนะ!

แต่เสี่ยวเป่าไม่ยอมดื่มเธอก็ทำอะไรไม่ได้ อู่เยวี่ยได้แต่ยิ้มแหยอธิบายให้เฮ่อเหลียนเช่ออย่างจนใจว่า “เมื่อกี้เสี่ยวเป่าเพิ่งดื่มไปรอบหนึ่ง ตอนนี้คงยังไม่หิวเท่าไร เดี๋ยวฉันค่อยป้อนเขาอีกรอบ”

เฮ่อเหลียนเช่อมองอู่เยวี่ยอย่างเย้ยหยันแล้วย้อนถาม “ป้อนไปรอบหนึ่งแล้วงั้นเหรอ?”

“ใช่ ป้อนไปรอบหนึ่งแล้ว” อู่เยวี่ยก้มหน้าลงอย่างมีพิรุธ

เฮ่อเหลียนเช่อพยายามข่มไฟโทสะในใจลงคอยเตือนตัวเองว่าจะตบตีนังแพศยาคนนี้ให้ตายไม่ได้ ตอนนี้เสี่ยวเป่ายังต้องการอู่เยวี่ย เขาต้องอดทนไว้

ในอนาคตเขามีอีกนับพันนับหมื่นวิธีจัดการนังแพศยาอู่เยวี่ย!

“นี่คืออะไร? อาหารเที่ยงของเธอเหรอ?” เฮ่อเหลียนเช่อไม่ได้ถามต่อแต่เดินไปข้างโต๊ะอาหารแล้วหยิบจานอาหารที่ทานเหลือครึ่งหนึ่งขึ้นมา

อู่เยวี่ยใจหล่นตุบแล้วยิ้มกล่าว “แค่อาหารเสริม มื้อหลักยังไม่ได้ทาน ฉันแค่อยากเพิ่มวิตามิน แบบนี้ดีต่อเสี่ยวเป่าด้วย”

“อาหารเสริม? วิตามิน?” เฮ่อเหลียนเช่อหรี่ตาลงมองอู่เยวี่ยเหมือนกำลังมองคนตายคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยพูดความจริงเลยสักประโยคเดียว เห็นเขาเป็นคนโง่จริง ๆอย่างนั้นหรือ?

“ใครก็ได้เอาอาหารจานหลักของคุณนายเข้ามาหน่อย” จู่ ๆเฮ่อเหลียนเช่อก็หันตะโกนไปทางประตูก่อนจะมีคนรีบปฏิบัติตามคำสั่ง ไม่นานจากนั้นก็มีซุปไก่ร้อน ๆ รวมถึงอาหารแสนจะอุดมสมบูรณ์ถูกยกมาเสิร์ฟ

ทั้งหมดล้วนเป็นอาหารที่นักโภชนาการตระเตรียมไว้ มีทั้งเนื้อสัตว์และผักแถมยังเอื้อต่อการผลิตน้ำนม เพียงแต่ไม่เอื้อต่อคุณแม่ที่ลดความอ้วนในช่วงให้นมลูก

“ทานมื้อหลักให้หมด ทานเดี๋ยวนี้เลย!” เฮ่อเหลียนเช่อชี้ไปยังอาหารเต็มโต๊ะแล้วเอ่ยเสียงเย็นชา

………………………….