“นาย…นาย… นาย…” สวีลี่ฉินโกรธจนหายใจไม่ทั่วท้อง และตะโกนบอกซุนหงปินว่า: “หงปิน ช่วยป้าฆ่าไอ้สารเลวนี้ด้วย!”

ซุนหงปินก้าวถอยหลังทันทีและโบกมือด้วยความรังเกียจ: “ป้าครับ เมื่อกี้นี้คุณเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอว่าผมไม่ใช่คนในครอบครัวเดียวกับคุณแถมยังขับไล่ผมให้ใส่หัวไปจากที่นี่อีกด้วย แล้วทำไมตอนนี้คุณถึงมาขอให้ผมช่วยล่ะ อารมณ์คุณนี่ขึ้นๆลงๆจริงๆเลยนะ!”

สวีลี่ฉินรีบพูดอย่างยิ้มแย้มว่า: “หงปิน อย่าโกรธป้าเลย คำพูดที่ป้าพูดกับนายเมื่อกี้ป้าก็แค่พูดด้วยอารมณ์เท่านั้น นายไม่อยากจะให้ตระกูลซุนของเราดีขึ้นเรื่อยๆเหรอ?

“ขอโทษด้วยนะ” ซุนหงปินพูดในทันที: “ครอบครัวคุณคือครอบครัวคุณ ส่วนครอบครัวของผมก็คือครอบครัวของผมเอง เราไม่ใช่ครอบครัวเดี๋ยวกัน ดังนั้นถ้าคุณอยากจะทุบตีใครคุณก็ไปตีเองสิ คุณมาสั่งให้ผมทำแทนทำไม?”

ในขณะที่พูดกับเธอนั้น ซุนหงปินยังพูดกับสมาชิกของตระกูลซุนคนอื่นๆ อีกว่า: “พวกเราทุกคนไม่จำเป็นต้องก้าวก่ายเรื่องนี้ มันไม่ใช่ธุระของเรา เธอไม่ใช่คนในครอบครัวของเรา ดังนั้นเราต้องไม่โดนคนอื่นหลอกใช้ให้เป็นเครื่องมือของคนอื่น”

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด จากนั้นก็พากันถอยหลังหลายก้าว และไม่มีเจตนาที่จะช่วยเธอกำจัดเย่เฉินเลยแม้แต่นิดเดียว

สวีลี่ฉินโกรธจนตัวสั่นไปหมด เธอไม่คาดคิดเลยว่าซุนหงปินคนนี้จะไม่รู้จักกับการเคารพผู้ใหญ่และรักเด็กๆเลยสักนิด อย่างไรก็ตามเธอยังคงเป็นป้าของเขาอยู่ เขาพูดคุยกับตัวเองแบบนี้ได้อย่างไร

อย่างไรก็ตามสวีลี่ฉินก็เข้าใจเช่นกันว่านี่ไม่ใช่เวลามาถือสากับไอ้เด็กเปรตอย่างซุนหงปิน

ดังนั้นเธอจึงรีบพูดกับเซว์ซิงหลงว่า: “ท่านประธานเซว์ค่ะ ไอ้สารเลวนี้ดูถูกคุณ ดูถูกลูกสาวของคุณ คุณอย่าปล่อยมันไว้นะ โทรเรียกคนมาจัดการเขาเลย! มิฉะนั้น เรื่องแบบนี้จะถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว และชื่อเสียงของคุณกับลูกสาวจะต้องเสียหายป่นปี้ไปหมดแน่ๆเลย!”

เซว์ซิงหลงเองก็โกรธเคืองมาก และหลังจากที่ถูกสวีลี่ฉินปลุกระดมแล้ว เขาก็รู้สึกโกรธมากกว่าเดิม

ดังนั้นเขาจึงชี้ไปที่เย่เฉินและพูดอย่างโกรธเคืองว่า: “ไอ้สารเลว คอยดูนะฉันจะโทรเรียกคนมาอัดนายให้เละไปเลย!”

พูดเสร็จก็หยิบมือถือออกมาหาเบอร์โทรศัพท์แล้วกดโทรออก

แถมยังเปิดลำโพงโดยเจตนาอีกด้วย ในขณะที่กำลังรออีกฝ่ายรับสายนั้น เขาก็เยาะเย้ยและพูดกับเย่เฉินว่า: “นายรู้ไหมว่าฉันกำลังโทรหาใครอยู่? ฉันกำลังโทรหาหม่าจงเหลียง เฮียเหลียงจื่อ ซึ่งเป็นลูกน้องของท่านหงห้าและยังเป็นหนึ่งในโฟร์ผู้ยิ่งใหญ่เทนโนอีกด้วย แกเตรียมตัวตายได้เลย!”

เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “โอเค ฉันจะรออยู่ที่นี่แหละ แต่คุณควรเรียกคนมาเยอะหน่อยนะ เพราะวันนี้เป็นวันแต่งงานของลูกสาวของคุณกับซุนเต๋อวั่ง ดังนั้นการที่มีญาติพี่น้องมากมาร่วมงานในวันมงคลแบบนี้ มันจะได้เพิ่มความสนุกสนานให้กับงานไง!”

“นายมันหาเรื่องตายชัดๆ!” เซว์ซิงหลงตัวสั่นไปทั้งตัวด้วยความโกรธจัด และในเวลานี้สายโทรศัพท์ก็เชื่อมต่อสำเร็จพอดี ดังนั้นเขาจึงตะโกนทันที: “พี่เสี่ยวหม่า คุณรีบมาที่โรงแรมฮิลตันด่วนเลย ฉันต้องการจะฆ่าไอ้สาระเลวคนหนึ่งน่ะ!”

ซุปเปอร์มาร์เก็ตของเซว์ซิงหลงตั้งอยู่ในเขตชานเมืองและมณฑลโดยรอบ ในสถานที่แบบนั้น มักจะมีพวกอันธพาลมาเยี่ยมอยู่เสมอ พวกเขาเข้ามากรรโชกและปล้นสะดมร้านค้า หากคุณต้องการทำธุรกิจอย่างปลอดภัย คุณก็ต้องมีความสัมพันธ์กับโลกใต้ดินบ้าง ดังนั้นเขาจึงพึ่งพาหม่าจงเหลียงมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตามหม่าจงเหลียงเป็นถึงลูกน้องหนึ่งในโฟร์ผู้ยิ่งใหญ่เทนโนของท่านหงห้า และเขาสามารถอยู่ในอันดับที่สี่ในโลกใต้ดินแห่งเมืองจินหลิงได้แสดงว่าเขาจะต้องแข็งแกร่งมาก

นอกจากนี้แล้วชื่อเสียงของเขาก็โด่งดังมากเช่นกัน ตั้งแต่เซว์ซิงหลงเข้าหาเขามา ธุรกิจในซูเปอร์มาร์เก็ตของเขาก็ไม่เคยถูกพวกอันธพาลคุกคามอีกเลย

เขาและหม่าจงเหลียงร่วมมือกันมายาวนานแล้ว ทั้งคู่ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด เมื่อไม่นานมานี้ เขาเพิ่งประกาศไปว่าตัวเองและหม่าจงเหลียงจะสาบานต่อหน้าฟ้าดินว่าทั้งคู่นั้นจะเป็นพี่น้องกันตลอดไป แถมยังมอบอั่งเปาใบใหญ่มูลค่า 1.88 ล้านหยวนให้อีกฝ่ายด้วย เพื่อประโยชน์ของเงินหม่าจงเหลียงเลยตอบตกลงเขาไป

เซว์ซิงหลงคิดว่า หลังจากที่ทุกคนรู้ว่าเขาและหม่าจงเหลียงเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันแล้ว ธุรกิจที่อยู่ในเขตชานเมืองของเขาจะราบรื่นขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงเตรียมหาวันมงคลเพื่อทำพิธีสาบานโดยการเผากระดาษสีเหลืองและดื่มเลือดไก่

วันนี้เขาได้มาพบปะกับเย่เฉินที่อวดเก่งพอดี ไอ้หมอนี้ยังบังอาจเอาเรื่องแต่งงานของลูกสาวเขามาล้อเล่นอีกด้วย เขาเลยวางแผนที่จะให้หม่าจงเหลียงมาช่วยเขาสังหารหมอนี่ก่อน จากนั้นทั้งสองก็จะไปทานมื้อเที่ยงที่โรงแรมใหญ่แห่งหนึ่ง และจัดพิธีสาบานให้เสร็จสิ้นในเวลาเดียวกัน!

————