ตอนที่ 3141

War sovereign Soaring The Heavens

ณ คฤหาสน์หานชิง

 

ค่ายกลเคลื่อนย้ายรับตัว 1 ในบรรดาค่ายกลเคลื่อนย้ายรับตัวของคฤหาสน์หานชิง พลันปรากฏร่างหนึ่งถูกส่งกลับมา

 

“หลิวจี๋?”

 

“ศิษย์พี่หลิวจี๋!”

 

“ศิษย์พี่หลิวจี๋ครบกำหนดออกมาแล้วหรือ…”

 

“น่าเสียดายที่รอบนี้ศิษย์พี่หลิวจี๋ได้แค่อันดับที่ 31 เท่านั้น…อย่างไรก็ตามเพราะครานี้ศิษย์พี่หลิวจี๋ติดธุระจนเข้ามาช้าเกินไป หาไม่แล้วด้วยพลังฝีมือของศิษย์พี่หลิวจี๋คิดติด 1 ใน 30 อันดับแรกก็ย่อมไม่มีปัญหาอันใด”

 

“จริง”

 

 

การที่หลิวจี๋ถูกส่งตัวมาปรากฏ ก็ดึงดูดความสนใจของเหล่าศิษย์และอาวุโสของคฤหาสน์หานชิงในตำหนักเคลื่อนย้ายทันที สายตาทุกคนจึงละออกจากตารางจัดอันดับมาให้ความสนใจหลิวจี๋ก่อน

 

ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงไม่ทันสังเกตเห็นเลยว่า…

 

แทบจะพร้อมๆกันกับที่หลิวจี๋ปรากฏตัว ชื่อหลิวจี๋ในอันดับที่ 31 ก็ได้หายไป

 

ขณะเดียวกัน ชื่อเดิมที่ติดอยู่ในอันดับที่ 30 ก่อนหน้า ก็ร่นลงมาอยู่ที่อันดับ 31 แทน…

 

อันดับกลางๆก็บังเกิดความเปลี่ยนแปลงในฉับพลันเช่นกัน เพราะชื่อในอันดับที่ 45 ได้เปลี่ยนไปแล้ว

 

อันที่จริงความเปลี่ยนแปลงในตารางจัดอันดับครั้งนี้ นับว่าใหญ่โตไม่ใช่เล่นๆ

 

อย่างไรก็ตาม เพราะทุกคนในตำหนักเคลื่อนย้ายจุดนี้มัวแต่สนใจการปรากฏตัวของหลิวจี๋ จึงไม่ทันมีให้สังเกตเห็นอันดับที่บังเกิดความเปลี่ยนแปลงในฉับพลัน

 

ในเวลาเดียวกัน

 

ตำหนักตั้งค่ายกลเคลื่อนย้ายแห่งอื่นของคฤหาสน์หานชิง เสียงอุทานดังขึ้นระงม

 

“เฮ่ย! ชื่อศิษย์พี่หลิวจี๋หายไปแล้ว!!”

 

“ให้ตายเถอะ…ชื่อศิษย์พี่หลิวจี๋หายไปแล้วจริงๆ! นี่ศิษย์พี่ถูกใครกำจัดออกมาหรือไร แต่ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางตอนนี้ ใครมันยังมีพลังมากพอจะจัดการศิษ์พี่ได้กัน?”

 

“หรือจะเป็นฝีมือคนที่จัดการเหิงเฟิงของคฤหาสน์อู่จ้าน?”

 

“ชัดเจน! เป็นมันไม่ผิดแน่! พวกเจ้าดูนั่น…ตอนนี้มันมีคะแนนสะสม 154 แต้มแล้วแถมยังอยู่ในอันดับที่ 25 แล้วด้วย!!”

 

“อั้ย ดูเหมือนมันจะเป็นคนจัดการศิษย์พี่หลิวจี๋จริงๆ…เดิมทีศิษย์พี่หลิวจี๋มี 113 แต้ม ส่วนมันมี 41 แต้ม พอเอามารวมกันก็เป็น 154 แต้มพอดี!”

 

 

เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสของคฤหาสน์หานชิงได้แต่มองจ้องไปยังอันดับที่ 25 ด้วยความอื้ออึง แววตาเผยให้เห็นถึงความเหลือเชื่ออยู่บ้าง

 

ถึงแม้เจ้าของนามนี้จะสามารถจัดการเหิงเฟิงจากคฤหาสน์อู่จ้าน ที่ไม่ต่างอะไรกับหลิวจี๋ของคฤหาสน์หานชิงพวกมันอันเข้าใจความลึกซึ้งของกฏถึงขั้นตอนเบื้องต้น 6 ประการ และริเริ่มเข้าใจประการที่ 7

 

อย่างไรก็ตามต้องทราบด้วยว่ากฏที่เหิงเฟิงเชี่ยวชาญคือกฏแห่งดิน!

 

แต่หลิวจี๋ของคฤหาสน์หานชิงพวกมันเข้าใจกฏแห่งลม กระทั่งเข้าใจความลึกซึ้งที่เสริมความเร็วเป็นหลักของกฏแห่งลม 2 ประการ พลังฝีมือนับว่าแข็งแกร่งเหนือกว่าเหิงเฟิงมาก!

 

หากคิดหลบหนี ทั่วทั้งแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง เกรงว่าคงมีขุนนางอมตะ 10 ทิศเพียงหยิบมือเดียวที่สามารถหยุดหลิวจี๋ได้

 

ทว่าตอนนี้หลิวจี๋กลับถูกกำจัดออกมาแล้วจริงๆ…

 

“ต้วนหลิงเทียน?”

 

หลังหลิวจี๋ถูกส่งตัวออกมา มันก็มองจ้องไปยังตารางจัดอันดับก่อนใดอื่น ไม่ได้แยแสสายตาของผู้คนโดยรอบแม้แต่นิดเดียว และมันก็พบชื่อที่ทำให้มันเกลียดชังจับใจเร็วไว

 

ทันใดนั้น สองหมัดของมันกำแน่นจนกระดูกลั่นกร๊อบๆ ใบหน้ายังมืดดำปานจะคั้นได้เป็นหยดน้ำหมึก!

 

จังหวะนี้เอง ศิษย์และอาวุโสรอบๆก็เริ่มสังเกตเห็นท่าทีผิดแปลกของหลิวจี๋

 

และพอพวกมันมองตามสายตาหลิวจี๋ไปเห็นตารางจัดอันดับ ลูกตาพวกมันก็หดเล็กลงทันที ยังอดไม่ได้ที่จะสูดอากาศเข้าดังเฮือกด้วยความตกใจ “นิ..นี่มัน…ได้อย่างไรกัน!?”

 

“ศิษย์พี่หลิวจี๋ ก็ถูกต้วนหลิงเทียนของคฤหาสน์เฉวียนโยวผู้นั้นจัดการงั้นเหรอ!?”

 

“ให้ตายเถอะ ที่แท้คนชื่อต้วนหลิงเทียนนี่มันเป็นใครมาจากไหนกันแน่ ไฉนข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย…มันคือคนนอกที่คฤหาสน์เฉวียนโยวจ้างมาช่วยจริงๆหรือ!?”

 

“สมควรเป็นคนนอกที่ถูกจ้างมาแน่! หากมันเป็นคนของคฤหาสน์เฉวียนโยวแต่แรกไหนเลยพึ่งจะมาปรากฏตัวเอาตอนนี้? อย่างมันหากอยู่ในคฤหาสน์เฉวียนโยวจริง จะไม่มีชื่อเสียงได้อย่างไร?”

 

“จริง ข้าได้ยินมาว่าต้วนหลิงเทียนคนนี้เป็นแค่ศิษย์ฝ่ายนอกเท่านั้น ถ้าไม่ใช่คนที่ถูกจ้างมา พลังฝีมือระดับมันจะเป็นแค่ศิษย์ฝ่านอกคฤหาสน์เฉวียนโยวได้อย่างไร?”

 

“ข้าได้ยินสหายที่คฤหาสน์เฉวียนโยวบอกมาอีกด้วย…ว่าต้วนหลิงเทียนคนนี้ยังมีอายุไม่ถึงร้อยปี! นอกจากนั้นสหายข้ายังฟันธงมาแล้ว ว่ามันเป็นคนนอกที่ถูกจ้างมาช่วย!”

 

“อะไร!? ต้วนหลิงเทียนนั่นน่ะนะอายุไม่ถึงร้อยปี?”

 

“เหลวไหล! เป็นไปไม่ได้หรอก เรื่องพรรค์นี้ไม่มีทางเป็นไปได้เลย!”

 

 

คุยกันไปคุยกันมาในที่สุดก็มีคนเอ่ยถึงเรื่องต้วนหลิงเทียนอายุไม่ถึงร้อยปีขึ้นมา และไม่ใช่แค่คนเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อได้ลงคอว่าเรื่องนี้จะเป็นความจริงแม้แต่ตัวคนพูดเองก็ตาม

 

“หลิวจี๋ ต้วนหลิงเทียนของคฤหาสน์เฉวียนโยวผู้นั้น…เป็นเพียงศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยวจริงหรือ?”

 

เห็นใบหน้าอัปลักษณ์มืดดำของหลิวจี๋ เหล่าศิษย์ย่อมไม่กล้าเอ่ยถามอะไรอีกฝ่ายด้วยจะกลัวเป็นการตอกย้ำซ้ำเติมแผลเก่าอีกฝ่าย หากแต่เหล่าอาวุโสนั้นไม่ได้แยแสหรือเกรงใจอะไร จึงเลือกจะถามสิ่งที่อยากรู้ออกมาตรงๆ

 

“ใช่ มันเป็นศิษย์ฝ่ายนอกของคฤหาสน์เฉวียนโยว…อย่างน้อยๆป้ายประจำตัวมันก็เป็นป้ายสำหรับศิษย์ฝ่ายนอก”

 

หลิวจี๋กล่าวตอบเสียงหนัก

 

“มัน…แข็งแกร่งกว่าเจ้าอีกรึ?”

 

อาวุโสอีกคนของคฤหาสน์หานชิงเอ่ยถาม

 

“ฮึ! หากไม่ใช่เพราะข้าประมาทเอง คนที่จะถูกำจัดไม่ใช่ข้าแต่เป็นมัน!”

 

ยิ่งมาสีหน้าหลิวจี๋ยิ่งมืดดำคล้ำลง จากนั้นก็หันไปมองชื่อต้วนหลิงเทียนบนตารางจัดอันดับ เอ่ยออกด้วยน้ำเสียงอาฆาต “เดือนหน้าหากข้าเจอมันอีก…ถ้าข้าฆ่ามันไม่ได้! ข้าหลิวจี๋ยอมเปลี่ยนไปใช้แซ่ของมัน!!”

 

กล่าวจบ หลิวจี๋ก็หันหลังเตรียมจากไป

 

และวาจาที่หลิวจี๋กล่าวไว้ก่อนจะหันหลังกลับ ก็ทำให้สองตาคนของคฤหาสน์หานชิงรอบๆเปล่งประกายวับวาวขึ้นมาทันที เพราะน้ำเสียงของหลิวจี๋ฟังดูมั่นใจถึงขีดสุด

 

ที่หลิวจี๋ถูกกำจัดออกมาคราวนี้ สมควรเป็นเพราะหลิวจี๋ประมาทจริงๆ

 

ท้ายที่สุดแล้วป้ายที่ห้อยแขวนบนเอวของต้วนหลิงเทียนก็คือป้ายศิษย์ฝ่านอกของคฤหาสน์เฉวียนโยว สิ่งนี้พอใครเห็นก็ต้องดูเบาอีกฝ่ายเป็นเรื่องธรรมดา

 

“หลิวจี๋! แล้วเจ้านั่นมันอายุไม่ถึงร้อยปีจริงๆรึ?”

 

เมื่อแผ่นหลังของหลิวจี๋กำลังจะหายลับไปจากสายตาทุกคน อาวุโสคนหนึ่งที่นึกอะไรได้ออกก็เร่งโพล่งถามออกไปทันที

 

“อาวุโส…ขุนนางอมตะ 10 ทิศที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งมิติได้ 6 ประการ…ท่านว่ามันจะมีอายุไม่ถึงร้อยปีได้หรือ?”

 

ก่อนที่ร่างหลิวจี๋จะหายลับไปจากสายตาทุกคน มันก็เอ่ยประโยคดังกล่าวทิ้งท้ายไว้…

 

แน่นอนว่าที่ไฉนมันเลือกจะตอบกลับมาโดยการย้อนถามแบบนี้ เพราะมันไม่ได้ใช้สำนึกเทวะตรวจสอบต้วนหลิงเทียน และเลือกจะลงมือทันทีที่เห็นต้วนหลิงเทียน

 

กระทั่งหลับมันยังไม่เคยฝันถึง

 

ว่าคนที่มันคิดว่าสมควรตกอยู่ในกำมือมันง่ายๆ จะเป็นฝ่ายกำจัดมันซะเอง

 

และเพราะหลิวจี๋ไม่ได้ยืนยันเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนอายุไม่ถึงร้อยปี ดังนั้นพอได้ยินใครพูดเรื่องต้วนหลิงเทียนยังมีอายุไม่ถึงร้อยปีออกมา ความคิดแรกของมันคือ ‘ไร้สาระสิ้นดี…’

 

คนอื่นอาจไม่รู้พลังฝีมือของต้วนหลิงเทียน แต่มันรู้ดี!

 

ขุนนางอมตะ 10 ทิศที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติ 6 ประการ…

 

ตัวตนเช่นนี้มีอายุไม่ถึงร้อยปี?

 

เป็นไปไม่ได้แน่นอน!

 

“เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งมิติ 6 ประการรึ?”

 

หลังจากที่หลิวจี๋จากไปแล้ว เหล่าศิษย์กับผู้อาวุโสคฤหาสน์หานชิงก็ได้แต่หันมามองหน้าสบตากัน จนแลเห็นความเหลือเชื่อในแววตากันและกัน

 

ถึงแม้พวกมันจะพอตระหนักได้ว่าศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยวที่อยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมา ต้องไม่ใช่คนธรรมดาๆแน่ และเตรียมใจรับทราบว่าอีกฝ่ายเข้าใจความลึกซึ้ง 7 ประการของกฏใดฏหนึ่งเอาไว้แล้ว…

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกมันเตรียมใจไว้ ยังไม่น่าตกใจเท่าคำพูดของหลิวจี๋!

 

เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งมิติ 6 ประการ สิ่งนี้หมายความว่าอะไร?

 

นั่นไม่ยากไปกว่าการทำความเข้าใจความลึกซึ้งของกฏทั่วไป 8-9 ประการเลย!

 

“ก่อนหน้านี้ตอนสหายของข้าในคฤหาสน์อู่จ้านบอกว่าต้วนหลิงเทียนของคฤหาสน์เฉวียนโยวผู้นั้นเข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติได้ถึง 7 ประการ ข้ายังไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่…แต่ตอนนี้ดูเหมือนที่มันพูดจะเป็นความจริง”

 

ตอนนี้เองศิษย์คฤหาสน์หานชิงคนหนึ่งพลันกล่าวออกเสียงหนัก

 

“ความลึกซึ้งของกฏมิติ 7 ประการ…เจ้าแน่ใจหรือ?”

 

อาวุโสและเหล่าศิษย์โดยรอบบหันไปหยีตามองถามมันทันที ในแววตายังเผยความไม่อยากจะเชื่อออกมา

 

แต่ถ้าหากสิ่งนี้เป็นความจริง หมายความว่า…

 

ตอนศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยวผู้นั้นลงมือจัดการหลิวจี๋ อีกฝ่ายไม่ได้ลงมือเต็มกำลัง!

 

หากเป็นแบบนั้น ถึงหลิวจี๋จะไม่ประมาท ก็ไม่แน่ว่าจะเอาชนะอีกฝ่ายได้!

 

 

ในขณะที่คฤหาสน์หานชิงกำลังฮือฮาเพราะหลิวจี๋ถูกกำจัดออกมา คฤหาสน์อมตะระดับ 6 อื่นๆ ไม่เว้นคฤหาสน์เฉวียนโยว ก็กำลังฮือฮากันยกใหญ่เช่นกัน

 

“ศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยว ต้วนหลิงเทียนนั่น มันเข้าไปในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางแค่ 5 วัน แต่กลับได้คะแนนมากกว่า 150 คะแนนแถมรั้งอยู่ในอันดับที่ 25 แล้ว?”

 

“ถึงแม้จะมีคนที่เข้าไป 5 วันแล้วได้คะแนนมากกว่ามันมากมาย…แต่คนเหล่านั้นไม่มีใครเข้าแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางเอาช่วงปลายเดือน! เพราะอย่างที่พวกเรารู้กันว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงปลายเดือน โอกาสได้คะแนนก็ยิ่งมีน้อยลง”

 

“ต้วนหลิงเทียนคนนีไม่เพียงร้ายกาจแต่โชคยังดีอีกด้วย…เพราะสุดท้ายที่มันได้คะแนนมากขนาดนี้เพราะมันพบหลิวจี๋ของคฤหาสน์หานชิง และเอาชนะมาได้…”

 

“หากวัดกันแต่ในคฤหาสน์เฉวียนโยว…อันดับของมันตอนนี้ก็เป็นรองแค่โจวหงเจี๋ยคนเดียวเท่านั้น…”

 

 

นี่นับเป็นครั้งแรกที่ต้วนหลิงเทียนเข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณ และยังพึ่งเข้าไปได้ 5 วัน อย่างไรก็ตามในเวลา 5 วันเขาก็ไต่มาถึงอันดับที่ 25 แล้ว

 

เรียกว่าวันนี้ไม่มีคฤหาสน์อมตะระดับ 6 ในแดนสวรรค์ใต้แห่งไหนไม่รู้จักชื่อเขา

 

เป็นธรรมดาว่าถึงพวกมันจะรู้ว่าที่คฤหาสน์เฉวียนโยวมีตัวตนเช่นนี้ดำรงอยู่ แต่ทั้งหมดก็คิดว่าเป็นคนนอกที่ถูกคฤหาสน์เฉวียนโยวจ้างมาให้ช่วงชิง 20 อันดับแรกของแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางเท่านั้น

 

เพียงชั่วพริบตา อีก 2 วันก็ได้ล่วงเลยผ่านไป

 

เมื่ออันดับในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางได้หยุดเคลื่อนไหวอย่างเป็นทางการ ผู้ที่ยังอยู่ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางก็ถูกส่งตัวออกมาด้านนอกกันหมด

 

ฟุ่บ!

 

ต้วนหลิงเทียนยก็ถูกส่งออกมาเช่นกัน และจุดที่เขาปรากฏตัวก็คือค่ายกเคลื่อนย้ายรับตัว ตำหนักเคลื่อนย้ายหลังเดียวกับตอนที่เขามาลงทะเบียน

 

ตอนออกมาสีหน้าต้วนหลิงเทียนก็แลดูซึมๆอยู่บ้าง

 

นั่นเพราะตั้งแต่ที่จัดการหลิวจี๋ของคฤหาสน์หานชิงไป เขาก็ไม่พบเจอแม้แต่เงาผู้ใดอีกเลย ได้แต่เหินร้างเคว้งคว้างจนถึงเวลาส่งตัว…

 

“ต้วนหลิงเทียนออกมาแล้ว!”

 

และทันทีที่ต้วนหลิงเทียนออกมา เขาก็พบว่าบัดนี้ถูกผู้คนรายล้อมเอาไว้ ขณะเดียวกันก็มีหลายคนที่มองจ้องเขาตาเป็นมัน จากนั้นพวกมันก็ไม่คิดเกรงอกเกรงใจอะไร พากันแผ่สำนึกเทวะมาตรวจสอบเขาทันที!

 

“ให้ตายเถอะ! อายุไม่ถึงร้อยปีจริงๆ!!”

 

“จ้าวสวรรค์ช่วย! ข้านึกว่าเป็นแค่ข่าวลือเสียอีก…ไม่คิดเลยว่าที่แท้ต้วนหลิงเทียนจะยังมีอายุไม่ถึงร้อยปีจริงๆ!!”

 

“อายุไม่ถึงร้อย แต่ได้คะแนนมาขนาดนี้…ตั้งงแต่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางถูกสร้างขึ้นมายังไม่เคยปรากฏมาก่อน! แถมต้วนหลิงเทียนไม่ใช่แค่เก็บคะแนนได้อย่างเดียว แต่ยังได้อันดับที่ 25 อีกด้วย!”

 

“และนี่เป็นเพราะต้วนหลิงเทียนมาเอาตอนปลายเดือนด้วยล่ะ…ข้าล่ะตั้งหน้าตั้งตารอดูชมนัก! ว่าเดือนหน้าต้วนหลิงเทียนจักเป็นอย่างไร?!”