ตอนที่ 3144

War sovereign Soaring The Heavens

WSSTH ตอนที่ 3,144 : แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางรอบใหม่

 

 

ในฐานะหนึ่งในองค์กรมือสังหารชั้นนำของแดนสวรรค์ใต้ แม้องค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดจะไม่ทรงพลังเท่า 10 ตระกูลใหญ่ กับ 5 นิกายหลักในแดนสวรรค์ใต้ แต่ในแง่การรวบรวมข้อมูลข่าวสารนับว่าไม่ได้ด้อยกว่ากันแม้แต่น้อย

 

“ต้วนหลิงเทียน อายุไม่ถึงร้อยปีบรรลุขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศ และเข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติ 6 ประการ?”

 

“นอกจากนั้น ผู้ที่นำมันมาเข้ารวมคฤหาสน์เฉวียนโยว ยังเป็นอดีตคนของนิกายอมตะเป้าผู่?”

 

พอรองผู้นำองค์กรมือสังหารกะโหลกเลือด เฉินหยวนซาน ได้รับข้อความดังกล่าว สีหน้าของมันก็เปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์ปั้นยากนัก

 

ถึงมันจะยังไม่แน่ใจเต็มสิบส่วน

 

แต่มันเชื่อว่า ศิษย์ฝ่ายนอกของคฤหาสน์เฉวียนโยว ที่อยู่ๆก็โด่งดังขึ้นมาในเวลาชั่วข้ามคืนจากอัจฉริยะภาพอันท้าทายสวรรค์นั่น สมควรเป็นคนๆเดียวกับศิษย์ที่แท้จริงของนิกายอมตะเป้าผู่นามต้วนหลิงเทียน ที่ลูกชายมันเป็นผู้คำประกันออกภารกิจสังหาร!

 

จากข้อมูลที่มันได้รับมาทั้งหมด โอกาสที่ทั้งคู่จะเป็นคนๆเดียวกันมีสูงมาก

 

ถึงแม้ความสามารถและพลังฝีมือระหว่างคนสองคนจะแตกต่างกันมหาศาล แต่อย่าลืมสิ่งที่ต้วนหลิงเทียนของนิกายอมตะเป้าผู่ประสบพบเจอมาไม่นาน อีกฝ่ายถูกตัวตนที่อ้างว่าเป็นจักรพรรดิอมตะกับชาติมาเกิดหลอกไปเป็นเครื่องสังเวยของต้นไม้เทพสังเวยสวรรค์…

 

ผลเทพสังเวยสวรรค์ เป็นผลไม้อมตะที่เรียกว่ามีพลังอำนาจท้าทายสวรรค์อย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่จะทำให้ยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดที่รับประทานมันลงไปจะทะลวงด่านพลังไปถึงขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศได้ในเวลาไม่เกิน 1 เดือน…

 

แต่ผลเทพสังเวยสวรรค์ยังจะช่วยให้ผู้ที่ใช้มันนั้น เข้าใจความลึกซึ้งของกฏที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน…และจากข่าวลืออย่างน้อยๆก็จะเข้าใจความลึกซึ้งของกฏได้ถึง 6 ประการ!

 

“หากต้วนหลิงเทียนนั่นได้ผลเทพสังเวยสวรรค์มาล่ะก็…พวกมันสมควรเป็นคนๆเดียวกันไม่ผิดแน่!”

 

อันที่จริงในใจของเฉินหยวนซวนก็เชื่อไปตั้งแต่ที่ได้รับข้อมูล

 

ว่าศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยวนามต้วนหลิงเทียน กับศิษย์ที่แท้จริงนามต้วนหลิงเทียนของนิกายอมตะเป้าผู่ที่ยังเป็นเป้าหมายในภารกิจขององค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดมันเป็นคนๆเดียวกัน!

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยความระมัดระวังทั้งรอบคอบ มันจึงส่งคนไปตรวจสอบความเป็นมาของศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยวนามต้วนหลิงเทียนก่อน

 

‘หากยืนยันได้ว่าต้วนหลิงเทียนของคฤหาสน์เฉวียนโยวเป็นคนๆเดียวกับต้วนหลิงเทียนของนิกายอมตะเป้าผู่ ข้าต้องรีบแจ้งให้สารเลวน้อยนั่นรู้…เพราะหากพวกมันเป็นคนๆเดียวกันจริง คนที่โดดเด่นเช่นนั้นคฤหาสน์เฉวียนโยวต้องทุ่มความสนใจไม่น้อยแน่ คิดส่งคนไปฆ่ามันย่อมยากเย็นกว่าเดิมหลายส่วน…’

 

‘หวังว่าพวกมันจักเป็นแค่คนสองคนที่มีชื่อแซ่เหมือนกัน…’

 

จังหวะนี้เฉินหยวนซานได้แต่ลอบภาวนาในใจอย่างเลื่อนลอย

 

แต่มันรู้ดีแก่ใจ ว่าใต้หล้าไหนเลยจะมีเรื่องบังเอิญพรรค์นี้…

 

คนที่มีชื่อแซ่เดียวกันอาจจะมี แถมมีไม่น้อยด้วย

 

แต่อย่าได้ลืมไปว่า ต้วนหลิงเทียน ศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยวคนนี้ ถูกพามาเข้าร่วมคฤหาสน์เฉวียนโยวโดยฉีเทีนยหมิง 1 ใน 10 ผู้ตรวจการคฤหาสน์เฉวียนโยว…และนอกจากนั้นฉีเทียนหมิงยังเป็นอดีตผู้อาวุโสระดับสูงในนิกายอมตะเป้าผู่อีกด้วย

 

ใต้หล้าเคยมีเรื่องบังเอิญพรรค์นี้ด้วย?

 

เป็นไปไม่ได้เลย!

 

 

ณ คฤหาสน์เฉวียนโยว

 

หลังจากส่งเหล่าผู้ตรวจการที่เป็นสหายของฉีเทียนหมิงกลับไปแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองฉีเทียนหมิงพลางเอ่ยถึงเรื่องที่พูดกันก่อนหน้า “ผู้เฒ่าฉี ท่านเคยบอกข้าว่า…หากข้าคิดจะติดอยู่ใน 10 อันดับแรกข้าควรเข้าไปแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางหลังจากผ่านไป 3 วันใช่ไหม?”

 

“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ?”

 

ต้วนหลิงเทียนยังจำสิ่งที่ฉีเทียนหมิงบอกเขาไว้ได้เป็นอย่างดี ว่าหากเขาต้องการแค่ติด 20 อันดับแรก เขาสามารถเข้าไปได้ทันทีเลย แต่หากอยากจะติด 10 อันดับแรก ให้เขาเลือกจะเข้าไป 3 วันหลังจากนั้น

 

“3 วันนี้ เป็นเวลาสำหรับปล่อยให้ผู้อื่นต่อสู้ช่วงชิงคะแนนกันเอง…เจ้าลองคิดดูเถอะ หากเจ้าเข้าไปหลังจากผ่านไป 3 วัน คนที่เจ้าจะเจอในนั้น ส่วนใหญ่ก็ต้องเป็นผู้ที่เอาชนะผู้อื่นและสะสมคะแนนมาพอสมควรแล้ว เช่นนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องเอาชนะผู้คนมากมาย เจ้าก็จะได้คะแนนมาโดยง่าย”

 

ฉีเทียนหมิงกล่าว

 

หลังได้ฟังคำพูดของฉีเทียนหมิง ต้วนหลิงเทียนก็เข้าใจ

 

เขาเองก็ไม่ทันคิดเรื่องนี้มาก่อน

 

ตอนนี้พอได้ยินฉีเทียนหมิงอธิบาย เขาก็ตระหนักได้

 

หากเขาเข้าไปตั้งแต่วันแรก ก็จะพบเจอแค่ผู้ที่มีคะแนนเดียวเหมือนเขา ต่อให้เอาชนะพวกมันได้ 20 คนเขาก็อาจจะได้รับแค่ 20 แต้มเท่านั้น

 

เช่นนั้นปล่อยให้พวกมันต่อสู้กันเองไปก่อนสักสองสามวัน รอให้สะสมคะแนนได้ประมาณหนึ่งค่อยเข้าไปจัดการ ย่อมมีประสิทธิภาพมากกว่า

 

“หากเป็นแบบนั้น…3 วันไม่สั้นไปหน่อนรึ?”

 

ต้วนหลิงเทียนเอ่ยถาม

 

เขาลองคิดทบทวนดู ก็พบว่าเช่นนั้นรอให้ผ่านไป 5-6 วันค่อยเข้าไปน่าจะดีกว่า

 

“เจ้าจะรออีกสัก 2-3 วันแล้วค่อยเข้าไปก็ได้…แต่ถึงตอนนั้นผู้คนคงน้อยลง จริงอยู่ที่แต่ละคนอาจถือแต้มไว้ไม่น้อย แต่เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าจะหาคนเจอ?”

 

ฉีเทียนหมิงกล่าว “เช่นนั้น 3 วันจึงเหมาะสุด…หลังผ่านไป 3 วันด้านในก็ยังมีผู้คนไม่น้อย ต่อให้เจ้าไม่เจอคนที่ถือคะแนนมาก แต่อย่างน้อยๆเจ้าก็ไม่ถึงขั้นที่ไม่พบเจอแม้แต่เงาคนให้ปวดใจ…”

 

“เดือนนี้ แม้เจ้าจะได้คะแนนมาไม่น้อย แต่หากไม่นับกลุ่มคนของคฤหาสน์อู่จ้าน หากข้าเดาไม่ผิด เจ้าก็พบเจอคนแค่ไม่กี่คนสินะ?”

 

กล่าวถึงจุดนี้ฉีเทียนหมิงก็มองจ้องต้วนหลิงเทียนตาเขม็ง ต้วนหลิงเทียนเองก็พยักหน้ารับ นั่นเพราะเขาพบเจอคนน้อมากจริงๆ เรียกว่าเวลากว่า 9 ส่วน เขาใช้มันไปกับการบินเคว้งคว้างอย่างว้าเหว่

 

เหตุผลที่ไฉนคราวนี้เขาถึงติดอยู่ใน 30 อันดับแรก ทั้งหมดเพราะพบเจอคนที่ถือแต้มไว้มากพอสมควรในมือ

 

“ผู้เฒ่าฉี งั้นข้าจะทำตามคำแนะนำของท่านแล้วกัน…หลังแดนลับสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางเปิดออกอีกครั้งพรุ่งนี้ ข้าจะรอให้มันผ่านไป 3 วันก่อนค่อยเข้าไป…”

 

ต้วนหลิงเทียนก็ตัดสินใจได้ทันที

 

หลังจากนั้นเขาก็ร่ำลาฉีเทียนหมิงไปยังลานหนึ่งในบ้านของฉีเทียนหมิง ที่มีคนไปตระเตรียมไว้แล้ว ในลานก็ร่มรื่นไม่น้อย ห้องหับก็ตกแต่งเรียบง่ายมีความเป็นส่วนตัวทั้งเงียบสงบ

 

3 วันหลังจาก ต้วนหลิงเทียนคิดจะทำความเข้าใจความลึกซึ้ง ส่งผ่าน

 

‘ก่อนหน้านี้ตอนเจอเหิงเฟิงศิษย์คฤหาสน์อู่จ้านนั่น…ข้าอาศัยความลึกซึ้งส่งผ่าน ทำให้เพิกเฉยความลึกซึ้งเกราะที่มันพึ่งจะบรรลุขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นมาได้ หากไม่มีความลึกซึ้งส่งผ่าน เกรงว่าคงไม่อาจทำลายการป้องกันนั่นของมันได้แน่นอน…’

 

‘ด้วยพลังป้องกันระดับนั้นของมัน กล่าวไปถ้ามันไม่ใช้ความลึกซึ้งเกราะห่างตัว และข้าไม่ใช้ความลึกซึ้งส่งผ่าน คิดจะเอาชนะมันก็คงยาก…’

 

ต้วนหลิงเทียนย่อมจดจำเรื่องราวได้ละเอียดชัดเจน

 

ไม่กี่วันที่ผ่านมา ตอนเขาประมือกับเหิงเฟิงในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง อีกฝ่ายอาศัยแรงกดดันจากเขาจนตระหนักรู้ความลึกซึ้งเกราะของกฏแห่งดินได้ในห้วงเวลาคับขัน วันนั้นถ้าไม่ใช่เพราะความลึกซึ้งส่งผ่าน คมมีดมิติของเขาคงไม่อาจทำลายการป้องกันของอีกฝ่ายได้เลย

 

‘และเป็นเพราะข้าใช้ความลึกซึ้งส่งผ่านออกมาโดยที่มันไม่รู้ตัวมาก่อน ทำให้มันไม่อาจรั้งเกราะนั่นให้เข้ามาปกป้องใกล้ตัวได้ทัน…หากมันรู้แต่แรกข้าก็คงลงมือไม่สำเร็จเช่นกัน’

 

‘สุดท้ายความลึกซึ้งส่งผ่านของข้ามันก็พึ่งจะเข้าใจได้บางส่วนเท่านั้น หากข้าเข้าใจถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้น ต่อให้มันจะเตรียมการป้องกันแค่ไหน ใช้ความลึกซึ้งเกราะติดตัวอย่างไร ข้าก็ยังส่งผ่านคมมีดมิติผ่านการป้องกันไปทำร้ายตัวมันได้ง่ายๆ’

 

ต้วนหลิงเทียนย่อมรู้เรื่องราววกระจ่างแก่ใจดี

 

การที่เขาเอาชนะเหิงเฟิงมาได้วันก่อน นับไปเพราะเขามีโชคส่วนหนึ่ง

 

ครั้งหน้าเมื่อเขาพบเจอเหิงเฟิงอีกครั้ง เหิงเฟิงที่รู้ความสามารถเขาแล้ว ย่อมเตรียมการรับมือมาเป็นอย่างดี คิดจะทะลวงฝ่าการป้องกันของเหิงเฟิงโดยลงมือแบบเดิม เกรงว่าคงเป็นได้แค่ฝัน

 

‘เว้นเสียแต่ข้าจะเข้าใจความลึกซึ้งส่งผ่านถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้น…หาไม่แล้วคงยากจะฝ่าการป้องกันของเหิงเฟิงเข้าไปได้’

 

ด้วยเหตุนี้ ต้วนหลิงเทียนจึงใช้เวลาทำความเข้าใจความลึกซึ้งส่งผ่านของกฏมิติจนลืมวันเวลา

 

 

“แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางรอบใหม่ก็เปิดได้ 6 วันแล้ว…ต้วนหลิงเทียนผู้นั้นยังไม่เข้าไปอีกหรือ?”

 

บริเวณตำหนักที่จัดตั้งค่ายกลเคลื่อนย้ายทั้ง 3 หลังของคฤหาสน์เฉวียนโยวเนืองแน่นไปด้วยเหล่าศิษย์ และตอนนี้พวกมันก็อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามไปทำนองเดียวกัน

 

ตั้งแต่วันแรกที่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางของเดือนนี้เปิดให้เข้าไป ก็มีเหล่าศิษย์ที่ให้ความสนใจมาเฝ้ารอบริเวณตำหนักเคลื่อนย้ายทั้ง 3 เอาไว้ ทำให้ทุกคนยืนยันได้ชัดเจน ว่าจนบัดนี้ต้วนหลิงเทียนยังไม่มา

 

ที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ ในตาราจัดอันดับของเอนนี้ ชื่อต้วนหลิงเทียนังไม่ปรากฏให้เห็นเลย

 

ส่วนทางด้านโจวหงเจี๋ยของคฤหาสน์เฉวียนโยว ตอนนี้อยู่ในอันดับที่ 16 แล้ว

 

ฮวาเซียวของคฤหาสน์เฉวียนโยวเองก็ขึ้นมาถึงอันดับที่ 14!

 

แน่นอนว่าที่ไฉนทั้งคู่ถึงทำผลงานขึ้นมาติดอยู่ใน 20 อันดับแรกได้ เพราะแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางพึ่งจะเปิดได้แค่ 6 วันเท่านั้น พลังฝีมือระดับพวกมันตราบใดที่เข้าร่วมตั้งแต่วันแรก มักจะเข้าสู่ 30 อันดับแรกได้อย่างไม่มีปัญหา และหากไม่โชคร้ายจนเกินไปคิดจะเข้าสู่ 20 อันดับแรกก็ไม่ใช่เรื่องยาก

 

ต่อให้เป็นผู้ที่มีพลังฝีมือพอแค่จะติด 20 อันดับแรก ก็อาจจะเข้าสู่ 10 อันดับแรกได้พักหนึ่ง…

 

เป็นธรรมดาว่าแม้พวกมันจะไต่อันดับมาได้เร็วไว ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถรักษาอันดับนี้ได้จนจบ

 

ในขณะที่คฤหาสน์เฉวียนโยวกำลังให้ความสนใจกับต้วนหลิงเทียน ก็มีหลายคฤหาสน์อมตะระดับ 6 ที่จับตามองตารางจัดอันดับด้วยความสนใจเช่นกัน

 

“ต้วนหลิงเทียนของคฤหาสน์เฉวียนโยวนั่น มันยังไม่ได้เข้าไปในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางอีกรึ?”

 

“สมควรยัง…ตอนนี้ไม่เพียงแต่มันยังไม่ปรากฏตัวในตารางจัดอันดับ แต่ 10 อันดับแรกของเดือนก่อน ก็มี 4 คนที่ยังไม่ปรากฏชื่อขึ้นในตารางจัดอันดับเช่นกัน”

 

“เดือนที่แล้วต้วนหลิงเทียนของคฤหาสน์เฉวียนโยวนั่นมันเข้ามาตอนปลายเดือน…ไม่รู้ว่าคราวนี้มันจะเข้ามาเร็วหน่อยหรือไม่ หากมันเข้ามาเร็ว…ไม่ทราบจักติดอยู่ใน 20 อันดับแรกได้หรือไม่?”

 

“หากมันเข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติได้ 7 ประการจริงๆ…เรื่องติดอยู่ใน 20 อันดับแรก คงไม่ยากเย็นสำหรับมัน! กระทั่งเรื่องจะติดอยู่ใน 10 อันดับแรกยังไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้!!”

 

“ข้าล่ะตั้งหน้าตั้งตารอดูชมผลงานของมันจริงๆ!”

 

“พูดไปแล้วก็แปลก…ข้าไม่ใช่คนของคฤหาสน์เฉวียนโยวแท้ๆ และต้วนหลิงเทียนนั่นมันจะได้อันดับอะไรก็หาได้เกี่ยวกับข้าไม่ แต่ไม่ทราบเพราะอะไรข้าอยากรู้นักว่าคราวนี้มันจะทำผลงานได้ในอันดับไหน…”

 

“ข้าก็เหมือนกัน…”

 

 

ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้รับรู้เรื่องที่มีคนในคฤหาสน์อมตะระดับ 6 อื่นๆกำลังรอชมผงานเขาเลย

 

พอเขาเดินออกจากห้องมา เขาก็พบเจอฉีเทียนหมิง และได้รับทราบจากอีกฝ่ายว่าแดนสววรรค์ใต้โบราณระดับกลางรอบใหม่มันเปิดมาแล้วถึง 6 วันเต็มๆ และคนที่อยู่ในอันดับที่ 1 ก็มีคะแนนสะสมหลายร้อยแต้มแล้ว

 

“เมื่อเจ้าไม่ออกมา ข้าก็ไม่อยากเข้าไปรบกวน…ว่าแต่เจ้าคิดจะเข้าแดนสวรรค์ใต้โบราณระดบกลางวันนี้เลยหรือไม่?”

 

ขณะที่ฉีเทียนหมิงเอ่ยถาม สองตามันยังจับจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยความคาดหวัง

 

และตอนนี้คนส่วนใหญ่ในคฤหาสน์เฉวียนโยวก็ตั้งหน้าตั้งตารอดูผลงานของต้วนหลิงเทียนทั้งสิ้น ว่าเข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางรอบนี้ เขาจะทำได้แค่ไหน

 

“เข้าวันนี้เลย”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบ สองตาทอประกายเรืองขึ้นวูบหนึ่ง

 

บัดนี้แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางเปิดได้ 6 วันเต็มๆแล้ว หากเขายังไม่เข้าไปตอนนี้ เกรงว่าคงยากจะได้คะแนน เพราะเขาอาจจะหาผู้คนไม่เจอ…