มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1543

สำหรับอสูรดูดจิตโบราณในแดนเทพฟ้าขั้นสูง เป็นสิ่งมีชีวิตที่แทบจะอยู่ยงคงกระพันภายใต้ราชาเทพ

เนื่องจากอสูรดูดจิตโบราณจำนายของมันได้ หลัวซิวไม่เคยตระหนี่กับการฝึกฝนมัน ช่องจิตที่ได้รับจากคู่ต่อสู้ที่เขาฆ่านั้นโดยทั่วไปแล้วจะเลี้ยงมัน

“รุ่นเยาว์ เจ้าผยองเกินไป จองหองเกินไป”

บรรพจารย์สำนักเทียนเจี้ยนลืมตา พูดขึ้นอย่างกระทันหัน นิ้วของเขาชี้ไปกลางอากาศ

ปราณกระบี่พร่างพรายถูกฟันออกทันที ในปราณกระบี่ควบแน่นกฎห้วงกระบี่ ฉีกพื้นนภาออกเป็นชิ้นๆ

“เฉียง! เฉียง! เฉียง!…”

ดารายี่สิบดวงถูกบังคับถอยกลับด้วยปราณกระบี่ ประกายไฟกระจัดกระจาย แม้ว่าจะไม่ถูกฟันให้สลาย แต่สีหน้าของหลัวซิวเปลี่ยนไปอย่างมาก และกระอักเลือดหลายคำ

เพราะดารายี่สิบดวงถูกผนึกรวมและสร้างโดยเขา และเมื่อได้รับความเสียหาย เขาก็จะได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน

หลังจากนั้น ปราณกระบี่ฟันเข้าไปบนพื้นนภา ทำให้ผังดาวตกพลังอมตะของหลัวซิวแตกออก

“ราชาเทพขั้นกลาง!”

ม่านตาหลัวซิวหดตัวลง บรรพจารย์ราชาเทพทั้งห้านี้ ทุกคนคือราชาเทพขั้นกลาง หากไม่โจมตีก็ยังพอเอาตัวรอดได้ แต่เมื่อโจมตี ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเขาก็ยากที่จะต่อต้าน

“เรื่องตลกนี้ควรจะจบลงแล้ว” บรรพจารย์ของปราสาทอเวจีพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา และระหว่างการยกมือขึ้น มือสีดำขนาดใหญ่ก็แผ่กระจายไปทั่วท้องฟ้าพร้อมจับไปที่หลัวซิว

อนัตตาโดยรอบถูกจองจำ กฎปริภูมิของหลัวซิวไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง และเป็นการยากที่จะแม้แต่ขยับร่างกาย ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงมองดูมือใหญ่สีดำมาจับเขา

บรรพจารย์ราชาเทพเหล่านี้ล้วนหยิ่งยโสมาก หลังจากที่หลัวซิวออกมาจากแดนปริศนามกุฎเทพ พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลย แต่หลังจากที่เห็นหลัวซิวแสดงความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาออกมาพวกเขาก็ไม่สามารถยับยั้งได้อีกต่อไป

“พลังแปรเสวียนเทียน!”

หลัวซิวตะคอกเสียงต่ำ พลังเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า เขาก็หลุดพ้นจากการกักขังอนัตตาในทันที ด้วยความเร็วของปีกเทพมังกรครามยักษ์ เขาก็จากไปในทันที

“แคก!”

มือใหญ่สีดำตกลงมา แต่กลับคว้าอะไรไม่ได้ ตบท้องห้าจนมีรอยนิ้วห้านิ้วที่ชัดเจน

“ราชาเทพขั้นกลางทรงพลังมากอย่างแท้จริง ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ หนีเป็นแผนที่ดีที่สุด!”

ผังดาวตกสลายหายไป หลัวซิวโบกมือเพื่อนำเรือรบดาราออกมาพร้อมโยนแก้วเทวจำนวนมากออกมาอย่างไม่ลังเลใจ เรือรบกลายเป็นรุ้งยาว ฉีกอนัตตาออกอย่างกะทันหัน บินเข้าในอนัตตาไม่สิ้นที่ใกล้กับโลกาดาราอุดร

“ฮึ่ม ยังมีเรือรบดาราสสมบัติเช่นนี้ด้วย แต่เจ้าก็ยังหนีไม่พ้นฝ่ามือของข้าคนนี้!”

สีหน้าของบรรพจารย์จากปราสาทอเวจีขรึมลง ด้วยผลการฝึกตนราชาเทพขั้นกลางของเขา กลับไม่สามารถจับหลัวซิวได้ในทันที ซึ่งทำให้เขารู้สึกว่าขายหน้าเล็กน้อย

“เพื่อนยุทธ์ทั้งสี่ไม่ต้องลงมือ ข้าจะไปจับกุมเขาเดี๋ยวนี้ แล้วแบ่งปันความลับของเขาด้วยกัน”

ร่างของบรรพจารย์จากปราสาทอเวจีแวบวับแล้วหายตัวไปในเมืองเทพทันที เคียวสีดำสนิทพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ฉีกอนัตตาไล่ตามเขาไป

ความเร็วในการบินของผู้แข็งแกร่งราชาเทพนั้นเร็วกว่าความเร็วของเรือรบดารา ดังนั้นจึงใช้เวลาไม่นานสำหรับเรือรบดาราที่หลัวซิวกำลังขับนั้นก็ได้ปรากฏตัวอย่างคลุมเครือในสายตาของบรรพจารย์มรณา

“ไอ้หนุ่ม เจ้าหนีไม่พ้น กลับไปกับข้าอย่างเชื่อฟัง”

บรรพจารย์มรณายิ้มแปลก ๆ เสื้อคลุมบนร่างของเขาถูกลมแรงพัดปลิวไปเผยให้เห็นใบหน้าที่แห้งเหมือนโครงกระดูก

“มีเพียงเจ้าคนเดียวที่ไล่ตามมา?” หลัวซิวยืนอยู่บนเรือรบ พบว่าคนที่กำลังไล่ล่าไม่ใช่ราชาเทพทั้งห้า แต่เป็นบรรพจารย์มรณาคนเดียว

“ข้าเป็นแดนราชาเทพขั้นที่ 4 จับตัวไอ้หนุ่มอย่างเจ้าได้ง่ายๆเองไม่ใช่หรือ?”

บรรพจารย์มรณาหัวเราะอย่างเย็นชา “เจ้าเองยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะให้ราชาเทพทั้งห้ามาตามล่า”