“เจ้าหนุ่มตระกูลหลี่อยากมาเจอฉัน?”
กัวเชิ่งขมวดคิ้วแล้ว มองทางกัวฉูฉู่ด้วยแววตาสงสัยแล้ว
เขาเข้าใจแน่นอนว่า หลี่เป่าเฟิงตามจีบกัวฉูฉู่มาโดยตลอด เพียงแค่สำหรับเจ้าหนุ่มคนนั้น กัวฉูฉู่เหมือนจะไม่ชอบ
กัวฉูฉู่สีหน้าดูแย่อยู่บ้าง กัดริมฝีปากแดงแล้ว พูดกับกัวเชิ่งว่า “คุณปู่คะ หนูไม่ชอบหลี่เป่าเฟิงเลยสักนิด แม้กระทั่งยังรำคาญเขามากๆ ด้วยค่ะ หวังว่าคุณปู่จะยกเลิกการหมั้นของหนูกับเขาลงได้”
กัวฉูฉู่กับหลี่เป่าเฟิง คาดไม่ถึงมีการหมั้นหมาย!
กัวเชิ่งมองกัวฉูฉู่อย่างล้ำลึกแวบหนึ่ง จากนั้นเอ่ยปากบอก “แกน่าจะรู้ ตระกูลหลี่ใกล้ชิดกับราชวงศ์ซ่านกวนมาก ในตระกูลก็มีผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์ด้วย ตอนนี้ไม่สมควรผิดใจตระกูลหลี่”
“ถ้าเกิดพวกเราบีบบังคับปฏิเสธการหมั้นของแกกับเขา ตระกูลหลี่ต้องไม่ปล่อยพวกเราตระกูลกัวไปแน่”
ฟังคำพูดของกัวเชิ่งแล้ว ในสายตากัวฉูฉู่มีน้ำตาเปล่งประกาย “พวกเราตระกูลกัวก็มีผู้แข็งแกร่งแดนเทพห้าคน และมีการมีอยู่ของกึ่งแดนเหนือมนุษย์ด้วย หรือว่ายังต้องกลัวพวกเขาตระกูลหลี่อีกเหรอคะ?”
กัวเชิ่งพูดจาด้วยท่าทางปวดร้าว “แกน่าจะรู้ พวกเราตระกูลกัวไม่มีผู้แข็งแกร่งชั้นสูงวิถีบู๊ของตนเองเลย กึ่งแดนเหนือมนุษย์คนนั้น ก็เป็นคนที่เสียเงินจำนวนมหาศาลจ้างมา นอกจากว่าตระกูลกัวเผชิญหน้าช่วงเวลาความเป็นความตาย เขาถึงจะลงมือ”
“อาศัยปู่อย่างฉันที่เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดคนหนึ่ง คงทำอะไรตระกูลหลี่ไม่ได้ ถ้าเกิดผิดใจตระกูลหลี่แล้ว กลับจะถูกตระกูลหลี่กดดันเอา ไม่แน่ยังจะเจอการกดดันของราชวงศ์ซ่านกวนด้วย”
กัวฉูฉู่พยักหน้าแล้ว ตาแดงก่ำตอบว่า “คุณปู่คะ หนูเข้าใจแล้ว!”
“ให้เจ้าหนุ่มคนนั้นเข้ามาเถอะ!”
กัวเชิ่งถึงพูดสั่งกับทางพ่อบ้านไป
ไม่นาน หลี่เป่าเฟิงภายใต้การนำทางของพ่อบ้าน เดินเข้ามาแล้ว
“เป่าเฟิงมาเยี่ยมเยือนคุณปู่กัว!”
หลี่เป่าเฟิงโค้งตัวต่อกัวเชิ่งเล็กน้อย ท่าทีเคารพนบนอบอย่างยิ่ง
กัวเชิ่งพยักหน้า ถามว่า “คุณปู่นายสบายดี?”
หลี่เป่าเฟิงรีบตอบรับทันที “ขอบคุณคุณปู่กัวที่เป็นห่วงครับ คุณปู่สบายดี ให้ผมมาเยี่ยมเยือนท่านมาตลอด วันนี้ผมเพิ่งกลับมาจากข้างนอก ก็มาเยี่ยมเยือนท่านทันทีเลยครับ!”
“ฮาๆ ดี!”
กัวเชิ่งหัวเราะอยู่พูดขึ้น จากนั้นชี้ไปยังเก้าอี้หวายด้านข้าง “นั่งสิ!”
หลังจากหลี่เป่าเฟิงนั่งลง ถึงมองทางกัวฉูฉู่ หัวเราะบอกว่า “ฉูฉู่ พวกเราเจอกันอีกแล้ว!”
กัวฉูฉู่ทำเสียงไม่พอใจ ไม่ได้สนใจผู้ชายน่ารำคาญคนนี้
“คุณปู่กัว วันนี้ผมมาพบท่าน คือมีเรื่องอยากจะขอร้องท่านครับ!”
ทันใดนั้นหลี่เป่าเฟิงมองทางกัวเชิ่งพูดว่า “ผมอยากแต่งงานกับฉูฉู่ให้เร็วที่สุด คุณปู่ผมก็บอกแล้วเหมือนกัน หวังว่าก่อนหน้าเขาจะครบรอบแปดสิบปี จะสามารถเห็นผมแต่งงานได้”
เขาพูดประโยคนี้ออกมา ชั่วขณะนั้นกัวฉูฉู่ร้อนใจแล้ว
วันเกิดครบรอบแปดสิบปีปู่ของหลี่เป่าเฟิง แค่อีกครึ่งเดือนก็จะถึงแล้ว งั้นหมายความว่า ภายในครึ่งเดือนนี้ตระกูลหลี่อยากแต่งงานกับเธอ!
กัวเชิ่งนึกไม่ถึงเช่นกันว่าตระกูลหลี่อยากรีบร้อนแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ไวขนาดนี้ ชั่วขณะหนึ่งลังเลอยู่บ้าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกัวฉูฉู่เป็นลูกหลานที่เขาชอบมากที่สุด ถ้าไม่ใช่เพราะกัวฉูฉู่เป็นเด็กผู้หญิง เขายินยอมแม้กระทั่งให้กัวฉูฉู่มาสืบทอดตำแหน่งผู้นำ
สามารถพูดได้ว่า ในรุ่นหนุ่มสาวของตระกูลกัว กัวฉูฉู่เป็นคนหนึ่งที่ความสามารถโดยรวมดีเลิศที่สุด แม้กระทั่งรุ่นอารุ่นลุงของเธอ ล้วนสู้เธอไม่ได้
คือรุ่นหลานคนหนึ่งที่ดีเลิศเช่นนี้ กัวเชิ่งจะทนให้เธอแต่งงานออกไปได้อย่างไร?
เพียงแต่ ตระกูลกัวในปัจจุบันนี้ ดูเหมือนยิ่งใหญ่เกรียงไกร แม้กระทั่งมีผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์ลงมือเอง แต่ผู้แข็งแกร่งชั้นสูงเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากจ้างมา
ในเมื่อใช้เงินจ้างมา ย่อมสามารถถูกคนอื่นจ่ายเงินจ้างไปได้เป็นธรรมดา
ถึงแม้จะทนเสียกัวฉูฉู่ไปไม่ได้อย่างไร ก็เหมือนทำได้เพียงให้เธอแต่งงานออกไป
“คุณปู่ หนูไม่เห็นด้วยค่ะ!”
กัวฉูฉู่ตาแดงก่ำพูดขึ้น
เห็นกัวฉูฉู่ปฏิเสธ สีหน้าของหลี่เป่าเฟิงอึมครึมถึงขีดสุดในชั่วพริบตา ถึงแม้กัวเชิ่งจะยอมตัดใจไม่ได้ แต่ก็ให้กัวฉูฉู่ปฏิเสธต่อหน้าของคนตระกูลหลี่ไม่ได้ ชั่วขณะนั้นขมวดคิ้ว ตะโกนว่า “แกไม่รู้ภาษาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
ในสายตากัวฉูฉู่เต็มไปด้วยน้ำตาแล้ว พูดแบบตาแดงว่า “คุณปู่คะ หนูรับปากท่านได้ทุกเรื่อง มีเพียงเรื่องแต่งงานเรื่องเดียว หนูรับปากไม่ได้ค่ะ!”
“หุบปาก!”
กัวเชิ่งตะโกนแบบโมโห
กัวฉูฉู่ถึงไม่พูดอีก หน้าตาไม่ได้รับความยุติธรรมเต็มที่ เธอรู้ดีเช่นกัน แรงกดดันที่ปู่แบกไว้บนตัวมหาศาลมากแค่ไหน
แต่ว่า ให้เธอแต่งเข้าตระกูลหลี่แบบนี้ เธอไม่ยินยอมจริงๆ
“คุณปู่คะ ให้หนูแต่งเข้าตระกูลหลี่ ได้ค่ะ แต่ว่า สามีในอนาคตของหนู อย่างน้อยอยู่ในวิถีบู๊ ต้องแกร่งกว่าหนู ไม่อย่างนั้น หนูไม่รับปากเด็ดขาด!”
กัวฉูฉู่พูดขึ้นกะทันหัน
พูดประโยคนี้ออกมา ความโกรธในสายตาของหลี่เป่าเฟิงนับวันยิ่งเพิ่มขึ้น
เพราะกัวฉูฉู่อยู่ในบรรดาคนหนุ่มสาวของตระกูลกัว ไม่เพียงมีความสามารถทางธุรกิจเก่งสุด ขณะเดียวกันก็เป็นคนที่พรสวรรค์ด้านบูโดแกร่งสุดด้วย
เพียงแค่ยี่สิบแปดปี แดนด้านวิถีบู๊ก็บรรลุถึงแดนราชาชั้นสูงสุด
ส่วนเขา ปัจจุบันอายุสามสิบเอ็ดปีแล้ว ฝืนบังคับวิถีบู๊เพิ่งจะบรรลุแดนราชาขั้นปลาย
ปัจจุบันนี้ กัวฉูฉู่กลับพูดว่า นอกจากแดนในวิถีบู๊ของหลี่เป่าเฟิงต้องเกินกว่าเธอไป ถึงจะยอมแต่งงานกับหลี่เป่าเฟิง
หลี่เป่าเฟิงคิดว่า นี่คือกัวฉูฉู่กำลังเหยียดหยามตนเอง!
“ถ้าอยากว่าตามมาตรฐานคู่ครองแบบนี้ของเธอจริง กลัวว่าในบรรดาคนอายุรุ่นเดียวกันทั้งจิ่วโจว ล้วนไม่มีใครมีสิทธิ์แต่งงานกับเธอแล้ว”
หลี่เป่าเฟิงพูดจาด้วยท่าทางเสียดสี “แน่นอนว่า นอกจากไปตระกูลบู๊โบราณ!”
“ว่าตามที่เธอพูดแบบนี้ นอกจากเป็นอัจฉริยะวิถีบู๊ของตระกูลบู๊โบราณแล้ว ถึงมีสิทธิ์แต่งงานกับฉัน?”
กัวฉูฉู่ถลึงตาใส่หลี่เป่าเฟิงอย่างแรงทีหนึ่ง “ฉันไม่เคยพูดแบบนี้ นายเองที่เป็นพวกสวะ อย่าคิดว่าภายในโลกนี้ทุกคนจะสวะเหมือนกับนายสิ หยางเฉินแห่งเมืองเยี่ยนตู ว่ากันว่าแค่ยี่สิบแปดปี ก็เป็นการมีอยู่ของแดนเหนือมนุษย์แล้ว เขาไม่ใช่คนของตระกูลบู๊โบราณด้วย”
ได้ยินกัวฉูฉู่บอกว่าตนเองเป็นสวะ การแสดงออกบนหน้าของหลี่เป่าเฟิงบิดเบี้ยวขึ้นมา พูดอย่างโมโห “ยัยแพศยา เธอว่าใครสวะ?”
เขาไม่สนใจสักนิดว่ากัวเชิ่งผู้นำของตระกูลกัวยังอยู่ที่นี่ด้วย ด่ากัวฉูฉู่อย่างโมโหว่ายัยแพศยา
กัวเชิ่งขมวดคิ้วขึ้น ตอนที่มองทางหลี่เป่าเฟิง แววตาลึกมีแรงอาฆาตแวบผ่าน
เหมือนรับรู้ได้ถึงแรงอาฆาตของกัวเชิ่งเข้าแล้ว หลี่เป่าเฟิงหัวเราะเยาะทีหนึ่ง มองทางกัวเชิ่งแล้วพูดว่า “เจ้าบ้านกัว ผมได้ยินว่า คุณลู่ของตระกูลกัว เป็นตระกูลกัวเสียเงินจำนวนมาก ถึงจ้างมาที่ตระกูลกัวได้?”
“ผมยังได้ยินว่า นอกจากเป็นตระกูลกัวเจอช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย คุณลู่ถึงจะลงมือช่วยเหลือ”
“นอกเหนือจากนั้นแล้ว ผู้แข็งแกร่งแดนเทพหลายคนของตระกูลกัว ก็ล้วนเป็นตระกูลกัวจ่ายเงินจำนวนมากจ้างมาเหมือนกัน?”
“ท่านว่า ถ้าเกิดมีวันหนึ่ง พวกผมตระกูลหลี่ให้ค่าตอบแทนที่สูงกว่าแก่พวกเขา พวกเขาจะทรยศตระกูลกัวหรือเปล่าล่ะ?”
หลี่เป่าเฟิงแม้แต่คำว่าคุณปู่กัวก็ไม่เรียกแล้ว เปลี่ยนไปเรียกว่าเจ้าบ้านกัวโดยตรง หลังจากพูดแบบนี้ออกมา ชั่วขณะหนึ่งกัวเชิ่งสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ ตกใจจนเหงื่อออกด้านหลังแล้ว
เรื่องพวกนี้ เป็นความลับของตระกูลกัวมาโดยตลอด ไม่อาจจะเผยสู่ภายนอก แต่ว่าตอนนี้ หลี่เป่าเฟิงรู้เรื่องอย่างคาดไม่ถึง
เห็นได้ชัดว่า ตระกูลหลี่ก็รู้แล้ว
ถ้าหากข่าวนี้เผยแพร่ออกไป กลัวว่าต่อให้ตระกูลหลี่ไม่ลงมือกับตระกูลกัว ก็จะมีตระกูลอื่นลงมือต่อตระกูลกัว
ถึงตอนนั้น ตระกูลกัวคงต้องพังพินาศจริงๆ แล้ว
“เป่าเฟิง ฟังที่นายพูดแล้วกัน รอนายแต่งกับฉูฉู่แล้ว พวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ต่อไปไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณปู่กัวแล้ว เรียกฉันว่าคุณปู่ก็พอ”
กัวเชิ่งรีบบอกทันที จากนั้นพูดอีกว่า “เป่าเฟิงในเมื่อปู่ของนายอยากให้นายกับฉูฉู่แต่งงานกัน ก่อนหน้าเขาจะครบรอบแปดสิบปี งั้นแบบนี้ก็ดีเลย พวกนายกำหนดเวลาพิธีแต่งงานมา กำหนดเรียบร้อยบอกให้พวกเรารู้ก็พอ”