บทที่ 2093 ทำให้แกเจ็บปวดไปตลอดชีวิต + ตอนที่ 2094 พิษของเสี่ยวเป่าก็ไม่ใช่ปัญหา

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2093 ทำให้แกเจ็บปวดไปตลอดชีวิต

ปัญหาใหญ่ของเหมยเหมยจัดการได้แล้วเหยียนหมิงซุ่นจึงวางใจได้สักที เขาตัดสินใจที่จะไปจัดการกับเฉินซานและพ่อมดต่อ

“ผมถอนพิษให้คุณได้ แต่การที่คุณวางยาพิษผม ผมควรจะตอบแทนอย่างไรดีล่ะ?” เหยียนหมิงซุ่นมองเฉินซานอย่างเย็นชา

เฉินซานดีใจเป็นอย่างมาก “นายถอนพิษกู่ได้แล้วเหรอ? มีลูกได้แล้วเหรอ?”

เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะเยาะ ฉับพลันนั้นเขาก็คิดวิธีจัดการกับเฉินซานขึ้นมาได้

เขาไม่เอาชีวิตของเฉินซานหรอกแต่จะไม่ปล่อยให้เขามีชีวิตสุขสบายแน่นอน ในเมื่อเฉินซานให้ความสำคัญกับลูกมาก  แถมยังเกลียดการใช้ชีวิตในเหมียวเจียง เช่นนั้นก็ให้เขาเลือกเองก็แล้วกัน?

“มีลูกแล้วไปใช้ชีวิตที่เหมียวเจียง เลือกได้แค่หนึ่งอย่างเท่านั้น” เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงขรึม

ความดีใจบนใบหน้าของเฉินซานเลือนหายไปในฉับพลัน แผนครั้งนี้ของเหยียนหมิงซุ่นโหดมาก!

ไม่ว่าทางไหนเขาก็ไม่อยากเลือก หากว่าต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในเขตภูเขายากจน แล้วลูกชายของเขาจะได้รับการเลี้ยงดูที่ดีได้อย่างไร? จะได้เห็นความงดงามจากโลกภายนอกได้อย่างไร?

แต่ถ้าไม่ไปใช้ชีวิตที่เหมียวเจียง แม้จะมีเงินทองมากมายจนใช้ไปอีกหลายสิบชาติก็ไม่หมด แต่ไม่มีลูกชาย ใช้ชีวิตโดดเดี่ยวเพียงลำพัง ต่อให้มีเงินมากแค่ไหนก็ไร้ความหมาย!

“เฉินซาน ผมเกลียดพวกที่คิดไม่ซื่อกับผมมากที่สุด ถ้าไม่เห็นแก่ว่าคุณเคยช่วยชี้ทางให้ผมในตอนนั้น ผมไม่มีทางปล่อยให้คุณมีชีวิตอยู่ต่อไปหรอก อีกสามวันผมจะมาหาคุณใหม่ หวังว่าถึงเวลานั้นคุณจะมีคำตอบให้นะ”

เหยียนหมิงซุ่นมองเฉินซานที่มีสีหน้าลังเลก็พลันรู้สึกสบายใจขึ้นมาก ไม่ว่าใครก็ตาม หากทำผิดก็ต้องได้รับการลงโทษ!

ท่าทีของพ่อมดดูแปลกไปมาก อึกอักเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่เพราะหวาดกลัวอะไรบางอย่างจึงไม่กล้าพูดออกไป

เฉินซานกัดฟันกรอด พูดกับเหยียนหมิงซุ่นที่กำลังจะจากไปว่า “ไม่ต้องรอถึงสามวันหรอกฉันเลือกไปเหมียวเจียง”

มีลูกชายถึงจะยังพอมีหวังกลับมาผงาดได้ เขาต้องเลือกลูกชายสิ!

คำตอบที่ได้เป็นไปตามที่เหยียนหมิงซุ่นคาดเดาไว้เฉินซานเลือกที่จะไปเหมียวเจียง นั่นเท่ากับว่าเขายอมละทิ้งอำนาจทุกอย่างในเมืองหลวง เพื่อลูกชายแล้วนับว่าเขาเองก็เป็นนักรบตัดข้อมือ[1]!

“กินหญ้าพวกนี้เข้าไปซะ เคี้ยวจนเป็นน้ำแล้วค่อยกลืน ห้ามคายออกมาเด็ดขาด หญ้าพวกนี้มีค่ามาก ถ้าคายออกมาก็หาไม่ได้อีกแล้ว”

เหยียนหมิงซุ่นให้ลูกน้องเอาหญ้ากระสอบใหญ่เข้ามา จงใจไม่สกัดเป็นน้ำหญ้าให้แล้วปล่อยให้เฉินซานค่อย ๆเคี้ยวจนเป็นน้ำ

เฉินซานไม่รอให้เขาพูดจบก็คว้าหญ้ากำหนึ่งยัดเข้าปากเคี้ยวราวกับคนบ้า แต่รสชาติขมและไม่เป็นที่น่าพอใจสักเท่าไรจนแทบจะทำให้เขาคายทิ้ง ทว่าก็ฝืนกลืนมันลงไปได้

เขาต้องมีลูกให้ได้!

ขมแค่ไหนก็ต้องกิน!

เหมือนว่าลิ้นรับรสของเฉินซานจะด้านชาแล้ว จากสีหน้าทรมานในตอนแรกพอตอนท้ายกลับเอาหญ้ายัดเข้าปากเคี้ยวคำโตราวกับเขาไม่รับรู้รสขมนั่นแล้ว กินค่อนข้างดุเดือดออกรสออกชาติเลยทีเดียว

พ่อมดหยิบหญ้าต้นหนึ่งขึ้นมาดูอย่างถี่ถ้วน ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกคุ้นตา หญ้าเหล่านี้ไม่ใช่พวกวัชพืชที่พบเห็นได้ทั่วไปตามหลุมฝังศพของพวกพ่อมดในอดีตเหรอ?

หมู่ฮวาลูกพี่ลูกน้องของเขาก็ถูกฝังอยู่ที่นั่นเช่นกัน นานวันเข้าเนินหลุมฝังศพบริเวณนั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยวัชพืชหน้าตาประหลาด แม้แต่วัวแพะยังไม่กินเพราะขยาดที่หญ้าขมเกินไป พ่อมดเหลือบมองเฉินซานที่กินอย่างตะกละตะกลามอีกครั้งจึงอดกลืนน้ำลายไม่ได้

หญ้าที่พวกวัวแพะยังไม่ยอมกิน จะถอนพิษได้จริงหรือ?

คงไม่ได้หลอกกันใช่ไหม?

เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว หญ้าที่ขนาดวัวแพะยังไม่ยอมกินแต่กลับได้ผลลัพธ์ที่ดีไม่น้อย เฉินซานท้องเสียจนตัวผอมแห้ง ตัวหนอนกู่ในร่างกายก็ถูกกำจัดทิ้งจนหมด แต่เนื่องจากพิษที่เขาได้รับมาค่อนข้างนาน ต่อให้กำจัดกู่ทิ้งหมดแล้วก็จำเป็นต้องพักฟื้นตัวอีกระยะหนึ่งถึงจะสามารถมีลูกได้

เหยียนหมิงซุ่นให้ลูกน้องพาตัวเฉินซานและพ่อมดกลับไปที่เหมียวเจียง นับแต่วันนี้เป็นต้นไปเมืองหลวงจะไม่มีเฉินซานอีกแล้ว!

[1] นิทานสุภาษิตเรื่องหนึ่ง ที่หลังจากนักรบถูกงูกัด ก็ได้ตัดข้อมือตัวเองทิ้งเพื่อป้องกันไม่ให้พิษไหลไปทั่วร่าง ซึ่งเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ทำอะไรไม่ควรลังเล ควรตัดสินใจอย่างฉับไว

…………………………………………………

ตอนที่ 2094 พิษของเสี่ยวเป่าก็ไม่ใช่ปัญหา

พิษกู่ในตัวของเสี่ยวกัวและภรรยาของเขาก็ได้ถูกกำจัดไปอย่างราบรื่น เพียงแต่ภรรยาของเสี่ยวกัวได้รับผลกระทบค่อนข้างมากเลยทำให้เสี่ยวกัวเจ็บปวดใจไม่น้อย เขาตามหาเฉินซานไปทั่วอย่างโมโหเพราะคิดจะแก้แค้น เพียงแต่เฉินซานย้ายไปอยู่เหมียวเจียงแล้ว หากเขาต้องการจะแก้แค้นคงต้องไปที่เหมียวเจียงแล้วล่ะ

เสียเวลาไปกับพิษกู่หักสวาทไม่น้อย ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนก็ผ่านมาได้ครึ่งทางแล้ว เหมยเหมยคิดถึงเสี่ยวเป่าขึ้นมาไม่รู้ว่าเจ้าตัวเล็กเป็นอย่างไรบ้าง?

“อู่เยวี่ยยังคงดูแลอยู่ แต่เฮ่อเหลียนเช่อส่งคนจำนวนไม่น้อยไปเฝ้าจับตาดูไว้ ตอนนี้เสี่ยวเป่าร่างกายแข็งแรงขึ้นมาก อู่เยวี่ยไม่กล้าทำร้ายเขาอีกแล้ว” เหยียนหมิงซุ่นกล่าว

เหมยเหมยรู้สึกวางใจลงบ้างแต่ก็ยังรู้สึกไม่พอใจอยู่ดี ทำไมยัยชั่วอู่เยวี่ยถึงเป็นเหมือนแมลงสาบที่ตียังไงก็ตีไม่ตายสักทีนะ ไม่ว่าจะเจอเรื่องหายนะหนักหนาแค่ไหนก็สามารถเอาตัวรอดได้!

“แล้วพิษในตัวเสี่ยวเป่าล่ะจะทำอย่างไรต่อ? จะปล่อยให้เขาเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิตจริง ๆเหรอ?”

“จะเป็นไปได้ไงล่ะ เฮ่อเหลียนเช่อคิดหาวิธีแล้ว” เหยียนหมิงซุ่นปลอบใจเธอ

คนอารมณ์ฉุนเฉียวอย่างเฮ่อเหลียนเช่อ ถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวเป่าเขาคงฆ่าอู่เยวี่ยตายเป็นศพไปนานแล้ว

“เราให้ลี่เมิ่งเฉินช่วยดีไหม?” เหมยเหมยดวงตาเป็นประกาย นึกถึงเจ้าบ้านั่นขึ้นมาได้กะทันหัน

เจ้าบ้านั่นอาจจะดูน่ารำคาญไปบ้างแต่สมองของเขายอดเยี่ยมมาก ขนาดพิษกู่หักสวาทที่ถอนยากขนาดนั้นยังได้รับการถอนพิษจากเขาอย่างง่ายดายเลย ถ้างั้นพิษในตัวเสี่ยวเป่าก็คงไม่เป็นปัญหา

เหยียนหมิงซุ่นเองก็คิดถึงจุดนี้เช่นกัน นั่นสินะ ทำไมก่อนหน้านี้เขาคิดไม่ได้นะ!

“พี่จะลองถามดู”

เดิมทีเหยียนหมิงซุ่นไม่อยากยุ่งเรื่องไร้สาระพวกนี้นัก แต่ช่วงนี้เหมยเหมยยังคงทำสงครามเย็นกับเขาอยู่ และเป็นธรรมดาที่จะต้องเอาใจให้ภรรยาอารมณ์ดีโดยทำเรื่องที่ทำให้เธอมีความสุขไงล่ะ!

ลี่เมิ่งเฉินไม่ได้อยู่เมืองหลวงแต่พอเขาได้ฟังเรื่องพิษบนตัวเสี่ยวเป่าที่เหยียนหมิงซุ่นเล่า เขาก็เกิดอาการสนใจขึ้นมาทันทีเลยบอกว่ารอให้เขาจัดการธุระเสร็จก่อนแล้วจะกลับไปหาที่เมืองหลวง

สามวันถัดมาลี่เมิ่งเฉินก็กลับมาที่เมืองหลวง เฮ่อเหลียนเช่อได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเขามานานแล้ว คาดไม่ถึงว่าเหยียนหมิงซุ่นจะอันเชิญเขามาช่วย เพราะนี่อยู่เหนือความคาดหมายของเขาไปมาก

“แกไม่ต้องคิดมากหรอก แค่เหมยเหมยเป็นห่วงเสี่ยวเป่าเท่านั้นเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยสักนิด”

เหยียนหมิงซุ่นอธิบายด้วยสีหน้าเย็นชา ช่วงนี้ระหว่างเขากับเฮ่อเหลียนเช่อดูใกล้ชิดสนิทสนมกันพอสมควร เฮ่อเหลียนชิงเองก็โทรมาถามอยู่หลายครั้งหลายหนว่าเขาคิดจะผันตัวไปเป็นสายลับของฝ่ายนั้นแล้วหรือไง

ดังนั้นจะต้องพูดเกริ่นด้วยคำแสลงหูก่อน เขาและเฮ่อเหลียนเช่อเป็นได้แค่ศัตรูกันเท่านั้น ไม่มีทางกลายเป็นเพื่อนกันได้หรอก

เฮ่อเหลียนเช่อแค่นเสียงเย็นชา “แกเองก็วางใจได้ อย่าหลงคิดว่าฉันจะยอมอ่อนข้อให้แกเพียงเพราะช่วยเสี่ยวเป่าไว้นะ น้ำใจครั้งนี้ฉันจะจำไว้ว่าเป็นของเมียแก สำหรับแกถึงเวลาลงมือเมื่อไรฉันไม่มีทางออมมือให้แน่!”

“ขอให้เป็นงั้นเถอะ เฮ่อเหลียนเช่อถ้าแกใจอ่อนก็เท่ากับแกไม่ใช่ลูกผู้ชาย!” เหยียนหมิงซุ่นจงใจเหน็บแนม

คนเรามีชีวิตอยู่จำเป็นต้องมีคู่ต่อสู้เพื่อทำให้ตัวเองมีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ

เฮ่อเหลียนเช่อเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่เลวเลย ดังนั้นเราต้องมั่นใจในความโหดเหี้ยมของคู่ศัตรูอยู่เสมอ แต่ไม่ใช่การทำให้เขากลายเป็นคนที่อ่อนโยนแสนเชื่อง

ลี่เมิ่งเฉินตรวจอาการเสี่ยวเป่าเสร็จแล้ว ช่วงนี้เจ้าตัวเล็กกินอิ่มนอนหลับดีร่างกายจึงอ้วนท้วมสมบูรณ์ แขนอวบเหมือนปล้องรากบัวจึงเรียกให้คนเอ็นดูไม่น้อย

อู่เยวี่ยเองก็อ้วนขึ้น ภายใต้การเลี้ยงดูราวกับให้อาหารเป็ดของเฮ่อเหลียนเช่อ ร่างกายของอู่เยวี่ยขยายใหญ่ขึ้นเป็นสามเท่า ไขมันบนตัวสั่นกระเพื่อมจนอู่เยวี่ยไม่กล้าส่องกระจกเลย น่าเกลียดจนตัวเธอเองอยากจะเอามีดมาปาดชิ้นเนื้อบนร่างกายออกไปเสีย

ลี่เมิ่งเฉินเหลือบมองอู่เยวี่ย ผู้หญิงคนนี้เก่งไม่เบานี่ คาดไม่ถึงเลยว่าจะปรุงยาพิษที่ร้ายแรงขนาดนี้ออกมาได้

แต่สำหรับเขาแล้ว ไม่มีอะไรที่สามารถปิดบังเขาได้หรอก!

“ฉันสามารถถอนพิษให้ได้แต่ต้องใช้เวลาหน่อย รอให้เจ้าตัวเล็กอายุครบหนึ่งปีเมื่อไรฉันค่อยมาถอนพิษให้เขา!” ลี่เมิ่งเฉินเอ่ยขึ้น

……………………………………………….