ตอนที่ 2723 โอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์ห่วยๆ

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตามเจ้า?

เขานั้นมีห้ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เป็นผู้ติดตาม!

เจ้าไปเอาความกล้าที่ไหนมาใช้ให้คนระดับนี้ไปติดตามเจ้า?

ก่อนหน้านี้บนเขาหมื่นอสูรนั้นมันมีนักบุญสูงอยู่เพียงแค่สามคนเท่านั้น

คนไม่รู้นั้นมันไม่รู้จักกลัวอย่างแท้จริง!

เย่หยวนนั้นไม่ได้แสดงความไม่พอใจใดๆ ออกมาและมองหน้าเมิ่งฮั่นเฟิงด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก “ให้ข้าติดตามเจ้า? เจ้าจะให้อะไรข้าได้กัน?”

เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นยิ้มตอบกลับไป “ข้าได้ยินว่าเจ้านั้นมีวิชาการโอสถที่เหนือล้ำฟ้าดิน แม้แต่จ้าวซุนนั้นยังชื่นชมเจ้าไม่ขาด ข้าจะให้เจ้าครองตำแหน่งเจ้าหอใหญ่ของหอโอสถสวรรค์ใต้!”

เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นคิดว่าเย่หยวนจะต้องยอมรับแน่นอน ด้วยตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้

จ้าวซุนนั้นแสดงความไม่เคารพต่อตัวเขาออกมาอย่างชัดเจน แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ชอบหน้าอีกฝ่ายแล้ว

หากเป็นก่อนหน้าเขาคงต้องรับมันไว้ไม่กล้าระบายออกมา

แต่ตอนนี้เขานั้นเป็นถึงนักบุญสูงแล้ว มีหรือที่เขาจะมาเกรงใจนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวอีก?

เย่หยวนนั้นอดหัวเราะขึ้นไม่ได้เมื่อได้ยิน “แค่เจ้าหอใหญ่หอโอสถสวรรค์ใต้หรือ? มันไม่พอ!”

เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นหัวเราะตอบกลับไป “เฮอะ พูดดีเสียจริง! เช่นนั้นเจ้าลองบอกมาสิว่าเจ้าต้องการอะไรกันแน่?”

เย่หยวนตอบกลับไป “ข้าต้องการให้เจ้าคุกเข่าลงกราบขอโทษนักยุทธทั้งเมืองสวรรค์ใต้นี้!”

เมิ่งฮั่นเฟิงที่ได้ยินต้องชักสีหน้าทันที “เด็กน้อย เจ้ากล้ามาเล่นลูกไม้กับข้าผู้นี้หรือ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้านั้นเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนเพียงคนเดียวของแดนสวรรค์ใต้นี้! ทุกชีวิตนั้นข้าผู้นี้สามารถตัดสินมันได้สิ้น!”

เย่หยวนนั้นยิ้มตอบกลับไปอย่างไม่สนใจ “ลูกไม้? ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับคนหน้าไม่อายอย่างเจ้าหรอก”

เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นกัดฟันแน่นขึ้นมาเมื่อได้ยิน “เด็กน้อย เจ้ามันช่างกล้า กล้ามาท้าทายพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนเช่นนี้!”

เย่หยวนตอบกลับไป “ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมันเหนือล้ำมากหรือ?”

“เช่นนั้นเจ้าก็แหกตาดูเถอะว่าชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมันเหนือล้ำแค่ไหน!”

เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นร้องลั่นขึ้นมาพร้อมปล่อยคลื่นพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนออกมาทำให้ทั้งเมืองต้องตกอยู่ในห้วงความกดดันมหาศาล

พลังของชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมันช่างน่ากลัวนัก!

ท่ามกลางพายุพลังกดดันนั้นแม้แต่ตัวจ้าวซุนที่มีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวเองก็ยังแทบไม่อาจประคองตัวไว้ได้

“ฮ่าๆๆ จักรพรรดิเซียน เก่งกาจนัก! ข้าล่ะกลัวเสียจริง!” ท่ามกลางเสียงหัวเราะนั้นนักบุญสูงขาลเจิดก็เดินออกมา

เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อ “เจ้า… เจ้าเองก็บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้? นี่มัน… บ้าน่า!”

“ชิๆ ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมันช่างเก่งกาจเสียจริง! เช่นนั้นข้าเองก็คงเก่งกาจไม่น้อยเช่นกันแล้ว!” นักบุญสูงหมื่นคชสารก้าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

มุมที่เขาเดินออกมานั้นมันตรงข้ามกับจุดที่นักบุญสูงขาลเจิดปรากฏตัวขึ้นพอดี เป็นการตัดทางหนีของเมิ่งฮั่นเฟิงลงสิ้น

ได้เห็นนักบุญสูงหมื่นคชสารเช่นนั้นตัวเมิ่งฮั่นเฟิงย่อมจะสั่นสะท้านไปทั้งกาย!

“เจ้า…เจ้าเองก็บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้?”

“เมิ่งฮั่นเฟิง เจ้าดูจะตกใจมากนะ! สุดท้ายมันก็แค่การบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมิใช่หรืออย่างไร? ดูเจ้าทำหน้าเหมือนตัวเองได้ขั้นสวรรค์เข้าสิ” นักบุญสูงชวดสวรรค์กล่าวขึ้น

เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นแทบลืมหายใจไปแล้วในตอนนี้

ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียน!

เขานั้นแย่งชิงสมบัติจากมือคนทั้งหลายนั้นและฝ่าฟันความยากลำบากมากมายประกอบเต๋ากว่าจะขึ้นมาถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้เช่นนี้

แต่ใครจะไปคิดฝันว่าห้าสิบปีที่เขาเก็บตัวนั้นทุกอย่างภายนอกมันจะเปลี่ยนแปลงไปได้ปานนี้!

เขานั้นคิดไปว่าตัวเองจะเอาชนะคนทั้งห้านี้ได้หลังจากออกมาจากการเก็บตัวแล้ว

แต่ใครจะไปคิดฝันว่าคนทั้งห้านั้นเองก็จะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้เช่นกัน!

“ชิๆ พลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งๆ กลางๆ อย่างเจ้านี้ก็คิดจะให้อาจารย์เย่ติดตามเจ้าไปด้วย หัวเจ้าไปโดนลาดีดมาหรืออย่างไร? อ่า พูดเช่นนั้นมันจะเป็นการดูถูกลาไปสินะ” นักบุญสูงราชสีห์เถื่อนกล่าวขึ้นมา

เมื่อได้เห็นนักบุญสูงราชสีห์เถื่อนและนักบุญสูงมฤคยักษ์แล้วสีหน้าของเมิ่งฮั่นเฟิงก็ซีดขาวราวกระดาษไป

“เจ้า พวกเจ้า กลับบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนกันได้หมดสิ้น?” เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ

ห้าภูติแท้บรรลุขึ้นมาได้สิ้น เช่นนั้นแล้วสมบัติที่เขาวางแผนร้ายแย่งชิงมานี้มันจะมีค่าใด?

เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นรู้สึกว่าตัวเองช่างโชคร้ายนัก

นักบุญสูงขาลเจิดหันไปมองเมิ่งฮั่นเฟิงด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก “เจ้าดูตกใจมาก? ตอนที่เจ้าแย่งเอาโอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์ไปเจ้าคงไม่นึกฝันว่ามันจะมีวันนี้ล่ะสิ? เจ้าบอกว่าจะไปแก้แค้นพวกเราทั้งห้ามิใช่หรือ? เช่นนั้นพวกข้าจะให้โอกาสเจ้าเอง”

คนทั้งห้านั้นแยกตัวออกไปปิดล้อมไว้รอบทิศ

ต่อให้ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนนั้นจะรวดเร็วปานใดมันก็ไม่มีทางหนีออกไปได้แน่

เมิ่งฮั่นเฟิงหน้าซีดขาวด้วยความกลัว เป็นเวลานี้เองที่เขาได้รู้ตัวว่าติดกับเข้าให้แล้ว

แต่จะอย่างไรมันก็น่าตกตะลึงเกินไป!

พลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนนั้นมันมีวางขายตามตลาดแล้วหรือ?

“มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่?” เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นไม่ว่าจะคิดอย่างไรเขาก็ไม่อาจจะหาเหตุผลการบรรลุของคนทั้งห้าพร้อมๆ กันได้

ขาลเจิดยิ้มตอบกลับไป “เจ้าโง่ เจ้านั้นเอาแต่คิดวางแผนแย่งชิงสมบัติจากเราโดยไม่ได้รู้เลยว่าเทพที่แท้นั้นอยู่ข้างกาย! อาจารย์เย่นั้นมีวิชาการโอสถที่เหนือฟ้าล้ำสวรรค์! พวกเราทั้งห้าบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้นี้มันล้วนเป็นเพราะท่าน โอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์นั้นมันจะยังมีค่าใด?”

“เป็นเจ้า? บ้าน่า!” เมิ่งฮั่นเฟิงสั่นสะท้านไปทั้งกายก่อนจะหันมามองเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นต้นคนหนึ่งกลับสร้างยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาถึงห้าคน?

นี่มัน เป็นไปได้อย่างไรกัน?

หากนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสี่สามารถสร้างยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้แล้วเช่นนั้นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมันคงมีเกลื่อนฟ้าดินไปแล้ว!

ขาลเจิดที่ได้เห็นต้องยิ้มตอบกลับไป “เชื่อหรือไม่ก็เรื่องของเจ้า แต่ตอนนี้พวกข้าจะขอกระทืบเจ้าก่อนแล้วค่อยคุยกัน! พี่น้อง จัดการเถอะ!”

“ได้เลย!” พวกราชสีห์เถื่อนทั้งหลายตอบรับพร้อมปล่อยหมัดมือออกมาพร้อมๆ กันราวสัตว์ป่าที่หิวกระหาย

ปัง! ปัง! ปัง!

คนทั้งห้านั้นไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย ลงมือออกมาอย่างหนักหน่วงพร้อมๆ กัน

พลังเช่นนี้คนในเมืองสวรรค์ใต้จะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน?

ภาพของการต่อสู้อันรุนแรงนั้นมันช่างดูสวยงามในสายตาของคนเบื้องล่าง

เมิ่งฮั่นเฟิงหน้าเปลี่ยนสีไปมาและทำได้เพียงแค่ตั้งรับ

เขานั้นถูกปิดทางหนีไว้สิ้นจึงได้แต่ต้องยืนรับไป

แต่สิ่งที่เขาเจ็บแค้นใจที่สุดนั้นคือเขาไม่อาจจะตอบโต้ใดๆ คนทั้งห้าไปได้แม้แต่น้อย

“เดี๋ยวนะ ทำไมไอ้หมอนี่มันอ่อนแอขนาดนี้เล่า? หรือว่ามันคิดปกปิดพลังฝีมือไว้?” ราชสีห์เถื่อนกล่าวขึ้นมาด้วยความกังวล

เพราะการปะทะกันเมื่อครู่มันทำให้เขาได้พบว่ากำลังของเมิ่งฮั่นเฟิงนั้นช่างอ่อนแอไม่อาจเทียบเคียงกับเขาได้แม้แต่น้อย!

เพราะก่อนที่จะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนกันขึ้นมานี้ตัวเมิ่งฮั่นเฟิงนั้นมีพลังฝีมือเทียบเคียงได้กับขาลเจิดที่เก่งกาจที่สุดในหมู่คนทั้งห้า

ไม่เช่นนั้นแล้วมีหรือที่คนทั้งห้านั้นจะยอมให้เขาร่วมเดินทางด้วย?

แต่เมื่อบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้นั้น เขากลับพบว่าอีกฝ่ายนั้นช่างอ่อนแอ

อย่างมากที่สุดมันก็คงไม่เจ็ดในสิบของพลังฝีมือที่เขามี

แปลก!

“ปิดบังอะไรเล่า! มีหรือที่โอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์ห่วยๆ นั้นมันจะเทียบกับโอสถสวรรค์หยกล้ำศักดิ์สิทธิ์ของอาจารย์เย่ได้? ตอนที่เราบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมานั้นเราเปิดความเป็นไปได้ทุกอย่างของร่างกายขึ้น แต่เจ้าโอสถสวรรค์หยกล้ำศักดิ์สิทธิ์นั้นมันอย่างมากก็คงคุณภาพแค่ระดับสามหรือสี่ มีหรือที่จะช่วยทำให้พลังบ่มเพาะพัฒนาได้มากมาย?” ขาลเจิดกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงหัวเราะ

ราชสีห์เถื่อนที่ได้ยินก็ต้องพยักหน้ารับขึ้นมาอย่างเห็นด้วย “อ่า! มันเป็นเช่นนั้น! เจ้าหมอนี่มันยอมทิ้งแตงโมไปก้มเก็บเม็ดงาจริงๆ! ข้าว่าแค่ข้าคนเดียวก็คงเอาชนะมันได้สบายๆ! ไอ้โง่เอ้ย! โง่จริงๆ! ฮ่าๆๆ”

เพราะการบรรลุนั้นมันย่อมจะแตกต่างกันไป

ไม่เช่นนั้นแล้วมีหรือที่ผู้คนจะยังแยกระดับคุณภาพโอสถกัน?

โอสถสวรรค์ระดับแท้นั้นมันย่อมจะมีฤทธิ์ที่รุนแรงอย่างไม่อาจเอาโอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์นั้นมาเทียบเคียงได้

เมื่อนักบุญสูงทั้งห้าลงมือพร้อมๆ กันนั้นตัวเมิ่งฮั่นเฟิงก็ย่อมจะได้แต่ต้องกระอักเลือดออกมาอย่างไม่มีหยุด

เขานั้นทำได้แต่ปัดป้อง ไม่อาจจะต่อสู้สวนกลับใดๆ ไปได้แม้แต่น้อย!

หากมิใช่เพราะคนทั้งห้านั้นยังยั้งมือไว้บ้างตัวเขาคงตายตกไปนานแสนนานแล้ว

เขานั้นทำทุกอย่างเพื่อจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาแต่ว่าเขานั้นกลับถูกดักตีตั้งแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร

“เอาล่ะ พอเท่านั้นก่อน ให้มันได้มีชีวิตอยู่ก่อน ข้าต้องการให้มันก้มหัวลงคุกเข่าขอขมาคนทั้งเมืองนี้!” เย่หยวนสั่ง