ซ่านกวนโหรวทำหน้าขมขื่นพูดว่า “คุณรู้หรือเปล่าว่าราชวงศ์ทั้งสี่ ทำไมถึงสามารถอยู่รอดมาได้หลายร้อยปี?”
หยางเฉินส่ายหน้า ซ่านกวนโหรวอธิบายว่า “เพราะ ที่ราชวงศ์ทั้งสี่ มีผู้รักษากฎอยู่ เป็นเพราะการปกป้องของผู้รักษากฎเหล่านี้ ถึงทำให้ราชวงศ์ยืนตระหง่านไม่ล้มลงได้”
“ผู้รักษากฎ ปกติจะไม่แทรกแซงการช่วงชิงของผู้แข็งแกร่งภายในราชวงศ์ แต่ตอนที่ราชวงศ์ประสบกับหายนะอันตราย พวกเขาถึงจะลงมือ”
“ถ้าเกิดตระกูลหลี่เปิดศึกสู้กับราชวงศ์ซ่านกวนโดยตรง ต่อให้กำจัดราชวงศ์ซ่านกวนทิ้งจริง ผู้รักษากฎที่แอบซ่อนเหล่านั้น ก็จะไม่อนุญาต”
“แต่ว่า ถ้าเป็นผู้สืบทอดของตระกูลหลี่โดนราชวงศ์ซ่านกวนฆ่าแล้ว ถึงแม้ตระกูลหลี่จะลงมือสู้กับราชวงศ์ซ่านกวน แล้วสุดท้ายผู้รักษากฎปรากฏตัวขึ้นมา อย่างน้อยตระกูลหลี่ก็มีเหตุผลในการลงมือ”
ซ่านกวนโหรวพูดเรื่องพวกนี้ ล้วนเป็นเรื่องที่หยางเฉินไม่รู้แจ่มแจ้ง ปัจจุบันนี้ซ่านกวนโหรวพูดมา เขาก็ตื่นตกใจมาก
“ผู้รักษากฎ?”
หยางเฉินพูดแบบตกใจ “หรือว่าผู้รักษากฎเหล่านี้หลอกง่ายขนาดนั้นเลย ทั้งที่ไม่ใช่ราชวงศ์ซ่านกวนฆ่าหลี่หยาง ผู้รักษากฎยังอนุญาตให้ตระกูลหลี่เปิดศึกสู้กับราชวงศ์ซ่านกวนอยู่?”
“ถ้าพูดว่า ตระกูลหลี่มีคน สามารถต้านทานผู้รักษากฎได้ล่ะ?” ซ่านกวนโหรวถามขึ้นกะทันหัน
หยางเฉินตะลึง จากนั้นเอ่ยปากบอก “ถึงตอนนั้น ต่อให้ผู้รักษากฎรู้ว่า การตายของหลี่หยางไม่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ซ่านกวน ก็ได้เพียงถูกตระกูลหลี่ขัดขวางไว้ ถ้าเกิดตระกูลหลี่กำจัดราชวงศ์ซ่านกวนแล้ว กลัวว่าเมืองราชวงศ์ซ่านกวน คงต้องเปลี่ยนเป็นแซ่หลี่แล้ว”
เหตุผลที่มีผู้รักษากฎ ก็คือเพื่อป้องกันความมั่นคงของสถานการณ์ในราชวงศ์ ถ้ากำจัดตระกูลหนึ่งทิ้ง ขอเพียงตระกูลหนึ่งขึ้นมาทันกาล สถานการณ์ของราชวงศ์คงไม่ได้รับผลกระทบ
เดิมทีซ่านกวนโหรวคาดเดาว่า การตายของหลี่หยาง มีความเป็นไปได้ว่าตระกูลหลี่ทำเอง เดิมทีหยางเฉินยังคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าหลังจากฟังการวิเคราะห์ของซ่านกวนโหรวแล้ว เขากลับคิดว่า ความเป็นไปได้อันนี้สูงมาก
พูดมาขนาดนี้ ตระกูลหลี่ห่างไกลจากความธรรมดาแบบภายนอกนั้นมาก ความสามารถของตระกูลหลี่ กลัวว่าคงเกินกว่าราชวงศ์ซ่านกวนแล้ว
มิฉะนั้น ตระกูลหลี่คงไม่อาจท้าทายตำแหน่งของราชวงศ์ซ่านกวนได้
“ถึงแม้ทุกอย่างจะเป็นแค่การคาดเดาของฉัน แต่ฉันรู้สึกว่า การคาดเดาของฉันมีโอกาสเป็นเรื่องจริงได้มากที่สุด”
ซ่านกวนโหรวมองทางหยางเฉิน ทำหน้าขึงขังพูดว่า “ถ้าตระกูลหลี่อยากลงมือสู้กับราชวงศ์ซ่านกวนจริง ก็อธิบายว่า ตระกูลหลี่มีความมั่นใจว่าจะชนะ”
“คุณหยาง ฉันขอร้องคุณเรื่องหนึ่ง ถ้าราชวงศ์ซ่านกวนเจออันตรายถึงความเป็นความตายเข้าจริง ขอร้องคุณลงมือช่วยเหลือด้วย”
เวลานี้ ดวงตาทั้งสองของซ่านกวนโหรวแดงก่ำ ในสายตาเต็มไปด้วยแววการอ้อนวอน
“วางใจก็พอแล้ว ถ้าถึงขั้นนั้นจริง ผมจะไม่นิ่งดูดายหรอก”
หยางเฉินพูดด้วยท่าทางจริงจัง
ตอนแรกที่อยู่เมืองเยี่ยนตู ซ่านกวนโหรวยืนอยู่ฝั่งเขาแบบไม่ลังเลสักนิด และได้รับมิตรภาพของเขาแล้ว
สำหรับเพื่อน แต่ไหนแต่ไรหยางเฉินไม่ตระหนี่ที่จะช่วยเหลือ
“ขอบคุณนะ!”
เห็นหยางเฉินตอบรับ ซ่านกวนโหรวทำหน้าซาบซึ้งใจ
ถึงแม้หยางเฉินจะตอบรับคำร้องขอของซ่านกวนโหรวแล้ว แต่ในใจเขาก็เต็มไปด้วยความกังวล เขารู้การมีอยู่ของผู้รักษากฎ ในสนามรบนอกประเทศ ก็มีผู้รักษากฎส่วนหนึ่งที่ความสามารถยิ่งใหญ่เกรียงไกร คุ้มครองกฎของสนามรบ
แต่สิ่งที่ทำเขานึกไม่ถึงคือ ราชวงศ์ทั้งสี่แห่งจิ่วโจว ก็มีผู้รักษากฎอยู่ด้วย
ประเด็นสำคัญสุดคือ แม้แต่เขา ล้วนไม่มีทางรู้สึกถึงการมีอยู่ของผู้รักษากฎ นั่นหมายความว่า แดนวิถีบู๊ของฝ่ายตรงข้าม จะต้องอยู่เหนือเขา
ซ่านกวนโหรวไม่ได้อยู่ในห้องของหยางเฉินนาน หลังได้รับคำสัญญาช่วยเหลือของหยางเฉินแล้ว ก็ออกไปเลย
ปัจจุบันนี้ เรื่องที่ผู้สืบทอดของตระกูลโดนฆ่า ทำให้ทั้งเมืองราชวงศ์ซ่านกวน เหมือนถูกหมอกหนาปกคลุมส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะคนของราชวงศ์ซ่านกวน ในใจแต่ละคนเต็มไปด้วยความกังวล
หยางเฉินยืนอยู่ตรงหน้าต่างชมวิวขนาดใหญ่ สายตามองทางเมฆดำที่เต็มท้องฟ้า ทันใดนั้นพูดว่า “ฟ้าของเมืองราชวงศ์ซ่านกวน จะเปลี่ยนแล้ว!”
ในเวลานี้ เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายวิถีบู๊อันสยองขวัญกระเพื่อมไหวฉับพลัน อยู่ภายในคฤหาสน์ซ่านกวน
กลิ่นอายอันนี้สยองขวัญอย่างยิ่ง ทำให้เขารู้สึกถึงความหวาดผวาแล้ว
“หรือว่า นี่คือผู้รักษากฎที่แอบคุ้มครองราชวงศ์ ที่เมืองราชวงศ์ซ่านกวน?” หยางเฉินทำหน้าตกใจ
ความกดดันที่ทำให้คนหวาดผวาแบบนั้น เป็นแค่ชั่วพริบตาเดียว
ตอนที่หยางเฉินสัมผัสถึงอีกครั้ง กลับพบว่าไม่รับรู้ถึงอะไรแล้ว
บางทีเป็นซ่านกวนโหรวบอกเขาแล้ว ถึงการมีตัวตนอยู่ของผู้รักษากฎ ดังนั้นเขาถึงสัมผัสถึงกลิ่นอายของผู้รักษาได้กระมัง
จากการที่เมื่อสักครู่เขารับรู้ถึงแรงกดดันวิถีบู๊อันนั้น ความสามารถของผู้รักษากฎคนนั้น อย่างน้อยต้องอยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า
แน่นอนว่า นี่เป็นเพียงการคาดเดาของเขา บางทีอาจจะแกร่งกว่านี้
“งั้นก็หมายความว่า ตระกูลอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่รู้ดีว่าผู้รักษากฎอยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า ยังกล้าเปิดศึกสู้กับราชวงศ์ซ่านกวน?”
หยางเฉินพูดพึมพำกับตนเอง “ถ้าเป็นแบบนี้จริง อย่างนั้นความสามารถแท้จริงของตระกูลหลี่ จะมากแค่ไหน?”
ในเวลานี้เอง กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายส่วน เข้าใกล้คฤหาสน์ซ่านกวนด้วยความรวดเร็วฉับไว
ในบรรดาผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ คนที่เป็นหัวหน้านำมาคาดไม่ถึงคือผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์
“นี่คือคนของตระกูลหลี่มาแล้วเหรอ?”
หยางเฉินสีหน้าเคร่งขรึมมองทางที่ไกลออกไป
วินาทีเดียวกัน ในที่พักหรูหลังหนึ่งภายในคฤหาสน์ซ่านกวน กษัตริย์ซ่านกวนที่เดิมทีกำลังหลับตาพักผ่อน ลืมตาขึ้นในทันใด
ในดวงตาของเขา มีแรงอาฆาตดุเดือดเปล่งประกาย “หลี่เจียงสง ในที่สุดนายก็ทนไม่ไหวแล้วเหรอ?”
หลี่เจียงสง ในเมืองราชวงศ์ซ่านกวน ความสามารถเป็นรองแค่ผู้นำตระกูลหลี่ของราชวงศ์ซ่านกวน
ใครๆ ต่างนึกไม่ถึงว่า แดนวิถีบู๊ของเขา จะทะลวงสู่กึ่งแดนเหนือมนุษย์แล้ว
เวลานี้ หลี่เจียงสงกำลังนำผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดสองคนมา ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นต้นถึงชั้นปลายอีกสิบกว่าคน
ขบวนรบแบบนี้ สามารถเทียบเท่าราชวงศ์แห่งหนึ่งได้จริง
“แจ้งไปสักหน่อย คนของราชวงศ์ซ่านกวนทั้งหมด เตรียมพร้อมเปิดศึกทุกเวลา!”
กษัตริย์ซ่านกวนออกคำสั่ง ทั่วทั้งราชวงศ์สั่นสะเทือน
ตอนที่เขาเพิ่งออกคำสั่ง รถหรูหลายคันทยอยเข้ามา หลี่เจียงสงอยู่ภายใต้การอารักขาของผู้แข็งแกร่งแดนเทพกลุ่มหนึ่ง กำลังเดินเข้ามา
“กษัตริย์ซ่านกวน หลี่เจียงสงนำผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของราชวงศ์ เข้ามาขอปรึกษากับทางราชวงศ์!”
หลี่เจียงสงพูดเสียงดังกังวาน
เสียงของเขาดังสะเทือนเลือนลั่น คาดไม่ถึงนำพาแรงกดดันวิถีบู๊ของผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์ ปกคลุมเข้ามาทั้งคฤหาสน์ซ่านกวน ผู้แข็งแกร่งอยู่ต่ำกว่าแดนเทพเหล่านั้น ชั่วพริบตาโดนสั่นสะเทือนจนบาดเจ็บภายใน เลือดลมภายในร่างกายปั่นป่วน
ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นต้นและชั้นกลาง ก็เหมือนโดนโจมตีหนัก ร่างกายซวนเซถอยหลังไปหลายก้าว
มีเพียงผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นปลายขึ้นไป ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายอะไร
“หลี่เจียงสง นายวอนหาที่ตาย!”
วินาทีต่อมา ภาพของกษัตริย์ซ่านกวนปรากฏตัวฉับพลัน ตะโกนอย่างโมโห นำพาแรงกดดันวิถีบู๊ของกึ่งแดนเหนือมนุษย์มาด้วยเหมือนกัน ปกคลุมไปยังผู้แข็งแกร่งของตระกูลหลี่
ผู้แข็งแกร่งภายใต้แดนเทพชั้นปลายของตระกูลหลี่ ต่างถอยหลังหลายก้าวกันหมด ตรงหน้าอกเหมือนโดนค้อนทุบทีหนึ่ง
เพียงแต่ คนที่หลี่เจียงสงพามาล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นนำของตระกูลหลี่ ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ต่ำกว่าแดนเทพชั้นปลาย ก็มีเพียงห้าคน
ผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งที่มีกษัตริย์ซ่านกวนเป็นผู้นำ จ้องผู้แข็งแกร่งตระกูลหลี่ตาเป็นมัน
“ฝ่าบาท ผมพาคนมาขอปรึกษากับผู้แข็งแกร่งราชวงศ์ซ่านกวนของคุณ ทำไมกลายเป็นว่าผมวอนหาที่ตายแล้วล่ะ?”
หลี่เจียงสงหัวเราะเยาะ จากนั้นพูดจาแบบท่าทางหยอกเย้า “หรือว่า ฝ่าบาทถูกผู้แข็งแกร่งที่ผมพามาทำให้ตกใจเข้าแล้ว?”
พูดแบบนี้ออกมา คนของราชวงศ์ซ่านกวนล้วนโกรธแค้นถึงขีดสุด หลายปีมานี้ ราชวงศ์ซ่านกวนเคยถูกคนยั่วยุเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร?
ถ้าหลี่เจียงสงเอาเรื่องการตายของหลี่หยางและหลี่เป่าเฟิงมาถกเถียง กษัตริย์ซ่านกวนยังมีเหตุผลโจมตีกลับ แต่ว่าตอนนี้ เดิมทีอีกฝ่ายไม่พูดถึงเรื่องนี้ แต่กลับเอาเรื่องขอปรึกษาถึงถิ่นมาถกเถียง