เมื่อเห็นท่าทีของซุนเต๋อวั่ง เย่เฉินกล่าวด้วยความพึงพอใจว่า “ในอนาคต ฉันจะให้ประธานเฉินดูแลพฤติกรรมหลังการแต่งงานของนาย ถ้าในอนาคตนายยังไม่แก้นิสัยรักคนรวยดูถูกคนจน ไม่ดูแลภรรยาคนใหม่ ลูกสะใภ้ หรือแม้แต่ลูกชายแล้วล่ะก็ ฉันจะให้ประธานเฉินปล่อยหมามากัดขาให้ขาดกระจุยไปเลย นายเข้าใจใช่ไหม?”
ซุนเต๋อวั่งพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า และกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ท่านอาจารย์เย่ ผมเข้าใจครับ…”
เย่เฉินโบกมือ “เอาล่ะ วันนี้ฉันขับรถมา จะไม่ดื่มอวยพรละกันนะ นายไปพบปะคนอื่นเถอะ วันนี้มีแขกมามากเลย อย่าลืมใครไปแม้แต่คนเดียว ได้ยินไหม?”
“ได้ยินแล้วครับ!ผมจะดื่มอวยพรทีละคนเลย!”
เมื่อส่งซุนเต๋อวั่งไปแล้ว ซุนหงเหว่ยกับจางเสี่ยวม่านก็เดินมาพร้อมกับไวน์ในมือ จางเสี่ยวม่านพูดกับเขาและเซียวชูหรันด้วยความเคารพ “ท่านเย่ ชูหรัน วันนี้ต้องขอบคุณทั้งสองมากเลยจริงๆนะคะ ฉันกับหงเหว่ยจะดื่มอวยพรพวกคุณเอง!”
เย่เฉินยิ้มจางๆ “ถ้าอย่างนั้นเราจะใช้ชาแทนไวน์ก็แล้วกัน ฉันขอให้คุณคู่บ่าวสาวมีความสุขและมีความสุข!”
ทั้งสองพยักหน้าซ้ำๆ และขอบคุณพวกเขาอย่างจริงจัง
แม้ว่าเซียวชูหรันจะรู้สึกงงงวยเล็กน้อยกับเรื่องตลกของวันนี้ แต่ในเวลานี้ เมื่อเห็นเพื่อนร่วมชั้นที่ดีในที่สุดได้แต่งงานกับคนที่รักอย่างสมใจ เซียวชูหรันเองก็มีความสุขไปกับเธอเช่นกัน
เย่เฉินมองไปที่จางเสี่ยวหมันและพูดเตือนว่า “เสี่ยวม่าน หลังจากที่คุณแต่งงานกับหงเหว่ยแล้ว อย่าลืมทิ้งบ้านหลังน้อยๆของคุณด้วย เพื่อสิ่งที่พ่อแม่และน้องชายที่บ้าน สิ่งที่พวกเขาทำในวันนี้ คุณเองก็รู้อยู่แก่ใจ ดังนั้นใช้ชีวิตกับสามีของคุณให้ดี คุณต้องรักษาระยะห่างจากครอบครัวของคุณ ไม่ต้องติดต่อกันเรื่องการเงินใดๆอีก”
หลังจากพูดจบ เขามองไปที่ซุนหงเหว่ยอีกครั้งและพูดอย่างจริงจังว่า “ในเรื่องนี้เองหงเหว่ยก็ต้องกำกับดูแลอย่างจริงจังด้วย ตอนนี้พวกเธอสองคนก็เป็นพวกเดียวกันแล้ว อย่าปล่อยให้สามีภรรยาต้องแยกจากกันด้วยเรื่องแบบนี้เลย”
ความหมายของเย่เฉินก็คือ จางเสี่ยวม่านจะต้องไม่ให้เงินพ่อแม่และน้องชายของเขาเด็ดขาด
คนที่เอาลูกสาวไปขายในราคาที่สูงลิบลิ่ว แล้วยังจะมาสูบเลือดสูบเนื้ออีก เย่เฉินดูแล้วรู้สึกแย่เป็นที่สุด
เขาเองก็กังวลว่าเมื่อจางเสี่ยวม่านแต่งงานกับซุนหงเหว่ยไปแล้ว เนื่องจากซุนเต๋อวั่งจะไม่กล้าทำอะไรเธอ แบบนี้ จางเสี่ยวม่านก็จะมีสิทธิ์มีเสียง เป็นไปได้อย่างมากเลยว่าจางเสี่ยวม่านจะพาพ่อแม่ที่แปลกประหลาดและน้องชายที่เกียจคร้านนั้นเข้ามา
ดังนั้นเตือนเธอสักหน่อย บอกให้เธอรู้ อย่าให้ครอบครัวมาหลอกใช้เอาประโยชน์อีก
จางเสี่ยวม่านและซุนหงเหว่ยพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในความเป็นจริง แม้แต่จางเสี่ยวม่านเองก็ผิดหวังกับพ่อแม่และน้องชายของเธอมาก เธอเกลียดจนอยากจะขีดขอบเขตเอาไว้เสียเลย ดังนั้นเธอเองก็ไม่เต็มใจที่จะเอาเงินที่เธอหามาอย่างยากลำบากรวมถึงเงินของสามี มาให้พ่อแม่และน้องชายถลุงอีก
เย่เฉินและเซียวชูหรันหยิบถ้วยชาของพวกเขาและดื่มกับคู่บ่าวสาว จากนั้นเย่เฉินก็พูดว่า “เอาล่ะคุณทั้งสองรีบไปดื่มอวยพรคนอื่นๆเถอะ ไม่ต้องสนใจพวกเราแล้ว”
ซุนหงเหว่ยกล่าวด้วยความเคารพ “ท่านเย่ งั้นเราขอตัวไปที่โต๊ะอื่นก่อนนะครับ”
เมื่องานเลี้ยงกำลังจะจบลง เย่เฉินก็ลุกขึ้นและไปเข้าห้องน้ำ
เมื่อเฉินจื๋อข่ายเห็นเช่นนี้ จึงตามขึ้นไป และเมื่อรอบข้างไม่มีคน เขาพูดกับเย่เฉินด้วยความเคารพว่า “คุณชายครับ ครั้งก่อนคุณชายขงคนนั้น เขาได้ทำการผ่าตัดที่เย่นจิงเรียบร้อยแล้วนะครับ”
“โอ้?”เย่เฉินถามด้วยใบหน้าที่ขบขัน “เพื่อนคนนี้นี่ยังดึงสร้อยออกมาไม่ได้อีกงั้นเหรอ?”