บทที่ 1369 การต่อสู้ที่นองเลือด

The king of War

“ไม่เจียมตัว!”

หลี่เจียงสงหัวเราะเยาะ จากนั้นพลังบูโดของกึ่งแดนเหนือมนุษย์ปะทุออกมาจากร่างกายของเขาทันที และเขายื่นฝ่ามือไปที่ศีรษะของซ่านกวนโหรว

“เสี่ยวโหรว!”

กษัตริย์ซ่านกวนเบิกตากว้างด้วยความโมโห และเขาตะโกนเสียงดังว่า “ไม่! ไม่!”

“เสี่ยวโหรว!”

ตอนนี้ซ่านกวนจื่อฉินพ่อของซ่านกวนโหรว ก็คำรามด้วยความโมโห และต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง พยายามที่จะรีบไปช่วยลูกสาวของตนเอง

อย่างไรก็ตาม เขาถูกผู้แข็งแกร่งของตระกูลหลี่สกัดกั้นเอาไว้ และไม่สามารถเลี่ยงจากการต่อสู้ได้

เมื่อเห็นว่าฝ่ามือของหลี่เจียงสงเข้าใกล้ศีรษะของตนเองมากขึ้นเรื่อย ๆ สีหน้าของซ่านกวนโหรวเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง และรู้ว่าไม่มีใครสามารถช่วยตนเองได้ ดังนั้นเธอจึงหลับตาด้วยความสิ้นหวัง

“ปัง!”

ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นทันที ยืนอยู่ข้างหน้าซ่านกวนโหรว ยกแขนขึ้นแล้วปล่อยหมัดออกไป

ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ หลี่เจียงสงซึ่งมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง ร่างกายของเขานั้นเหมือนถูกอุกกาบาตพุ่งชน กระอักเลือดออกมาจากปาก แล้วกระเด็นออกไป

“คุณหยาง!”

ซ่านกวนโหรวมองแผ่นหลังคุ้นเคยที่อยู่ตรงหน้าตนเองด้วยสีหน้าประทับใจ

หลังจากกษัตริย์ซ่านกวนเห็นหยางเฉินแล้ว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น และในที่สุดความกังวลของเขา ก็ได้รับการปลดปล่อยอย่างสิ้นเชิง

เหตุผลที่เขาสามารถยืนกรานไม่ลงมือ และเฝ้ามองคนของราชวงศ์ถูกหลี่เจียงสงโจมตีอย่างบ้าคลั่ง จนได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต นั่นเป็นเพราะเขาตั้งความหวังบนตัวหยางเฉิน

เขาถูกหลี่จ้งสกัดกั้นอยู่ตลอด และไม่มีทางที่จะไปช่วยคนของราชวงศ์ได้ และเมื่อหลี่จ้งลงมือเคลื่อนไหว มีความเป็นไปได้สูงที่หลี่จ้งจะฆ่าเขา

ขณะที่หลี่เจียงสงกำลังจะฆ่าซ่านกวนโหรว เขาได้ตัดสินใจที่จะโจมตีหลี่จ้งแล้ว ซ่านกวนโหรวเป็นความหวังของราชวงศ์ แม้ว่าเขาจะเสียชีวิต เขาก็ต้องปกป้องซ่านกวนโหรว

เพียงแต่คาดไม่ถึงว่าในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ หยางเฉินจะปรากฏตัวออกมา

ตอนนี้ หลี่เจียงสงถูกหมัดของหยางเฉินจนกระเด็นออกไป ร่างกายของเขาเหมือนดาวตกไปกระแทกบนพื้นอย่างรุนแรง

ตรงตำแหน่งที่ร่างของเขากระแทกลงไป พื้นบริเวณนั้นจมลงไปเหมือนใยแมงมุม

เมื่อคนของราชวงศ์ซ่านกวนได้เห็นภาพนี้ หลังจากประตกใจแล้ว สีหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

เมื่อคนของตระกูลหลี่เห็นผู้นำของตนเองถูกโจมตีจนกระเด็นออกไป พวกเขารู้สึกตกตะลึงและมีความหวาดกลัวอยู่ในแววตา

“คุณคือหยางเฉินเหรอ?”

หลี่จ้งเคยได้ยินชื่อของหยางเฉินแล้ว และคราวนี้ที่เขามาราชวงศ์ซ่านกวน ก็เพื่อกำจัดหยางเฉินก่อน แล้วค่อยลงมือกำจัดราชวงศ์ซ่านกวน

เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลหลี่ลงมือจัดการคนของราชวงศ์แล้ว หยางเฉินถึงได้ปรากฏตัวออกมา

“คุณคือไอ้แก่ตายยากของตระกูลหลี่ที่มีชีวิตอยู่ร้อยกว่าปีใช่ไหม?”

หยางเฉินมองหลี่จ้งด้วยสีหน้าสงบ และกล่าวด้วยน้ำเสียงหยอกล้อเล็กน้อย

“บังอาจ!”

หลี่จ้งโกรธทันที

เขาเป็นอาวุโสของตระกูลหลี่ที่สง่างาม และมีชีวิตอยู่มานานกว่าร้อยปี ถูกชายหนุ่มอายุเพียงยี่สิบแปดปีด่าว่าเป็นไอ้แก่ตายยาก

“คุณไม่เพียงแค่เป็นไอ้แก่ตายยากเท่านั้น แต่ยังเป็นไอ้แก่สารเลวที่ต่ำช้าไร้ยางอายอีกด้วย มีพลังความแข็งแกร่งอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ แต่กลับลงมือโจมตีผู้แข็งแกร่งแดนเทพธรรมดา และคุกคามคนที่มีความแข็งแกร่งน้อยกว่าคุณมาก คุณรู้สึกว่ามันมีเกียรติมากใช่ไหม?”

หยางเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ลึกลงไปในดวงตาของเขานั้นมีเจตนาฆ่าที่รุนแรง

ก่อนหน้านั้น เขาอดทนมาโดยตลอด และเขารู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาทะลวงสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นสองแล้ว เขาคงไม่มาที่นี่

“คุณมันรนหาความตาย!”

หลี่จ้งตะโกนเสียงดัง เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว เขาขยับเท้าและพุ่งเข้าไปหาหยางเฉินทันที

มีลำแสงเย็นยะเยือกสองเส้นพุ่งออกมาจากดวงตาของหยางเฉิน เขาโค้งร่างกายเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็เหยียบบนพื้นอย่างแรง เกิดเสียงดังขึ้น พื้นดินทรุดตัวลง และแรงสะท้อนกลับอันน่าสะพรึงกลัว ทำให้เขาพุ่งตรงไปที่หลี่จ้งทันที

“ปัง!”

วินาทีถัดมา เสียงกระแทกดังสนั่นไปทั่วคฤหาสน์ราชวงศ์ซ่านกวน

บนพื้นที่อยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองคน พื้นดินแตกร้าวและฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว

พลังบูโดที่ท่วมท้นกวาดไปทุกทิศทุกทางราวกับระเบิดนิวเคลียร์

“เพล้ง ๆ ๆ!”

ขณะที่ทุกคนกำลังตกใจ เครื่องแก้วในอาคารใกล้เคียงทั้งหมดแตกเป็นเสี่ยง ๆ

ผู้แข็งแกร่งแดนเทพพวกนั้นเหมือนถูกรถชน ภายใต้ความผันผวนของพลังบูโดที่น่าสะพรึงกลัวนี้ ทำให้พวกเขาถอยหลังไปไม่รู้กี่ก้าว

บางคนที่เพิ่งเข้าสู่แดนเทพชั้นต้น อดไม่ได้ที่จะรู้สึกระคายเคืองในลำคอ กระอักเลือดออกมาจากปาก แล้วกระเด็นออกไปล้มลงบนพื้นทันที

ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์สองคน เพียงแค่การโจมตีเพียงครั้งเดียว ก็สามารถระเบิดพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้

แค่พลังงานที่ผันผวนหลังการปะทะกัน ก็สามารถทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตมากขนาดนี้ แค่คิดก็สามารถรับรู้ เมื่อคนทั้งสองต่อสู้กันจริง ๆ จะเกิดเรื่องน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน

แม้แต่กษัตริย์ซ่านกวนซึ่งอยู่ในกึ่งแดนเหนือมนุษย์ ก็ถอยหลังไปห้าหกก้าว จากการเผชิญหน้าของหยางเฉินและหลี่จ้ง ทำให้ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

ขณะเดียวกัน ก็มีความปีติยินดีอยู่ในดวงตา

ก่อนหน้านั้นเขายังกังวล หยางเฉินเป็นเพียงผู้แข็งแกร่งที่เพิ่งเข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง และเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่จ้ง ถ้าเขาสามารถสกัดกั้นหลี่จ้งได้ สำหรับราชวงศ์แล้ว ถือเป็นบุญคุณที่ยิ่งใหญ่แล้ว

แต่ตอนนี้ หลังจากที่หยางเฉินและหลี่จ้งเผชิญหน้ากัน หยางเฉินไม่ได้ถูกอีกฝ่ายโจมตีจนถอยกลับ ความแข็งแกร่งของทั้งสองคนดูเหมือนจะสูสีกัน ไม่มีใครสามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้

ตอนนี้สำหรับราชวงศ์ซ่านกวนแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีใครฆ่าหลี่จ้ง ขอเพียงแค่สามารถสกัดกั้นหลี่จ้งได้ก็เพียงพอแล้ว

อย่าลืมว่ากษัตริย์ซ่านกวนก็อยู่ในกึ่งแดนเหนือมนุษย์เหมือนกัน และเป็นผู้แข็งแกร่งที่ทะลวงไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งแล้ว

สำหรับหลี่เจียงสงแห่งตระกูลหลี่แล้ว หลังจากที่หยางเฉินปรากฏตัวขึ้น เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เกรงว่าตอนนี้เขานั้นไม่สามารถฆ่าแดนเทพชั้นยอดได้แม้แต่คนเดียวแล้ว

ขอเพียงหยางเฉินสามารถสกัดกั้นหลี่จ้งเอาไว้ได้ สิ่งที่คนตระกูลหลี่กำลังจะเผชิญก็คือความตาย!

“คุณ คุณเป็นใครกันแน่?”

หลี่จ้งโจมตีหยางเฉินอย่างรุนแรงจนถอยไปข้างหลัง และตัวเขาเองก็ถอยหลังไปหลายก้าว

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มสงสัยสถานะตัวตนของหยางเฉิน

เขาเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่ แต่การโจมตีเมื่อสักครู่ พลังการต่อสู้ของหยางเฉินนั้นสูสีกับเขา แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ แต่เขาก็ไม่สามารถรับประกันว่าหยางเฉินนั้นปล่อยพลังออกมาเต็มที่หรือไม่?

ไม่ว่าหยางเฉินจะปล่อยพลังออกมาเต็มที่หรือไม่ สิ่งที่เขาแน่ใจคือการฆ่าหยางเฉินนั้นเป็นเรื่องยาก

ประเด็นสำคัญคือหยางเฉินยังอายุน้อยมาก

จากประสบการณ์ของเขา เขายังไม่เคยได้ยินว่าชายหนุ่มที่อายุไม่เกินสามสิบปีจะมีพลังการต่อสู้แดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่

ประเด็นสำคัญคือเขาสัมผัสได้เพียงพลังของวิถีบู๊ที่เพิ่งเข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นสอง จากร่างกายของหยางเฉิน

หลังจากบูโดเข้าสู่แดนเหนือมนุษย์แล้ว ความห่างระหว่างสองแดนนั้นเหมือนช่องว่าง ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างเขากับหยางเฉินนั้นมีช่องว่างอยู่สองแดน

เจตนาฆ่าประกายอยู่ในรูม่านตาของหยางเฉิน ในเมื่อเขาโจมตีหลี่จ้งแล้ว งั้นวันนี้หลี่จ้งจะต้องตาย

มิเช่นนั้น ถ้าปล่อยให้ศัตรูตัวฉกาจเช่นนี้มีชีวิตรอดกลับไป วันหนึ่งเขาจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน

“ผมเป็นใคร คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้!”

หลังจากหยางเฉินกล่าวจบ เขาขยับเท้าและพุ่งเข้าไปหาหลี่จ้งอีกครั้งทันใด

ขณะนี้ หลี่จ้งรู้สึกได้ถึงพลังรุนแรงมุ่งหน้ามาที่เขา

ตอนนี้ดวงตาหยางเฉินกลายเป็นสีแดง เขาเหมือนสัตว์ร้ายที่ไม่สามารถควบคุมได้

เมื่อมองไปที่ดวงตาของหยางเฉิน หลี่จ้งรู้สึกกลัวจริง ๆ