ตอนที่ 1656: ยุคใหม่ (2)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1656: ยุคใหม่ (2)

ในเมืองที่ค่อนข้างใหญ่และอึกทึก มีคนลอยอยู่กลางอากาศด้านหลังจวนเจ้าเมือง เขามองดูการแสดงอยู่ ทันใดนั้นมีชายกลางคนปรากฏตัวด้านหน้าเขาและพูดว่า ข้าต้องการซื้อเมืองนี้ !

เจ้าเมืองสะดุ้งจากความตกใจกับการปรากฏตัวของบุคคลนี้ เขาตกตะลึงเมื่อเขาได้ยินคำพูดของบุคคลนั้นและเขาก็ตอบออกมาอย่างไม่มั่นคง เจ้ามาจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง ?

ชายกลางคนยิ้มและแนะนำตัวเองว่า ข้าชื่อสตาร์ก ข้ามาจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งและข้ายังเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 6″

ห๊ะ ! ซะ เซียนราชา… เจ้าเมืองขาสั่นพั่บ ๆ และหน้าเริ่มซีด ตอนนี้เขาเป็นเซียนสวรรค์เท่านั้นและเขายังเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองด้วย เซียนราชาส่วนใหญ่มักจะไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา

ข้าต้องการซื้อเมือง เจ้าสามารถพูดกับคนในเมืองได้ ไม่ว่าจะเป็นเงิน, ทักษะการต่อสู้หรือวิธีการบ่มเพาะ ทุกสิ่งข้าสามารถจ่ายออกไปได้ ข้าจะจ่ายให้ตามที่ดินในแต่ละคนที่ครอบครอง แน่นอนว่าจะมีบางอย่างสำหรับเจ้า หากว่าทำให้ข้าพอใจเช่นกัน สตาร์กพูด

ตะ..แต่เมืองนี้เป็นดินแดนของอาณาจักรลั่วเฟย ข้าจะทำ…ได้อย่างไร เจ้าเมืองพูด ราวกับว่ามีปัญหา เขาค่อนข้างลังเลที่จะช่วยเหลือคนจากต่างโลก ท้ายที่สุดเขาก็เป็นมนุษย์ ดังนั้นเขาจะช่วยคนต่างเผ่าพันธุ์ได้อย่างไร ? อย่างไรก็ตามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขาคือเซียนราชา แม้ว่าเขาจะลังเล แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะแสดงออกตรง ๆ

อาณาจักรลั่วเฟยที่เจ้าพูดถึงมีเซียนผู้คุมกฏเพียงคนเดียว หากเจ้าช่วยเหลือ ข้าสามารถขอคนที่ระดับสูงกว่าเพื่อให้เจ้าเข้าสู่พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งเพื่อบ่มเพาะ แน่นอนว่าเจ้าสามารถทะลวงเป็นเซียนผู้คุมกฏได้ภายในเวลา 10 ปี สตาร์กกล่าว

ห๊ะ ! ? ข้าสามารถกลายเป็นเซียนผู้คุมกฏได้ใน 10 ปี ? นั่นเป็นเรื่องจริงงั้นหรือ ? ดวงตาของเจ้าเมืองเบิกกว้างและเริ่มมีอารมณ์ เขาทะลวงเป็นเซียนสวรรค์เมื่อหลายปีก่อน แต่แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะทะลวงในขอบเขตเซียนไปมากกว่านี้ในชีวิตของเขา ขอบเขตเซียนนั่นเป็นสิ่งที่ดึงดูดที่สุดในชีวิตของเขา

แน่นอน เจ้าคิดว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเรามีค่ามากแค่ไหน ? การที่ทำให้คนทะลวงเป็นเซียนผู้คุมกฏได้อย่างง่าย ๆ สตาร์กพูดยืนยัน

เอาล่ะ ข้าตกลง ผู้อาวุโส ตราบใดที่ข้าเป็นเซียนผู้คุมกฏ ข้าจะทำทุกอย่างตามที่ท่านขอ… เจ้าเมืองตอบตกลงอย่างตื่นเต้น เขาลืมเรื่องเหตุผลก่อนหน้านี้ไปอย่างสมบูรณ์รวมถึงคนตรงหน้าเป็นคนต่างโลก ตอนนี้มีแต่ความคาดหวังอยู่เต็มสายตาของเขาที่แสดงให้เห็นออกมา

มีคนน้อยมากที่รู้ว่ามีตระกูลโบราณหลายหมื่นปีที่ซ่อนอยู่ในเทือกเขาโบราณ วันนี้ตระกูลโบราณได้ต้อนรับแขกพิเศษ แขกคนนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษ แต่เขาก็สามารถเข้ามาในตระกูลได้อย่างเงียบ ๆ โดยไม่ถูกตรวจจับได้

แขกยืนอยู่ด้านหน้าบรรพชนของตระกูลโบราณและพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า เจ้ามีโรคประจำตัวบางอย่างที่ขัดขวางไม่ให้เจ้ากลายเป็นเซียนจักรพรรดิตลอดชีวิตของเจ้า ข้าพึ่งจะได้ยารักษามาและข้าจะทำให้เจ้าเป็นเซียนจักรพรรดิในระยะเวลา 100 ปี รวมทั้งยังให้เจ้าตระกูลของเจ้ามีอำนาจมากขึ้น โดยจะมีเซียนราชา 10 คน ข้าให้สิทธิ์เจ้าเลือกคนทั้ง 10 คนนี้ได้และข้าจะทำให้พวกเขากลายเป็นเซียนราชาใน 10 ปี สิ่งที่เจ้าต้องทำคือแค่ย้ายออกไปจากเทือกเขาแห่งนี้ เทือกเขาแห่งนี้จะเป็นของเราในอนาคต

มีแสงวาบผ่านดวงตาของบรรพชนคนนั้น เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เจ้าสามารถเข้ามาที่นี่ได้อย่างเงียบ ๆ และข้าก็ไม่อาจบอกได้ว่าความแข็งแกร่งของเจ้ามีแค่ไหน ถ้าข้าพูดถูก เจ้าควรจะเป็นคนจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง เงื่อนไขของเจ้าน่าดึงดูดจริง ๆ ข้าอาจเห็นด้วยถ้าเจ้าเป็นมนุษย์ แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่อย่างนั้น เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะให้เราย้ายออกจากที่นี่

เจ้าไม่มีศัตรูเลยงั้นรึ ? ข้าจะพูดตามตรง แต่เราต้องการที่ดินมากมายและมีคนมากมายที่จะได้รับผลประโยชน์จากเรา พวกเขาจะได้รับวิถีการบ่มเพาะหรือทักษะการต่อสู้ที่พวกเขาต้องการหรือมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากความช่วยเหลือของพวกเรา ข้าไม่อาจรับประกันได้ว่าศัตรูของเจ้าจะมีพลังมากขึ้นหรือไม่ เซียนจักรพรรดิจากต่างโลกพูดอย่างใจเย็น

ใบหน้าของบรรพชนตระกูลโบราณเปลี่ยนไปและสายตาของเขาก็เริ่มสั่นไหว

ข้าจะให้เวลาเจ้า 3 วัน ข้าจะกลับมาหลังจากนี้ 3 วัน

..

มีเหตุการณ์ที่คล้ายกันเกิดขึ้นไม่ใช่แค่เพียงในทวีปเทียนหยวน มันเกิดขึ้นกับในอาณาเขตทะเลและทวีปสัตว์เทวะมากมายเช่นกัน ผู้คนจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งไม่เพียงแต่ยื่นมือไปยังเมืองคนธรรมดาเท่านั้น แต่พวกเขายังมีเป้าหมายไปที่พวกที่สันโดษหรือตระกูลโบราณ พวกเขาเข้าหาด้วยวิธีต่าง ๆ และยังใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อล่อลวงพวกเขาเพื่อที่จะได้ที่ดิน

การปรากฏตัวของทักษะการต่อสู้ระดับเซียนจากตระกูลโบราณก็มาพอที่จะทำสงครามกับคนอื่น โลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งมีมรดกที่ยิ่งใหญ่, ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนที่เป็นสิ่งล้ำค่าในสายตาของผู้บ่มเพาะในทวีปเทียนหยวนนั้นไม่มีค่าอะไรสำหรับพวกเขา เป็นผลให้ในวันแรกตระกูลสันโดษหลายตระกูลเลือกที่จะขายที่ดินของพวกเขาเพื่อทักษะการต่อสู้ระดับเซียนหรือวิธีการบ่มเพาะหรือโอกาสที่จะได้เป็นเซียนราชาหรือแม้แต่เซียนจักรพรรดิ พวกเขาทำการตัดสินใจนี้เพื่อให้ตระกูลของพวกเขาเจริญรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่กว่าเดิม ตระกูลทั้งหมดได้ย้ายออกไป

ในเวลาเดียวกัน ผู้คนจากต่างโลกได้ใช้เงินและทรัพย์สมบัติอื่น ๆ เพื่อซื้อที่ดินจำนวนมาจากมนุษย์ พวกเขายังเสนอผลประโยชน์มากมายบางอย่างให้กับราชาของอาณาจักรและยังได้เอาชนะข้อเสนอด้วยตัวของพวกเขาเอง ทำให้ดินแดนของอาณาจักรนั้นทั้งหมดกลายเป็นสนามหลังบ้านของพวกเขา

แน่นอนว่าคนจากต่างโลกไม่ได้วิ่งเล่นในดินแดนที่พวกเขาซื้อมา พวกเขาต้องการแค่ดินแดนเพื่อที่พวกเขาจะได้จัดสภาพแวดล้อมที่ดีกว่าให้กับตระกูลที่อ่อนแอกว่า ท้ายที่สุดแล้วสภาพแวดล้อมในโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งนั้นก็น่ากลัวเกินไปและไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้บ่มเพาะขอบเขตมนุษย์ การอาศัยอยู่ที่นั่นมาขึ้นพวกเขาจะตายจากภัยธรรมชาติมากขึ้น ๆ ทุกวัน โลกอื่นจึงเหมือนสวรรค์

เจี้ยนเฉินและซ่างกวนมู่เอ๋อนั่งอยู่บนก้อนหินเดียวกันในเกาะสามเซียน พวกเขาเฝ้าสังเกตทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกไม่ว่าจะเป็นทวีปเทียนหยวน, ทวีปสัตว์เทวะหรืออาณาจักรทะเล

มันเป็นเพียงวันแรกและโลกอื่นก็ได้รับที่ดินมากมายแล้ว หากสิ่งนี้ยังเป็นอยู่ต่อไป พวกเขาจะสามารถซื้อมันได้มากกว่าครึ่งนึงของทวีปเทียนหยวน เจี้ยนเฉิน เจ้ารับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ? ซ่างกวนมู่เอ๋อมองไปที่เจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินพยักหน้า ข้าได้ทำการตอบไปแล้ว โลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งจะได้รับที่ดินของเขาอย่างจำกัด ด้วยมาตรการต่าง ๆ ของพวกเขาเพราะข้าได้สั่งให้ตระกูลใหญ่ ๆ และนิกายในโลกนี้อย่างลับ ๆ ให้ปฎิเสธข้อเสนอในการขายที่ดินของพวกเขา เจี้ยนเฉินหยุดก่อนที่จะพูดต่อ และจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งก็ไม่ใช่คนโง่ พวกเขารู้ว่าเมื่อพวกเขาซื้อที่ดินมากกว่าที่เราจะขายออกไปได้ เราจะจบลงด้วยการบังคับด้วยกำลัง พวกเขารู้ว่าเมื่อใดที่ควรจะหยุด ท้ายที่สุดเราเห็นด้วยกับพวกเขาที่ซื้อที่ดินของเราไม่ใช่เพราะพวกเขามีอำนาจ แต่เพราะการมีส่วนร่วมของพวกเขาเพื่อหยุดวิกฤติของโลก พวกเขาเข้าใจสิ่งนี้เป็นอย่างดี