ตอนที่ 1658: ข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจี้ยนเฉิน

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1658: ข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจี้ยนเฉิน

ฮึ่ม ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนแค่นเสียงเบา ๆ และไม่สนใจเถี่ยต้าอีก เขารู้ว่าพ่อแม่ของเขาจะจากโลกนี้ไปไม่ช้าก็เร็วและวันนั้นก็ใกล้เข้ามาแล้ว

เถี่ยต้า ยังมีหลายสิ่งที่ยังรั้งข้าให้อยู่ที่นี่ ข้าต้องการที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปเล็กน้อย เพื่อที่ข้าจะได้ใช้เวลากับพ่อแม่ของข้าก่อนที่ข้าจะจากไป ท้ายที่สุดใครจะรู้ว่าข้าจะไปนานแค่ไหน ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้าจะได้เห็นพวกเขาทั้งสองเมื่อข้ากลับมาหรือไม่ เจี้ยนเฉินพูดอย่างหนักใจเพราะเขาไม่รู้ว่าเขาจะได้กลับมาหลังจากที่เขาไปโลกเซียนแล้วหรือไม่

เขาไม่กลัวตาย อย่างไรก็ตามเขายังคงมีห่วงอยู่ แม้ว่าเขาจะต้องไป เขาก็อดไม่ไดที่จะรีบกลับมา

ตกลง ข้าจะรอเจ้าที่โลกเซียน ไปสถานเทพนิกม่าทันทีที่เจ้าไปถึงโลกเซียน ข้าไม่รู้ว่าสถานเทพนิกม่าอยู่ที่ไหน ข้าเพิ่งได้ยินจากผู้อาวุโสเอเดรียนน่า นางบอกข้าว่าเผ่าเทพของเราตั้งอยู่ที่สถานเทพนิกม่าและตราบใดที่เจ้าไปที่นั่น เจ้าสามารถพบมันได้โดยถามว่าตระกูลเทพอยู่ที่ไหนจากคนแถวนั้น เถี่ยต้ากล่าว

เอาล่ะ ข้าจะไปหาเจ้าที่สถานเทพนิกม่า ถ้าข้ามีโอกาส เจี้ยนเฉินหยุดพูดและจากนั้นเขาก็จริงจังอย่างฉับพลัน แต่เถี่ยต้า ข้าหวังว่าเจ้าจะรักษาสัญญากับข้า ไม่ต้องบอกใครในเผ่าของเจ้าเกี่ยวกับข้า ยิ่งพวกที่มีอำนาจและแข็งแกร่งเจ้ายิ่งไม่อาจพูดถึงข้าได้ ตกลงหรือไม่ ?

ทำไม ? เถี่ยต้าถามด้วยความงุนงง

เจี้ยนเฉินหยุดครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบกลับ อย่าถามข้าตอนนี้ อย่างไรก็ตามอย่าเพิ่งพูดถึงการมีอยู่ของข้าในเผ่าเทพมั่วๆ ไม่ต้องพูดถึงกระบี่ทั้งสองเล่มของเข้ากับคนระดับสูงในเผ่าเทพของเจ้า และจะให้ดีที่่สุดถ้าเจ้าเก็บเป็นความลับจากคนที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเผ่าเทพ เจ้าจะได้รู้เหตุผลในอนาคต

เถี่ยต้าเข้าใจความสำคัญเรื่องนี้ เมื่อเขาเห็นความจริงจังของเจี้ยนเฉิน เขาพยักหน้าอย่างจริงจังและรับปากทันทีว่า ตกลง ข้าเห็นด้วย ข้าจะไม่พูดมั่ว ๆ ข้าไม่รู้เหตุผล แต่ข้าเชื่อว่าเจ้าเป็นพี่น้องที่ดีที่สุดของข้า

เจี้ยนเฉินถอนหายใจและตวัดเบ็ดในมือของเขา เขาเย่อปลาที่ยาว 60 เซนติเมตรจนมันกระโดดขึ้นเหนือน้ำ เจี้ยนเฉินปลดตะขอเบ็ดก่อนที่จะโยนลงในตระกล้า และหมิงตงถูกส่งไปโลกเซียนเมื่อหลายปีก่อน ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนั้น มันคงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเขาที่จะอยู่รอดในโลกเซียน ชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตรายหากเขามีความประมาท หลายปีมาแล้วข้าสงสัยว่าเขาจะเป็นอย่างไร ข้าเป็นห่วงเขามากที่สุด เถี่ยต้า เนื่องจากเจ้ามีเผ่าเทพในโลกเซียน ข้าหวังว่าเจ้าจะตามหาเขาโดยใช้พลังของเผ่าเทพเมื่อเจ้าไปโลกเซียน ถ้าเจ้าทำได้ เจี้ยนเฉินเริ่มกังวลเมื่อเขาพูดถึงหมิงตง อย่างไรก็ตามเขายังมีความหวังว่าหมิงตงไม่ได้ติดอยู่ในสถานการณ์ใด ๆ และองค์กรของอัครสูงสุดอนัตตาจะปกป้องเขา นอกจากนี้หมิงตงได้ถูกส่งไปจากสมบัติของอัครสูงสุดอนัตตา แท่นหยกชะตา ในพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับอัครสูงสุดอนัตตาแน่นอน มันอาจจะเป็นวิธีที่อัครสูงสุดอนัตตาเลือกผู้สืบทอด

หากเป็นเช่นนั้น ความปลอดภัยของหมิงตงจะได้รับการรับรอง แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น มันจะเป็นสถานการณ์ที่น่ากลัวมาก ๆ ที่หมิงตงติดอยู่ในโลกที่สูงกว่า

ไม่ต้องกังวล เรื่องนี้ยังคงอยู่ในใจข้าเสมอ หมิงตงเป็นสหายของข้า ดังนั้นข้าจะให้ผู้คนค้นหาหมิงตงทันทีเมื่อข้าไปยังเผ่าเทพ เถี่ยต้าตบอกรับรองด้วยตัวเอง

เถี่ยต้าและเจี้ยนเฉินพูดนานมาก แต่เมื่อพวกเขาเลิกคุยมันก็สายมากแล้ว นี่เป็นเพราะพวกเขาทั้งคู่เข้าใจว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาพบกันในโลกนี้ ครั้งต่อไปพวกเขาจะพบกันที่โลกเซียน

เมื่อเถี่ยต้าจากไป เจี้ยนเฉินและซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนกลับไปที่หมู่เกาะสามเซียน จิตใจของเจี้ยนเฉินรู้สึกหนักอึ้ง อย่างแรกหมิงตงถูกดูดออกไป จากนั้นพี่สาวของเขาก็ถูกลักพาตัวไปโดยที่เขาไม่มีโอกาสที่จะได้กล่าวคำอำลา ตอนนี้เถี่ยต้าก็กำลังจะจากไปเช่นกัน เขาจะสูญเสียสหายสนิทไปอีกคนหนึ่ง นอกเหนือจากนี้ที่เจี้ยนเฉินให้ความสนใจมากที่สุดก็คือตัวตนของเถี่ยต้าและตัวของเขาเอง เขาเป็นผู้สืบทอดของโลกอมตะซึ่งเป็นศิษย์ของนิกายกระบี่สวรรค์ม่วง นี่เป็นความจริงที่ไม่สั่นคลอน ตั้งแต่เขาฝึกฝนบัญญัติกระบี่นภา ตั้งแต่เขาบ่มเพาะร่างบรรพกาล ตั้งแต่จิตวิญญาณกระบี่ได้ยึดถือขาเป็นเจ้านาย ตัวตนของเขาก็เปลี่ยนไป

ในขณะเดียวกัน เถี่ยต้าเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าเทพจากโลกเซียน โลกเซียนและโลกอมตะนั้นเป็นศัตรูกัน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของเขาและเถี่ยต้าจะยังคงเหมือนเดิมหรือไม่ เมื่อตัวตนของถูกเปิดเผย

นอกจากเถี่ยต้าแล้วยังมีพี่สาวของเขา เจียงหยางหมิงเยว่ที่เป็นห่วงเขาและปกป้องเขามาตั้งแต่เด็ก

เจี้ยนเฉินรู้สึกว่าเหมือนมีก้อนหินถ่วงหัวใจของเขาเมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ เขารู้สึกประหม่าพร้อมกับหายใจติดขัด ภายในของเขากลัวไม่น้อย หากต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด

..

ในโถงเทพเจ้าสงคราม เถี่ยต้านั่งอยู่บนบัลลังก์ ใบหน้าของเขาสงบ แต่ดวงตาของเขาเย็นชา เขาดูสง่างาม ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นเหมือนที่ตอนมาใหม่ ๆ เถี่ยต้าเติบโตขึ้นอย่างแท้จริง ช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์หรือบุคคลิกของเขา

เจี้ยนเฉินขอให้ข้าเก็บเรื่องราวของเขาเอาไว้เป็นความลับจากพวกระดับสูงของเผ่าเทพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบี่ทั้งสองของเขา ข้าไม่อาจพูดเรื่องนี้กับคนนอกได้ ทำไมเขาถึงถามอะไรแบบนั้น ? มีความลับที่ต้องปกปิดอีกหรือ ? เถี่ยต้านึกถึงสิ่งที่เจี้ยนเฉินเล่าให้เขาฟังและอยากรู้อยากเห็น

เจี้ยนเฉินไม่ต้องการให้ข้าบอกกับคนอื่น นั่นหมายความว่ามันจะคุกคามชีวิตของเขา ถ้าข้าทำอย่างนั้น เจี้ยนเฉินเป็นสหายที่ดีที่สุดของข้าและข้าจะไม่ให้ใครทำร้ายเขา แม้แต่พวกระดับสูงของเผ่าเทพ เถี่ยต้าพึมพำเบา ๆ ในตอนท้ายดวงตาที่สดใสของเขาก็แผ่แสงสีทอง

แต่ถ้าข้าต้องการปกป้องเจี้ยนเฉิน ข้าต้องรู้ว่าเขากลัวและจัดการกับต้นตอของปัญหา แต่จากคำพูดของเจี้ยนเฉิน ทุกอย่างดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับกระบี่ทั้งสอง หลังจากเงียบไปครู่หนึงเถี่ยต้าก็ยืนขึ้น เขาก้าวไปข้างหน้าและหายไปจากโถงศักดิ์สิทธิ์

ต้นไม้เทพเจ้าเอลฟ์เอื้อมมือไปที่เมฆภายในพื้นที่ต้องห้ามของพวกเอลฟ์ มันเปล่งประกายพร้อมกับมีพลังชีวิตที่ยิ่งใหญ่ บริเวณต้องห้ามเงียบสงบโดยไม่เห็นใคร มีเพียงราชินีเอลฟ์เท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าและออกได้อย่างอิสระ แม้แต่ผู้อาวุโสเอลฟ์ก็ไม่อาจเดินเข้ามาได้อย่างง่ายดาย

ในเวลานี้ทันใดนั้นก็มีแสงสีทองร่างหนึ่งปรากฏตัวอย่างเงียบ ๆ ต่อหน้าต้นไม้เทพเจ้าเอลฟ์ เขาสูงหลายเมตรและบึกบึนมากในขณะที่ผิวของเขาเป็นสีทอง เขาสวมเสื้อคลุมและส่องสว่างตามธรรมชาติพร้อมกับอำนาจสูงที่สุด

เอเดรียนน่าคารวะเทพเจ้าสงคราม ! ก่อนที่ราชาเทพเจ้าเอลฟ์จะรู้ มีภาพเงาของหญิงสาวปรากฏขึ้น นางคำนับเทีนต้าทันทีที่ปรากฏ

เอเดรียนน่า ข้าต้องการถามเจ้าว่า เจ้าจำกระบี่ทั้งสองเล่มของเจี้ยนเฉินได้หรือไม่ ? เถี่ยต้าถาม

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ส่ายหัวและพูดว่า เทพเจ้าสงคราม ข้าไม่รู้จักกระบี่ทั้งสอง อย่างไรก็ตามกระบี่ทั้งสองนั้นเป็นสีม่วงและสีฟ้าและปราณกระบี่ของพวกเขานั้นมีเอกลักษณ์ พวกมันคล้ายกับสมบัติในตำนาน

สมบัติอะไร ? เถี่ยต้าหรี่ตาแต่เขายังคงถามต่อไป เขารู้อยู่แล้วว่าเขาอาจค้นพบบางสิ่งที่เจี้ยนเฉินกลัวจากเอเดรียนน่า

อันโดรเนี่ยนึกถึงอดีตและพูดว่า พวกมันเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของโลกอมตะ กระบี่ม่วงฟ้าหรือที่เรียกกันว่ากระบี่คู่หยินหยาง พวกมันเป็นหนึ่งในสิบวัตถุมหาเทพของโลกอมตะ พวกมันเป็นสมบัติของนิกายกระบี่สวรรค์ม่วง หัวหน้านิกายของสุดยอดนิกายทั้งเก้าจากโลกอมตะ มีการบอกว่าบรรพชนของนิกายกระบี่สวรรค์ม่วงได้สร้างกระบี่อมตะทั้งสองด้วยตัวเอง เขา อมตะเที่ยงแท้สวรรค์ม่วงซึ่งเป็นหนึ่งในห้าของจอมปราชญ์สูงสุด ทันใดนั้นการแสดงออกของเอเดรียยน่าก็ค่อนข้างซับซ้อนและนางก็พูดอย่างลังเลว่า เว้นแต่ว่าเราเป็นศัตรูกับโลกอมตะ หากกระบี่ของเจี้ยนเฉินเป็นกระบี่คู่นั้น…

ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วมันจะเป็นอย่างไร ? เถี่ยต้าถามด้วยน้ำเสียงต่ำ

ถ้าเป็นเช่นนั้น เจี้ยนเฉินจะไม่สามารถเก็บพวกมันได้ แต่นั่นทำให้เขาไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ กับโลกอมตะ หากเขาเป็นอย่างนั้น เขาจะกลายเป็นศัตรูต่อคนทั้งโลกเซียนและอาจถูกตามล่าจากเหล่าอัครสูงสุดทั้งหลาย ตอนนี้กระบี่ของเจี้ยนเฉินมีลักษณะคล้ายกับกระบี่คู่จากโลกอมตะ ท้ายที่สุดแล้วความแตกต่างทางอำนาจของพวกมันนั้นเกินความคาดหมายไปบ้าง เอเดรียนน่าตอบ