ทั่วทั้งท้องฟ้าถูกย้อมจนกลายเป็นสีแดงของเลือด ปราณโลหิตที่สว่างไสวถึงขีดสุดสั่นสะเทือน มีเสียงคำรามของมังกรจริง ๆ ดังขึ้น เหมือนอุทกภัยที่ปะทุ ไหลหลากอย่างไม่อาจหยุดยั้งได้

“ปราณโลหิตช่างน่าหวาดเกรงยิ่ง ร่างเนื้อของคนผู้นี้แท้จริงแล้วมันน่ากลัวถึงระดับใดกันแน่?”

เจ้าสำนักไป่หยุนตื่นตกใจจนไม่อาจที่จะตกใจได้มากกว่านี้อีกแล้ว เขาก็เคยได้พบเห็นการกลั่นร่างราชาเทพที่น่าเกรงขามไร้เทียมทานมาก่อน แต่เมื่อเทียบกับคนผู้นี้ กลับเป็นต่างกันราวกับความสว่างไสวของหิ่งห้อยและดวงจันทร์

เหวิง!

ในเวลานี้เอง เปลือกตาของหลัวซิวเปิดขึ้นและปิดลง แสงเทวะอันเข้มข้นพุ่งออกมาจากจากดวงตาของเขา เหมือนกับกระบี่เทพสองเล่ม บดขยี้สุญญากาศ ฉีกกระชากท้องฟ้า กำเนิดฟ้ากำเนิดดิน ผสมปนเปกันจนล้นทะลักออกมา

ที่ด้านหลังของเขา ดวงดาวสามสิบหกดวงปรากฏขึ้น แปรเปลี่ยนเป็นห้วงดาราผืนหนึ่ง ดวงดาราสีดำและสีทองตอบรับซึ่งกันและกัน ดวงดาราทุกดวงต่างปลดปล่อยออร่าที่แข็งแกร่งออกมา

วรยุทธ์โคจร พละกำลังของแก้วเทวนับล้านชิ้นถูกเขาซึมซับดูดกลืน แม้แต่สายทิพย์สายนั้นที่ด้านล่างของเขาไป่หยุนก็ยังถูกเขาดึงขึ้นมา ดูดกลืนลงไปในคราเดียว ราวกับกลืนมังกรลงไปทั้งตัว

ใจกลางห้วงดาราที่แปรเปลี่ยนอยู่ด้านหลังเขา วัฏจักรการเวียนว่ายตายเกิดสายหนึ่งปรากฏขึ้น กลายเป็นดาวหลักที่อยู่ตรงใจกลาง โดยมีดวงดาราสามสิบหกดวงหมุนเวียนล้อมรอบ

“โครมคราม……”

ในชั่วพริบตา เมฆเคลื่อนตัวไปทุกทิศทุกทาง ทันใดนั้นท้องฟ้าเหนือพื้นดินกว่าแสนลี้ก็กลายเป็นความมืดมิดไม่มีที่สิ้นสุด

“แกร็ก!”

สายฟ้าสีทองเส้นหนาราวกับมังกร พลันตกลงมาจากฟ้าในทันใด ฟาดไปยังทิศทางของหลัวซิว

ไม่เหมือนกับทัณฑ์สายฟ้าพิโรธที่ผ่าน ๆ มา ก่อนนี้เวลาที่ข้ามผ่านทัณฑ์ ทัณฑ์สายฟ้าพิโรธจะมีสัญญาณก่อนสักช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ครั้งนี้กลับไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ ฟาดลงมาโดยตรง ราวกับเป็นเจตจำนงของฟ้าดินที่ต้องการจะทำลายล้างหลัวซิวด้วยความรวดเร็วที่สุด!

และที่เป็นเช่นนี้ ก็เป็นเพราะว่าพลังของหลัวซิวนั้นเกินคำว่าแข็งแกร่งมากเกินไป การสั่งสมของเขาในแดนเทพมารนี้ มันน่ากลัวมากเกินไป

เทียนเต้าของจักรวาลคือความยุติธรรม ยิ่งพลังของเขาแข็งแกร่งมากเพียงใด ทัณฑ์สายฟ้าพิโรธที่ต้องเผชิญในตอนที่บรรลุแดนก็ยิ่งแกร่งขึ้นมากเท่านั้น เป็นหลักการเดียวกัน หากว่าเขาสามารถผ่านมันไปได้ พลังของเขาก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก

ผู้แข็งแกร่งยิ่งแกร่ง ผู้อ่อนแอยิ่งอ่อนแอ นี่คือกฎของโลกนักยุทธ์!

มีเพียงสายฟ้าสีทองเส้นหนึ่ง ดูเหมือนจะธรรมดาทั่วไป แต่กลับน่าสะพรึงกลัวจนถึงขีดสุด พลังที่น่าสยดสยองอัดแน่นอยู่ในสายฟ้า มันมากพอที่จะทำลายราชาเทพช่วงปลายได้อย่างง่ายดาย

“ถอย!”

เจ้าสำนักไป่หยุนหน้าถอดสี เขาก็คาดไม่ถึงว่าทัณฑ์สายฟ้าพิโรธจะมาอย่างรวดเร็วเช่นนี้ เวลานี้พลังอำนาจสายฟ้าที่สว่างไสวนั้นปกคลุมไปทั่วรัศมีแสนลี้ แม้แต่ตัวเขาที่เป็นผู้แข็งแกร่งราชาเทพก็ยังรู้สึกราวกับแบกภูเขาแสนลูกเอาไว้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงศิษย์ทั่วไปเหล่านั้นของสำนักไป่หยุน เลย

มีบางคนที่ถูกแรงกดจากอำนาจสายฟ้าจนทั้งร่างแนบติดลงไปอยู่กับพื้นดิน พวกเขาไม่สามารถจะเคลื่อนไหวได้แม้แต่ปลายเล็บ

ณ ขณะนี้ ร่างของหลัวซิวก็พุ่งขึ้นไปบนฟ้า เอื้อมมือออกไป จับสายฟ้าสีทองเอาไว้ในกำมือ พลังของสายฟ้านั้นหลอมรวมอยู่ในฝ่ามือของเขาอย่างต่อเนื่อง ท้ายที่สุดก็กลายเป็นลูกแก้วสายฟ้าสีทอง

สิ่งที่น่าตื่นตระหนกเสียยิ่งกว่าได้เกิดขึ้นแล้ว หลัวซิวกลับโยนลูกแก้วสายฟ้าสีทองลูกนั้นเขาไปในปากเสียดื้อ ๆ

โครมคราม……

สายฟ้าร้องคำรามในร่างกายของเขา ร่างเนื้อระเบิดออกทุกตารางนิ้ว แต่ไม่นานก็ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติด้วยความรวดเร็ว จนพลังแห่งสายฟ้าทั้งหมดกลั่นแปร ร่างกายใสสว่าง และแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ปัง!

เจตจำนงของฟ้าดินดูเหมือนว่าจะถูกยั่วโมโหเข้า ครานี้ไม่ใช่สายฟ้าเส้นเดียวอีกต่อไป แต่เป็นทะเลสายฟ้าสีทอง ท้องฟ้าที่มืดมิดกลายเป็นสีทอง ทะเลสายฟ้าสีทองครอบคลุมท้องนภากว่าแสนลี้

วินาทีนี้ นักยุทธ์มากมายของสำนักไป่หยุนต่างก็พากันรู้สึกถึงความสิ้นหวัง ผู้แข็งแกร่งลึกลับผู้นั้นจะสามารถข้ามผ่านทัณฑ์ได้สำเร็จหรือไม่ พวกเขาก็ไม่อาจรู้ได้ แต่หากว่าทะเลสายฟ้าสีทองเคลื่อนต่ำลงมา พวกเขาก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

ระยะเวลาเพียงช่วงสั้น ๆ นี้ ต่อให้เป็นเจ้าสำนักไป่หยุนก็ไม่สามารถหนีได้ทัน