ครูฝึกจ้าวเฝ้ามองดูจากด้านข้างตลอด เห็นฉินเอ้าเสวี่ยนถูกกระทำให้ช้าลง ถูกคู่ต่อสู้ชกต่อยถอยหลังติดๆกัน ใบหน้าจึงยิ้มอย่างเย็นชา
จากที่เขามอง ทักษะของฉินเอ้าเสวี่ยนนั้น อ่อนแอที่สุดในบรรดาผู้อ่อนแอ
ในเมื่อคู่ต่อสู้พุ่งมาแรง ช่วงบนค่อนข้างด้อยกว่า งั้นก็ควรจะใช้วิธีที่ฝั่งตรงข้ามโจมตีช่วงล่างของตัวเอง ไปโจมตีช่วงบนของฝ่ายตรงข้าม
อย่างนี้ก็จะสามารถหาจุดแตกหักได้ พลิกแพลงจุดที่บล็อก
นี่เป็นความคิดของโค้ชส่วนใหญ่
แต่นี่ก็ทำให้โค้ชส่วนใหญ่ไม่สามารถเป็นโค้ชระดับแนวหน้าได้ กระทั่งช่วงที่พวกเขาจะเป็นผู้เข้าแข่งขัน ก็เป็นสาเหตุหลักที่ไม่สามารถเป็นผู้เข้าแข่งขันระดับแนวหน้าได้
ในมุมมองของเย่เฉิน ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ระหว่างกองทัพหรือกระบวนท่าของสองคน วิธีที่ดีที่สุดและเสถียรที่สุดคือทำลายจุดแข็งของเขา
ก็เหมือนช่วงเวลาต่อสู้ ถ้าหากจัดการหัวหน้าของฝ่ายตรงข้ามได้ก่อน ไม่เพียงแต่ทำให้พละกำลังลดลงยังทำให้ฝ่ายนั้นอ่อนแอลง ยังทำลายขวัญทหารให้วุ่นวายด้วย
เทียบกันแล้ว ถ้าหากเพียงแค่ทำลายกองทัพของฝ่ายตรงข้ามไม่กี่คน หรือแม้แต่กองทัพปืนใหญ่ ไม่เพียงแต่จะเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับชัยชนะ แต่ยังอาจตกเป็นเป้าหมายของกองกำลังหลักของคู่ต่อสู้
ในช่วงระหว่างซานดา ถ้าคู่ต่อสู้รู้จักการใช้กำปั้น งั้นก็ต้องทำลายกำปั้นของคู่ต่อสู้ ถ้าหากคู่ต่อสู้ใช้ขา ก็ต้องทำลายขาของคู่ต่อสู้ ถ้าหากเก็บวิธีการโจมตีของคู่ต่อสู้ไว้ งั้นก็จะเป็นผลร้ายที่สุดของตัวเอง
ฉินเอ้าเสวี่ยนเผชิญกับขาขวาที่เก่งของผู้เข้าแข่งขันชาวไทยคนนี้ ดังนั้นแม้ว่าฉินเอ้าเสวี่ยนจะโจมตีช่วงบนของเขา ถึงแม้จะโจมตีสำเร็จก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อผลการโจมตีของเขา
ในกระบวนการนี้ ถ้าหากฉินเอ้าเสวี่ยนถูกขาของคู่ต่อสู้โจมตี นั่นก็เป็นไปได้ที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย
ดังนั้น เย่เฉินถึงให้ฉินเอ้าเสวี่ยนทำทุกอย่างเพื่อค้นหาจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามรอช่วงโอกาสมาถึง
รอช่วงที่โอกาสมาถึง ฉินเอ้าเสวี่ยนก็ไม่ได้ทำให้เขาเสียความไว้วางใจ
เมื่อเห็นฉินเอ้าเสวี่ยนเผชิญหน้ากับขาของคู่ต่อสู้ที่เตะมาอย่างรุนแรง ทันใดนั้นหลบทันที จากนั้นก็ใช้แรงเหยียบหนึ่งที กระทืบที่กระดูกน่องของคู่ต่อสู้อย่างแรง
เตะขาครั้งนี้ ทำให้ผู้เข้าแข่งขันไทยร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทันที
ทันทีหลังจากนั้น เธอรู้สึกว่าขาขวาของเธอเจ็บจนทนไม่ไหว รู้สึกเหมือนกับว่ากระดูกกำลังจะหัก
ครั้งนี้ทำเอาเธอเจ็บจนยืนก็ยืนไม่ไหว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะโจมตีฉินเอ้าเสวี่ยนต่อ
ดังนั้นเธอจึงเดินกะโผลกกะเผลกถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจและคิดไม่ถึง
เรื่องที่เธอคิดไม่ถึงคือ ทั้งๆที่ช่วงล่างของตัวเองแข็งแกร่งกว่าคู่ต่อสู้ แต่ว่าคู่ต่อสู้ถึงกับกล้ารับมือสู้กับตัวเอง
ตัวเองชกต่อยจนเธอถอยหลังตลอด โดยคิดว่าได้เปรียบแล้ว รอคอยที่จะโจมตีเธออย่างรุนแรง แต่คิดไม่ถึงคู่ต่อสู้กับเป็นคนที่รอโอกาสที่จะโจมตีสุดชีวิตคนนั้น!
ด้วยเท้านี้เตะลงมา แม้แต่เดินตัวเองยังรู้สึกได้รับผลกระทบ ทุกย่างก้าวที่เดินนั้นเจ็บปวดสุดหัวใจ และประสิทธิภาพการต่อสู้ก็ลดลงทันที!
ผู้ชมส่วนใหญ่เป็นคนจีน เมื่อเห็นฉินเอ้าเสวี่ยนในที่สุดก็พลิกเกม ทันใดนั้นมีเสียงกรีดร้องด้วยความดีใจ
เย่เฉินมองไปที่ฉินเอ้าเสวี่ยนด้วยสีหน้าที่ชื่นชม และดูเหมือนว่าฉินเอ้าเสวี่ยนคนนี้มีพรสวรรค์จริงๆ ครั้งแรกที่อีกฝ่ายเผยจุดอ่อน เธอก็สามารถใช้โอกาสจับจุดอ่อนนี้ได้
ตอนนี้ความสมดุลบนสังเวียนเอียงอย่างรุนแรง ผู้เข้าแข่งขันชาวไทยขาขวาได้รับบาดเจ็บเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของฉินเอ้าเสวี่ยนต่อ เพียงแต่ขาที่เตะออกไปเมื่อครู่ ก็เป็นพื้นฐานการตัดสินแพ้ชนะของฉินเอ้าเสวี่ยน
ครูฝึกจ้าวที่อยู่ข้างล่างเวที สีหน้าดูไม่ได้
เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าฉินเอ้าเสวี่ยนจะสามารถได้เปรียบจากประโยชน์ช่วงล่างของคู่ต่อสู้!
การเตะเมื่อครู่ เตะได้แข็งแรงมาก ดูก็รู้ว่าคู่ต่อสู้บาดเจ็บไม่น้อย
จากมุมมองของโค้ชจะเห็นได้ว่าการแข่งขันของฉินเอ้าเสวี่ยนต้องชนะแน่นอน ที่เหลือก็แค่เรื่องของเวลา
——-