เย่เฉินหัวเราะบอกว่า “ยังไม่เริ่มแข่งเลยนะ คุณรู้ได้ยังไงว่าจะเอาชนะไม่ได้ ผมดูแล้วนะ คุณต้องเอาชนะเฉียนอานน่าได้แน่”

ฉินเอ้าเสวี่ยนพูดอย่างละอายว่า “อาจารย์เย่ ฝีมือของเอ้าเสวี่ยน เอ้าเสวี่ยนรู้ดีค่ะ เฉียนอานน่าเก่งมาก เป็นอัจฉริยะนักกีฬาซานดาอายุน้อยของบราซิลเลยนะ ฝีมือเก่งกว่าเอ้าเสวี่ยนไม่รู้เท่าไหร่ สำหรับเธอแล้ว เอ้าเสวี่ยนไม่มีโอกาสชนะเลย…”

เย่เฉินยิ้มพลางกระซิบข้างหูเธอว่า “อย่าลืมยาวิเศษที่ผมให้คุณครั้งที่แล้วสิ ถึงตอนนี้ร่างกายของคุณจะดีมากแล้ว แต่ยังห่างชั้นจากยอดฝีมือที่แท้จริงมากนัก แต่ว่า ถ้าคุณกินยาวิเศษเม็ดนั้นลงไป ทั้งพลังและสภาพร่างกาย ความเร็ว ปฏิกิริยาตอบสนองจะพัฒนาขึ้นมากนัก แบบนี้ผมเชื่อว่าฝีมือคุณจะพัฒนาขึ้นมาก การเอาชนะเฉียนอานน่าชาวบราซิลนั่นเป็นไปได้แน่!”

ฉินเอ้าเสวี่ยนถึงพึ่งนึกถึงยาวิเศษที่เย่เฉินเคยให้เธอเมื่อก่อนเม็ดนั้น

ตอนนั้นตนไปขอร้องยากับอาจารย์เย่ให้พ่อเธอ เดิมขอได้เม็ดหนึ่งก็พอใจมากแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่า อาจารย์เย่จะให้มาสองเม็ด ดังนั้นพ่อเลยยกยาวิเศษอีกเม็ดหนึ่งให้ตน

แต่ยาเม็ดนั้นตนเก็บรักษาไว้อย่างดี ไม่เคยคิดจะกินมันเลย

เป็นเพราะตนไม่รู้ว่ายาวิเศษนี่ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง ตอนนั้นคิดแค่ว่ายาวิเศษนี่เป็นยาชั้นเลิศในการรักษาอาการบาดเจ็บ ดังนั้นเลยเก็บรักษาไว้ เผื่อเวลาจำเป็น

ฉินเอ้าเสวี่ยนมองเย่เฉิน ถามอย่างตกใจว่า “อาจารย์เย่ ยาวิเศษเม็ดนั้นช่วยเพิ่มฝีมือได้จริงหรือคะ?”

“แน่นอนอยู่แล้ว” เย่เฉินพยักหน้าบอกว่า “มันสามารถเพิ่มศักยภาพร่างกายคุณหลายๆด้านได้ สภาพร่างกายคุณตอนนี้ถึงจะแกร่งมากแล้ว แต่พูดตามตรงนะ เทียบกับคนผิวสีจากละตินอเมริกาแล้ว ยังห่างชั้นกันอยู่ ความแตกต่างทางพันธุกรรม บางครั้งยากที่จะข้ามผ่านไป เหมือนกับคนที่ถนัดการวิ่งเร็วจะเป็นนิโกรเสมอ เพราะแรงระเบิดในตัวของนิโกรมักแรงกล้ากว่าคนชนิดอื่นมากนัก”

ระหว่างพูด เย่เฉินพูดอีกว่า “แต่ว่า ถ้าคุณกินยาวิเศษที่ผมให้ไป ก็จะสามารถเพิ่มศักยภาพของร่างกายคุณ หรือแม้แต่ทำให้ร่างกายคุณเหนือกว่าคนพวกนั้นได้”

ฉินเอ้าเสวี่ยนรีบถาม “อาจารย์เย่ ถ้าฉันกินยาวิเศษที่คุณให้ จะสามารถผ่านการตรวจสอบการใช้สารกระตุ้นไหม? การตรวจสอบการใช้สารกระตุ้นเป็นเรื่องที่ซีเรียสมากในการแข่งขันกีฬา ถ้าถูกตรวจพบว่าใช้ยาการตรวจสอบการใช้สารกระตุ้น จะโดนตัดสิทธิ์แข่งขันหรือไม่ก็ตัดสิทธิ์เข้าแข่งตลอดชีวิตเลย…”

เย่เฉินหัวเราะบอก “คุณวางใจได้เลย ยาวิเศษของผมผสมผสานระหว่างสูตรยาชั้นเลิศบวกกับฤทธิ์ยาบริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวอะไรกับสารต้องห้ามที่เป็นสารเคมีใช้ในการกระตุ้นสักนิด รับรองไม่มีปัญหาแน่”

ฉินเอ้าเสวี่ยนพูดอย่างตื่นเต้น “งั้นวันนี้ฉันกลับไปแล้วจะทานยาวิเศษเม็ดนั้นเลยค่ะ!”

เย่เฉินพยักหน้า “ผมจะแวะมาอีกทีบ่ายวันมะรืนตอนคุณแข่งนะ”

“ดีจังเลยค่ะ!”

ฉินเอ้าเสวี่ยนตื่นเต้นมาก ร้องเฮอย่างตื่นเต้นดีใจ

ฉินกางที่ยืนข้างๆรีบบอกอย่างเคารพว่า “อาจารย์เย่ คุณดูสิตอนนี้ก็เกือบเที่ยงแล้ว ถ้าไงคุณให้เกียรติผมเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารเที่ยงที่บ้านเราสักมื้อนะครับ?”

เดิมเย่เฉินคิดปฏิเสธ แต่พอคิดถึงว่า ถ้าฉินเอ้าเสวี่ยนคิดกินยาตอนบ่าย ตนสามารถกำชับเธออย่างละเอียดได้ ในเวลาเดียวกันยังสามารถช่วยเธอในการซึมซับยาด้วย

อีกอย่าง ช่วงนี้เซียวชูหรันมักทำโอทีที่บริษัทตอนเที่ยง ไม่กลับมากินข้าวบ้าน พ่อตาเขาก็มัวแต่ยุ่งจัดกิจกรรมที่มหาลัยที่หายเหม่ยฉินอยู่ ตอนเที่ยงไม่กลับมาแน่นอน

ที่บ้านเหลือแค่แม่ยายหม่าหลันคนเดียว งั้นก็ไม่จำเป็นต้องกลับทำกับข้าวให้เธอหรอก

ดังนั้นเลยพยักหน้าบอกว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมขอไปรบกวนสักหน่อยแล้วกันครับ จะได้คอยช่วยเอ้าเสวี่ยนดูดซับฤทธิ์ยาตอนบ่ายไปด้วยเลย”

พ่อลูกฉินกางกับฉินเอ้าเสวี่ยนสองคนเห็นเย่เฉินรับปากมาทานข้าวเที่ยงที่บ้าน ก็ยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิง

เย่เฉินยังไม่เคยมาเป็นแขกที่บ้านพวกเขาเลย ดังนั้นทั้งสองคนเลยดีใจมาก และหวังจะกระชับความสัมพันธ์กับเย่เฉินให้แนบแน่นไปอีกขั้นจากโอกาสครั้งนี้

โดยเฉพาะสาวฮอตฉินเอ้าเสวี่ยน เธอแอบปลื้มเย่เฉินมานานพอดูแล้ว และคอยหาทางพัฒนาความสัมพันธ์กับเย่เฉินมาตลอด ได้โอกาสวันนี้มาคือดีมากเลย