“มิใช่ศัตรูที่เจ้าจะก้าวผ่านไปได้หรือ? หึๆ เจ้าก็หลงตัวเองเกินไป!” เย่หยวนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงหัวเราะ
ชิวเฉินนั้นมองหน้าเย่หยวนก่อนจะกล่าวตอบมา “ความยโสของผู้อ่อนแอนั้นมันไร้ค่าใด ต่อให้เจ้าจะไม่อยากยอมรับแต่คนอย่างเจ้านั้นก็ไม่มีทางจะอยู่รอดได้เกินยี่สิบกระบวนท่าต่อหน้าข้านี้ นี่มันเป็นความจริงที่เจ้าไม่มีทางปฏิเสธได้!”
“เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นก็ดูให้ดี!”
พูดไปเย่หยวนก็นั่งลงเข้าสู่สภาวะสมาธิทันที ชิวเฉินนั้นได้แต่ต้องยิ้มขึ้นมาด้วยท่าทางดูถูกเย้ยหยัน และมิใช่แค่ตัวเขานั้น พวกจื่อหยางทั้งหลายเองก็ได้แต่ต้องส่ายหัวขึ้นมาตาม
พวกเขานั้นยอมรับเลยว่าเย่หยวนนั้นเป็นยอดอัจฉริยะที่พวกเขาไม่เคยพบเจอมาก่อน แต่เทียบกันแล้วนั้นชายตรงหน้าเขานี้มันย่อมจะเหนือล้ำกว่ามาก พูดท้าทายเช่นนั้นออกไปอย่างไม่มีปัญญาทำตามมันย่อมมีแต่จะทำให้ตัวเองขายหน้า
หากพูดกล่าวคำใหญ่โตโอหังออกมาแล้วมีพลังพอจะทำตามนั้นเขาเรียกว่าตอกกลับ หากพูดกล่าวคำใหญ่โตโอหังแล้วไม่มีปัญญาจะทำตามนั้นเขาเรียกเอาสีข้างเข้าถู
ดูท่าแล้วเย่หยวนในตอนนี้มันคงเป็นพวกหลังมากกว่า แต่เวลานี้เย่หยวนกลับไม่ได้รีบเข้าไปต่อสู้ใดๆ และค่อยๆ ปรับลมหายใจตัวเอง รอบกายของเขานั้นมันค่อยๆ เกิดพลังงานกฎสามอย่างลอยขึ้นมาจนปรากฏให้เห็นชัด พร้อมๆ กันนั้นเบื้องหน้าของเย่หยวนมันก็มีต้นอ่อนงอกขึ้นมา
ต้นอ่อนนั้นมันพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วชัดเจนต่อสายตาคนค่อยๆ โตจนกลายเป็นต้นกล้า
ชิวเฉินนั้นเป็นคนแรกที่สัมผัสได้ถึงความผิดปกติและต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้น พวกจื่อหยางทั้งหลายนั้นเองก็เริ่มจะเห็นถึงความผิดปกติขึ้นมาเช่นกัน เพราะว่าเวลานี้พลังกฎรอบตัวเย่หยวนมันค่อยๆ พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับว่าเป็นต้นไม้ที่ได้ฝนวิเศษ
“หรือว่า…” จื่อหยางกล่าวขึ้นมาพร้อมเบิกตากว้าง
และราวกับว่าเย่หยวนต้องการยืนยันความสงสัยนั้น ต้นไม้อ่อนตรงหน้ามันก็ค่อยๆ เติบโตขึ้นมามีความสูงเท่าเอวคน
นี่คือรูปแบบที่สาม!
เวลานี้ต้นไม้อ่อนนั้นมันมีใบงอกออกมามากมาย ไม่นานพลังกฎรอบกายเย่หยวนมันก็พุ่งมาถึงช่วงคอขวด ต้นไม้อ่อนนั้นมันก็หยุดเติบโตลงด้วยเช่นกัน คนทั้งหลายเข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนกำลังมาถึงจุดสำคัญแล้ว
“แหลกไป!”
เย่หยวนร้องลั่นขึ้นมาพร้อมเบิกตากว้างปล่อยคลื่นพลังยิ่งใหญ่สะท้านฟ้าออก ดาบ ค่ายกล มิติ สามพลังแห่งกฎนั้นมันเหมือนได้เขื่อนที่แตกปล่อยพลังพุ่งล้ำขึ้น สามพลังแห่งกฎของเขานั้นมันบรรลุขึ้นมาพร้อมๆ กัน!
จื่อหยางนั้นต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายก่อนจะร้องขึ้น “บรรลุได้จริง! ที่สำคัญมันยังเป็นการบรรลุสามกฎขึ้นพร้อมๆ กัน! เพียงแค่ว่าการจะผสานกฎในระดับสี่มัน…”
พลังแห่งกฎบรรลุได้นั้นมันก็เรื่องหนึ่ง
แต่การผสานมันเข้าด้วยกันนั้นก็เป็นอีกเรื่อง
เพราะหลังจากบรรลุขึ้นมาได้แล้วแปลงยอดเต๋ามันก็จะพังทลายลงและต้องทำการผสานเข้าด้วยกันใหม่
ในชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศนั้นพลังแห่งกฎมันย่อมจะไม่อาจเทียบเคียงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิได้ การผสานเข้าด้วยกันจึงมิใช่เรื่องยาก
แต่เมื่อขึ้นมาถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิแล้ว การจะผสานพลังกฎนั้นมันย่อมมิใช่เรื่องที่ทุกคนจะทำได้
แต่พลังกฎทั้งสามนั้นมันยังคงหมุนวนรอบตัวเย่หยวนไปเรื่อยๆ จนแสดงให้เห็นเหมือนภาพของพายุ
พายุนั้นมันเชื่อมต่อสามกฎเข้าด้วยกันและเริ่มทำให้พลังทั้งสามหมุนวนตาม
ต้นไม้อ่อนนั้นมันค่อยๆ เติบโตขึ้นมาอีกครั้งทันที
เวลานี้ต้นไม้อ่อนมันเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วล้ำ ไม่นานมันก็เติบโตขึ้นมาจนมีความสูงเท่าตัวคนได้ กิ่งก้านของมันเองค่อยๆ ขยายออกมาใบของมันกลายเป็นใบแก่เต็มวัย
“นี่มัน…ผสานแล้ว?” จื่อหยางได้แต่ต้องอ้าปากค้าง
“เจ้าหมอนี่ทำได้ยังไงกัน? พรสวรรค์นี้มันจะไม่ล้ำเกินไปหรือ!” เทียนลู่นั้นกล่าวขึ้นพร้อมกลืนน้ำลายอึกใหญ่
ก่อนหน้านี้ไม่นานพวกเขานั้นยังว่าเย่หยวนทำอะไรไม่ดูตัว สุดท้ายใบหน้าของพวกเขานั้นกลับถูกตบเข้าอย่างแรง
นอกจากเย่หยวนนั้นจะไม่พ่ายต่อพลังของชิวเฉินแล้วเขานั้นกลับยังสามารถบรรลุกฎระดับสี่ขึ้นมาได้
แต่แค่บรรลุนั้นยังพอรับได้ แต่เย่หยวนนั้นกลับผสานมันเข้าด้วยกันในทันที
“เขานั้นไม่ได้ฝึกฝนกฎขึ้นมาทีละอย่างแต่บรรลุมันขึ้นมาพร้อมๆ กันถึงสามอย่าง! วิธีการเช่นนี้มันมีความยากมากกว่าการฝึกฝนสามกฎแยกกันมาก! แต่ข้อได้เปรียบก็คือวินาทีที่เขาบรรลุได้มันก็จะผสานเข้าด้วยกันอีกครั้งในทันที พัฒนาเป็นรูปแบบที่สี่ได้ทันใด!” ชิวเฉินกล่าวขึ้นมาอธิบาย
คนทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้างเมื่อได้ยินเช่นนั้น
การฝึกฝนบรรลุสามกฎพร้อมๆ กันนั้นมันต้องมีความสามารถในการวิเคราะห์ที่มากมายแค่ไหน?
แต่ที่น่าตกใจกว่าก็คือเจ้าหมอนี่มันกลับทำได้ในเวลาสั้นๆ
เวลาแค่ครึ่งเดือนนั้นเจ้าหมอนี่มันกลับบรรลุรูปแบบที่สี่ได้แล้ว!
เมื่อผสานกฎเข้าด้วยกันแล้วเย่หยวนก็ลุกขึ้นมาพร้อมด้วยพลังของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ครอบรูปแบบที่สี่ปล่อยใบดาบของมันบินวนรอบกายเย่หยวน
รูปแบบที่สี่นี่มันเพิ่มจำนวนดาบบินให้แก่เย่หยวนเป็นร้อยแปดใบ!
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือพลังของดาบบินแต่ละเล่มนั้นมันมีพลังไม่แพ้สมบัติวิญญาณสวรรค์!
ในเวลาเดียวกันนั้นปราณเทวะ พลังชีพพลังวิญญาณของเขามันก็พุ่งทะยานขึ้นไปถึงจุดสูงสุด
ชิวเฉินนั้นกล่าวขึ้นมา “ต่อให้เจ้าจะบรรลุรูปแบบที่สี่ได้เจ้าก็ยังเอาชนะข้าไม่ได้หรอก”
เย่หยวนนั้นหันไปตอบกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉย “แล้วทำไม? เจ้านั้นเป็นแค่คู่ฝึกของข้า สุดท้ายข้าก็จะก้าวล้ำตัวเจ้าไปแน่นอน!”
พูดจบเย่หยวนก็ดึงพลังปราณเทวะของตนอัดใส่ดาบบินทั้งร้อยแปดพุ่งหาชิวเฉินทันที
ในเวลานี้พลังของค่ายกลดาบนั้นมันเพิ่มพูนขึ้นกว่าเก่าเป็นสิบๆ เท่า!
แม้แต่ชิวเฉินเองก็ยังต้องทำหน้าเครียดออกมา
เขานั้นยกฝ่ามือขึ้นมาพร้อมปล่อยมีดบินสวนออกมาปะทะกับดาบบินทั้งร้อยแปดของเย่หยวน
ครั้งนี้ชิวเฉินเอาจริง!
นี่มันคือจุดเด่นของห้องฝึกทั้งหลาย!
เหล่าคู่มือในห้องฝึกทั้งหลายนั้นมันมีสติปัญญาไม่ต่างจากคน ทำให้พวกเขาสามารถออมมือให้เทียบเคียงกับผู้มาฝึกได้ เพราะว่าเป้าหมายของห้องฝึกนี้มันก็คือเพื่อฝึกฝนคนรุ่นใหม่ให้แก่วัง
เพียงแค่ว่าพวกจื่อหยางทั้งหลายนั้นอ่อนแอจนเกินไป เพราะฉะนั้นต่อให้จะออมมืออย่างไรมันก็ไม่ได้ฝึกฝนกันอยู่ดี ไม่เช่นนั้นแล้วหากเหล่ายอดคนทั้งหลายนี้เอาจริง พวกจื่อหยางคงได้ตายสิ้น
ศึกในครั้งนี้มันดำเนินไปด้วยความหวาดเสียว ต่างฝ่ายนั้นต่างผลัดกันรุกรับจนผ่านไปกว่าร้อยกระบวนท่า ชิวเฉินถึงจะทำลายค่ายกลดาบของเย่หยวนลงและเอาชนะเย่หยวนได้
นี่มันเป็นการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่นัก เพราะก่อนหน้านี้เย่หยวนไม่เคยรอดถึงยี่สิบกระบวนท่าเลย แต่นี่มันเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น เพราะเย่หยวนที่เพิ่งบรรลุขึ้นมานี้ย่อมจะยังไม่คุ้นชินกับการควบคุมดาบและค่ายกลดาบของเขามันย่อมจะยังไม่สมบูรณ์ดี
เพราะฉะนั้นเขาจึงท้าทายชิวเฉินต่อไปเรื่อยๆ แรกที่สู้กันร้อยกระบวนท่าก็พัฒนาไปเป็นสองร้อยจนถึงห้าร้อยกระบวนท่าในที่สุด! ต่างฝ่ายนั้นต่างเอาจริงเอาจังมากขึ้นเรื่อยๆ
พวกจื่อหยางนั้นแทบจะอยากมุดดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด
การพัฒนานี้มันบ้าคลั่งจนเกินไป!
เย่หยวนนั้นมีความเร็วในการพัฒนาที่เหนือล้ำเป็นเส้นตรง ไม่มีจุดแวะพักติดขัดใดๆ!
สามเดือนต่อมาเย่หยวนก็ยังคงเข้าไปสู้กับชิวเฉิน!
หลังจากผ่านสามร้อยกระบวนท่าไป ดาบของเย่หยวนนั้นมันก็แทงผ่านห้ามีดบินของชิวเฉินเข้าไปทำลายร่างของเขาลงได้
เย่หยวนชนะ!
เย่หยวนมองหน้าชิวเฉินนั้นด้วยรอยยิ้ม “ศัตรูที่ไม่อาจเอาชนะ ข้าชนะเจ้าแล้ว!”
ชิวเฉินนั้นได้แต่ต้องทำหน้าไม่พอใจขึ้นเมื่อได้ยิน
เพราะคำพูดที่เขากล่าวเมื่อสามเดือนก่อนนั้นเวลานี้มันได้กลับมาตบหน้าเขาอย่างรุนแรง!
ที่น่าเจ็บใจกว่าก็คือเวลานี้รูปแบบที่สี่ของเย่หยวนมันยังอยู่แค่ในขั้นต้นเท่านั้น ส่วนแปลงยอดเต๋าห้ากฎของเขานั้นมันสมบูรณ์แบบไปแล้ว! หรือก็คือเวลานี้เย่หยวนได้กระโดดข้ามขั้นขึ้นมาเอาชนะเขาลง เรื่องนี้มันทำให้ศักดิ์ศรีของเขาพังทลายลง
สามเดือนก่อนนั้นเย่หยวนยังรับมือเขาได้ไม่ถึงยี่สิบกระบวนท่า
สามเดือนต่อมาเย่หยวนกลับเอาชนะเขาลงได้สิ้นเชิง
ในชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนี้ตัวเขาไม่อาจจะเอาชนะเย่หยวนได้อีกแล้ว!
จื่อหยางและเทียนลู่นั้นหันมองหน้ากันอย่างตกตะลึงสุดหัวใจ
นี่มันเท่ากับว่าตราบเท่าที่เย่หยวนบ่มเพาะถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุดได้ พลังของเย่หยวนก็คงไม่ด้อยกว่าพวกเขาทั้งหลายแล้ว!
………………….