เย่หยวนนั้นหันกลับไปมองห้องฝึกหมายเลขหนึ่งนั้นด้วยความเสียดาย “น่าเสียดายจริงๆ ที่ไม่ได้พกผลึกสวรรค์มามากกว่านี้ หากข้าสามารถออกไปพร้อมรูปแบบที่สี่ขั้นสมบูรณ์ได้แล้วข้าคงมีความมั่นใจที่จะรับมือพันธมิตรโอสถกว่านี้มาก”
เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมา
คนที่คิดว่าที่แห่งนี้มันเป็นสวรรค์นั้นคงมีแต่เขาแล้ว?
คนอื่นๆ นั้นต่างอับอายเกรงกลัวไม่กล้าท้าทายเหล่ายอดอัจฉริยะแห่งวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตจนไม่กล้าฝึกฝนใดๆ
แม้ว่าต้าหวงนั้นจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็คงไม่มีทางขึ้นมาถึงระดับร้อยได้
บางครั้งบางทีมันก็มีสิ่งที่เหนือล้ำความพยายาม
หากพรสวรรค์ไม่มีแล้ว ต่อให้จะพยายามแค่ไหนมันก็มีจุดที่ไปไม่ถึง
แต่หากมีทั้งพรสวรรค์และพรแสวงอยู่ในตัวแล้ว มันคงไม่มีใครมาหยุดได้
เย่หยวนนั้นคือคนเช่นนั้น
ไม่นานเย่หยวนก็สามารถพาคนทั้งหลายออกจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตมาได้อย่างปลอดภัย
ตอนเข้ามานั้นมันมียอดฝีมือหลายร้อยคนแต่ขากลับออกมานี้มันเหลือแค่ร้อยกว่าคน
แต่คนทั้งร้อยกว่านี้ที่ติดตามเย่หยวนไปต่างได้สมบัติกลับไปล้นมือ
“น้องเย่ ข้าไม่มีอะไรจะกล่าวมาก ถึงเวลาเมื่อไหร่ข้าจะขอฟังคำสั่งของเจ้าแน่นอน!” จื่อหยางกล่าวขึ้นพร้อมยกมือขึ้นคารวะ
หลายปีมานี้พวกเขานั้นเลิกคิดจะต่อต้านเย่หยวนไปสิ้น
คนผู้นี้มันน่ากลัวเสียยิ่งกว่าโฉปู้ฉุน!
หากคิดต่อต้านเขานั้นมันคงมีแต่ความฉิบหายรออยู่
ที่สำคัญไปกว่านั้นการเดินทางมายังวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนี้พวกเขายังได้เย่หยวนช่วยไว้มาก กลับไปพวกเขาย่อมจะต้องกลับไปบ่มเพาะเก็บตัวอย่างยาวนานแน่นอน
เมื่อจื่อหยางก้าวออกมาแสดงความขอบคุณเช่นนั้นเหล่านักบุญสูงคนอื่นๆ เองก็ไม่น้อยหน้าก้าวเข้ามากล่าวขอบคุณให้คำสัญญาต่อเย่หยวนกันสิ้น
เย่หยวนพยักหน้ารับ “เมื่อถึงเวลาข้าคงต้องลำบากพวกเจ้าแล้ว ทุกคนกลับไปก่อนเถอะ เย่ผู้นี้ยังมีเรื่องที่ต้องทำ คงไปส่งพวกเจ้าทั้งหลายไม่ได้”
คนทั้งหลายนั้นรู้ดีว่ามหาพิภพถงเทียนนั้นคือบ้านเกิดของเย่หยวนและย่อมจะไม่คิดอยู่ต่อให้เสียเวลารีบกล่าวลาออกไปกันสิ้น
หลังจากคนทั้งหลายเดินทางออกจากทวีปสวรรค์แตกไปแล้วเย่หยวนก็ยกมือขึ้นมาพร้อมถือขวดใส
ขวดใบน้อยนี้มันคือขวดบรรจุหักโมฆะเซียนผงาด
หักโมฆะเซียนผงาดนั้นมันเป็นสมบัติธรรมชาติที่ช่วยเสริมสร้างวิญญาณดั่งเดิม!
ในชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนั้น สิ่งสำคัญของการบรรลุคือวิญญาณดั่งเดิม!
วิญญาณดั่งเดิมนั้นเป็นสื่อกลางในการติดต่อกับฟ้าดิน ทำความเข้าใจยอดเต๋า
หากวิญญาณดั่งเดิมนั้นไม่แข็งแกร่งพอ มันก็คงไม่อาจจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้ง่ายๆ
เพราะเหตุนี้ด้วยมันจึงทำให้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายไม่อาจก้าวขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้
ที่เหยียนยูเจินนั้นอยากได้หักโมฆะเซียนผงาดไปมันคงเพราะเขาอยากจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงเป็นแน่
“ผู้อาวุโส หยอกชีวาราวฝันนี่มันจะได้ผลจริงหรือ?”
พูดไปอีกมือของเย่หยวนก็หยิบขวดใบน้อยอีกใบขึ้นมา ภายในขวดนั้นมันอัดแน่นไปด้วยน้ำไร้สี
หยอกชีวาราวฝันนั้นแม้ว่าชื่อของมันจะฟังดูไม่เป็นพิษภัยใดๆ แต่ว่าแท้จริงแล้วมันคือสุดยอดยาพิษ
พิษนี้มันไม่ใช่พิษทั่วๆ ไปที่เล่นงานร่างกายแต่มันเป็นพิษที่เล่นงานวิญญาณดั่งเดิม!
พิษที่ทำอันตรายวิญญาณดั่งเดิมได้นั้นมันเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง การหลอมมันขึ้นมานั้นเองก็เป็นเรื่องที่ซับซ้อน
แต่หากถูกพิษนี้เข้าไปแล้วมันจะเหมือนพิษกินกระดูก ไม่อาจจะรักษาได้ง่ายๆ
เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นสุดยอดนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับแนวหน้า ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้จะเก่งกาจแค่ไหนมันก็คงไม่อาจลบล้างพิษนี้ได้!
ภายในศาลาฝากสมบัตินั้นนอกจากเย่หยวนจะได้วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตมาแล้ว เขายังได้หยอกชีวาราวฝันนี้มาด้วย!
“ไอ้หนู เจ้ามันโชคดีเสียจริง! หากเจ้าไม่ได้หยอกชีวาราวฝันนี้มาเจ้าคงได้แต่ต้องเป็นขี้ข้าเจ้านั่นไปตลอดกาลแน่! วางใจเถอะ ต่อให้จะเป็นผู้นำพันธมิตรโอสถใดๆ นั่นมาเองมันก็คงไม่อาจจะรักษาหยอกชีวาราวฝันนี้ได้! ฝีมือของเหล่านักหลอมโอสถสวรรค์แห่งวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นมันเหนือล้ำกว่าจินตนาการของเจ้าไปมาก!” หมี่เทียนกล่าวขึ้นอย่างมั่นใจ
เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะเทหยอกชีวาราวฝันหนึ่งหยดลงใส่หักโมฆะเซียนผงาด
หักโมฆะเซียนผงาดนั้นมันไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ
หยอกชีวาราวฝันนั้นมันไร้สีไร้กลิ่นใดๆ ต่อให้จะเป็นเย่หยวนเองก็คงไม่อาจมองออกได้
“เหยียนยูเจินนั้นมันรู้วิธีการและนิสัยของข้าดี มันคงไม่เชื่อข้าง่ายๆ แน่!” เย่หยวนกล่าวขึ้นมาพร้อมขมวดคิ้วแน่น
“ง่ายๆ! เจ้าแค่บ่มเพาะกำเนิดเทพให้ถึงระดับสองก็พอ เช่นนั้นพลังวิญญาณของเจ้ามันคงบรรลุระดับห้าได้และมีพลังวิญญาณไม่แพ้จักรพรรดิเซียน! ถึงตอนนั้นการจะชำระขับหยอกชีวาราวฝันนี้ด้วยวิชาลับของกำเนิดเทพมันก็คงมิใช่เรื่องยากเกินมือแล้ว แม้ว่าหยอกชีวาราวฝันมันจะรุนแรงแค่ไหนแต่หากเทียบกับกำเนิดเทพแล้วมันย่อมจะต่ำต้อยกว่ามาก!” หมี่เทียนกล่าวอย่างมั่นใจ
เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น เท่านี้เขาก็คงไม่มีอะไรต้องกังวล
เย่หยวนจึงได้สั่งให้ต้าหวงเฝ้ายามไว้ก่อนจะเริ่มนั่งลงบ่มเพาะกำเนิดเทพระดับสองอย่างไม่ลังเลอีก
กำเนิดเทพนั้นมันย่อมจะทรงพลังอย่างมาก เย่หยวนนั้นได้บ่มเพาะมันจนถึงระดับหนึ่งขั้นสุดแล้ว เวลานี้วิญญาณดั่งเดิมของเขานั้นมันจึงอยู่เหนือกว่าเหล่าจักรพรรดิหยกขั้นสุดทั้งหลายไปด้วยซ้ำ
มันแข็งแกร่งกว่าเหล่าจักรพรรดิหยกขั้นสุด ตราบเท่าที่เขาหาทางบรรลุระดับสองได้นั่น วิญญาณดั่งเดิมของเขามันก็ย่อมจะพัฒนาไปถึงระดับของจักรพรรดิเซียนได้แน่นอน
เย่หยวนนั่งลงขัดสมาธิพร้อมควบคุมวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมของตนไปตามรูปแบบการบ่มเพาะของกำเนิดเทพระดับสอง
คลื่นพลังวิญญาณดั่งเดิมนั้นมันถูกปล่อยออกมารอบกายเขา
“นี่มัน…วิญญาณโกลาหลดั่งเดิม! ช่างเป็นพลังงานวิญญาณที่รุนแรงล้ำนัก! ดูท่ามันคงจะเหนือกว่าเหล่าจักรพรรดิหยกขั้นสุดทั้งหลายด้วยซ้ำ! หากวันหนึ่งเขาบ่มเพาะถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุดแล้วการบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมันคงง่ายเสียยิ่งกว่าง่ายแน่!” ต้าหวงนั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาเมื่อสัมผัสถึงวิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวน
ตอนที่คนอื่นๆ บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมา มันเหมือนเล่นเกมแห่งความตายและพวกเขาอาจจะตายลงได้จริงๆ ระหว่างบรรลุ
แต่เย่หยวนนั้นช่างเก่งกาจ คำว่าคอขวดของคนอื่นนั้นไร้ความหมายสำหรับเขา!
ด้วยวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมกอปรกับคลื่นพลังวิญญาณที่รุนแรงเช่นนี้แล้วการจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมันคงเป็นเรื่องแสนปกติ
วรยุทธบ่มเพาะวิญญาณดั่งเดิมนั้นมันมีอยู่น้อยมากและต่อให้จะมีมันก็แทบไม่ส่งผลอะไร
หากมีโอสถสวรรค์ช่วยเหลือแล้วการจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุดนั้นมันย่อมมิใช่เรื่องยาก
แต่สิ่งที่ยากนั้นคือการทำให้วิญญาณดั่งเดิมพัฒนาขึ้นไปถึงขั้นสุดด้วย
เพราะปกติแล้วระดับพลังวิญญาณของนักยุทธมันมักจะตามหลังพลังบ่มเพาะเสมอ
เพราะฉะนั้นการจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมันจึงเป็นเรื่องยากยิ่ง
โอสถสวรรค์หยกล้ำศักดิ์สิทธิ์ระดับแท้ที่เย่หยวนหลอมให้พวกต้าหวงนั้นมันจะช่วยดึงพลังของเต๋าสวรรค์ และทำให้วิญญาณดั่งเดิมของพวกเขาพัฒนาขึ้นในทันที นี่คือเหตุผลที่ทำให้พวกเขาบรรลุได้
แต่แน่นอนว่าที่เป็นเช่นนี้ได้ก็เพราะว่าวิญญาณดั่งเดิมของพวกต้าหวงนั้นแข็งแกร่งมาแต่เดิม จึงทำได้การบรรลุได้ผล
หากเป็นคนอ่อนแอไร้พรสวรรค์และฝีมือแล้วต่อให้จะกินโอสถสวรรค์หยกล้ำศักดิ์สิทธิ์ระดับแท้ไปมันก็อาจจะไม่สำเร็จ
เย่หยวนนั้นนั่งบ่มเพาะไปนานถึงครึ่งปี
ในวันนี้วิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวนมันได้ปล่อยคลื่นพลังรุนแรงล้ำฟ้าขึ้นมา!
ท้องฟ้าของทวีปสวรรค์แตกนั้นมันเกิดคลื่นลมรุนแรงไปทั่ว!
ต้าหวงนั้นได้แต่ต้องนั่งหน้าซีดหันมามองดูเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“นี่…นี่มัน…วิญญาณดั่งเดิมของเขานั้นกำลังบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนแล้ว?”
การบรรลุเช่นนี้มันย่อมจะน่าตื่นตะลึง
เวลาคนอื่นๆ บรรลุนั้นพวกเขาย่อมจะบ่มเพาะพลังปราณก่อนค่อยไปบ่มเพาะวิญญาณดั่งเดิม แต่เย่หยวนนั้นกลับผิดแปลกเขามีพลังบ่มเพาะแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นกลางสุด แต่ว่าวิญญาณดั่งเดิมของเขานั้นมันกลับอยู่ในชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียน!
พลังวิญญาณดั่งเดิมที่รุนแรงเช่นนี้ต่อให้เย่หยวนจะไม่ขยับตัวเขาก็คงสามารถสังหารจักรพรรดิหยกได้สิ้น!
สัตว์ประหลาด!
สัตว์ประหลาดอันไร้เหตุผล!
ตัวตนที่แปลกประหลาดเช่นนี้มันเกิดขึ้นมาบนโลกได้อย่างไร?
“อัก!”
แต่จู่ๆ เย่หยวนนั้นก็กระอักเลือดออกมาจนทำให้ร่างของเขานั้นแทบฟุบหน้าลง
ต้าหวงร้องขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดขาว “ให้ตายสิ พลังบ่มเพาะของเขามันต่ำเกินกว่าจะรับพลังวิญญาณดั่งเดิมชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนของเขาได้!”
“ใจเย็นๆ เขาไม่ตายหรอก! เจ้าหนูนี่มันมีความเป็นไปได้ที่ไร้จำกัด!” ก่อนที่ต้าหวงจะทันได้ทำอะไรเสียงของหมี่เทียนก็ดังขึ้นห้าม
ในเวลานั้นเองที่มันได้มีคลื่นพลังสายเลือดมังกรพุ่งออกมาจากร่างของเย่หยวน!
“โฮ่ก!”
เย่หยวนคำรามลั่นขึ้นมา!
พร้อมกันนั้นพลังของเขามันก็พัฒนาขึ้นอย่างรุนแรง!
…………………..