บทที่ 2159 เฮ่อเหลียนชิงนับวันก็ยิ่งมีจิตใจเหมือนเด็ก + ตอนที่ 2160 เฮ่อเหลียนชิงผู้โดดเดี่ยว

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2159 เฮ่อเหลียนชิงนับวันก็ยิ่งมีจิตใจเหมือนเด็ก

เหมยเหมยที่เห็นเหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วแน่นก็รู้ได้ทันทีว่าเฮ่อเหลียนชิงต้องก่อเรื่องวุ่นวายอีกแล้วแน่นอน

หลายปีมานี้เฮ่อเหลียนชิงอวบอ้วนขึ้นมาก ร่างกายขยายใหญ่ขึ้นจนวิลแชร์ถูกเปลี่ยนไปสองตัวแล้ว เสี่ยวเมิ่งเองก็โอดครวญอยู่บ่อยครั้ง แล้วแอบกินยาวิเศษเพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ

ความจริงคือต้องใช้แรงในการอุ้มมากเกินไป แม้แต่ทหารหน่วยพิเศษร่างกำยำอย่างเสี่ยวเมิ่งยังทนกับสิ่งนี้แทบไม่ไหว!

ช่วงนี้เหยียนหมิงซุ่นกำลังคัดเลือกทหารที่มีสมรรถภาพทางร่างกายแข็งแรงสักคนอยู่เพื่อจะได้มาเปลี่ยนตัวกับเสี่ยวเมิ่งที่ลำบากมาหลายปีแล้ว เพราะต้องให้เสี่ยวเมิ่งได้พักบ้าง

“พี่ก็ดีกับเขาเกินไป อะไรก็ตามเขาไปเสียหมด เชอะ ไม่เห็นจะดูแลฉันดีแบบนี้บ้างเลย” เหมยเหมยพูดติดน้อยใจ

เหยียนหมิงซุ่นอดขำไม่ได้ มะเหงกไปทีหนึ่งแล้วพูดแสร้งโมโห “พี่ดูแลเธอไม่ดีเหรอ…หืม?”

เขาขยับเข้าใกล้ข้างหูของเหมยเหมย เสียงทุ้มลากยาวเต็มไปด้วยกลิ่นอายอันตราย ยัยตัวร้าย เห็นทีว่าถ้าประจำเดือนหมดเขาจะต้องเพิ่มความรักให้มากขึ้นสักหน่อยแล้ว!

เหมยเหมยตัวสั่นสะท้าน เธอรับรู้ได้ถึงภัยอันตรายที่กำลังจะมาเยือนจึงรีบฉีกยิ้มหวานให้ พูดจาเอาใจว่า “ดี ดีเสียยิ่งกว่าดี…”

เธอกลัวความแข็งแรงทางร่างกายของผู้ชายคนนี้ขึ้นมาแล้วจริง ๆ ลายังรู้จักเหน็ดเหนื่อย แล้วทำไมผู้ชายคนนี้ถึงไม่รู้จักเหนื่อยบ้างนะ?

ไม่ได้การล่ะ วันไหนต้องบอกป้าฟางสักหน่อยแล้วว่าให้เขาทำอาหารที่มีผักชีฝรั่ง ว่ากันว่าหลังจากที่ผู้ชายได้กินเจ้านั่นเข้าไปจะทำให้เจ้าตัวน้อยสงบลง สิ่งที่เธอหวังมากที่สุดในตอนนี้ก็คือเจ้าตัวน้อยของเหยียนหมิงซุ่นสงบลงสักปีครึ่ง

เธอจะได้ดูแลตัวเองให้ดี ๆหน่อย แหะ ๆ!

เหมยเหมยเหลือบมองเหยียนหมิงซุ่นแวบหนึ่ง นัยน์ตาประกายแผนการชั่วร้ายขึ้นมาแล้วแอบขำอย่างมีความสุข

ทั้งคู่ทานอาหารมื้อเช้าเสร็จก็พากันไปที่สวนฟาร์มของเฮ่อเหลียนชิง ในฟาร์มยังคงสภาพเดิมแต่มีสัตว์เพิ่มขึ้นมาไม่น้อย หมาแมวเข้ามาอยู่เต็มทุกซอกทุกมุมของฟาร์ม เดินได้สามก้าวก็เจอแมว เดินอีกห้าก้าวก็เจอหมา ทุกตัวล้วนอ้วนเหมือนลูกบอล เห็นได้ชัดว่าอาหารการกินในฟาร์มนี้อุดมสมบูรณ์ดีมาก

“ไข่ของฉันล่ะ ไอ้บ้าที่ไหนมันแอบกินไข่ของฉันไป…อีกไม่ช้าก็เร็วฉันจะเอาสัตว์พวกนี้มาทำเนื้อน้ำแดงให้หมดเลย…***… แฮมของฉันหายไปไหนแล้ว…เสี่ยวเมิ่ง…ไปตายที่ไหนแล้วล่ะ…”

ยังไม่ทันเข้าบ้านก็ได้ยินเสียงตะคอกแหลมสูงบาดหูของเฮ่อเหลียนชิงดังกึกก้องไปทุกย่อมหญ้า

เหมยหมยรีบอุดหูตัวเอง หากจะบอกว่าสิ่งที่ผ่านไปเป็นหมื่นปีแล้วแต่ไม่เคยเปลี่ยนเลยก็คงจะเป็นนิสัยแย่ ๆและเสียงแหลมเสียดหูของเจ้าบ้าโรคจิตนี่แหละ ไม่เสนาะหูเหมือนเคย

เสี่ยวเมิ่งวิ่งมาหาอย่างรวดเร็ว พอเห็นพวกเหยียนหมิงซุ่นก็ส่งยิ้มให้อย่างจนใจ ในมือยังถือซาลาเปาไส้หมูลูกหนึ่งไว้ น่าจะกำลังกินมื้อเช้าอยู่สิท่าแต่คงกินไม่ค่อยสงบสุขสักเท่าไร

ติดตามเจ้านายอย่างเฮ่อเหลียนชิง เสี่ยวเมิ่งนี่โชคร้ายจัง!

“ทำไมพ่อถึงได้โมโหอีกแล้วล่ะ?” เหยียนหมิงซุ่นถามเสียงเบา

เสี่ยวเมิ่งเองก็พูดเสียงเบา “ช่วงนี้ในฟาร์มมีพวกหมาแมวจรจัดเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย ไม่รู้กฎรู้เกณฑ์อะไรสักนิด ทุก ๆเช้ามักจะมาขโมยอาหารเช้าของนายท่านไป แต่นายท่านก็ไม่ยอมฟังคำแนะนำใด ๆ รั้นแต่จะทดสอบจิตใจของพวกหมาแมว…เฮ้อ!”

เหมยเหมยที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกประหลาดใจจึงรีบถามออกไปว่าอะไรคือการทดสอบจิตใจหมาแมวเหรอ?

“นายท่านบอกว่าจะตั้งกฎสำหรับตัวที่มาใหม่ขึ้นมา ดังนั้นในทุก ๆวันนายท่านจะรวมหมาแมวพวกนี้ให้อยู่ด้วยกันเพื่อสั่งสอนให้อยู่ในกฎเกณฑ์ กฎข้อแรกก็คือห้ามไม่ให้สัตว์ตัวใดก็ตามขโมยอาหารเช้าของท่าน นายท่านยังจงใจวางอาหารเช้าไว้ในสวนและไม่ให้ใครเฝ้าอีก โดยบอกว่าจะเฝ้าสังเกตจิตสำนึกของพวกหมาแมวพวกนั้น…”

เสี่ยวเมิ่งยกมือขึ้นอย่างจนใจ ในช่วงหลายปีมานี้แม้ว่าร่างกายของนายท่านจะแข็งแรงขึ้นมาก แต่นิสัยแบบนี้มันช่าง…

เหมือนเด็กเข้าไปทุกวันเลย!

เหมยเหมยหัวเราะร่า “น้ำไม่ได้เข้าสมองจนเพี้ยนใช่ไหม? หมาแมวที่ไหนจะฟังภาษาคนรู้เรื่อง สมควรที่จะถูกขโมยอาหารเช้าไปแล้วล่ะ”

เฮ่อเหลียนชิงที่อยู่ในบ้านเรียกหาอีกครั้ง เสี่ยวเมิ่งจึงยัดซาลาเปาเข้าปากแล้วเคี้ยวแค่สองสามทีก่อนจะวิ่งเข้าไปด้านใน เหยียนหมิงซุ่นและเหมยเหมยก็เดินตามเข้าไปด้วยเช่นกัน

………………………………………………………

ตอนที่ 2160 เฮ่อเหลียนชิงผู้โดดเดี่ยว

“แกหาตัวที่มันขโมยไข่กับแฮมของฉันไปให้เจอเลยนะ วันนี้ฉันจะต้องสั่งสอนให้มันหลาบจำเลย!”

เฮ่อเหลียนชิงถลกแขนเสื้อขึ้น สีหน้าโมโหมากจนพาลไปเสียทุกอย่าง บังอาจเมินกฎระเบียบของเขางั้นเหรอ!

เสี่ยวเมิ่งชินชาเห็นเป็นเรื่องปกติไปแล้วจึงตอบรับอย่างเสียงนิ่ง “ครับ ผมจะส่งคนไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย นายท่านจะเอาแบบนึ่งหรือตุ๋นน้ำแดงครับ?”

ไฟโทสะบนใบหน้าของเฮ่อเหลียนชิงเลือนหายไปทันที นิ่งไปสักพักก่อนจะตอบเสียงแหลมสูง “เอาแบบนึ่ง ตุ๋นน้ำแดงก็ดูจะเอาเปรียบพวกมันเกินไป แกไปจับไอ้เจ้าพวกนั้นมาฉันจะสั่งสอนพวกมันให้หนัก ๆเอง เจ้าสัตว์ไร้ระเบียบ!”

“คุณเพี้ยนหรือไงถึงได้ตั้งกฎเกณฑ์ให้หมากับแมว? พวกมันเข้าใจภาษาของคุณเหรอ?” เหมยเหมยอดไม่ได้ที่จะตวาดใส่

เฮ่อเหลียนชิงมองเธออย่างระอา เอ่ยเสียงฮึดฮัด “แล้วเธอรู้ได้ไงว่าพวกมันฟังภาษาฉันไม่รู้เรื่อง? เธอไม่สามารถสื่อสารกับพวกมันได้ นั่นเป็นเพราะเธอโง่ต่างหาก!”

“เฮอะ…ในเมื่อคุณฉลาด แล้วทำไมถึงโดนขโมยอาหารเช้าไปได้ล่ะ?” เหมยเหมยกลอกตามองเขาอย่างไม่พอใจขีดสุด ยังมีหน้ามาว่าเธอโง่อีกเหรอ?

เชอะ!

พอดูเหมือนเฮ่อเหลียนชิงจะเริ่มอาละวาด เหยียนหมิงซุ่นจึงรีบออกหน้าเบี่ยงเบนความสนใจ “พ่อบุญธรรมครับ ช่วงนี้โฉ่วโฉ่วเป็นอย่างไรบ้าง? ผมได้ยินมาว่าหนิงเฉินเซวียนซื้อม้าสายพันธุ์อังกฤษแท้มาใหม่ บรรพบุรุษเป็นแชมป์ทั้งสามรุ่น แถมยังเป็นสายเลือดชั้นสูงด้วย”

“นับประสาอะไรกับม้าของพวกต่างชาติ อย่างไรก็ต้องแพ้โฉ่วโฉ่วแน่นอน หึ แกคอยดูเอาเถอะ แชมป์ปีนี้ต้องเป็นของโฉ่วโฉ่วอีกตามเคย ตาแก่หนิงนั่นอย่าได้คิดจะแย่งแชมป์ไปได้เลยตลอดชีวิต!”

เฮ่อเหลียนชิงถูกเบี่ยงเบนความสนใจ พอก่นด่าหนิงเฉินเซวียนไปไม่กี่ประโยคเหมือนทุกวันไฟโทสะก็ลดลงไม่น้อย เขาเลยเลิกชักสีหน้าใส่เหมยเหมย

ไม่ว่าอย่างไรโฉ่วโฉ่วที่แข่งขันกวาดเอาชัยชนะและเหยียบย่ำตาแก่หนิงเฉินเซวียจนจมดินก็เป็นฝีมือแม่เด็กจ้าวเหมยที่เป็นคนชิงเอามาได้ ไม่เห็นแก่หน้าใครก็ควรเห็นแก่หน้าโฉ่วโฉ่ว เขาเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง ไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไรกับเด็กกะโปโลอยู่แล้ว

“นายท่าน สัตว์พวกนั้นรวมตัวกันอยู่ในสวนแล้ว ท่านเห็นว่าอย่างไร?” เสี่ยวเมิ่งเข้ามารายงาน

“ฉันจะไปสั่งสอนพวกมันตอนนี้แหละ ไอ้พวกที่มันไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่ง วันนี้ปล่อยให้พวกมันหิวโซหนึ่งมื้อไปเลย!”

เฮ่อเหลียนชิงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เขาคว้าซาลาเปาขึ้นมาก้อนหนึ่งแล้วให้เสี่ยวเมิ่งเข็นเขาออกไป  เหมยเหมยเดินตามไล่หลังไปด้วยความแปลกใจ บ้าเอ้ย ภาพทิวทัศน์อันงดงามภายในสวนมันช่าง…

อย่างน้อยในสวนนี้ต้องมีหมาแมวประมาณร้อยกว่าตัว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์ทั่วไป ส่วนอีกจำนวนหนึ่งที่เป็นสายพันธุ์บริสุทธิ์มีค่อนข้างน้อย แต่หมาแมวพวกนี้มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คืออ้วนและกลม!

สีขนของแต่ละตัวดูสว่างสดใส ท้องป่อง ดูกระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษ

“พวกมันกินข้าววันละกี่มื้อเนี่ย?” เหมยเหมยกระซิบถาม

“ห้ามื้อ ตอนกลางคืนยังมีมื้อดึกอีกด้วยนะ” เสี่ยวเมิ่งตอบ

เหมยเหมยกลอกตามองอย่างระอา ไม่แปลกที่…

กินตั้งวันละหกมื้อไม่อ้วนสิแปลก อีกอย่าง…เมื่อเทียบห้ามื้อกับหกมื้อแล้ว มันแตกต่างกันตรงไหน?

นี่เฮ่อเหลียนชิงกำลังเล่นตลกอะไรอยู่เหรอ?

“จะนับจำนวนตอนนี้ 1 2 3 4……”

เฮ่อเหลียนชิงจ้องหมาแมวที่ยืนเรียงกันเป็นแถวด้วยพละกำลังที่เปี่ยมล้น ทุกครั้งที่นับเลขก็จะมีแมวหรือหมาส่งเสียงร้องออกมา ในสวนมีเสียงร้องเหมียวเหมียวโฮ่งโฮ่งดังขึ้นไม่หยุดราวกับกำลังร้องเพลงประสานเสียงกันอยู่

แค่นับจำนวนก็กินเวลาไปสิบกว่านาทีแล้ว เฮ่อเหลียนชิงยกยิ้มอย่างพอใจและเริ่มพร่ำสอนอีกครั้ง โดยยกปัญหาที่รุนแรงที่สุดมากล่าวอธิบายคล้ายกับการอบรมทหาร เหมยเหมยทนฟังไม่ไหว แต่สัตว์น้อยพวกนี้กลับมีความอดทนยิ่งกว่า พวกมันต่างยืนหรือหมอบกับพื้นอย่างสงบอยู่ตลอดโดยไม่มีตัวไหนส่งเสียงเห่าหอนออกมาเลย

ช่างเหนือคาดจริง ๆ  พวกมันเชื่อฟังยิ่งกว่าเด็กเล็กเสียอีก เหมยเหมยเห็นสิ่งแปลก ๆพวกนี้เลยนึกเห็นใจเฮ่อเหลียนชิงขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

ตาแก่นี่คงเหงาน่าดูถึงได้รับเลี้ยงพวกสัตว์จรจัดมากมายขนาดนี้และยังเลี้ยงดูอย่างพิถีพิถันอีกด้วย แถมทุก ๆวันยังทำเหมือนกับว่าพวกมันเป็นคนที่บรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ความจริงคงเบื่อหน่ายจนต้องหาอะไรทำสินะ

“วันหลังเราแวะมากินข้าวที่นี่บ่อย ๆเถอะนะคะ” จู่ ๆเหมยเหมยก็บอกกับเหยียนหมิงซุ่นไปเช่นนั้น

………………………………………………………….