มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1646

หยูจือโจวหัวเราะดังลั่น ไม่ได้พูดสิ่งใดไปมากกว่านี้ “เจ้าตามข้ามา ข้าจะพาเจ้าออกไป”

หลัวซิวหันไปมองซากศิลานั้นอีกครั้ง ทันในนั้นเขาก็ถอนสายตา โดยไม่หวนนึกถึงอีกแม้แต่น้อย

หลังจากนั้นไม่นาน หยูจือโจวเข้าไปในอุโมงค์ลึก หลัวซิวตามอยู่ด้านหลังของเขา ทางเดินภายในคดเคี้ยวมาก หลัวซิวไม่รู้ว่ามันผ่านไปกี่โค้งแล้ว เวลาเป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน ตัวเขาก็ยังคงอยู่ในอุโมงค์ สิ่งรอบข้างก็ยังคงเหมือนกัน มันง่ายที่จะทำให้คนเข้าใจผิดว่ากำลังหมุนอยู่ที่เดิมตลอดเวลา

หลังจากวันที่เก้า หยูจือโจวหยุดกะทันหัน ใบหน้าของเขาซีดลง พร้อมพูดว่า “บาดแผลเก่าของข้ากำลังจะกลับมาอีก ต้องการเวลาเพื่อกดมันไว้”

หลังจากพูดจบ เขาเอนตัวไปด้านข้างและนั่งขัดสมาธิ หยิบเม็ดยาโยนเข้าปากเพื่อกลั่นแปร

หลัวซิวสามารถรับรู้ได้จากน้ำเสียงของเขา หยูจือโจวมีบาดแผลเก่าที่ไม่เคยถูกฟื้นฟู เพียงแค่หลัวซิวไม่ได้ตรวจสภาพร่างกายของเขา จึงไม่รู้ว่าเขาเป็นบาดเจ็บจากสิ่งใดกันแน่

“ในตอนนั้นเหตุใดเจ้าต้องฆ่าตระกูลจ้าว ตระกูลจู้ อีกทั้งยังมีคนของสำนักกระบี่ฟ้ามกุฎอีก?” หลัวซิวก็นั่งลงอีกข้าง เอ่ยปากถามขึ้นมาลอย ๆ

“คนสนิทของข้าทั้งหมดถูกไอ้สัตว์เดียรัจฉานตัวหนึ่งในตระกูลจ้าวฆ่าตาย ลูกสาวของข้าก็ถูกมันใช้เป็นเตากลั่นยาอัคคีเพื่อฝึกเซ่น หากข้าไม่สังหารมัน จะยังเป็นคนอยู่ได้อย่างไร? ต่อมา ตอนที่ข้าถูกตระกูลจ้าวไล่ตามฆ่า คนจากตระกูลจู้ก็เข้ามาช่วย หลังจากนั้น สำนักกระบี่ฟ้ามกุฎก็เข้ามาเกี่ยวพันด้วยอีก”

เวลาผ่านไปกว่าแสนปี ความเกลียดชังในอดีตถูกฝังอยู่ในส่วนลึกที่สุดในหัวใจของหยูจือโจว น้ำเสียงของเขาสงบนิ่ง แต่หลัวซิวสามารถรู้สึกถึงความโกรธแค้นอย่างท่วมท้นในคำพูดนั้น

“หลายปีมานี้ ข้าปรากฏตัวออกมาบ่อย ๆ ฆ่าคนของพวกมันเมื่อมีโอกาส ก่อนจะถูกฝูงปลากระบี่บินไล่ล่าในครั้งนี้ ข้าก็เพิ่งกำจัด มกุฎเทพช่วงต้นคนหนึ่งของสำนักกระบี่ฟ้ามกุฎทิ้งไป ถึงแม้ผลการฝึกตนของเขาจะต่ำกว่าข้า แต่ข้าก็ต้องแลกมาด้วยบางอย่างเพื่อฆ่าเขาในเวลาอันสั้น กระทั่งบาดแผลเก่ากำเริบ ไม่เช่นนั้น ก็จะไม่ถูกปลากระบี่บินไล่ฆ่าจนต้องหนีมาถึงที่แห่งนี้”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ หยูจือโจวก็มุ่ยปาก “ถ้าไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บเก่ากำเริบ เจ้าไม่มีทางเอาชนะข้าได้แน่ ในตอนที่เพิ่งมาถึงที่นี่”

“ตราประทับบนตระกูลจู้บนร่างของเจ้า ข้าสามารถช่วยเจ้ากำจัดมันออกไปได้ มิฉะนั้น หลังจากที่เจ้าออกไปจากที่นี่ พวกที่อยู่ในตระกูลจู้จะรู้สึกถึงเจ้าได้ในทันที”

หยูจือโจวโดยม้วนหยกม้วนหนึ่งไปให้หลัวซิว ด้านในบันทึกเกี่ยวกับตราประทับของสามสำนักหกตระกูล ในนั้นมีวิธีการกำจัดตราประทับของตระกูลจู้เอาไว้ด้วย กระทั้งไม่เพียงแค่ตราประทับของตระกูลจู้ ตราประทับของตระกูลจ้าวและสำนักกระบี่ฟ้ามกุฎ วิธีการกำจัดมันก็ถูกบันทึกไว้ในม้วนหยกด้วย

“นี่คือประสบการณ์ของข้าที่จะมีชีวิตอยู่นับแสนปีจนถึงทุกวันนี้ เจ้าหนูไม่ช้าก็แล้วต้องได้ใช้มัน” หยูจือโจวเอ่ยพูด

หลัวซิวพูดไม่ออก แต่ให้พูดตามจริง เขามาที่โลกะอัมพรเทวเวลาได้ไม่นาน แต่กลับทำให้ตระกูลจ้าวและตระกูลจู้ขุ่นเคืองไปแล้ว จ้าวตงหลิวเจ้านั่นยังทุกวันนี้ยังยังถูกผนึกอยู่ภายในสำนักเต๋าเสวียนเทียนอยู่เลย

“บาดแผลของเจ้า ให้ข้าดูได้หรือไม่?” อยู่ดี ๆหลัวซิวก็พูดขึ้นมา

กฎชีวิต กล่าวได้ว่าเป็นกฎที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเยียวยา โดยผ่านการซ่อมแซมเส้นชีวิตโดยตรง เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ในการฟื้นฟูจากการบาดเจ็บ ผลลัพธ์นั้นมีประสิทธิภาพมากกว่ายาเซียนส่วนใหญ่

ยาเซียนเหล่านั้นเรียกว่ายาศักดิ์สิทธิ์สำหรับการรักษา ในความเป็นจริงมันเต็มไปด้วยพลังแห่งกฎชีวิต ซ่อมแซมเส้นเลือดแห่งชีวิตโดยตรง บรรลุผลการรักษาที่ยอดเยี่ยม ด้วยเหตุนี้จึงได้ชื่อเรียกว่ายาศักดิ์สิทธิ์

“บาดแผลของข้าคือบาดแผลแห่งฐานยุทธ์” หยูจือโจวยิ้มแหย ๆ ความหมายก็คือ อาการบาดเจ็บชนิดนี้แม้แต่มกุฎเทพยังทำอะไรไม่ได้ นับประสาอะไรกับเจ้าหนูที่มีผลการฝึกตนแดนราชาเทพ?