ท่ามกลางกระแสห้วงมิติที่ไหลอย่างรุนแรงนั้นมันมีเงาร่างสีครามพุ่งผ่านไปด้วยความเร็วอย่างเหนือล้ำ
ร่างกายมังกรฟ้านั้นมันสามารถเดินทางข้ามกำแพงเขตแดนโกลาหลได้ การเดินทางผ่านกระแสห้วงมิตินั้นมันย่อมจะง่ายไม่ต่างจากการเดินทางปกติ
เหยียนยูเจินนั้นคิดว่าเย่หยวนจะเลือกทำการบ่มเพาะเพราะเขานั้นไม่รู้เลยว่ามังกรฟ้านั้นมีพลังในการเดินทางผ่านกำแพงเขตแดน
เพราะตัวเขานั้นต่อให้จะมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนแต่หากคิดอยากเดินทางผ่านกระแสห้วงมิติไปยังโลกใบต่างๆ มันก็ต้องใช้เวลาและพลังอย่างมาก มันเป็นงานที่เหนื่อยยาก
แต่เขาไม่ได้รู้เลยว่าเย่หยวนนั้นมีความสามารถเดินทางผ่านห้วงมิติได้อย่างง่ายดาย
ตอนที่เขาเพิ่งบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์ไปเย่หยวนย่อมจะยังทำอะไรเช่นนี้ไม่ได้
แต่เวลานี้มันง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ
กำแพงเขตแดนของภพเบื้องล่างมันย่อมจะเทียบกับกำแพงเขตแดนโกลาหลของสามสิบสามสวรรค์ไม่ได้
ฟิ้ว!
ในเวลาแค่ครึ่งวันนั้นร่างมังกรฟ้าของเย่หยวนมันก็ได้เดินทางผ่านกำแพงเขตแดนมาจนถึงอีกมหาพิภพหนึ่ง
และเขาก็รีบปล่อยจิตของตนเองลงไปในโลกนี้อย่างไม่ลังเลใดๆ
เวลานี้มหาพิภพแห่งนี้มันจึงได้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างมาก
จิตของเขานั้นมันรุนแรงล้ำกว่าที่ภพนี้จะรับได้
ไม่นานหลายเงาร่างก็ได้ปรากฏขึ้นมารอบกายเย่หยวน
นักยุทธพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นปลายคนหนึ่งรวบรวมความกล้ากล่าวขึ้นมาถามเย่หยวน “นายท่านกำลังหาอะไรอยู่หรือ? เราพอจะช่วยอะไรท่านได้หรือไม่?”
ระหว่างที่คนผู้นี้พูดไปจิตของเย่หยวนมันก็วนหาไปได้หลายรอบแล้ว
แม้แต่เหล่าโลกใบน้อยเบื้องล่างของมหาพิภพนี้เองก็ไม่อาจหลบรอดสายตาของเย่หยวนไปได้
แต่เขานั้นกลับไม่พบเจอคนที่คุ้นเคยแม้แต่คนเดียว
ตูม…
บนท้องฟ้านั้นมันมีสายฟ้าสวรรค์คำรามขึ้นมาก่อนจะพุ่งใส่ร่างเย่หยวน
เย่หยวนเงยหน้าขึ้นไปมองทำให้สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์นั้นเลือนหายไปสิ้น!
เหล่ายอดฝีมือของมหาพิภพนี้ต่างต้องอ้าปากค้างขึ้นตามๆ กัน
แข็งแกร่ง!
แค่มองก็ทำลายสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ลงได้สิ้น!
“ไม่มี…” เย่หยวนบ่นขึ้นมาก่อนจะแปลงเป็นมังกรฟ้าพุ่งหายไปในกำแพงเขตแดนอีกครั้ง
เมื่อเหล่านักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์ทั้งหลายได้เห็นเย่หยวนจากไปพวกเขาต่างก็ต้องถอนใจยาว
แต่ไม่นานนักยุทธพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นปลายคนนั้นก็ต้องกล่าวขึ้น “นี่คือยอดฝีมือที่แท้จริง! ข้ารู้สึกได้เลยว่าหากเขาแค่คิดอยากสังหารเรา เราคงได้ตายสิ้น! เรานั้นช่างเป็นแค่กบในกะลาของภพเบื้องล่างนัก! ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะบรรลุสวรรค์ขึ้นไปครึ่งปีจากนี้!”
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต่างต้องทำสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา
แต่ไม่นานพวกเขานั้นก็สงบจิตใจลงได้
มหาพิภพถงเทียนนั้นเป็นแค่โลกใบน้อยที่บิดเบี้ยวเพราะว่ามันถูกเหยียนยูเจินผสานเข้ากับเขาแห่งถงเทียนไป
เพราะฉะนั้นมันจึงไม่มีใครที่บรรลุสวรรค์ได้จากโลกนั้น
แต่ในมหาพิภพปกติทั่วไปแล้วหลังจากบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์ได้แล้วคนส่วนมากย่อมจะเลือกบรรลุสวรรค์ขึ้นไป
แต่ว่ามันต้องผ่านทัณฑ์สวรรค์กันโหดร้ายไปก่อน!
เพราะฉะนั้นยอดฝีมือมากมายจึงเลือกที่จะหยุดตัวลงและไม่ขึ้นไปยังสามสิบสามสวรรค์
แต่การปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวนนั้นมันทำให้พวกเขารับรู้ได้ว่าวันเวลาเช่นนี้มันสามารถถูกทำลายลงได้ทุกเมื่อ
เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่คิดสนใจความรู้สึกของคนทั้งหลายนั้น เพราะเขานั้นแค่ผ่านมาหาคน
ในวันเดียวนั้นเย่หยวนได้บินไปยังมหาพิภพและภพเบื้องล่างมากมาย
แต่ผลลัพธ์นั้นมันกลับน่าผิดหวัง!
เขานั้นไม่เจอคนรู้จักแม้สักคน!
“ไอ้หนู สามสิบสามสวรรค์นั้นมันปกครองภพเบื้องล่างอย่างมากมายนับไม่ถ้วน เจ้านั้นเดินทางไร้จุดหมายเช่นนี้แล้วเมื่อไหร่จะหาพวกเขาเจอได้เล่า?” หมี่เทียนกล่าวขึ้นมา
“เหยียนยูเจินนั้นเป็นยอดอัจฉริยะของยุคสมัยตัวเองเช่นกัน! การที่มันก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้มันย่อมจะมิใช่แค่เพราะเขาแห่งถงเทียนเท่านั้น! ข้านั้นสัมผัสได้ว่าวิญญาณดั่งเดิมของมันนั้นสมบูรณ์และอยู่ห่างจากชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงแค่ครึ่งก้าวแล้ว ด้วยพรสวรรค์ของมันนั้นการจะบรรลุคงใช้เวลาไม่กี่ปี! หากมันบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงได้จริงต่อให้หยอกชีวาราวฝันมันจะเป็นพิษร้ายแค่ไหนแต่สุดท้ายก็คงไม่ถึงตาย ที่สำคัญท่านอย่าได้ลืมว่ามันนั้น…เป็นยอดฝีมือผู้บรรลุกฎแห่งกาลเวลา! ข้านั้นไม่อยากจะเอาชะตาของตนเองไปฝากไว้ในมือคนอื่นหรอก!” เย่หยวนกล่าวขึ้น
หลังได้เห็นเหยียนยูเจินตัวเป็นๆ นั้นเย่หยวนและหมี่เทียนจึงได้รู้ว่าตัวเองประมาทเกินไป
เพราะเดิมทีเย่หยวนคิดว่าเหยียนยูเจินอย่างมากคงมีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นปลาย
ใครจะคิดว่าหลังจากเสียกายเนื้อไปนั้นวิญญาณดั่งเดิมของเขากลับพัฒนาขึ้นล้ำจนก้าวมาถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงครึ่งก้าวได้!
ที่สำคัญไปกว่านั้นเวลาที่ผ่านไปในมหาพิภพถงเทียนกว่าร้อยล้านปีนั้นมันย่อมจะทำให้เขานั้นมีเวลาฝึกฝนวิชาวิญญาณดั่งเดิมจนเหนือล้ำ
เขานั้นอาจจะไม่มีพลังต่อสู้ที่เหนือล้ำ แต่พลังของเขานั้นมันก็ยังไม่อาจประมาทได้
หยอกชีวาราวฝันนั้นมันมีประโยชน์แน่นอน แต่มีประโยชน์แค่ไหนยังไม่รู้ได้
ที่สำคัญไปกว่านั้นหากเหยียนยูเจินบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงขึ้นมาได้แล้วผลของหยอกชีวาราวฝันมันก็คงยิ่งอ่อนลงไปมาก
เย่หยวนนั้นไม่อยากจะเอาชะตาของตนเองไปฝากไว้กับคนอื่น
เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องแข่งกับเหยียนยูเจิน!
“แต่ภพเบื้องล่างนั้นมันมีไร้สิ้นสุด เจ้าจะหาพวกเขาอย่างไร?” หมี่เทียนถาม
“เหยียนยูเจินนั้นมันมิใช่เผ่ามังกรฟ้า แม้ว่าวิญญาณดั่งเดิมนั้นมันจะเดินทางผ่านกระแสห้วงมิติได้เช่นกันแต่มันย่อมจะไม่เร็วเท่ามังกรฟ้า! ด้วยความสามารถของมันนั้นมันจะเอาคนสนิทของข้าไปซ่อนได้ไกลแค่ไหนกัน? หากข้านั้นหาตามระยะมิติโดยยึดหลักมิติของมหาพิภพถงเทียนเป็นศูนย์กลางแล้วข้าย่อมจะตามหาพวกเขาได้ในไม่ช้าแน่” เย่หยวนตอบ
หมี่เทียนนั้นผงะไปเมื่อได้ยินก่อนจะหัวเราะขึ้น “เยี่ยม ข้าประเมินเจ้าต่ำไปเอง! เช่นนั้นเจ้าต้องแข่งกับเวลาแล้ว!”
เย่หยวนพยักหน้ารับ ระหว่างที่ทั้งสองคุยกันไปนั้นเย่หยวนก็ไม่ได้หยุดตัวเองลงแม้แต่น้อย
หลายวันต่อมาเย่หยวนก็ได้มาถึงมหาพิภพอีกแห่ง
เมื่อลองส่องจิตลงไปเย่หยวนก็ต้องขมวดคิ้วแน่นด้วยความตกตะลึง!
เพราะเขานั้นกลับได้เจอคนรู้จักที่นี่!
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล ยี่!
ในเวลานี้ยี่กำลังถูกยอดฝีมือมากมายรุมล้อมโจมตี
แต่ว่าจิตของเย่หยวนนั้นมันได้หยุดการต่อสู้นั้นลงสิ้น
น่ากลัวล้ำ!
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นก่อนจะเปลี่ยนร่างของยอดฝีมือรอบๆ กายยี่ให้กลายเป็นหมอกเลือด
เขานั้นก้าวไปและมาถึงตัวยี่ทันที
“เย่หยวน!”
เมื่อยี่ได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดร้องไห้ขึ้นไม่ได้
คลื่นพลังของตัวเขานั้นมันแตกต่างจากเหล่ายอดฝีมือของมหาพิภพนี้อย่างมาก
เขานั้นจึงได้แต่ต้องถูกตามล่าจากคนมากมาย
เขานั้นได้แต่ต้องขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่มาถึงป่านนี้ได้
เขานั้นยังคิดจะกล่าวพูดขึ้นมาแต่เย่หยวนนั้นกลับยกมือขึ้นห้ามก่อนจะปล่อยวิญญาณดั่งเดิมของตนเข้าสู่ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของยี่
ยี่สั่นสะท้านไปทั้งกายแม้ว่าเย่หยวนจะอยากทำอะไรตอนนี้ตัวเขาก็ไม่อาจจะขัดขืนได้แม้แต่น้อย
เย่หยวนนั้นใช้วิชาลับของกำเนิดเทพขึ้นล้างตราของเหยียนยูเจินออกไปก่อนที่จะดึงวิญญาณดั่งเดิมของตัวเองกลับออกมา
ยี่นั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้าง เย่หยวนเวลานี้แข็งแกร่งแค่ไหนแล้ว?
ต่อให้มันจะเป็นชั้นบรรยากาศสวรรค์ในตำนานนั้น มันก็คงไม่มีทางทำได้ถึงขนาดนี้หรอกใช่ไหม?
เขานั้นไม่ต่างอะไรจากตุ๊กตาเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่หยวน ไม่อาจควบคุมตัวได้เลย
ชีวิตความตายของเขานั้นมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขาแล้ว!
ความรู้สึกนี้มันเหมือนตอนที่เขาถูกลักพาตัวมาจากมหาพิภพถงเทียนเมื่อตอนนั้น
ความรู้สึกที่ไม่อาจควบคุมตัวเองได้นั้นมันทำให้คนแทบจะคลั่ง
ยี่นั้นยังทำหน้าเหมือนอยากจะกล่าวถามอะไรขึ้นแต่เย่หยวนกลับกล่าวตัดบทไป “ค่อยไปคุยระหว่างทาง ข้ารีบ!”
พูดจบเย่หยวนก็ปล่อยปราณเทวะออกมาดึงตัวยี่ลงไปยังมหาพิภพโกลาหลของเขา
เย่หยวนนั้นไม่หยุดเท้าลงและยังคงพุ่งผ่านห้วงมิติต่อไป
เขานั้นไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่น้อย เพราะหากช้าไปแล้วคนรักคนสนิทของเขาอาจจะตกอยู่ในอันตรายเหมือนยี่นี้
เวลาเดียวกันนั้นเหยียนยูเจินก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมาในห้องลับพร้อมบ่มขึ้น “นี่ผ่านไปแค่สามวันมันกลับพบคนแรกแล้วหรือ? ตอนที่ข้าส่งคนผู้นี้ออกไปนั้นข้าต้องใช้เวลากว่าครึ่งเดือน! ไอ้เด็กคนนี้มันเร็วเกินไป! ข้าต้องรีบแล้ว!”